นอกจาก OPPO จะเปิดตัวสมาร์ตโฟนเรือธงอย่าง OPPO Find X3 Pro 5G ที่ได้กระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีแล้ว ยังมีการเปิดตัวอุปกรณ์เสริมอย่างหูฟัง True Wireless ระดับพรีเมียม ที่จะได้อ่านกันในรีวิว OPPO Enco X โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับคุณสมบัติเด่นหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นระบบตัดเสียงรบกวน รวมถึงการปรับแต่งเสียงที่ OPPO จับมือกับ Dynaudio ผู้ผลิตเครื่องเสียงไฮไฟระดับโลก
สเปค OPPO Enco X
- หูฟัง In-Ear True Wireless
- มาพร้อมกับไดรเวอร์ 2 ตัว ได้แก่
- dynamic driver
- balanced membrane driver
- ย่านความถี่ 20 ~ 20,000 Hz
- มีระบบตัดเสียงรบกวน Active noise-cancelling
- แบตเตอรี่ใช้งานยาวนานสูงสุด 25 ชั่วโมง (ร่วมกับเคสชาร์จ)
- รองรับการชาร์จไร้สาย และชาร์จผ่านพอร์ต USB-C
- Bluetooth 5.2
- กันน้ำกันฝุ่น IP54
- รองรับ Codec SBC, AAC, LHDC
- ราคา 5,999 บาท
Design การออกแบบ
สำหรับดีไซน์ การออกแบบของ OPPO Enco X รุ่นนี้ออกแบบมาเป็นหูฟัง In Ear ที่ตัวมันเอง มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Passive noise cancellation ด้วยจุกยางซิลิโคนอยู่แล้ว แต่รุ่นนี้จะตัดเสียงรบกวนได้มากไปอีกระดับ ด้วย Active noise-cancelling
ตัวก้านหูฟัง OPPO Enco X มีก้านยื่นออกมาจากตัวหูฟังเพียงเล็กน้อย เมื่อเทียบกับหูฟัง TWS หลายรุ่นในท้องตลาด น้ำหนักที่หูฟังแต่ละข้างอยู่ในเกณฑ์น้ำหนักเบา สวมใส่ง่าย อีกทั้งมีคุณสมบัติกันละอองน้ำ IP54 เลยทำให้สามารถใส่ออกกำลังกาย เช่น วิ่ง, ปั่นจักรยาน, หรือการออกกำลังกายในยิมได้อีกด้วย
การควบคุม OPPO Enco X สามารถสั่งการได้ที่ตัวหูฟัง ผ่านการสัมผัสบริเวณก้านหูฟัง รองรับคำสั่งทั้งหมด 4 รูปแบบ ดังนี้
- การควบคุมด้วยด้วยการแตะสองครั้ง: การแตะสองครั้งที่หูฟังข้างใดข้างหนึ่งเพื่อข้ามไปยังเพลงถัดไป หรือรับสาย/ วางสาย สามารถสลับระหว่างเพลงและรับสายได้ตลอดเวลาโดยไม่ต้องถอดหูฟังออกจากสมาร์ทโฟนให้ยุ่งยาก นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งการควบคุมด้วยการแตะสองครั้งผ่านแอป HeyMelody ที่โหลดผ่าน Google Play Store โดยฟังก์ชั่นท่ีใช้ได้ ได้แก่ เล่น/ หยุดชั่วคราว เพลงก่อนหน้า/ เพลงถัดไป
- การควบคุมแบบสไลด์: เลื่อนขึ้นหรือลงที่ด้านใดด้านหนึ่งของหูฟังเพื่อปรับระดับเสียง
- การควบคุมแบบกดค้างไว้: กดหูฟังข้างใดข้างหนึ่งค้างไว้ 1 วินาทีเพื่อสลับระหว่างโหมดลดเสียงรบกวน 2 รูปแบบ (โหมด Transparency และโหมด max noise cancellation ในการต้ังค่าเริ่มต้น) สามารถเปลี่ยนโหมดการควบคุมแบบกดค้างได้ผ่านแอป HeyMelody
- การควบคุมด้วยการแตะสามครั้ง: ใช้ในการเปิดใช้งาน Google Voice Assistant, Siri ของ Apple และ Amazon Alexa สามารถเข้าถึงการบริการแบบอัจฉริยะได้โดยไม่ต้องถอดหูฟังออกจากโทรศัพท์ โดยค่าเร่ิมต้นของการตั้งค่านี้จะถูกปิดใช้งาน แต่สามารถเปิดใช้งานได้ผ่านแอป HeyMelody ได้เช่นกัน
ในส่วนของการตัดเสียงรบกวน OPPO EncoX สามารถตัดเสียงรบกวนได้ 4 รูปแบบ โดยในทุกรูปแบบของการตัดเสียงรบกวน จะเหนือกว่าระบบตัดเสียงรบกวนทั่วไป ด้วยการใช้ชิป algorithm-controlled active noise-cancelling dual-core Bluetooth chip เฉพาะในการวิเคราะห์ และตัดเสียงรบกวน โดยในโหมด Multiple noise control ของ OPPO Enco X จะสามารถปรับแต่งความแรงของเสียงรบกวนที่จะตัดออกได้ เพื่อให้พอดีกับในแต่ละสถานการณ์ โดยการตั้งค่ามี 4 รูปแบบ ดังนี้
- Max Noise Cancellation: ใช้โหมด max noise cancellation เมื่อต้องการตัดเสียงรบกวนสูงสุดในระหว่างการเดินทางที่มีเสียงดัง เพื่อความเพลิดเพลินกับเสียงแบบสูงสุด เช่น บนรถประจำทาง รถไฟใต้ดินหรือเครื่องบิน
- Standard Noise Cancellation: ใช้โหมด standard noise cancellation เพื่อลดเสียงรบกวนเล็กน้อยเมื่ออยู่ในร้านกาแฟหรือในออฟฟิศที่คนไม่พลุกพล่าน
- Transparency Mode: ใช้เมื่อต้องการระมัดระวังเสียงโดยรอบ เพียงแค่กดปุ่มด้านใดด้านหนึ่งของหูฟังค้างไว้เพื่อเปิดใช้งานโหมด Transparency ก็ทำให้สามารถสนทนาหรือ เดินทางอย่างปลอดภัย และสามารถระมัดระวังยานพาหนะได้โดยที่ไม่ต้องถอดหูฟังได้
- ปิด Noise Cancellation: เมื่อต้องการเพลิดเพลินกับประสบการณ์เสียงแบบดั้งเดิม หรือ ต้องการประหยัดพลังงานแบตเตอรี่ ให้ปิดการตัดเสียงรบกวน
รีวิว OPPO Enco X – แนวเสียง
ด้านคุณภาพเสียง OPPO Enco X เป็นหูฟังที่พัฒนาขึ้นร่วมกับ Dynaudio และมาพร้อมกับ Dynamic Balance Enhanced Engine 3.0 (DBEE 3.0) Sound System ของ OPPO รองรับการส่งผ่านแบบไร้สาย LHDC (ตัวแปลงสัญญาณเสียงที่มีความหน่วงต่ำ และมีความละเอียดสูง) และยังมีค่าความหน่วงในระดับต่ำด้วย Binaural Low-Latency Bluetooth Transmission แบบใหม่ ทำให้การซิงโครไนซ์ภาพและเสียงดีขึ้น โดย OPPO EncoX ได้ใช้ชิป Bluetooth 5.2 รองรับการใช้งานทั้งแบบหูข้างเดียวหรือหูทั้งสองข้าง ระยะเชื่อมต่อไกลสูงสุดถึง 10 เมตร
ข้อมูลของไดรเวอร์หูฟัง OPPO Enco X เป็นหูฟัง TWS แบบ coaxial dual-driver หรือหูฟังแบบ 2 Driver ที่ปกติแล้วจะพบได้ในอุปกรณ์เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์เท่านั้น แบ่งออกเป็น
- Magnetic balanced membrane driver ที่อยู่ด้านหน้าจะช่วยควบคุมคลื่นความถี่สูง (เสียงแหลม)
- Triple-layered composite dynamic driver ที่อยู่ด้านหลังจะช่วยควบคุมคลื่นความถี่กลางและต่ำ (เสียงกลางและเสียงเบส)
แนวเสียงของ OPPO Enco X ต้องยอมรับว่าปรับแต่งมาได้ดีทีเดียวครับ เหมาะกับการฟังเพลงได้หลากหลายแนว โดยเฉพาะแนว Pop, Hip-hop หรือ Trap Trap ที่เน้นเบสตึ๊บ ๆ รับรองว่าต้องถูกใจเสียงของ OPPO Enco X เป็นอย่างยิ่ง ให้เสียงเบสที่หนา มวลแน่นในระดับกระแทกหู เป็นเสียงเบสคุณภาพดี อิมแพคแรง เก็บตัวเร็ว ส่วนเสียงกลางจะมีตำแหน่งที่ถอยลงมาเล็กน้อย แต่ก็ได้ความชัด การแยกชิ้นดนตรีทำได้ดี ส่วนหนึ่งก็มาจากการที่มี 2 Driver ที่แยกกันทำงานระหว่างเสียงกลาง/ เสียงเบส กับเสียงแหลมออกจากกัน
ในย่านเสียงสูงของ OPPO Enco X หากไม่ได้เอาไปฟังเพลง Jazz หรือ Classic ที่เน้นเครื่องดนตรีโลหะ ผมว่าก็ทำได้ดีตามมาตรฐาน มีอาการเสียงแหลมบาดหูบ้างในบางโน้ต แล้วก็ไม่โดดเด่นเท่ากับเสียงกลางและเสียงเบสเท่านั้น
ส่วนการใช้งานโทรศัพท์ OPPO Enco X ก็สามารถคุยสายได้อย่างคมชัด สามารถตัดเสียงรับกวนในระหว่างการโทรได้ ด้วยไมโครโฟน built-in ในตัวหูฟัง, ไมโครโฟน array แบบคู่ ภายนอกหูฟัง และ อัลกอริธึมควบคุมเสียงรบกวนด้วยไมโครโฟน 3ตัว พร้อมกันกับฟิลเตอร์ที่มีความซับซ้อน และระบบตรวจจับเสียงลม
การปรับแต่ง OPPO Enco X หากไม่ได้ใช้งานสมาร์ตโฟน OPPO หรือ realme จะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นที่ชื่อว่า HeyMelody เพื่อใช้ในการปรับตั้งค่าการสั่งการรูปแบบต่าง ๆ แต่ถ้าเป็นสมาร์ตโฟน OPPO อย่างตอนที่ทดสอบรีวิว OPPO Enco X ผมใช้งานร่วมกับ OPPO Find X3 Pro ก็จะง่ายตั้งแต่ขั้นตอนการเชื่อมต่อเลย แค่เปิดฝาเคสหูฟัง ก็จะมี Pop-up เด้งที่สมาร์ตโฟนทันที
สำหรับการชาร์จไฟ OPPO Enco X รองรับการชาร์จแบบ Qi Wireless charging และการชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C ตามปกติ มีระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ที่นานถึง 25 ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟ 100% ร่วมกับเคสชาร์จ แต่ถ้าเป็นการใช้งานหูฟังเดี่ยว ๆ จะฟังได้ต่อเนื่องที่ประมาณ 5.5 ชั่วโมงครับ
สรุปภาพรวม OPPO Enco X
ภาพรวมสำหรับ OPPO Enco X เรียกว่าเป็นหูฟังที่ออกแบบมาสำหรับสมาร์ตโฟน OPPO เลยก็ว่าได้ เพราะได้ทั้งความสามารถในการเชื่อมต่อที่สะดวกกว่า รองรับการส่งสัญญาณแบบ LHDC สำหรับไฟล์เพลงความละเอียดสูง รวมถึงรองรับการทำงานร่วมกับเอฟเฟกต์เสียง Dolby Atmos บนสมาร์ตโฟน OPPO
ส่วนใครที่เล็ง ๆ OPPO Enco X เพื่อไปใช้งานกับสมาร์ตโฟนยี่ห้ออื่น ก็สามารถใช้งานร่วมกันได้ แค่จะต้องโหลดแอปพลิเคชั่นเพิ่มเติม และไม่รองรับการส่งสัญญาณ LHDC แต่ถ้าใช้ฟังเพลงบนบริการสตรีมมิ่ง เช่น Spotify, JOOX ก็ตัดเรื่อง LHDC ออกได้เลยครับ เพราะ Music Streaming ก็มักจะส่งสัญญาณเสียงแบบ AAC อยู่แล้ว และเรื่องเสียงของ OPPO Enco X ก็จัดเป็นหูฟังที่ฟังเพลงได้สนุก เชื่อมต่อรวดเร็ว เสถียร และให้เสียงสนทนาที่คมชัด สมกับราคาค่าตัว 5,999 บาทครับ