หากพูดถึงหูฟังระดับท็อป หนึ่งในแบรนด์ที่หลายคนนึกถึงคงจะหนีไม่พ้น Beats อย่างแน่นอน หากพูดถึง Beats หลายคนก็จะพูดถึงแนวเสียงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ หรือดีไซน์ที่โดดเด่น ในอดีต Beats มีชื่อเสียงจากคาแรคเตอร์เสียงที่เหมาะกับเพลงที่เน้นจังหวะ ฟังสนุก จนได้ฉายาว่าหูฟังสายแดง และเมื่อวันเวลาผ่านไปถึงคิวของน้องใหม่จากค่าย Beats อย่าง BeatsX ก็พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างเกิดขึ้นแต่จะเป็นอะไรเชิญชมได้จากรีวิวนี้ได้เลยครับ
ข้อมูลทั่วไป
- มาพร้อมกับชิป Apple W1 แบบเดียวกับที่อยู่ใน Airpod
- เชื่อมต่อด้วย Bluetooth Class 1
- รองรับการใช้งาน 8 ชั่วโมง
- รองรับการชาร์จเร็ว โดยที่ชาร์จเพียงแค่ 5 นาทีสามารถเล่นได้นานถึง 2 ชั่วโมง
- ตัว Wingtips สามารถถอดเปลี่ยนได้
- สายแบบ Flex-Form
- มีปุ่มควบคุมการเล่นเพลง และไมโครโฟน
- ช่องชาร์จไฟแบบ Lightning
- มีให้เลือกทั้งหมด 4 สี สีดำ ,สีขาว ,สีน้ำเงิน ,สีเทา
- ราคา 5,900 บาท
ภายในกล่องประกอบไปด้วย
- หูฟัง BeatsX
- จุกหูฟัง 4 ขนาด ในกล่อง 3 ที่หูฟังอีก 1
- Wingtips 2 ขนาด
- ซองใส่หูฟัง แบบซิลิโคน
- สาย Lightning แบบสั้น
- Quick Start Guide
- สติกเกอร์ Beats
- Code Apple Music ฟรี ระยะเวลา 3 เดือน
- คู่มือการรับประกัน
- คู่มือด้านความปลอดภัย
**หมายเหตุ Code Apple Music นั้นใช้ได้กับบางประเทศเท่านั้น (ประเทศไทยยังใช้ไม่สามารถงานโค้ดนี้ได้) โดยวิธีที่จะใช้งานโค้ดตัวนี้ ให้ลงทะเบียนผ่านหน้าเว็บไซต์ Beats เหมือนกับที่ในกล่องเขียนไว้ได้เลยครับ
Design
จากภายนอกแล้ว BeatsX เป็นหูฟัง Bluetooth แบบ In-Ear เหมือนกับเจ้าอื่น ๆ เริ่มต้นกันที่ตัวสาย และ Neckband วัสดุจะใช้เป็นพลาสติกที่ให้สัมผัสแบบยาง (คล้าย ๆ กับ Earpods ประมาณ 70%) ตัว Neckband จะมีความยืดหยุ่นโดยด้านในตัวสายได้มีการใส่วัสดุที่ทำให้มีการดีดคืนตัวคล้าย ๆ กับสปริง ไม่ใช่สายแบบ freestyle โดยเมื่อใส่แล้ว ตัวสายจะพยายามบีบเข้ามาเพื่อให้กระชับ ไม่ได้ถึงกับแน่นครับ
ต่อมาจะเป็นบริเวณที่เก็บแบตเตอรี่ทั้งสองฝั่ง โดยฝั่งซ้ายจะมาพร้อมกับช่องชาร์จแบบ Lightning และโลโก้ Beats ฝั่งขวาจะเป็นปุ่ม Power พร้อมกับไฟสัญญาณ และ Label ต่าง ๆ บริเวณนี้วัสดุจะแตกต่างกับตัวสาย โดยใช้วัสดุจะเป็นพลาสติกเกรดดีเลยทีเดียวครับ
BeatsX มาพร้อมกับปุ่มควบคุมแบบ 3 ปุ่มและ ไมโครโฟน มีฟังก์ชันการทำงานเหมือนกับใน Earpods โดยตัวปุ่มควบคุมนั้นถูกออกแบบให้อยู่ด้านซ้าย แต่ Earpods อยู่ด้านขวา อาจจะเกิดความสับสนในตอนแรกได้ครับ
ต่อมาเป็นบริเวณตัวหูฟังจะมีวัสดุสองแบบคือพลาสติกที่ให้สัมผัสแบบยาง และพลาสติก glossy ด้านข้างของตัวหูฟังจะมีโลโก้ Beats ที่เห็นได้แบบชัดเจน โดยบริเวณนี้มีแม่เหล็กสำหรับดูดกับหูฟังอีกข้างเพื่อให้การเก็บเป็นระเบียบมากขึ้น
ตัวจุกหูฟังจะทำมุมประมาณ 45 องศาเพื่อให้เป็นทรงที่ใส่แล้วพอดีกระชับกับรูหู ตัวจุกหูฟังเป็นแบบซิลิโคนโดยเมื่อใส่ทั้งสองข้างแล้ว แทบไม่ได้ยินเสียงจากภายนอก (Passive noise cancellation) ใส่เดินริมถนนระวังกันด้วยนะครับ
ตัวกล่องเก็บหูฟังที่ให้มาจะเป็นแบบซิลิโคน เวลาเราจะใช้งานต้องทำการบีบสักเล็กน้อยให้ตัวกล่องเปิดออก จากการใช้งานพบว่าใช้ยากพอสมควร ด้วยเพราะตัวกล่องมีขนาดเล็ก และตัวหูฟังก็พร้อมจะดีดดิ้นไปมาเมื่อเราพยายามจะยัดใส่กล่องครับ
จากการใช้งานพบว่าตัว Neckband ทำได้ดีไม่รู้สึกอัดอัดรัดคอแต่อย่างใด ตำแหน่งของสายทั้งสองด้านออกแบบมาดี ตอนเวลาเหงื่ออกเยอะ ๆ จะไม่รู้สึกเหนียวคอ จนอยากจะโยนทิ้งแต่อย่างใดครับ ตัวจุกยางซิลิโคนมีความนุ่ม ใส่สบาย แต่ใส่นาน ๆ จะแอบคันเล็กน้อยครับ
การเชื่อมต่อ
BeatsX เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ด้วย Class 1 Bluetooth โดยมีการไม่ได้ระบุว่าเป็น Bluetooth เวอร์ชั่นอะไร และมาพร้อมกับชิป W1 เหมือนกับใน Airpods **ที่สำคัญหากต้องการใข้งานฟีเจอร์แบบครบ ๆ แล้วต้องใช้กับบัญชี iCloud และ macOS Sierra, iOS 10 หรือ watchOS 3
วิธีการเชื่อมต่อ iOS Device นำอุปกรณ์มาไว้ใกล้ ๆ กัน กดปุ่มเปิดค้างไว้ รอให้หน้าจอขึ้นข้อความร้องขอการเชื่อมต่อเป็นอันเสร็จสิ้น ง่าย!!! และถ้ามีอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เชื่อมต่อกับ iCloud เช่น iPad Macbook จะสามารถเชื่อมต่อได้เลยโดยไม่ต้อง Pairing ใหม่ครับ
Android Device ก็สามารถใช้งาน BeatsX ได้เช่นกัน โดยกดปุ่มเปิดค้างไว้รอไฟที่ตัวหูฟังกระพริบ เข้าเมนูการตั้งค่า Blutooth กดเลือก BeatsX เสร็จ!!
ในเรื่องของความสเถียรของสัญญาณ พบว่าไม่มีอาการกระตุกแต่อย่างใด ระยะห่างระหว่างตัว BeatsX กับตัวอุปกรณ์ที่ทำการเชื่อมต่อ ทำได้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ แต่ไม่ถึงกับไกลมากครับ
เสียง
- เสียงเบส จะเป็นเบสสไตล์ Beats คือกระแทกกระทั้นมี impact ที่ดี เป็นเบสที่มีพื้นหลังที่มีความเงียบสงัด จึงทำให้ได้ยินเสียงเบสที่ปล่อยออกมาชัดเจน แต่เบสของ BeatsX จะไม่บวม และเยอะเหมือนหูฟัง Beats รุ่นอื่น ๆ จึงทำให้บางคนที่ชอบเบส อาจจะคิดว่ามันยังไม่สุดเท่าไหร่ครับ
- เสียงร้องมาเต็ม ชัด ฟังแล้วเหมือนตัวนักร้องจะถอยหลังไปจากเวทีเสียงเล็กน้อย คะแแนนเสียงร้องเรียกว่ากลาง ๆ ครับ
- เสียงแหลมเป็นแหลมที่ฟังแล้วมีประกาย สดใส ฟังสนุก และติดคมเล็กน้อย ฟังแล้วจัดจ้านดี แต่สำหรับบางคนอาจจะแสบหูได้ครับ
- เวทีเสียงมาแบบสไตล์หูฟัง In-ear คือไม่ได้กว้างมาก แต่ฟังแล้วไม่ได้อุดอู้ สามารถแยกรายละเอียดเสียงเครื่องดนตรีได้ดี
- มีมิติทิศทางเสียงที่ดี ทดสอบกับเพลงแนว EDM จะสามารถรู้ทิศทางของเสียงที่เข้ามาได้
- เหมือน BeatsX เกิดมาเพื่อเพลงแนว electronic ฟังแล้วรู้สึกว่าแจ่มสุดๆ
BeatsX เป็นหูฟังที่เหมาะกับคนที่ชอบหูฟังแนวฟังสนุก มีความจี๊ดจ๊าดกำลังพออร่อย ไม่ถึงกับแซบซี๊ดมาก หูฟังรุ่นนี้ไม่เหมาะกับคนที่ชอบหูฟังแนวนุ่มหวาน และคนที่ชอบหูฟังที่รุนแรงก้าวร้าวครับ
ไมโครโฟน
สำหรับไมโครโฟนยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ เนื่องด้วยตำแหน่งของไมโครโพนนั้นอยู่ห่างไปเล็กน้อย ทำให้เวลาเจอเสียงสภาพแวดล้อม คู่สนทนาปลายสายอาจจะได้ยินไม่ชัด แก้ไขโดยเอามือจับไมโคโฟนเข้ามาใกล้ ๆ ก็จะได้ยินเสียงชัดเจนเหมือนเดิมแล้วครับ
แบตเตอรี่
Apple เคลมว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 7 ชั่วโมงขึ้นไป โดยผมนำไปใช้งานแบบเปิดเครื่องยาวโดยไม่ปิดเลย และเปิดเพลงไปเรื่อย ๆ เริ่มจากเวลา 9 โมงเช้าที่ผมออกไปงานสัปดาห์หนังสือ และใช้ยาวถึงประมาณ 3 โมงเย็น (ในความเป็นจริงคงไมมีใครใช้งานระยะเวลานานขนาดนั้น ) พบว่าแบตเหลือ 11% สำหรับใครที่ใช้งานยาวแบบผม ในหหึ่งวันชาร์จแค่สองครั้งก็เพียงพอสำหรับการใช้งานที่ทรหดแบบผมแล้วละครับ
การชาร์จแบตเตอรี่
BeatsX มาพร้อมกับพอร์ตเชื่อมต่อแบบ Lighting สำหรับใครที่ใช้งาน iOS Device อยู่แล้วคงจะถูกใจกันไม่น้อยเลย เพราะไม่ต้องพกสายชาร์จหลายเส้น สามารถใช้ร่วมกันได้ครับ
การชาร์จแบตเตอรี่จากปริมาณที่เหลือน้อย ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีก็กลับมาเต็มเหมือนเดิม ระบบชาร์จไฟด่วนของ BeatsX พบว่าทำงานได้ดี โดยใช้เวลาในการชาร์จไฟประมาณ 5 นาที จะได้แบตเตอรี่ประมาณ 20% ครับ ตอนที่ชาร์จแบตเตอรี่ BeatsX จะไม่สามารถชาร์จไปฟังไปได้ ระบบจะตัดการทำงานของตัวหูฟังทันที่เมื่อเสียบสายชาร์ตครับ
ข้อดี
- เสียงดี
- วัสดุ และงานประกอบระดับ Apple
- ใช้งานได้ยาวนาน
- มีความคล่องตัวสูงในการใช้งาน
- ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ iOS และ Mac OS ได้ดี
ข้อสังเกตุ
- น่าจะมีระบบสั่นเวลามีสายเข้าด้วย
- น่าจะมีฟังก์ชั่นตอนที่เอาหูฟังสองข้างมาติดกันแล้วหยุดเล่นเพลงเอง
- หูฟังรุ่นนี้ไม่ใช่หูฟังแนว Sport แต่เป็นหูฟังแนว Lifestyle มากกว่า ไม่ได้มีมาตรฐานกันน้ำรองรับ ถ้าใช้แล้วเกิดความเสียหาย(พัง) เพราะความชื้นเข้า ผู้ผลิตอาจจะปฎิเสธการรับประกันได้ครับ
- อุปกรณ์ฝั่ง Android ไม่สามารถใช้งานฟีเจอร์ได้ครบ
BeatsX VS. Airpods
สำหรับผมแล้ว มันไม่ค่อยจะเหมาะสมเท่าไหร่สำหรับคู่นี้เพราะ BeatsX มีจุดเด่นเรื่องเสียงมากกว่าเทคโนโลยี ถึงจะบอกว่าใช้ชิปตัวเดียวกันก็ตาม แต่ก็แค่การเชื่อมต่อ เวลาคุณถอดหูฟัง BeatsX ออกมันก็ไม่ได้หยุดเพลงให้คุณ และมันไม่มีการจับการเคลื่อนไหวของคุณ แต่พูดถึงเรื่องเสียง BeatsX ก็เรียกได้ว่าสมราคาครับ
ในเรื่องของความสบาย และความปลอดภัย BeatsX จะมีรูปแบบที่แตกต่างกันกับ Airpods เรียกได้ว่า BeatsX อาจจะ”หาย”ยากกว่า แต่ Airpods อาจจะคล่องตัวกว่าเป็นต้น ลองถามใจคุณดูว่าต้องการหูฟังที่เสียงดีในระดับราคานี้ หรือจะสนใจนวัตกรรมใหม่ ๆ ครับ
ก่อนจะจากกันไป หากคุณกำลังจะตัดสินใจจะซื้อหูฟังรุ่นนี้ผมแนะนำให้ไปลองฟังดูก่อนว่า ถูกใจไหม และลองเปรียบเทียบตัวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เพราะหูฟังรุ่นนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน ผมไม่อยากให้คุณซื้อมาแล้วไม่ถูกใจ จนสุดท้ายต้องไปจบที่หูฟังรุ่นอื่นแทน หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ