Nokia X2 สมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการ Android จากทาง Nokia ซึ่งนี่ถือเป็นเจนที่ 2 แล้วสำหรับสมาร์ทโฟนที่ใช้ Android จากทาง Nokia และนี่อาจจะเป็นรุ่นสุดท้ายก็ได้ เนื่องจากตอนนี้ทาง Microsoft ได้เข้าซื้อ Nokia ไปเรียบร้อยแล้วในตอนนี้ ซึ่งแน่นอนทาง Microsoft คงจะผลักดันให้ Nokia เป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้ Windows Phone อย่างเต็มตัวแน่นอน
แต่ช่างมันก่อนเรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับการรีวิวในครั้งนี้ ถึงจะเป็นตัวสุดท้าย แต่มันก็มีดีในตัวมันเอง แถมมีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครด้วย โดยทาง Nokia เรียกระบบปฏิบัติการนี้ว่า Nokia X Software Platform 2.0 ซึ่งเป็น Android ที่ถูกดัดแปลงให้มีความใกล้เคียงกับ Windows Phone มากที่สุด โดยตัด Service ของทาง Google ออกไปทั้งหมด และถูกแทนที่ด้วย Service ของทาง Nokia และ Microsoft แทน ซึ่งเอาจริงๆ เราก็ยังคงสามารถที่จะโหลดโปรแกรมของทาง Android มาลงได้เหมือน Android ปกติทั่วไป หรือจะลงจากไฟล์ Apk ก็ยังทำได้เหมือน Android ทั่วไปได้ด้วย
สเปค Nokia X2
- ชิปประมวลผล Qualcomm MSM8210 (Snapdragon 200) Quad-Core ความเร็วสูงสุด 1.2 GHz
- ชิปกราฟฟิค Adreno 302
- แรม?1 GB
- หน้าจอ ClearBlack LCD?ขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด 800?480 พิกเซล
- รอมในตัว 4 GB?เพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 32 GB
- Android 4.3 Jelly Bean ครอบมาด้วย Nokia X Software Platform 2.0
- กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล Auto Focus พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซล
- รองรับการเชื่อมต่อ 3G ความถี่ 900/2100
- แบตเตอรี่ 1,800 mAh
- ราคาอยู่ที่ 4,690 บาท
- สเปค Nokia X2 แบบเต็มๆ
Design
ด้วยขนาดหน้าจอของ Nokia X2 ที่มีขนาด 4.3 นิ้วทำให้ตัวเครื่องมีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก ถือมือเดียวสบายๆ สามารถถือได้ง่ายทั้งผู้หญิง และผู้ชาย วัสดุทำจากพาสติคคุณภาพสูง โดนทำออกมาให้ดูมันเงาอย่างมาก คือดูแล้วพลาสติคแท้ๆอย่างชัดเจนเลย แต่ด้วยสีสันที่ทำออกมาได้จี๊ดสะใจ ก็ให้อารมณ์ดูสดใส แปลกไปจากยี่ห้ออื่นๆที่เน้นไปที่สีโทนเรียบให้ความรู้สึกหรูอย่าง ขาว ดำ หรือ ทอง
ด้านหน้าตัวเครื่องจะเป็นจอขนาดใหญ่ 4.3 นิ้ว แล้วด้านบนจะเป็น ช่องลำโพงสนทนา กล้องหน้า และเซนเซอร์ ต่างๆ โดยบางคนอาจจะสังเกตุเห็น ว่าบางทีเราจะเห็นแสงสีแดงๆออกมาที่บริเวณนั้นไม่ต้องตกใจ มันเป็นแสงของเซนเซอร์วัดระยะนั่นเอง
ซึ่งผมชอบระบบอย่างหนึ่งของเจ้า Nokia X2 ที่เมื่อเราล็อคจอแล้ว เราสามารถตั้งให้มันทำตัวเป็น นาฬิกาได้ โดยมันจะแสดงเวลาอยู่ตลอดเวลา และไม่ต้องกลัวว่ามันจะเปลืองไฟ เพราะเมื่อ เราเอามือไปบังบริเวณเซนเซอร์วัดระยะ จอมันจะดับเอง และเมื่อเอามือออก มันก็จะกลับมาแสดงเหมือนเดิม ซึ่งมีประโยชน์เวลาเราเอาใส่กระเป๋ากางเกงนั่นเอง ทำให้เราไม่ต้องกดปลดล๊อคเพื่อดูเวลา เพียงแค่หยิบขึ้นมาก็พอ
ส่วนด้านล่างจะเห็นว่ามีปุ่มควบคุมอยู่ 2 ปุ่มที่เป็นแบบระบบสัมผัส ซึ่งจะต่างจาก Android ทั่วไปที่มีอยู่ 3 ปุ่ม โดยใน Nokia X2 จะมี 2 ปุ่มคือ ย้อนกลับ กับหน้าโฮม เท่านั้น โดยการเข้าสู่หน้า Multi-task จะสามารถทำได้โดยการกดปุ่ม ย้อนกลับ ค้างไว้ 2-3 วินาที
ปุ่มปลดล็อคและ และปุ่มปรับระดับเสียงจะถูกวางเอาไว้ที่ด้านขวาของตัวเครื่อง และช่อง Micro USB จะอยู่ที่ด้านล่างของเครื่อง ส่วนช่องหูฟัง 3.5 มม. จะอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง
ฝาหลังของเจ้า Nokia X2 นั้นสามารถถอดออกได้ วิธีการถอดอาจจะดูแปลกไปนิดหน่อย แต่ก็ไม่ได้ยากมาก (มีวิธีบอกอยู่ในกล่อง ดูครั้งเดียวก็เข้าใจ) ฝาหลังจะเป็นพลาสติคผิวมันเงาชิ้นเดียว สีสันสดใส อย่างเครื่องที่รีวิวนี้จะเป็นสีเขียวอ่อนแบบเดียวกับในภาพเลย สีสดจริงๆ โดยจะมีกล้องหลัง และ LED Flash ติดมาด้วย พร้อมช่องลำโพงหลักของตัวเครื่อง ซึ่งเสียงที่ได้ก็ดังดูดีเลย
และเมื่อถอดฝาหลังออกมาจะพบว่าสามารถ ที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ โดยแบตเตอรี่จะมีความจุที่ 1,800 mAh ซึ่งบอกเลยว่า ใช้ทั้งวันแทบจะไม่พอ และเครื่องนี้สามารถใส่ซิมได้ 2 ซิม และรองรับ MicroSD Card ด้วย
จอของเครื่องนี้ความละเอียดอาจจะไม่สูง นัก ดูด้วยตาเปล่าก็รู้สึกได้ว่าไม่ค่อยจะคมนัก ส่วนเรื่องความสว่างนี่ถือว่าแรงใช้ได้เลย แต่อาจจะยังสู้แสงแดดได้ไม่ดีนัก แต่ก็สมควรแก่ราคาหล่ะครับ แค่นี้ก็ถือว่าดีแล้วในราคานี้
Software
ด้วยการที่เป็นระบบปฏิบัติการที่ทาง Nokia นำไปดัดแปลงขึ้นมาเอง ได้มาเป็น Nokia X Software Platform 2.0 ซึ่งเป็น Android ที่ดูเหมือน Windows Phone ในระดับหนึ่ง ซึ่งจากการทดลองใช้จะพบว่า มันก็ไม่ได้เหมือน Windows Phone ไปซะทีเดียว ยังคงเหลือความเป็น Android อยู่บ้าง ซึ่งถ้าใครที่เคยใช้ Android มาก่อนคงต้องปรับตัวกันเยอะหน่อยถึงจะชิน แต่สำหรับคนใช้ Windows Phone น่าจะเข้าใจได้เร็วกว่า
โดย Nokia X2 นั้นจะมีพื้นฐานระบบปฏิบัติการมาจาก Android 4.3 JellyBean ซึ่งถูกมาดัดแปลงจนกลายเป็นลูกครึ่ง Windows Phone แต่ก็ยังคงมีฟีเจอร์ต่างๆของทาง Android อยู่ครบ จะขาดก็เพียงแค่แอพพลิเคชั่นต่างๆของทาง Google ที่ถูกนำออกไปและแทนที่ด้วยแอพพลิเคชั่นของทาง Nokia และ Microsoft เอง
Feature
แน่นอนว่าจุดเด่นของ Nokia X2 คงหนีไม่พ้นการที่นำเอาบริการต่างๆจากทาง Microsoft และ Nokia มาใส่เข้าไปเต็มๆ ไม่ว่าจะเป็น
Here Map
แอพพลิเคชั่นแผนที่และนำทางจากทาง Nokia ที่สามารถให้รายละเอียดต่างๆได้ครบถ้วนและชัดเจน พร้อมการใช้งานที่ไม่ยุ่งยาก ถ้าเทียบกับ Google Maps ก็ต้องบอกเลยว่าประสิทธิภาพกินกันไม่ลง แต่จุดที่ Here Map แตกต่างอย่างชัดเจนคือการที่เราสามารถดาวน์โหลดแผนที่มาเก็บไว้ในเครื่อง เพื่อทำการใช้งานในโหมด Offline ได้ โดนที่ได้ต้องง้ออินเตอร์เน็ตเลย
Mix Radio
แอพพลิเคชั่นสตรีมเพลงที่ทำให้เราสามารถที่จะฟังเพลงต่างๆมากมายจากทั่วทุกมุม โลกได้ อย่างไม่จำกัด ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีโฆษณาคั่น สนุกกับเพลงจากศิลปินสุดโปรด ได้อย่างต่อเนื่องไม่มีจำกัด
Nokia Store
แหล่งรวมแอพพลิเคชั่นสำหรับ Nokia X2 ที่ถูกนำมาแทนที่ Google Play Store (ใน Nokia X2 จะไม่มี Google Play Store) ซึ่งจะรวบรวมเอาแอพพลิเคชั่นต่างๆที่สามารถทำงานกับ Nokia X2 ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเอาไว้ รวมทั้งแอพพลิเคชั่นพิเศษที่มีเฉพาะใน Nokia X2 ด้วย แต่ถ้าใครอยากจะลงแอพพลิเคชั่นอื่นที่ไม่มีใน Nokia Store ก็สามารถที่จะโหลดได้จาก 1 Mobile Market ได้เช่นกัน
Camera
กล้องหลังที่ใส่มาใน Nokia X2 นั้นมีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล พร้อมด้วย Flash LED ซึ่งให้ความคมชัดของภาพที่น่าพอใจในระดับหนึ่ง แต่ต้องออกตัวไว้ก่อนเลยว่ากล้องไม่ได้เป็นจุดเด่นของตัวนี้เลย
ต้อง ยอมรับว่าความคมชัดของภาพอาจจะไม่ได้มากมายนัก แต่ก็พอที่จะนำไปแชร์ขึ้น Social Network ได้อย่างไม่อายใคร ในเรื่องของสีสันนั้นถือว่าทำได้กลางๆไม่เข้ม และไม่จืดจนเกินไป ให้สีที่เป็นธรรมชาติ ซึ่งอาจจะไม่ค่อยถูกใจบางคนเนื่องจากมันจะดูเรียบๆไม่มีอะไรดึงดูดเท่าไหร่ นัก ในส่วนของ White Balance นั้นทำได้ไม่ค่อยแม่นยำมากนัก มักจะขาดๆเกินๆอยู่เป็นประจำ ต้องรอสักพักถึงจะปรับจนได้สีที่ถูกต้อง แต่บางทีก็ไม่เปลี่ยนซะงั้น ต้องส่ายกล้องเปลี่ยนมุมนิดหน่อยถึงจะพอช่วยได้
การ โฟกัสทำได้ในความเร็วที่โอเค จากการใช้ Touch Focus ถือว่าทำได้เร็วพอตัว ไม่ได้ช้าจนน่าเกลียด แต่ระบบ Auto Focus ไม่ค่อยจะแม่นยำเท่าไหร่ แต่กลับจับหน้าคนได้แม่นยำ(ดูงงๆนะ แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆ) และโปรดระวังการโฟกัสด้วยการสัมผัสแบบซ้ำๆที่เดิม เพราะเมื่อเราโฟกัสมันจะขึ้นวงกลมๆ ตรงบริเวณที่โฟกัสและถ้าแตะซ้ำในวงนั้นจะกลายเป็นการถ่ายรูป เพราะฉะนั้น ถ้าโฟกัสไม่โดน ต้องไปโฟกัสที่อื่นไกลๆก่อน แล้วค่อยกลับมาแตะโฟกัสที่เดิมอีกที(แถมปิดระบบนี้ไม่ได้ด้วย)
เรื่อง ของ Noise บอกเลยว่าจัดมาเต็ม เยอะจริงอะไรจริง เหมือนไม่มีการลดมาให้เลย เยอะมาก แม้กระทั่งเปิดโหมดถ่ายกลางคืนก็ไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นมากนัก จนผมแปลกใจว่าเขายังเขียนแอพพลิเคชั่นกล้องมาไม่เสร็จหรือเปล่าเนี่ย
โหมด การถ่ายรูป หลักๆจะมีออโต้ ถ่ายกลางคืน และถ่ายกีฬา ซึ่งก็มองไม่เห็นความแตกต่างเท่าไหร่ในการถ่าย แต่โหมดที่ผมเห็นว่ามันแปลกและน่าจะเป็นประโยชน์คือโหมด Self-portrait ที่จะช่วยในการถ่ายรูปตัวเองด้วยกล้องหลังให้สะดวกสบายขึ้น โดยสามารถที่จะถ่ายได้โดยกดส่วนไหนก็ได้ของจอ และมีระบบการโฟกัสหน้าอัตโนมัติด้วย และผมค่อนข้างแนะนำให้ใช้โหมดนี้สำหรับการ Selfie มากกว่าการใช้กล้องหน้า เพราะกล้องหน้าความละเอียด 0.3 ล้านพิกเซลไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่สำหรับการใช้งานจริง
Performance
ด้วยสเปคที่ให้มาใน Nokia X2 ถือว่าสมน้ำสมเนื้อกับราคาค่าตัวของมัน ใช้งานได้ไม่มีติดขัดอะไร แต่แน่นอนไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมเท่าไหร่นัก อาจจะเล่นได้ในระยะเวลาสั้นๆ เนื่องด้วยปัญหาด้านความร้อน และแบตเตอรี่อันน้อยนิดที่ขนาดใช้ปกติยังจะไม่พออยู่เลย แต่การเล่น Social Network ต่างๆทำได้ดีไม่มีปัญหา ด้วยการที่เป็น Android จึงทำให้มีความสามารถที่หลากหลายและมากกว่า Windows Phone ในระดับราคาเดียวกัน การเปิดเว็บสามารถทำได้ดีด้วยแรม 1 GB และการเขียนรอมที่ค่อนข้างดี ทำให้ปัญหาในการใช้งานค่อนข้างน้อย จากที่ใช้มายังไม่เคยมีอาการค้าง หรือแอพเด้งเลย แต่เรื่องเครื่องร้อนนี่ค่อนข้างจะชัดเจนอยู่เหมือนกัน ซึ่งก็คงจะต้องทำใจในส่วนนี้
Overall
โดยรวมแล้วสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนราคาประหยัด มาใช้โทรเข้าออก เล่น Social Network ทั่วๆไป เปิดเว็บบ้าง Nokia X2 ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีตัวหนึ่งเลย สำหรับใครที่มองหาความเสถียรของระบบ และไม่ค่อยซีเรียสกับการที่ต้องอัพเดตเฟริมแวร์ให้ใหม่อยู่เสมอ ด้วยราคาเพียงแค่ 4,690 บาท นับว่าคุ้มค่าตามราคาจริงๆ
ข้อดี
- Nokia X SoftWare Platform 2.0 ให้อารมณ์ที่ต่างออกไปจาก Android อื่นๆอย่างชัดเจน และมีความเสถียรที่น่าพอใจ
- Here Maps, Mix Radio และบริการอื่นๆจาก Microsoft และ Nokia ซึ่งจัดมาเต็มที่
- แบตเตอรี่เปลี่ยนได้
ข้อเสีย
- แบตเตอรี่น้อย ไม่เพียงพอต่อการใช้งานจริง
- หน้าจอความละเอียดค่อนข้างต่ำ มองเห็นเม็ดพิกเซลค่อนข้างชัดเจน
- กล้องหลังถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อยได้ไม่ดี