Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»News»Android News»[Review] Huawei Y9 2018 สมาร์ทโฟน 4 กล้อง แบตเตอรี่ 4,000 mAh ที่สุดของความคุ้มค่า ในราคา 6,990 บาท!!
    Android News

    [Review] Huawei Y9 2018 สมาร์ทโฟน 4 กล้อง แบตเตอรี่ 4,000 mAh ที่สุดของความคุ้มค่า ในราคา 6,990 บาท!!

    Jamikorn SingnamthiengBy Jamikorn Singnamthieng22 มีนาคม 2018Updated:24 สิงหาคม 2020
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    สเปคของ HUAWEI Y9 2018 ถือว่าเป็นจุดแข็งหนึ่งของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ เพราะเมื่อเทียบกับรุ่นอื่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน จัดว่ามีความคุ้มค่าติดอันดับต้น ๆ ของสมาร์ทโฟนในช่วงราคาประมาณ 5,000 – 7,000 บาท แต่สิ่งที่ผมมองว่า HUAWEI Y9 2018 น่าสนใจ คือมันมีคาแรคเตอร์ชัดเจนมาก ไม่ได้เป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นราคาถูก ใส่ฟีเจอร์กับสเปคที่เขานิยมกัน แล้วหาจุดเด่นไม่เจอนอกจากความคุ้ม และถูกกว่าชาวบ้าน

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0010

    โดย HUAWEI Y9 2018 มาพร้อมกับจุดแข็งที่เน้นเรื่องกล้องเป็นหลัก จัดกล้องมาให้ถึง 4 กล้อง (4 Camera) แบ่งเป็นกล้องหน้า 2 ตัว กับกล้องหลังอีก 2 ตัว สามารถถ่ายโหมดหน้าชัด – หลังเบลอได้ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง, โหมดกล้องที่แทบจะพอร์ตจากรุ่นเรือธงมาใส่ไว้ในรุ่นเล็กเช่นนี้ รวมถึงแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงถึง 4,000 mAh ใช้งานกันยาว ๆ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในกลุ่มนี้ได้เป็นอย่างดี อยากได้สมาร์ทโฟนราคาไม่แพง ชอบถ่ายรูป และใช้งานเยอะ ๆ เล่นมือถือทั้งวัน ผมว่า HUAWEI Y9 2018 เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามเลยล่ะ

    Camera / กล้องถ่ายภาพ

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0003

    มาถึงจุดเด่นที่สุดของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ จะเป็นสิ่งใดไปไม่ได้นอกจากกล้อง ที่สำคัญคือรุ่นนี้จัดหนักทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง เพราะให้มาถึง 4 กล้อง ประกอบไปด้วยกล้องหน้าคู่ กับกล้องหลังคู่ ทำให้สามารถถ่ายภาพหน้าชัด – หลังเบลอได้ทั้ง 2 ด้าน รายละเอียดของกล้อง เริ่มจากกล้องหน้าคู่ ให้มาที่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กับ 2 ล้านพิกเซล f/2.2 (Fixed Focus) มาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพเจ๋ง ๆ มากมาย

    Huawei-Y9-2018-Screenshot-002

    AR Lens เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามาใน HUAWEI Y9 2018 เช่นเดียวกับรุ่นพี่อย่าง HUAWEI nova 2i ลักษณะของ AR Lens ก็คือจะมีสติ๊กเกอร์น่ารัก ๆ โผล่ขึ้นมา หรือจะเปลี่ยนฉากหลังให้ดูสวยฟรุ้งฟริ้งก็สามารถทำได้เช่นกัน ความเนียนในการประกบตัวแบบกับฉากหลัง ส่วนตัวมองว่า HUAWEI Y9 2018 ทำได้เนียนทีเดียว ต้องยกความดีความชอบให้กับกล้องหน้าคู่ ที่ทำได้มากกว่าการถ่ายหน้าชัด – หลังเบลอ หรือโหมด Portrait ล่ะครับ

    ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหน้า HUAWEI Y9 2018

    Shot on Huawei Y9 2018 Front Camera

    กล้องหลังมีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0 พร้อมแฟลช LED จำนวน 1 ดวง โหมดกล้องที่มีให้เลือกใช้ สามารถเทียบชั้นรุ่นแฟลกชิปได้สบาย โดย HUAWEI ใส่มาให้ทั้งโหมด Pro ที่สามารถปรับแต่งค่าต่าง ๆ ได้ละเอียด, AR Lens หรือจะเป็นโหมดหน้าชัด – หลังเบลออันเป็นเอกลักษณ์ของ HUAWEI อย่าง Wide Aperture ที่สามารถจำลองค่ารูรับแสงได้ตั้งแต่ f/0.95 ไปจนถึง f/16 และยังทำการ Refocus หลังถ่ายภาพได้

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0012

    การใช้งานกล้องถ่ายภาพส่วนตัวถือว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ทำได้ดีทีเดียว เริ่มจากเมนูกล้องที่ใช้งานง่าย หยิบ ยก ถ่าย ได้ทันที การโฟกัสก็รวดเร็วในระดับหนึ่ง ทีเด็ดคงเป็นเรื่องการถ่ายโบเก้ หรือหน้าชัดหลังเบลอ เป็นสมาร์ทโฟนที่ถ่ายโหมดพวกนี้เก่งมาก ๆ โดยเฉพาะการถ่ายคนด้วยโหมด Portrait จะให้ภาพหน้าชัดหลังเบลอที่เนียนกว่าคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัด

    ส่วนการถ่ายภาพตอนกลางคืนก็เก็บแสงได้ดีในระดับหนึ่ง ถ่ายออกมาได้สว่าง ความคมชัดก็แตกต่างจากตอนที่แสงปกติไม่มาก เนื่องจากมีการเพิ่ม Sharpen ให้อัตโนมัติ หรือถ้าใครถนัดโหมดโปร มีขาตั้งกล้องก็สามารถปรับตั้งค่าได้ตามสะดวก โดยสามารถปรับตั้งค่าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ISO, Speed Shutter, White Balance, EV และการโฟกัสได้เช่นเดียวกับกล้องถ่ายรูปจริง ๆ

    ข้อสังเกตอีกอย่างสำหรับกล้องจะอยู่ที่การบันทึกภาพ ด้วยข้อจำกัดด้านหน่วยความจำ ที่ให้มาเป็นแบบ eMMC พอเจอการถ่ายภาพที่ใช้ซอฟท์แวร์ประมวลผลหลังการถ่าย แถมไฟล์ภาพก็เป็นไฟล์ความละเอียดสูง เฉลี่ยไฟล์ละ 4 – 5 MB ถ้าถ่ายพวกโหมดโบเก้, Portrait จะไม่สามารถถ่ายแล้วกดพรีวิวได้ทันที ต้องรอให้ซอฟท์แวร์ประมวลผลประมาณ 4 – 5 วินาทีเสียก่อน

    คุณภาพของรูปถ่ายจากกล้องหลังสามารถรับชมได้จาก Gallery ด้านล่างครับ

    Shot on Huawei Y9 2018 Rear Camera

    Design / การออกแบบ

    หน้าจอ HUAWEI FullView Display อัตราส่วน 18:9 ขนาด 5.93 นิ้ว ดีไซน์ของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้เป็นไปตามสมัยนิยม คือตัวเครื่องจะยาว แต่แคบกว่าสมาร์ทโฟนหน้าจออัตราส่วน 16:9 ส่งผลให้การจับถือ รวมถึงการใช้งานทำได้สะดวกมากกว่า และข้อดีอีกอย่างของหน้าจออัตราส่วน 18:9 คือ ออกแบบมาให้รองรับกับคอนเท้นในยุคปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการรับชมในแนวตั้งที่แสดงผลได้มากกว่า หรือจะเป็นการรับชมคอนเท้นประเภทวีดีโอในแนวนอน ที่สามารถแสดงผลได้เต็มหน้าจอยิ่งกว่าหน้าจออัตราส่วนเดิม ๆ

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0009

    วัสดุตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นโพลีคาร์บอเนตกับโลหะ โดยส่วนที่เป็นโพลีคาร์บอเนตจะอยู่บริเวณด้านบนและด้านล่างของตัวเครื่อง ผิวสัมผัสบริเวณดังกล่าวจะเป็นแบบมัน ส่วนบริเวณฝาหลังจะใช้วัสดุเป็นโลหะ มีพื้นผิวแบบด้าน ทำให้จับถนัดมือ ไม่ลื่น อีกทั้งยังดูแลรักษาง่าย เพราะตัวพื้นผิวไม่เก็บรอยนิ้วมือนั่นเอง

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0008

    สำหรับรายละเอียดต่าง ๆ เริ่มจากด้านหน้าก็ตามที่ผมได้เกริ่นไว้ ด้วยความที่เป็นหน้าจอ HUAWEI FullView ทำให้พื้นที่บริเวณด้านหน้ามากกว่า 80% จะเป็นหน้าจอทั้งหมด มีเว้นไว้เพียงแค่บริเวณด้านบนและด้านล่างหน้าจอเท่านั้น โดยด้านบนหน้าจอจะประกอบไปด้วยกล้องหน้าจำนวน 2 ตัว ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล กับความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, ลำโพงสำหรับสนทนาโทรศัพท์ และเซ็นเซอร์สำหรับวัดแสง

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0004

    ด้านข้างมีความหนาอยู่ที่ 7.89 มิลลิเมตร จัดอยู่ในระดับกลาง ๆ ไม่หนา และไม่บางจนจับถือไม่สะดวก ที่สำคัญเมื่อเทียบกับความจุแบตเตอรี่ 4,000 mAh ในตัวเครื่อง ถือว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีทั้งความบาง และความเบาเลยล่ะครับ น้ำหนักตัว 170 กรัม (ตัวเครื่องเปล่า ๆ ไม่รวมเคส) กับสมาร์ทโฟนหน้าจอเกือบ 6 นิ้ว แบตเตอรี่ 4,000 mAh ผมว่า HUAWEI ออกแบบสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กนี้ได้ดีทีเดียว

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0013

    HUAWEI Y9 2018 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ดแบบ Nano Sim และยังรองรับการเพิ่มความจุด้วย Micro SD  Card ที่ความจุสูงสุด 256 GB ตัวถาดซิมเป็นแบบ 3 Slot แยกซิม 1, ซิม 2 และ Micro SD Card ออกจากกัน ไม่ต้องเลือกระหว่างซิม 2 กับ Micro SD Card เหมือนถาดซิมแบบ Hybrid Slot อีกต่อไป

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0005

    ด้านพอร์ตเชื่อมต่อก็ให้มาอย่างครบครัน โดยพอร์ตเชื่อมต่อหลัก ที่ใช้สำหรับชาร์จไฟ และถ่ายโอนข้อมูลจะเป็นพอร์ต Micro USB รองรับการใช้งาน USB OTG สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น Flash Drive หรือจะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านสาย LAN, ต่อเมาส์, คีย์บอร์ด (ต้องหาซื้อสาย USB OTG แยกต่างหาก) รวมถึงการแปลงร่างตัวเองเป็น Powerbank ให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นก็สามารถทำได้เช่นกัน ส่วนพอร์ตเชื่อมต่ออื่น ๆ ได้แก่ พอร์ตหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตรก็ยังคงมีให้ใช้งานอยู่ ไม่ได้ตัดออกเหมือนสมาร์ทโฟนเรือธงหลาย ๆ รุ่น

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0014

    ตัวเครื่องเป็นดีไซน์แบบไร้รอยต่อ (Unibody) การออกแบบเน้นความโค้งมน มีการเล่นเส้นสายบริเวณฝาหลังเป็นลายโครเมียมพาดบนล่าง ทำให้ด้านหลังตัวเครื่องไม่ดูโล่งจนเกินไป รายละเอียดทางด้านหลังประกอบไปด้วยกล้องคู่ ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ด้านข้างกล้องคู่เป็นแฟลช LED จำนวน 1 ดวง และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ตรงกลางฝาหลัง ตำแหน่งดังกล่าวเหมาะกับการสแกนนิ้วด้วยนิ้วชี้ ไม่ว่าจะเป็นคนถนัดซ้าย หรือถนัดขวาก็ตาม (สามารถจดจำลายนิ้วมือได้ 5 แบบ)

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0011

    ประสบการณ์ใช้งานตัวเครื่องโดยรวม ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับคนที่ต้องการสมาร์ทโฟนจอใหญ่ แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้นาน ๆ ในขณะเดียวกันก็ต้องการความคล่องตัว พกพาสะดวก ตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี การที่ใช้หน้าจอ HUAWEI FullView 18:9 ช่วยให้การแสดงผลคอนเท้นทำได้มากขึ้น รับชมภาพยนตร์ได้เต็มตายิ่งขึ้น และยังมาพร้อมกับการออกแบบที่สวยงามไม่แพ้สมาร์ทโฟนราคาแพง ๆ เลยครับ

    Performance / ประสิทธิภาพ ความแรง

    ชิปประมวลผล HiSilicon Kirin 659 octa-core 2.36 GHz พร้อม Ram 3 GB ความจุ 32 GB (eMMC) บนระบบปฏิบัติการ EMUI 8.0 ที่มีพื้นฐานมากจาก Android 8.0 Oreo สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดีในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป, การถ่ายภาพ ไปจนถึงการเล่นเกม

    Huawei-Y9-2018-Screenshot-003

    ความแรงของชิป Kirin 659 octa-core ถือว่าใกล้เคียงกับชิป Snapdragon 450 ของทางฝั่ง Qualcomm ทำคะแนน AnTuTu ได้ประมาณ 84,000 คะแนน แต่ด้วยความเร็วที่สูงถึง 2.36 GHz ทำให้คะแนน Single Core เมื่อทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน GeekBench ทำออกมาได้ดี ส่วนเรื่องการเล่นเกมสามารถเล่นเกมยอดนิยมได้สบาย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ROV, LINE Pangya รวมถึงเกม Free Fire – Battlegrounds และ PUBG Mobile

    ด้านการจัดการพลังงาน มาพร้อมกับแบตเตอรี่ความจุสูงในระดับสมาร์ทโฟนเรือธง โดยมีความจุแบตเตอรี่อยู่ที่ 4,000 mAh ตอนที่รีวิวผมเปิด 4G LTE ไว้ตลอดทั้งวัน (มีการเชื่อมต่อ WiFi ระหว่างอยู่ออฟฟิศ) หลัก ๆ ก็เล่น Facebook, ทดสอบเล่นเกม, รับชมวีดีโอบ้าง ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนแบตเตอรี่อึดมาก สามารถชาร์จทุก ๆ สองวันได้เลย ไม่จำเป็นต้องชาร์จทุกวัน ด้วยองค์ประกอบที่สมดุล ได้แก่ ชิปประมวลผล Kirin 659 ที่ประหยัดพลังงาน (เทคโนโลยีการผลิต 16 นาโนเมตร), ระบบปฏิบัติการ EMUI 8.0 ที่มีการจัดการพลังงานที่ดีมาก และแบตเตอรี่ความจุสูงถึง 4,000 mAh

    Feature / ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ

    แม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก แต่ก็มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลากหลายฟีเจอร์ ตรงนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับระบบปฏิบัติการ EMUI 8.0 ที่มีพื้นฐานบน Android 8.0 Oreo โดยระบบปฏิบัติการดังกล่าว เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับ HUAWEI Mate 10 Pro แฟลกชิปที่พึ่งเปิดตัวเมื่อปลายปี 2017 ที่ผ่านมา

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0007

    ด้านระบบรักษาความปลอดภัย มาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบริเวณด้านหลังตัวเครื่อง การปลดล็อกทำได้อย่างรวดเร็วในเสี้ยววินาที สามารถเก็บลายนิ้วมือได้ทั้งหมด 5 รูปแบบ นอกจากจะใช้ปลดล็อกตัวเครื่องได้แล้ว ยังใช้ในการล็อกแอปพลิเคชันได้อีกด้วย สำหรับคนที่ความลับเยอะ เอ้ย!! ต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถไปตั้งค่าได้เช่นกัน

    Huawei-Y9-2018-Screenshot-004

    ระบบรักษาความปลอดภัยอีกแบบ นอกจากการสแกนลายนิ้วมือคือ การปลดล็อกด้วยใบหน้า (Face Unlock) จากการลองใช้งานระบบ Face Unlock ถือว่าปลดล็อกได้เร็วในระดับที่น่าประทับใจ แต่ก็มีข้อสังเกตตรงที่การปลดล็อกจะใช้กล้องหน้าในการสแกน ทำให้ไม่สามารถปลดล็อกในที่แสงน้อยมาก ๆ ได้นั่นเอง

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0006

    HUAWEI Y9 2018 ยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่าง คือการเปิดใช้งานแอปพลิเคชันพร้อมกัน 2 แอป ด้วยการกดปุ่ม Recent Apps ค้างเอาไว้ จะเป็นการเข้าโหมด Split Screen ทีนี้จะรับชมวีดีโอผ่าน Youtube พร้อม ๆ กับเล่น Facebook หรือจะเช็คอีเมล์ พร้อมกับเปิดแอปพลิเคชันแชทก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหล และนอกจากจะเปิด 2 แอปได้พร้อมกันแล้ว ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ App Twin หรือการโคลนแอป ทำให้สามารถใช้งาน Facebook/ Messenger ได้พร้อมกัน 2 ไอดี

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0001

    Software / ซอฟต์แวร์ในเครื่อง

    HUAWEI Y9 2018 มาพร้อมกับ EMUI 8.0 ที่มีพื้นฐานบน Android 8.0 Oreo ถ้าวัดกันที่ความสดใหม่ ระบบปฏิบัติการดังกล่าวถือว่ามีความสดใหม่เอามาก ๆ (สมาร์ทโฟนเรือธงบางรุ่นยังไม่ได้อัพ Android 8.0 ด้วยซ้ำ) หน้าตา UI จะเป็นแบบเดียวกับรุ่นแฟลกชิปอย่าง HUAWEI Mate 10 Pro โดยจุดเด่นของ EMUI 8.0 จะอยู่ที่ความเสถียรของระบบ

    Huawei-Y9-2018-Screenshot-001

    HUAWEI Y9 2018 รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด ผมได้ทดสอบด้วยการใส่ซิมการ์ด 2 ซิม เป็นซิม AIS และ TrueMove H พบว่า HUAWEI Y9 2018 รองรับการใช้งาน 4G แค่ซิมเดียวเท่านั้น ถ้าซิมแรกเชื่อมต่อ 4G อีกซิมจะใช้งานได้แค่ 2G

    Review-Huawei-Y9-2018-SpecPhone-0017

    การเชื่อมต่อ 4G LTE ของ HUAWEI Y9 2018 รองรับ VoLTE (ทดสอบกับซิม AIS และ TrueMove H) การเชื่อมต่อ WiFi จะรองรับเฉพาะความถี่ 2.4 GHz ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายเป็น Bluetooth 4.2 รองรับ apt-X เทคโนโลยีบีบอัดเสียงผ่านระบบ Bluetooth ทำให้ประหยัดพลังงาน และให้คุณภาพเสียงที่ดีกว่าแบบปกติ

    จุดเด่น

    • สเปคดี คุ้มค่า ทำราคาออกมาได้น่าประทับใจ
    • งานประกอบดี ตัวเครื่องน้ำหนักเบา จับถือสะดวก
    • ชิปเซ็ต Kirin 659 ตอบโจทย์การใช้งานได้เป็นอย่างดี เล่นเกมลื่น
    • แบตอึด 4,000 mAh
    • ใส่ได้ 2 ซิม แล้วยังใส่ MicroSD ได้อีก
    • มาพร้อม 4 กล้อง แบ่งเป็นกล้องคู่หน้า หลัง ถ่ายรูปสนุก ลูกเล่นเยอะ
    • คุณภาพของรูปถ่ายอยู่ในเกณฑ์ที่ประทับใจ โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับรุ่นที่มีราคาใกล้เคียงกัน หรือราคาสูงกว่า

    ช่องทางจัดจำหน่าย

    Promotion-Pre-Order-HUAWEI-Y9-2018-SpecPhone

    สำหรับผู้ที่สนใจ HUAWEI Y9 2018 มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ สีดำ (Black)สีน้ำเงิน (Blue) และสีทอง (Gold) ซึ่งลูกค้าที่สนใจสามารถสั่งจองสินค้าได้ในระหว่างวันที่ 16 – 29 มีนาคมนี้ ที่ หัวเว่ย แบรนด์ช้อป ร้านตัวแทนจำหน่าย และร้านค้าออนไลน Shopee (https://shopee.co.th)  โดยลูกค้าที่สั่งจองสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าวจะได้รับของสมนาคุณพิเศษ ‘HUAWEI Body Fat Scale’ มูลค่า 2,990 บาท ฟรี!

    สเปค Huawei Y9 2018

    • หน้าจอ HUAWEI FullView Display ขนาด 5.93 นิ้ว ความละเอียดระดับ FHD+
    • ชิปประมวลผล Kirin 659 octa-core ความเร็ว 2.36 GHz
    • Ram 3 GB
    • ความจุ 32 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 256 GB
    • ถาดซิมแบบ 3 Slot (Dual Sim + Micro SD Card)
    • กล้องหลังคู่ความละเอียด 13 + 2 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
    • กล้องหน้าคู่ความละเอียด 16 + 2 ล้านพิกเซล รองรับ Portrait Mode/ AR Lens
    • ระบบปฏิบัติการ EMUI 8.0 base on Android 8.0 Oreo
    • มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบริเวณด้านหลัง
    • แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh
    • มีด้วยกัน 3 สี ได้แก่ Black, Blue และ Gold
    • ราคา 6,990 บาท
    Android 8.0 EMUI Huawei Huawei Y9 2018 Review
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Jamikorn Singnamthieng

    Related Posts

    Nubia Air เผยดีไซน์บางเฉียบหน้าตาคุ้น สเปคครบพร้อมแบตใหญ่ 5,000 mAh ก่อนเปิดตัว

    9 สิงหาคม 2025

    หลุดภาพ Samsung Galaxy Tab A11 ตัวเครื่องจริงครั้งแรก เผยดีไซน์และสเปค ก่อนเปิดตัว

    9 สิงหาคม 2025

    เปิดสเปคเต็ม Samsung Galaxy Tab S11 Series ครบทุกรุ่น พร้อมราคา ก่อนเปิดตัวในเดือนหน้า

    9 สิงหาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    10 เหตุผลที่ควรรอซื้อ iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max กับสเปคที่อัปเกรดใหม่มีอะไรบ้าง

    10 สิงหาคม 2025

    เผยข้อมูล iPhone 18 Pro กับฟีเจอร์เด่นทั้ง Face ID ใต้จอและกล้องใหม่ ก่อนเปิดตัวในปี 2026

    9 สิงหาคม 2025

    Nubia Air เผยดีไซน์บางเฉียบหน้าตาคุ้น สเปคครบพร้อมแบตใหญ่ 5,000 mAh ก่อนเปิดตัว

    9 สิงหาคม 2025

    หลุดภาพ Samsung Galaxy Tab A11 ตัวเครื่องจริงครั้งแรก เผยดีไซน์และสเปค ก่อนเปิดตัว

    9 สิงหาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X