ในที่สุด Nokia ก็บุกตลาดหูฟังไร้สายกับเขาบ้างแล้ว โดยส่ง Nokia Essential True Wireless Earphones E3500 หูฟังไร้สายฟีเจอร์จัดเต็ม ในราคาคุ้มค่าสุดๆ มาให้เราได้ซื้อใช้กันแล้ว ซึ่งความดีงามของหูฟังไร้สายจาก Nokia ตัวนี้ก็คือเสียงดีใช้ฟังได้ทุกแนวเพลง, น้ำหนักที่เบา, มาตราฐานกันน้ำ IPX5 และโหมด Ambient ในราคาแค่ 2,790 บาทเท่านั้น เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ เลยทีเดียว ซึ่งตัวหูฟังจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปชมกันได้เลย
- รีวิว Nokia Essential True Wireless Earphones E3500
- สรุปการรีวิว Nokia Essential True Wireless Earphones E3500
รีวิว Nokia Essential True Wireless Earphones E3500
สเปคหูฟัง
- รูปแบบหูฟัง : In-Ear
- น้ำหนักหูฟัง : ข้างละ 5 กรัม
- น้ำหนักเคส : 32 กรัม
- ขนาดไดรเวอร์ : 10 มม.
- จำนวนไมโครโฟน : 4 ตัว
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0
- ระยะการเชื่อมต่อ : 10 เมตร
- แบตเตอรี่ : 48 mAh (หูฟัง) / 360 mAh (เคส)
- ระยะเวลาใช้งานสูงสุด : 25 ชม.
- คลื่นความถี่ : 20 – 20kHz
- กันน้ำ : IPX5
- การชาร์จ : USB Type-C
- สี : น้ำเงิน, ดำ และขาว
- ราคา : 2,790 บาท
อุปกรณ์ภายในกล่อง
- เคสชาร์จ Nokia E3500
- หูฟัง Nokia E3500
- สายชาร์จแบบ USB Type-A to Type-C
- จุกหูฟังขนาด S และ L สำหรับเปลี่ยน
- คู่มือการใช้งาน
- ข้อมูลการรับประกันสินค้า
ดีไซน์
ในด้านการดีไซน์เคสของ Nokia E3500 นั้นมาในขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา ตัวเคสเป็นทรงกล่องมุมโค้ง ช่วยให้สามารถจับถือได้อย่างสบายมือและสามารถจัดเก็บลงกระเป๋าได้ง่าย ตัวฝาเป็นแบบแม่เหล็กซึ่งเรียกได้ว่ายึดแน่นสุดๆ ป้องกันไม่ให้ฝาเปิดเวลาเผลอได้อย่างดี ถัดลงมาเล็กน้อยจะเป็นไฟแสดงสถานะสีขาวดวงเล็ก ที่อาจจะไม่ค่อยเหมือนใครก็คือพอร์ตชาร์จ USB Type-C ที่อยู่ด้านหน้า ในขณะที่แบรนด์อื่นๆ วางพอร์ตไว้ที่ด้านหลังหรือข้างใต้มากกว่าเพื่อความสวยงาม ก็ถึงอาจจะทำให้ดูไม่ลื่นตามากนักแต่ทว่าในด้านการใช้งานแล้วค่อนข้างสะดวกไม่น้อย (ไม่รองรับการชาร์จไร้สายนะ ราคาแค่นี้คงขอมากกว่านี้ไม่ได้)
ตัวหูฟังนั้นมาในรูปแบบ In-Ear ที่มีก้านหูค่อนข้างหนา ซึ่งการที่มีก้านใหญ่ช่วยให้จุดสัมผัสสำหรับใช้สั่งการหูฟังมีขนาดใหญ่ทำให้สามารถใช้งานได้ง่ายกว่ารุ่นที่มีก้านเล็กๆ โดยจุดที่จะใช้สัมผัสนั้นเป็นรูปขีดเล็กๆ มีความนูนเล็กน้อย ช่วยให้สามารถรู้ตำแหน่งได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ส่วนที่ตัวหูฟังนั้นได้รับการออกแบบมาให้เข้ากับสรีระของหูอย่างลงตัว ทำให้สามารถสวมใส่นานๆ ได้โดยไม่เจ็บหู
ที่ตัวหูฟังแต่ละข้างจะมีไมโครโฟนอยู่ 2 ตัว เพื่อใช้สำหรับรับเสียง รวมถึงช่วยตัดเสียงได้ อีกทั้งยังมีได้รับมาตราฐานกันน้ำระดับ IPX5 มาด้วยทำให้สามารถใช้งานกลางฝนหรือใช้ออกกำลังกายได้อย่างสบายใจ
การเชื่อมต่อ
ในการเชื่อมต่อตัวหูฟังกับอุปกรณ์ต่างๆ นั้นด้วยการที่เป็น Bluetooth 5.0 ทำให้สามารถเชื่อมต่อได้อย่างง่ายดาย เพียงแต่สิ่งที่เจอตอนเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android มันออกจะแหวกแนวเล็กน้อย เนื่องจากตอนเชื่อมต่อตัวเครื่องจะทำการเชื่อมต่อตัวหูฟังจะทำการเชื่อมตัวกับ Nokia E3500 R ก่อน (ซึ่งตรงนี้จริงๆ ใช้งานได้แล้ว) ทว่าอยู่ดีๆ ก็มีเด้นให้ต่อกับ Nokia E3500 L ขึ้นมาอีก ซึ่งพอกดเชื่อมต่อไปแล้วก็ไม่เกิดอะไรขึ้น (เพราะมันใช้ได้แล้วนั่นเอง ซึ่งก้นับว่าแปลกดี) ส่วนใครที่จะเชื่อมต่อด้วยอุปกรณ์ Apple นั้นจะมีการเชื่อมต่อแค่ครั้งเดียวกับชื่อ Nokia E3500 R
คำสั่งควบคุมหูฟัง
ข้างซ้าย
- แตะ 1 ครั้ง เล่นเพลง / หยุดเพลง / รับสาย
- แตะ 2 ครั้ง เปิด-ปิดโหมด Ambient
- แตะ 3 ครั้ง เรียกใช้งาน Assistant
- แตะค้างไว้ ลดเสียง / ปฏิเสธสายโทรเข้า
ข้างขวา
- แตะ 1 ครั้ง เล่นเพลง / หยุดเพลง / รับสาย
- แตะ 2 ครั้ง เล่นเพลงถัดไป / วางสาย
- แตะ 3 ครั้ง เรียกใช้งาน Assistant
- แตะค้างไว้ เพิ่มเสียง / ปฏิเสธสายโทรเข้า
การใช้งานต่างๆ
ในด้านการใช้งานแล้วจากที่ได้เอาไปลองใช้มาต้องบอกเลยว่าน่าสนใจไม่ใช่น้อย เริ่มตั้งแต่การหยิบขึ้นมาเชื่อมต่อกับมือถือเลย เนื่องจากตังผู้เขียนใช้มือถือซัมซุงและมีหูฟัง Galaxy Buds+ อยู่แล้ว เมื่อเอามาลองเทียบความเร็วในการเชื่อมต่อทาง Nokia E3500 กลับเชื่อมต่อได้เร็วกว่าซึ่งเป็นอะไรที่น่าแปลกใจไม่ใช่น้อย นอกจากนี้การออกแบบตัวหูฟังยังพอดีกับสรีระหู ทำให้ถึงแม้จะมีการเคลื่อนไหลแรงๆ ตัวหูฟังก็ไม่หยุด แถมไม่แน่นจนเจ็บหูด้วย เรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ชอบใส่หูฟังนานๆ แต่ทำไม่ได้อย่างแท้จริง
ในด้านการใช้ฟังเพลงนั้นด้วยไดรเวอร์ขนาด 10 มม. ที่ใส่มานั้นให้เสียงที่มีมิติ เบสเด่นชัดกำลังดี เสียงกลางและเสียงสูงก็ทำออกมาได้พอเหมาะ เรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่ใช้ฟังเพลงได้สนุกไม่น้อยเลย อีกทั้งด้วยการที่เป็นรูปทรง In-Ear ยังช่วยลดเสียงรบกวนที่มาจากภายนอกได้ในระดับหนึ่งแล้ว และถ้าต้องการได้ยินเสียงจากภายนอกก็แค่เปิดโหมด Ambient ก็สามารถได้ยินเสียงจากภายนอกแบบชัดๆ ได้แล้ว ซึ่งจากที่ได้ลองไปอยู่ในที่ๆ มีเสียงรบกวนเยอะๆ แล้วการตัดเสียงก็นับว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง คือยังพอมีเสียงเล็ดรอดเข้ามาเบาๆ ถ้าไม่ตั้งใจฟังดีๆ ก็ไม่ค่อยได้ยินแน่นอน ส่วนโหมด Ambient นั้นนับว่ารับเสียงได้ดี ถึงแม้จะเป็นเสียงคุยไม่ดังผ่านหน้ากากก็ได้ยินชัดพอสมควร
ในเรื่องของการเล่นเกมนั้นถึงแม้ตัวหูฟังจะเป็น Bluetooth 5.0 ที่มีดีเลย์น้อย แต่พอเอาไปลองใช้เล่นเกมจริงๆ แล้วก็ยังนับว่ามีดีเลย์พอสมควรเลย ซึ่งเกมที่ใช้ลองเล่นก็คือ PUBG New Stateซึ่งได้ลองทั้งบน Android และ Apple แล้ว ความดีเลย์ของเสียงไม่ต่างกันเลย โดยเสียงยิงจะตามหลังภาพประมาณ 1 – 2 วินาที ซึ่งเอาจริงๆ ก็ไม่ค่อยมีผลต่อการเล่นเท่าไร การแยกทิศทางเสียงก็ทำได้ดี
สำหรับการใช้พูดคุยนั้นด้วยตัวหูฟังมีไมโครโฟนรวมกันถึง 4 ตัวช่วยให้สามารถรับเสียงได้อย่างชัดเจนแล้วยังมีเทคโนโลยี Qualcomm cVc จับคู่กับไมโครโฟนข้างละ 2 ตัว ช่วยประมวผลในการตัดเสียงรบกวนอย่างแม่นยำได้อีกด้วย ถึงจากที่ลองมาดูเหมือนจะยังตัดเสียงออกไปได้ไม่หมดดี (ลองตอนเดินอยู่ในห้างจุดที่มีเสียงดังๆ) แต่เสียงรบกวนที่เหลือก็ค่อนข้างเบาเอามากๆ ไม่ส่งผลต่อการพูดคุยอย่างแน่นอน
ในเรื่องของแบตเตอรี่และระยะเวลาในการใช้งานนั้นเรียกได้ว่าเพียงพอต่อการใช้งานใน 1 วันมาก เนื่องจากแบตเตอรี่ที่ตัวหูฟังนั้นสามารถใช้งานได้ 6 – 7 ชั่วโมงซึ่งนับว่านานมากต่อการใช้งานในแต่ละครั้ง (ต่อให้ใส่แล้วไม่เจ็บหู แต่ถ้าใส่นานขนาดแบตเตอรี่หมดได้นี่น่าจะเจ็บหูแล้วหละ) แต่ถ้าคิดว่ายังไงก็ใช้เกินแน่นอน เมื่อเอาไปชาร์จกับเคสชาร์จจะสามารถชาร์จหูฟังให้เต็มได้ถึง 3 ครั้ง รวมๆ แล้วสามารถใช้งานได้ถึง 25 ชั่วโมงหรือเกินวันแบบสบายๆ แถมถ้าแบตเตอรี่ในเคสหมดก็ใช้เวลารอประมาณ 2 ชั่วโมงก็เต็มแล้ว (เสียบชาร์จก่อนจะนอนก็ได้แล้ว) โดยเราสามารถสังเกตแบตเตอรี่ที่ตัวเคสชาร์จได้โดยการมองไปที่ไฟ LED ดังนี้
- กระพริบ 1 ครั้ง : แบตใกล้หมด
- กระพริบ 2 ครั้ง : แบตประมาณ 30%
- กระพริบ 3 ครั้ง : แบตประมาณ 50%
- กระพริบ 4 ครั้ง : แบตประมาณ 80%
- ไฟติดตลอด : แบตเต็ม 100%
สรุปการรีวิว Nokia Essential True Wireless Earphones E3500
สรุปการีวิวหูฟังไร้สาย Nokia Essential True Wireless Earphones E3500 ตัวนี้บอกเลยว่าเป็นหนึ่งในหูฟังไร้สายที่ผู้เขียนอยากได้มากๆ ด้วยเสียงที่สามารถใช้ฟังเพลงได้ทุกแนว ขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย กันน้ำ มีระบบตัดเสียง แถมยังมีโหมด Ambient ในราคาแค่ 2,790 บาท เนี่ยเป็นอะไรที่คุ้มค่าสุดๆ เนื่องจากปกติหูฟังไร้สายเรทราคานี้ไม่ให้ฟีเจอร์มาขนาดนี้แน่นอน
ซึ่งตัวูฟัง Nokia Essential True Wireless Earphones E3500 นี้มีให้เลือทั้งหมด 3 สีคือ น้ำเงิน, ดำ และ ขาว สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายหูฟังต่างๆ และถ้าต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเข้าไปดูได้ที่ nokia.com