Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Android Platform»[Review] Realme 2 Pro สเปค Snap 660 จอ 6.3 นิ้ว เกมลื่น กล้องแจ่ม ในราคาโปรสุดพิเศษที่ 5,990 บาท
    Android Platform

    [Review] Realme 2 Pro สเปค Snap 660 จอ 6.3 นิ้ว เกมลื่น กล้องแจ่ม ในราคาโปรสุดพิเศษที่ 5,990 บาท

    ZeroSystemBy ZeroSystem1 กุมภาพันธ์ 2019Updated:24 สิงหาคม 2020
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    หลังจากได้ยินชื่อกันมาไม่นาน ตอนนี้สมาร์ทโฟนแบรนด์น้องใหม่ล่าสุดอย่าง Realme ก็เข้ามาสู่ประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้วครับ โดยรุ่นแรกที่นำเข้ามาก็คือ Realme 2 Pro ที่เรียกได้ว่าเปิดมาก็ทำตลาดแตกกันไปเลยทีเดียว ด้วยสเปคระดับหมื่น แต่ขายในราคาระดับพันเท่านั้น แถมช่วงแรกยังจัดโปรโมชันอัดหนักกันอีกด้วย แน่นอนว่า SpecPhone เราก็ไม่พลาดที่จะมารีวิวเจ้า Realme 2 Pro ให้ทุกท่านได้ชมเพื่อตัดสินใจกันอีกเช่นเคย

    ซึ่ง Realme 2 Pro ตัวนี้ ถูกวางมาเป็นมือถือสุดคุ้มที่สเปคน่าสนใจมาก ๆ สำหรับคอเกมที่อาจจะไม่อยากได้มือถือราคาระดับไฮเอนด์ ดังนั้น เรามาดูสเปคก่อนเลยแล้วกัน

    สเปค Realme 2 Pro

    • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 660 ที่มี 8 คอร์ พร้อมชิปกราฟิก Adreno 512
    • แรม 4 GB
    • พื้นที่เก็บข้อมูล 64 GB รองรับ MicroSD สูงสุด 256 GB
    • หน้าจอ IPS ขนาด 6.3 นิ้ว อัตราส่วน 19.5:9 ความละเอียด 2340 x 1080
    • กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 3
    • ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ครอบด้วย Color OS 5.2
    • กล้องหลังคู่
      • กล้องหลัก 16 ล้านพิกเซล f/1.7 ระบบโฟกัส PDAF
      • กล้องรองสำหรับเก็บความลึก ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
    • กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.0
    • ถาดใส่ซิมแบบนาโนซิมคู่ พร้อมช่อง MicroSD แยก
    • แบตเตอรี่ 3500 mAh ช่องชาร์จแบบ Micro USB
    • Bluetooth 5.0
    • มีระบบสแกนใบหน้า
    • สามารถจับ WiFi และปล่อย Hotspot ได้ทั้งความถี่ 2.4 / 5 GHz
    • ราคา 6,590 บาท

    จากสเปคทั้งหมด ตามปกติแล้วเรามักจะพบในมือถือราคาเกือบหมื่นไปจนถึงหมื่นต้น ๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะตัวชิปประมวลผล Snapdragon 660 ที่จัดว่ามีประสิทธิภาพในการใช้งาน การเล่นเกมที่คุ้มค่ามาก แต่กลับเปิดราคาในไทยมาแค่ 6,590 บาทเท่านั้น

    กล้องถ่ายรูปของ Realme 2 Pro

    เริ่มรีวิวกันที่กล้อง ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดเด่น โดยรุ่นนี้จัดเต็มทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟท์แวร์ Realme 2 Pro มาพร้อมกับกล้องหลังสองตัว ความละเอียด 16 + 2 ล้านพิกเซล ใช้คอนเซ็ปท์เหมือนกับในมือถือกล้องคู่หลาย ๆ รุ่นในท้องตลาด นั่นคือมีตัวนึงเป็นกล้องหลัก (ตัวบนในภาพด้านบน) อีกตัวเป็นกล้องสำหรับเก็บข้อมูลระยะห่างของวัตถุ เพื่อนำไปใช้งานกับโหมด Portrait ของแอปกล้อง เพื่อให้สามารถถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอได้ง่ายขึ้น

    ส่วนกล้องหน้าก็เป็นกล้องเดี่ยวความละเอียด 16 ล้านพิกเซล แบบ fixed focus นั่นคือไม่สามารถปรับระยะโฟกัสได้ โดยจากที่ทดสอบ หากเป็นการถ่ายเซลฟี่ปกติ ก็ไม่มีปัญหาอะไรครับ มีให้ปรับระดับความเนียนของใบหน้า ใส่ AR sticker ได้ด้วย

    ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า

    UI ของแอปกล้องก็ใกล้เคียงกับมือถือส่วนใหญ่ในขณะนี้ครับ มีปุ่มสำหรับตั้งค่าฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น แฟลช โหมด HDR ตัวตั้งค่านับเวลาถอยหลัง และก็ตัวปรับ ratio รูปอยู่ที่แถบด้านบนสุด ส่วนแถบด้านล่างสุดก็เป็นตัวเปลี่ยนโหมดกล้อง ซึ่งผู้ใช้สามารถปาดนิ้วตรงส่วนที่พรีวิวภาพไปทางซ้ายหรือขวาเพื่อเปลี่ยนโหมดได้เช่นกัน โดยโหมดที่มีให้ใช้งานก็ได้แก่

    • โหมดถ่ายวิดีโอแบบ Timelapse
    • โหมดถ่ายวิดีโอปกติ สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ระดับ 4K
    • โหมด Photo สำหรับถ่ายรูปปกติ
    • โหมด Portrait สำหรับถ่ายบุคคล ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ
    • โหมด Sticker สำหรับใส่สติ๊กเกอร์ในรูป
    • โหมด Pano สำหรับถ่ายพาโนรามา
    • โหมด Expert ที่ให้ผู้ใช้ปรับค่าเองได้ตั้งแต่ก่อนถ่าย

    ซึ่งในโหมด Expert จะมีอีกหนึ่งฟังก์ชันกล้องที่ซ่อนอยู่ นั่นคือ Ultra HD ที่สามารถเปิดใช้งานได้จากไอคอนมุมขวาบนสุดที่เป็นรูปสี่เหลี่ยมเรียงเฉียงกันอยู่ 4 ก้อน โดยฟังก์ชัน Ultra HD ก็คือการเก็บไฟล์ภาพความละเอียดสูงกว่าความละเอียดปกติ ซึ่งจะมีประโยชน์เวลาที่ต้องการซูมภาพเพื่อดูรายละเอียดปลีกย่อย โดยหลักการทำงานคร่าว ๆ ก็คือ ระบบจะการถ่ายภาพในจุดเดียวกันหลาย ๆ ช็อต แล้วนำมาประมวลผลรวมกัน จนได้รายละเอียดของภาพที่ดีขึ้น

    หากใช้ฟังก์ชัน Ultra HD ภาพที่ได้จะมีความละเอียดสูงขึ้นกว่าภาพถ่ายปกติประมาณ 4 เท่า ถ้าในเชิงตัวเลข ก็ตามนี้เลย

    • ภาพโหมดปกติ : ความละเอียด 4608 x 3456 (15.9 ล้านพิกเซล)
    • ภาพโหมด Ultra HD : ความละเอียด 9216 x 6912 (63.7 ล้านพิกเซล)

    ส่วนถ้าเทียบจากภาพจริง ก็ตามภาพด้านล่างนี้ครับ

    เมื่อลอง crop ภาพเพื่อดูที่จุดเดียวกัน ผลคือภาพจากโหมด Ultra HD จะยังถือว่าอยู่ในระดับที่พอเอาไปใช้งานต่อได้อยู่ แต่ภาพจากโหมด Auto ปกติ จะพบกับ noise รบกวนในภาพอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงสีสันที่ไม่ครบถ้วนสมบูรณ์เท่ากับในโหมด Ultra HD

    ดังนั้น หากมีสถานการณ์ไหนที่ต้องการภาพความละเอียดสูง แนะนำว่าให้ปรับไปใช้โหมด Expert แล้วเปิดฟังก์ชัน Ultra HD รับรองว่าภาพที่ได้จะสามารถนำมาใช้งานได้ยืดหยุ่นกว่าโหมด Auto ปกติแน่นอน แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยการที่ภาพมีความละเอียดสูงขึ้น 4 เท่า ก็ย่อมมาพร้อมกับขนาดไฟล์ที่ใหญ่ขึ้นด้วยเช่นกัน อย่างในภาพตัวอย่างด้านบน ภาพที่ถ่ายด้วยโหมด Auto มีขนาดไฟล์อยู่ที่ 6 MB ส่วนภาพจากฟังก์ชัน Ultra HD ก็อยู่ที่ 16.1 MB เลยทีเดียว

    ส่วนด้านล่างนี้ก็เป็นแกลเลอรี่ตัวอย่างภาพถ่ายนะครับ เชิญคลิกรับชมได้เลย

    Realme 2 Pro : Camera Rollถ้าให้สรุปคุณภาพของกล้อง ภาพรวมคือทำได้ดี โดยเฉพาะภาพถ่ายในเวลากลางวัน หรือมีแสงเพียงพอ ภาพที่ได้มีความคม สีสันเก็บมาค่อนข้างครบถ้วน ส่วนภาพในเวลากลางคืนก็อาจจะไม่ค่อยคมชัดเท่ากับภาพที่ถ่ายตอนกลางวัน แต่โดยรวมถึอว่าน่าพอใจมาก เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว

    ดีไซน์ หน้าตา Realme 2 Pro

    ตัวเครื่องถือว่าทำออกมาได้กะทัดรัดพอดีมือมาก ๆ ด้วยการเลือกใช้จออัตราส่วน 19.5:9 แบบขอบบางเฉียบ โดยจะมีรอยบาก (ติ่ง) รูปหยดน้ำอยู่ที่ตำแหน่งของกล้องหน้า และเซ็นเซอร์วัดระยะห่างกับเซ็นเซอร์วัดแสงเท่านั้นเอง ซึ่งอาจจะถูกใจหลายท่านที่ไม่ชอบติ่งหน้าจอแบบหนา ๆ ใหญ่ ๆ กันบ้างแน่นอน

    ส่วนขอบจอด้านล่างก็จะหนากว่าขอบบน อันเป็นเรื่องปกติสำหรับสมาร์ทโฟนขอบจอบางครับ ซึ่งมันก็มีสาเหตุมาจากการจัดวางตำแหน่งของเซ็นเซอร์รับการสัมผัสของจอ ที่ถ้าหากอยากให้ขอบจอล่างบางกว่านี้ ก็ต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายใน ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนสูงขึ้นไปอีกนั่นเอง อย่างไรก็ตาม จากที่ผมสัมผัสมือถือมาหลายรุ่น ผมรู้สึกว่าขอบจอล่างนี่จัดว่าบางมากแล้วครับ

    ปุ่มสั่งงานทั้ง 3 ได้แก่ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มโฮม และปุ่มเรียกดูแอปที่ใช้งานล่าสุด จะใช้เป็นปุ่มแบบซอฟต์แวร์ของตัว Android เอง ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับสลับตำแหน่งระหว่างปุ่มย้อนกลับ กับปุ่มเรียกดูแอปที่ใช้งานล่าสุดได้ ว่าจะให้ปุ่มใดอยู่ฝั่งซ้าย/ขวา รวมถึงยังรองรับการสั่งงานแบบ gesture ด้วยการปาดหน้าจออีกด้วย โดยหลัก ๆ แล้วจะเป็นการปาดจากขอบล่างขอจอขึ้นมา เพื่อเป็นการสั่งงานรูปแบบต่าง ๆ

    หน้าจอมีขนาด 6.3 นิ้ว ให้ภาพเต็มตา เต็มเครื่องเลยทีเดียว ใครที่ชอบถ่ายภาพ ดูหนัง เล่นเกม บอกเลยว่าเต็มอิ่มมาก ๆ ส่วนคุณภาพ สีสันของการแสดงผล ก็จัดว่าอยู่ในระดับที่ดี ภาพคมชัดในทุกมุมมองตามคุณสมบัติของพาเนล IPS สีสันสดใส ความสว่างก็อยู่ในระดับที่ใช้งานกลางแจ้งได้สบาย ส่วนตัวผมจะมีติดนิดหน่อยก็ตรงที่สีของจอที่มาจากโรงงานดูจะอมฟ้านิด ๆ แต่ผู้ใช้สามารถปรับจูนโทนสีของจอให้อุ่นขึ้นได้จากในเมนูการตั้งค่าการแสดงผลในเครื่องครับ พอปรับไปทางโทนอุ่น ภาพก็จะเหลืองขึ้นมาเล็กน้อย ดูแล้วเป็นธรรมชาติมากขึ้น

    ส่วนโหมดถนอมสายตาก็มีมาให้ใช้งานด้วยเช่นกันในชื่อว่า Night Shield ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะให้เปิดใช้งานอัตโนมัติในช่วงเวลาใด รวมถึงสามารถปรับระดับความเหลืองของสีจอได้เช่นกัน

    วัสดุหลักของตัวเครื่องจะเป็นพลาสติก โดยมีกระจกเป็นฝาหลังส่วนนอก ส่วนสีหลักของตัวเครื่องจะอยู่ใต้กระจกอีกที โดยเครื่องที่เรารีวิวในครั้งนี้จะเป็นสีฟ้าอ่อน (Ice Lake) ถือแล้วรับรองว่าโดดเด่นแน่นอน สำหรับขอบกระจกฝาหลัง รวมไปถึงกระจกหน้าจอ ไม่ได้เป็นแบบโค้ง 2.5D นะครับ แต่ตรงขอบเครื่องยังเป็นขอบโค้งอยู่ ทำให้จับได้ถนัดมือไม่แพ้พวกกระจกหน้าจอ 2.5D เลย

    ตำแหน่งของฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ บนฝาหลังก็เป็นไปตามสไตล์ของสมาร์ทโฟนในยุคปัจจุบันเลย คือมีกล้องคู่อยู่ด้านบนสุด (กล้องหลักอยู่ทางซ้าย) ใกล้ ๆ กันก็เป็นแฟลชแบบ LED ถัดลงมาเล็กน้อยคือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ตรงตำแหน่งปลายนิ้วชี้พอดี แล้วก็ปิดท้ายด้วยโลโก้ Realme ด้านล่าง

    อย่างไรก็ตาม กล้องหลังจะนูนขึ้นมาจากฝาหลังพอสมควร หากจะใช้แบบไม่ใส่เคส ก็อาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้งานด้วยนะ

    ด้านข้างทั้ง 4 ด้านก็มีพอร์ตและปุ่มสั่งงานดังนี้

    • ด้านบน: ช่องรับเสียงของไมค์ตัดเสียงรบกวน
    • ด้านล่าง: ลำโพง / ช่อง Micro USB / ช่องรับเสียงของไมค์สนทนา / ช่องเสียบแจ็คหูฟัง 3.5 mm.
    • ด้านซ้าย: ถาดใส่ซิม / ปุ่มเพิ่มและลดเสียง
    • ด้านขวา: ปุ่ม Power

    เรื่องตำแหน่งการวางปุ่มกด ถือว่าทำออกมาได้พอดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานด้วยมือซ้ายหรือมือขวาก็ตาม ส่วนตัวผมมีติดแค่ตำแหน่งลำโพง เนื่องจากผมมักพบปัญหานิ้วอุดช่องลำโพงเมื่อจับเครื่องในแนวนอน เช่น เวลาเล่นเกม

    อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง ก็ได้แก่

    • อะแดปเตอร์ที่จ่ายไฟได้มากสุด 5V 2A
    • สาย Micro USB
    • เคสซิลิโคนแบบใส
    • เข็มจิ้มถาดซิม
    • เอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้น

    จากอุปกรณ์ที่ให้มา ผมประทับใจเคสซิลิโคนมาก ๆ ครับ เพราะมันหนาและแข็งแรงมาก รวมถึงเมื่อใช้งานแล้ว ขอบเคสจะสูงเกินจอขึ้นมาเล็กน้อย ช่วยปกป้องจอได้ดี ต่างจากเคสแถมทั่ว ๆ ไปที่มักจะเป็นซิลิโคนเนื้อบางและนิ่มเกินไป จุดนี้ถือว่าทำได้ดี น่าเสียดายหน่อยก็ที่ไม่มีหูฟังแถมมาในกล่องด้วยเท่านั้นเอง

    ซอฟต์แวร์ของ Realme 2 Pro

    Realme 2 Pro มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo ซึ่งจัดว่าเป็นเวอร์ชันเกือบจะล่าสุดไม่แพ้มือถือเรือธงบางรุ่นเลยทีเดียว ครอบทับด้วย ColorOS เวอร์ชัน 5.2 ที่หน้าตา UI ต่าง ๆ ทำออกมาได้เข้าใจง่าย แต่จะมีเมนูการตั้งค่าของบางแอปที่เป็นแอประบบ ถูกแยกมาอยู่ในเมนูพิเศษที่อยู่ในหน้าการตั้งค่าด้วย เช่น เมนูการตั้งค่ากล้อง อย่างพวกการเปิด/ปิดเส้นกริด การปิดเสียงชัตเตอร์ตอนถ่ายรูป ต่างจากมือถือ Android ทั่วไปที่มักจับเมนูเหล่านี้รวมอยู่ในแอปกล้องไปเลย

    ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลในตัวเครื่อง จากสเปคที่ให้มา 64 GB เมื่อเปิดใช้งานครั้งแรก จะเหลือพื้นที่ให้ใช้งานได้ประมาณ 47 GB ส่วนพวกแอปที่ติดมากับเครื่อง อย่างพวก UC Browser ก็สามารถลบได้นะครับ

    ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Realme 2 Pro

    ฟีเจอร์ที่น่าสนใจจะอยู่ที่เมนูต่าง ๆ ที่ซ่อนอยู่ครับ เช่น ในเมน฿ Smart & Convenient ก็จะมีฟีเจอร์เสริมเช่น การปรับรูปแบบของปุ่ม navigation ด้านล่างสุด โดยผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าจะใช้เป็นปุ่มกด 3 ปุ่มแบบปกติ (สามารถย้ายตำแหน่งสองปุ่มริมได้) หรือจะใช้เป็นแบบปาดจากขอบจอด้านล่างแทน ซึ่งจากที่ผมลองใช้งานทั้งสองแบบ ส่วนตัวผมมองว่าใช้แบบ 3 ปุ่มจะค่อนข้างสะดวกกว่าเล็กน้อย เพราะการปาดขอบจอ จะต้องอาศัยความแม่น และความจำในการปาดจากขอบล่างด้วย ว่าปาดที่บริเวณไหน จะเป็นการสั่งงานแบบใด

    อีกฟีเจอร์ที่น่าจะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานได้ ก็คือ Smart Sidebar ที่ระบบจะเปิดให้ใช้งานทันทีตั้งแต่เปิดเครื่องครั้งแรก โดยจะมีแถบสีเทาบาง ๆ อยู่ตรงขอบจอด้านขวา ถ้าต้องการใช้งานก็เพียงแค่ปาดนิ้วจากตรงแถบสีเทาเข้ามา ซึ่งในแถบ sidebar นี้ ก็จะมีไอคอนแอปบางส่วนปรากฏขึ้นมาให้ผู้ใช้สามารถใช้งาน โดยไอคอนแอปที่มีกรอบหน้าต่างสีเขียวอยู่ตรงมุมซ้ายบน เมื่อเรียกใช้งาน แอปที่เลือกจะปรากฏขึ้นมาเป็นลักษณะของหน้าต่าง popup เล็ก ๆ ขึ้นมาซ้อนหน้าแอปที่ใช้งานอยู่ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้ดี

    นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์เสริมอื่น ๆ ที่เป็นประโยชน์อีก เช่น การโคลนแอปอย่าง LINE หรือ Facebook ให้สามารถใช้งานได้มากกว่าหนึ่งไอดี ฟีเจอร์ช่วยบล็อก ช่วยกรองเบอร์โทร เป็นต้น

    ส่วนฟีเจอร์นี้จะไม่พูดถึงคงไม่ได้ครับ นั่นก็คือ Game Spaces ที่เป็นโฟลเดอร์รวมเกมในเครื่อง ถ้าหากผู้ใช้ตั้งค่าให้ระบบเพิ่มเกมเข้ามาในโฟลเดอร์นี้โดยอัตโนมัติ หรือผู้ใช้สั่งเพิ่มเข้ามาเอง เมื่อเปิดเกมจากในโฟลเดอร์นี้ ระบบจะจัดการเคลียร์แรม รวมถึงปรับการทำงานด้านกราฟิกและการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตให้เหมาะสมกับการเล่นเกมมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์การเล่นเกมที่ดี นอกจากนี้ยังมีตัวเลือกในการตั้งค่าให้บล็อกการแจ้งเตือนได้ ตั้งค่าล็อกระดับแสงสว่างหน้าจอได้อีกด้วย

    โดยการตั้งค่าบล็อกการแจ้งเตือนจะมีให้เลือกด้วยกัน 4 ระดับ ได้แก่

    • ปิดการแจ้งเตือนสายโทรเข้า
    • ปิดการแจ้งเตือนเฉพาะแถบแบนเนอร์ตรงด้านบนของจอ
    • ปิดการแจ้งเตือนทั้งแถบแบนเนอร์ และสายโทรเข้า
    • แสดงการแจ้งเตือนของทั้งแถบแบนเนอร์ และสายโทรเข้า

    และเมื่อเปิดเกมที่อยู่ในโฟลเดอร์ขึ้นมา ก็จะมีข้อความแจ้งทุกครั้งครับ เพื่อให้มั่นใจว่าฟังก์ชันของ Game Spaces มันทำงานแล้วจริง ๆ

    ประสิทธิภาพและการเล่นเกมบน Realme 2 Pro

    ขึ้นชื่อว่าเป็นมือถือที่มาพร้อมชิป Snapdragon 660 ก็บอกได้เลยว่าแทบไม่ต้องห่วงเรื่องการเล่นเกมครับ อย่างที่ผมทดสอบด้วยเกมหลัก ๆ อย่าง PUBG, ROV และ Ragnarok M ก็สามารถปรับค่า และเล่นได้ลื่น ๆ ตามการตั้งค่าด้านล่างนี้เลย

    สำหรับ PUBG การตั้งค่ากราฟิกที่แนะนำก็อยู่ที่ระดับกลางเพื่อความชัวร์ และไหลลื่นที่สุดระหว่างเล่น ส่วนเกม ROV อันนี้สามารถปรับระดับสูงสุด เปิดโหมดเฟรมเรตสูงได้สบาย เฟรมเรตอยู่ที่ 55-59 fps และอีกเกมหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมอย่าง Ragnarok M ก็สามารถปรับความละเอียดระดับสูงสุด โดยตั้งค่าให้แสดงผู้เล่นคนอื่นระดับต่ำสุดได้แบบไม่ต้องกังวล สามารถเปิดเล่น เปิดบอทได้สบาย โดยจากที่ผมทดสอบเอง สามารถเล่นได้แทบทั้งวันเลย (มีปิดพักบ้างเล็กน้อยเป็นบางช่วง)

    แต่มีอยู่หนึ่งจุดที่น่าเสียดายเล็กน้อยก็คือตำแหน่งของลำโพง เพราะผมมักเผลอเอานิ้วไปปิดช่องปล่อยเสียงของลำโพงบ่อยมาก ถ้าจะให้สะดวกที่สุด คงหนีไม่พ้นการใช้หูฟัง Bluetooth แหละนะ

    ปิดท้ายด้วยผลการทดสอบประสิทธิภาพด้วยแอปต่าง ๆ โดยข้อมูลสเปคชิปประมวลผลจากแอป CPU-Z เองยังมีชื่อชิปด้านบนสุดที่ไม่ตรง ที่เหลือจัดว่าโอเคเลย ส่วนผลคะแนนก็จัดว่าอยู่ในระดับกลาง ใช้งานทั่วไปได้ดี เล่นเกมได้สบาย สำหรับการเชื่อมต่อ 4G ในไทย จากที่ผมลอง พบว่าระบบไม่สามารถจับ CA เพื่อรวมแบนด์วิธของคลื่นได้ ที่สังเกตได้ชัดก็คือ สัญลักษณ์ 4G ของ Realme 2 Pro ขึ้นแค่ 4G ปกติ ไม่มีเครื่องหมาย + ใด ๆ ขึ้นมาเลย

    ส่วนระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ถ้าเป็นการใช้งานปกติ ไม่ค่อยได้เล่นเกม บอกเลยว่าเหลือเฟือ รองรับการใช้งานได้ทั้งวันโดยไม่ต้องชาร์จเลยก็ยังได้ ส่วนถ้าเล่นเกมบ่อย ก็ยังถือว่าเล่นได้นานอยู่ดีครับ แต่อาจจะต้องพก powerbank ติดตัวไว้เผื่อก็ดี ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การเล่นเกมของแต่ละท่าน

    หากใครที่กำลังมองหามือถือมาดูภาพยนตร์ ซีรีส์บน Netflix อยู่ ตัวของ Realme 2 Pro รองรับมาตรฐาน DRM Widevine ที่ L3 เท่านั้นนะครับ นั่นคือไม่สามารถรับชมภาพความละเอียดระดับ HD ได้นั่นเอง

    Overall

    Realme 2 Pro นับเป็นอีกหนึ่งมือถือที่น่าจับตามองมาก ๆ ในช่วงนี้ ด้วยสเปคในระดับมือถือราคาหลักหมื่น แต่ Realme เปิดราคามาที่ 6,590 บาท (โปรพิเศษเฉพาะวันที่ 7 และ 11 พ.ย. นี้ ราคาเหลือแค่ 5,990 บาท) อีกทั้งรูปลักษณ์​หน้าตา การใช้งาน ก็ถือว่าน่าดึงดูดใจกว่าคู่แข่งในช่วงราคาเดียวกัน เหมาะกับทั้งคนที่กำลังมองหามือถือเครื่องใหม่มาใช้เป็นเครื่องหลัก คนที่มองหามือถือเครื่องรองแบบที่มีคุณภาพดี ๆ รวมไปถึงสายเล่นเกมที่อยากได้มือถือปล่อยบอทเกม บอกเลยว่า Realme 2 Pro นี่เปิดมาคุ้มจริง ๆ

    ส่วนช่องทางจำหน่าย เบื้องต้นจะเป็นการเปิดขายออนไลน์ผ่านทาง Lazada เป็นหลักครับ

     

    ข้อดี

    • สเปคดี ราคาเด็ด
    • รูปร่างหน้าตา ฟังก์ชันการทำงาน จัดว่าเหนือกว่ามือถือรุ่นอื่นในช่วงราคาใกล้ ๆ กัน
    • จอสวย ติ่งรูปหยดน้ำ ไม่ได้ทำให้รู้สึกรำคาญสายตาแต่อย่างใด
    • กล้องคุณภาพดี มีโหมดการถ่ายที่หลากหลาย
    • ประสิทธิภาพดี ลงตัวกับทุกรูปแบบการใช้งาน พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนาน
    • ใส่ได้ 2 ซิม + 1 MicroSD

    ข้อสังเกต

    • ขณะถือเครื่องในแนวนอน อาจเผลอวางนิ้วไปปิดทับช่องลำโพงได้ง่าย
    • จากการทดสอบ พบว่าไม่สามารถทำ CA ได้
    • ผ่านการรับรองมาตรฐาน Widevine สำหรับ DRM แค่ L3
    Realme Realme 2 Pro Review
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ZeroSystem

    Related Posts

    สรุปสเปค Samsung Galaxy S26 Ultra จากข่าวลือมีสเปคเป็นยังไง มีอะไรใหม่บ้าง และจะเปิดตัวเมื่อไหร่

    31 พฤษภาคม 2025

    สรุปสเปค Samsung Galaxy Z Fold 7/ Z Flip 7 ล่าสุดจากข่าวลือ มีอะไรใหม่ ราคาเท่าไหร่ คาดเปิดตัวกรกฎาคม 2025 นี้

    31 พฤษภาคม 2025

    เบาแต่แรง! เตรียมพบกับ “realme C71” สมาร์ตโฟนบางเฉียบ ดีไซน์โดดเด่น พร้อมแบตเตอรี่สุดอึด เปิดตัว 4 มิถุนายนนี้

    31 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    สรุปสเปค Samsung Galaxy S26 Ultra จากข่าวลือมีสเปคเป็นยังไง มีอะไรใหม่บ้าง และจะเปิดตัวเมื่อไหร่

    31 พฤษภาคม 2025

    สรุปสเปค Samsung Galaxy Z Fold 7/ Z Flip 7 ล่าสุดจากข่าวลือ มีอะไรใหม่ ราคาเท่าไหร่ คาดเปิดตัวกรกฎาคม 2025 นี้

    31 พฤษภาคม 2025

    “ดร.ฐาคณิษฐ์ พรทองประเสริฐ”กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ HTC จัดหนักใน “HTC Back in your hand” อินฟลูฯรวมตัวคึกคักเพราะรัก Smartphone ในตำนานที่คิดถึง

    31 พฤษภาคม 2025

    เบาแต่แรง! เตรียมพบกับ “realme C71” สมาร์ตโฟนบางเฉียบ ดีไซน์โดดเด่น พร้อมแบตเตอรี่สุดอึด เปิดตัว 4 มิถุนายนนี้

    31 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X