Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Android Platform»[Review] ASUS Zenfone C มันก็ตัวเดียวกับ Zenfone 4.5 แหละ แต่แบตอึดขึ้น
    Android Platform

    [Review] ASUS Zenfone C มันก็ตัวเดียวกับ Zenfone 4.5 แหละ แต่แบตอึดขึ้น

    ZeroSystemBy ZeroSystem4 เมษายน 2015
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    Review-ASUS-Zenfone-C-SpecPhone 001

    ก่อนหน้านี้ ASUS ได้ส่ง Zenfone 4 ในรหัส A450CG หน้าจอ 4.5 นิ้ว ที่เรามักเรียกกันง่ายๆ ว่าเป็น ASUS Zenfone 4.5 เข้ามาขายในตลาดแล้วพักหนึ่ง ซึ่งก็เป็นร่างผสมที่ค่อนข้างลงตัวของ Zenfone 4 กับ Zenfone 5 แถมราคาที่ออกมาก็จัดว่าอยู่ในระดับที่คุ้มค่า ตัดสินใจซื้อได้ไม่ยากนัก มันจึงได้รับความนิยมไม่แพ้ Zenfone 5 ที่เป็นรุ่นใหญ่กว่าเลย

    ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ASUS ก็ได้เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ในตระกูล Zenfone ออกมา นั่นก็คือ ASUS Zenfone C และก็เข้ามาขายในไทยได้ร่วมเดือนแล้ว ในคราวนี้เราจะมารีวิวกันแบบคร่าวๆ ครับ ว่าตัว Zenfone C เป็นอย่างไรบ้าง และมันต่างจาก Zenfone 4.5 อย่างไรบ้าง

     

    สเปค ASUS Zenfone C

    • ชิปประมวลผล Intel Atom Z2520 (2 คอร์) ความเร็ว 1.2 GHz
    • แรม 1 GB
    • รอม 8 GB มีช่อง MicroSD
    • หน้าจอ IPS ขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด 854 x 480
    • กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล f/2.0
    • กล้องหน้า VGA f/2.8
    • Android 4.4.2 Kitkat ครอบมาด้วย ZenUI
    • ใช้งาน 3G ได้ทุกเครือข่าย
    • แบตเตอรี่ 2100 mAh
    • น้ำหนัก 150 กรัม
    • ราคา 3,490 บาท
    • สเปค ASUS Zenfone C เต็มๆ

    จากสเปค จะเห็นว่ารวมๆ แล้วมันก็เหมือนกับ Zenfone 4.5 แทบทุกประการเลย ไล่ตั้งแต่ชิปประมวลผล แรม หน้าจอ แต่ส่วนที่แตกต่างกันจริงๆ ก็คือแต่ละข้อที่เป็นตัวอักษรหนาครับ ถ้าให้ยกมาเทียบแบบเห็นได้ชัดก็จะเป็นตามตารางนี้เลย

    Screen Shot 2015-03-29 at 1.04.06 PM

    แค่ตารางนี้ก็น่าจะเห็นความแตกต่างในแง่สเปคระหว่าง Zenfone C กับ Zenfone 4.5 กันแล้วนะครับ เรียกว่าจุดเด่นของ Zenfone C ก็คือแบตที่ให้มามากกว่า ราคาก็ถูกกว่าหน่อยด้วย ส่วนจุดเด่นของ Zenfone 4.5 ก็จะเป็นเรื่องกล้องหลังที่มีความละเอียดสูงกว่า แถมตัวเครื่องก็เบากว่านิดนึงด้วย

     

    Review-ASUS-Zenfone-C-SpecPhone 003

    ดีไซน์

    หน้าตาตัวเครื่อง ASUS Zenfone C ก็มาในบล็อคเดียวกับรุ่นอื่นๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ จะเรียกว่าพิมพ์เดียวกับ Zenfone 4.5 เลยก็ไม่ผิดนัก ซึ่งก็เป็นดีไซน์ที่ผสมผสานกันได้อย่างลงตัวทั้งความเรียบ ความหรูหราพรีเมียม กับราคาต้นทุนที่ไม่สูงมาก ไล่จากด้านหน้าที่เลือกใช้เป็นกระจก Gorilla Glass แทบทั้งแผ่น ตัดด้วยส่วนล่างของเครื่องที่ทำเป็นริ้วสะท้อนแสงออกมาเหมือนกับในโน้ตบุ๊คตระกูล Zenbook ของ ASUS เอง ส่วนปุ่มกดแบบสัมผัสที่อยู่ด้านหน้าเครื่องก็ยังคงให้มา 3 ปุ่มตามปกติ ได้แก่ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และก็ปุ่ม Recent apps ทั้งนี้ ที่ปุ่มไม่มีไฟ LED ให้แสงสว่างขึ้นมานะครับ หน้าจอสะท้อนแสงสว่างพอสมควร ยังดีที่มีระบบปรับความสว่างหน้าจออัตโนมัติมาให้ด้วย ส่วนมุมมองของภาพก็จัดว่ากว้าง แต่ไม่กว้างเหมือนกับมือถือรุ่นอื่นที่ใช้พาเนล IPS เหมือนกัน อาจจะเป็นเพราะพาเนล IPS ที่ใช้ใน Zenfone C เป็นเกรดที่ไม่สูงมาก เพื่อเป็นการลดต้นทุนซะมากกว่า

    Review-ASUS-Zenfone-C-SpecPhone 008

    พลิกมาด้านหลังก็จะพบฝาหลังที่ทำจากพลาสติก แต่ใช้การเคลือบผิวให้มีลักษณะคล้ายๆ เซรามิค โค้งรับมือเวลาสัมผัส ซึ่งตรงนี้ก็ถือว่า ASUS ทำได้ดีมาตั้งแต่ Zenfone ล็อตแรกที่เข้ามาแล้ว ทั้งวัสดุ เนื้องาน รวมถึงการตัดขอบมุมต่างๆ ที่ตัวงานทำออกมาได้ดี แม้ราคาเครื่องจะไม่สูงมากก็ตาม

    และแน่นอนว่าฝาหลังมันสามารถแกะได้เหมือนเดิมครับ เมื่อแกะออกก็จะพบกับช่องใส่แบตเตอรี่ขนาดไม่ใหญ่มากอยู่ตรงกลาง โดยแบตเตอรี่นี้สามารถแกะออกได้ตามปกติ ไม่เหมือนใน Zenfone 5 ที่แบตจะฝังไปในเครื่องเลย สำหรับช่องใส่การ์ดต่างๆ ก็จะแบ่งเป็นสองจุด ทางฝั่งซ้ายเป็นช่องใส่ไมโครซิม 1 โดยมีช่องใส่ MicroSD ซ้อนอยู่ด้านบน ส่วนฝั่งขวาจะเป็นช่องใส่ไมโครซิม 2 ซึ่งสามารถสแตนด์บายได้พร้อมกันทั้งสองซิม รับรองว่าไม่พลาดทุกการติดต่อจากทั้งสองซิมแน่นอน

    zenfone-c

    ปิดท้ายเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องด้วยพอร์ตและปุ่มกดต่างๆ รอบตัวเครื่อง Zenfone C เริ่มด้วยด้านบนจะมีเพียงช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ด้านขวาก็มีปุ่ม Power กับแผงปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง อยู่ในบริเวณที่สามารถวางนิ้วกดได้ง่าย ส่วนด้านล่างก็จะมีช่องรับเสียงของไมค์สนทนาและช่อง Micro USB สำหรับชาร์จไฟและเชื่อมต่อซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ตามในภาพด้านบนครับ

    ส่วนภาพตัวเครื่องมุมอื่นๆ ของ ASUS Zenfone C ก็ชมได้จากแกลเลอรี่ด้านล่างนี้ได้เลย

    zenfone-c-1

    ซอฟต์แวร์

    อย่างที่กล่าวไปแล้วในส่วนของสเปคว่า ASUS Zenfone C มาพร้อมกับ Android 4.4.2 ที่ครอบมาด้วยอินเตอร์เฟส ZenUI ทำให้หน้าตาของซอฟต์แวร์ที่ขึ้นมาให้เราใช้งาน ยังคงเป็นแบบเดียวกับ Zenfone รุ่นอื่นๆ รวมถึงเหมือนกับใน Fonepad / MeMOPad รุ่นหลังๆ มาด้วย เรียกว่าถ้าใครที่เคยใช้งานเครื่องในซีรี่ส์ต่างๆ ของ ASUS อยู่แล้ว ก็น่าจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี หรือใครที่ยังไม่เคยใช้งาน ZenUI มาก่อนก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะหน้าตา การจัดวางเมนูต่างๆ ไม่ได้หนีไปจาก Android พื้นฐานมากนัก เน้นไปที่การปรับสีสัน ปรับหน้าตาไอคอนให้ดูเรียบง่าย สังเกตได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมซะมากกว่า ส่วนเรื่องความไหลลื่น ก็จัดว่าอยู่ในระดับกำลังดีครับ การหมุน การเปลี่ยนหน้าต่างๆ ก็ทำได้ดี จะมีปัญหาก็เช่นตอนเปิดแอพครั้งแรก การสลับกลับมาหน้าโฮม หลังใช้งานแอพใดแอพหนึ่งนานๆ เพราะดูเหมือนจะมีอาการโหลดค้างนิดหน่อย ซึ่งก็เป็นปัญหาเดียวกับที่พบใน Zenfone 4 สันนิษฐานว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากทั้งชิปประมวลผลที่เบาไปนิด และลันเชอร์ที่กินแรมจนเหลือให้ใช้ไม่ค่อยจะคล่องตัวซักเท่าไหร่ครับ

    ซึ่งเมื่อลองเปิดดูว่าแรมเหลือให้ใช้งานจริงเท่าไหร่ ก็พบว่า ASUS Zenfone C เหลือแรมให้ใช้หลังเปิดเครื่องใหม่ที่ราวๆ 440 MB จาก 1 GB เท่านั้น ถือว่าไม่ค่อยเยอะมาก ดังนั้นแนะนำว่าระหว่างใช้งาน ก็อาจจะต้องเคลียร์ปิดแอพที่ไม่ได้ใช้งานลงไปบ้างก็จะเป็นการดีครับ ส่วนของพื้นที่เก็บข้อมูลภายในรอมของเครื่อง เมื่อเปิดมาใช้งานครั้งแรก จะเหลือที่ให้ใช้ประมาณเกือบๆ 3 GB ด้วยกัน ก็พอสำหรับใช้ติดตั้งแอพทั่วไปได้อยู่ แต่ถ้าจะลงเพลง ลงเกม แนะนำว่าหา MicroSD มาใส่เพิ่ม แล้วลงในนั้นจะดีกว่านะ

    ด้านของฟีเจอร์การทำงาน ก็เช่นเดียวกับ Zenfone รุ่นอื่นๆ ครับ เรียกว่ารอมแทบจะตัวเดียวกันเลยก็ว่าได้ สำหรับฟีเจอร์ที่จะยกมาในครั้งนี้ก็คือ Easy Mode ที่จะปรับอินเตอร์เฟส ไอคอนและตัวหนังสือให้เหมาะกับการใช้งานแบบเรียบง่ายที่สุด คือหน้าจอมีแค่นาฬิกาและไอคอนแอพที่จำเป็นเท่านั้น เหมาะกับให้เด็กหรือผู้สูงอายุใช้งานดีครับ โดยไอคอนที่ขึ้นมาในชุดแรกก็จะเป็นพวกแอพหลักๆ ของระบบ เช่นกล้องถ่ายรูป เครื่องคิดเลข โทรศัพท์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มไอคอนแอพเข้ามาในหน้าอื่นได้ด้วยครับ เอาเป็นว่าใครที่อยากซื้อ Zenfone C ให้ญาติผู้ใหญ่หรือให้ลูกหลานใช้ ก็เปิดใช้งานโหมดนี้ซะ รับรองว่าใช้ง่ายแน่นอน

    การเปิดใช้งานโหมด Easy Mode ก็แค่เข้าไปที่ Settings แล้วดูที่เมนู Easy mode ภายใต้หัวข้อ Device เท่านั้นเอง

     

     

    กล้องถ่ายรูป

    กล้องหลังของ ASUS Zenfone C แม้จะโดนลดความละเอียดลงมาเหลือแค่ 5 ล้านพิกเซล จากที่เคยให้มาใน Zenfone 4.5 ถึง 8 ล้านพิกเซล แต่ยังดีที่ไม่ได้ตัดเทคโนโลยี PixelMaster ที่ช่วยให้ภาพออกมาสวยงามขึ้น โดยเฉพาะในที่มีแสงน้อย ที่ทำให้สามารถถ่ายภาพได้ แม้จะมืดขนาดไหนก็ตาม สำหรับการใช้งานจริง กล้องของ Zenfone C ก็สามารถตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดีระดับหนึ่ง ในบริเวณที่มีแสงเพียงพอ สว่างๆ หน่อยก็ไม่มีปัญหาครับ แถมมีโหมดให้ได้ลองใช้เยอะแยะเลยด้วย แต่ถ้าถ่ายในที่มืดหน่อย ก็จะใช้เวลาในการจับโฟกัสและการประมวลผลเก็บภาพที่นานขึ้นนิดนึง

    จากเท่าที่ลองถ่ายภาพในที่มืดพบว่าถ้าถ่ายด้วยโหมด auto เลย ก็จะได้ภาพที่ค่อนข้างมืดตามปกติ แต่ถ้าลองเปิดโหมดถ่ายกลางคืนโดยเฉพาะดู ก็ช่วยให้สามารถเก็บภาพที่สว่างขึ้นได้จริงๆ ครับ แต่ภาพจะเละหน่อย เพราะซอฟต์แวร์ต้องมาประมวลผลต่างๆ เสริมจากภาพเดิมพอสมควร เอาเป็นว่าลองชมจากในตัวอย่างภาพถ่ายเลยแล้วกัน

     

     

    zenfone-c-2

    ประสิทธิภาพและแบตเตอรี่

    ก็เป็นไปตามที่คาดครับ กับผลการทดสอบประสิทธิภาพของ ASUS Zenfone C ที่ได้ผลคะแนนออกมาไม่ค่อยสูงมากนัก เพราะสเปคในหลายๆ จุดต้องเรียกว่าค่อนข้างเก่าไปหน่อยสำหรับในปีปัจจุบัน โดยเฉพาะชิปประมวลผล Intel Atom Z2520 ที่นับเป็นชิป Atom ตัวเบาสุดของ Intel ในกลุ่มชิปมือถือขณะนี้ไปแล้ว ทำให้ประสิทธิภาพของมันอยู่ในระดับที่สามารถใช้งานทั่วๆ ไปได้เท่านั้น จะเล่นเกมก็พอไหว แต่ถ้าไปเจอเกมหนักๆ ก็มีเหนื่อยอยู่เหมือนกัน เผลอๆ อาจกระตุกได้นะ ถ้าอยากได้เครื่องที่เล่นเกมได้ด้วย แนะนำว่าขึ้นไปเป็นอย่างต่ำซัก Zenfone 5 จะดีกว่า

    ส่วนเรื่องระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ ถือว่าทำได้ดีขึ้นกว่า Zenfone 4.5 พอสมควรเลย ปัจจัยหลักก็มาจากการเพิ่มความจุแบตเตอรี่ขึ้นมาให้เยอะกว่ารุ่นเดิม อันนี้จากเท่าที่ทดลองใช้งาน Zenfone C ระหว่างรีวิว ผมก็สามารถใช้งานทั่วไปได้ครบวันอยู่ครับ เล่น Facebook, LINE, Instagram, Twitter มีถ่ายรูปบ้างประปราย ส่วนเกมไม่ค่อยได้เล่นเท่าไหร่ ก็นับว่าน่าพอใจครับ สำหรับมือถือที่ซื้อมาสำหรับเน้นการใช้งานในแบบที่พกพาได้สะดวกจริงๆ

     

    Review-ASUS-Zenfone-C-SpecPhone 009

    สรุปปิดท้ายรีวิว

    โดยภาพรวมแล้ว ASUS Zenfone C ตัวนี้ น่าจะถือว่าเป็นรุ่นที่ออกมาแทน Zenfone 4 ซะมากกว่า Zenfone C ครับ ด้วยสเปคโดยรวมบางจุดที่ถูกตัดลงมาจาก Zenfone 4.5 พอสมควร โดยเฉพาะด้านของกล้องหลัง ซึ่งก็ถือว่าทำออกมาได้ดีตามสไตล์ ASUS อยู่ คืองานดี เนื้อดี วัสดุโอเค การใช้งานโดยทั่วไปก็ค่อนข้างลงตัว จะมีช้าบ้างก็ตอนเปิดแอพ ซึ่งตรงนี้ถ้าใครที่ไม่ซีเรียส และไม่ได้ชินไปกับการใช้มือถือรุ่นท็อปๆ ไปแล้วคงไม่ใช่ปัญหามากนัก สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่น่าจะเหมาะกับ Zenfone C ก็น่าจะเป็นคนที่อยากหามือถือเครื่องสำรองมาใช้งาน หรือคนที่อยากใช้งานสมาร์ทโฟนเป็นเครื่องแรก เพราะราคาที่ไม่สูงมากนัก แต่ยังได้คุณภาพของตัวเครื่องที่อยู่ในระดับน่าพอใจอยู่ กับ ASUS Zenfone C ในราคา 3,490 บาท

    ข้อดี

    • วัสดุดี งานประกอบโอเคมากสำหรับในราคานี้
    • ตัวเครื่องขนาดกำลังดี พกพาง่าย
    • แบตเตอรี่ความจุสูงกว่า Zenfone 4.5 ใช้งานจริงได้เต็มวัน
    • เทคโนโลยี PixelMater ช่วยให้ภาพถ่ายออกมามีคุณภาพยิ่งขึ้น ถ่ายในที่มีแสงน้อยได้ดี

    ข้อสังเกต

    • กล้องหลังถูกลดความละเอียดเหลือแค่ 5 ล้านพิกเซล
    • ตอนใช้งานจริง มีจังหวะรอโหลดอยู่บ้าง ไม่ลื่นเท่ากันตลอด
    Asus Asus Zenfone C Review
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ZeroSystem

    Related Posts

    วิธีเปลี่ยนรหัสเฟสบุ๊คทำยังไง ถ้าลืมรหัสเฟสบุ๊คเก่าต้องทำยังไงบ้างในโทรศัพท์แบบง่ายๆ ปี 2025

    16 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 20 ซีรี่ย์ฝรั่ง Netflix น่าดูในปี 2025 เนื้อเรื่องสนุกๆ หลากหลายแนวที่ไม่ควรพลาด!

    16 พฤษภาคม 2025

    รวมโทรศัพท์ติดโปร AIS ล่าสุดทุกรุ่นปี 2568 มีส่วนลดค่าเครื่องติดโปรเท่าไหร่บ้างเมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจ

    15 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    วิธีเปลี่ยนรหัสเฟสบุ๊คทำยังไง ถ้าลืมรหัสเฟสบุ๊คเก่าต้องทำยังไงบ้างในโทรศัพท์แบบง่ายๆ ปี 2025

    16 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 20 ซีรี่ย์ฝรั่ง Netflix น่าดูในปี 2025 เนื้อเรื่องสนุกๆ หลากหลายแนวที่ไม่ควรพลาด!

    16 พฤษภาคม 2025

    Xiaomi เผยข้อมูลชิป XRING 01 ที่พัฒนาเองเป็นครั้งแรก เตรียมเปิดตัวปลายเดือนนี้

    16 พฤษภาคม 2025

    ลือ Samsung เตรียมเพิ่มฟีเจอร์ในแอปรูปภาพ ด้วยการใช้ Galaxy AI

    16 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X