สำหรับใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตคู่ใจใหม่ๆ ไว้ใช้งานช่วงปลายปี 2025 แบบนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ดูซีรีส์ เล่นเกมเบาๆ หรือใช้ทำงานทั่วไปให้เด็กๆ ในงบราคาไม่เกิน 5000 บาท ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าที่สุดในยุคนี้ เพราะยังเป็นแท็บเล็ตที่มีสเปคตอบโจทย์การใช้งานเพื่อความบันเทิง อย่างการดูหนังฟังเพลง มีชิปที่สามารถรองรับการใช้งานพื้นฐานได้ครบ มีแบตที่ใช้งานได้ทั้งวัน วันนี้เราเลยจะมาแนะนำแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทปลายปี 2025 ว่ามีรุ่นไหนน่าใช้บ้าง มาพร้อมสเปคดี ดูหนังเล่นเกมได้ครบจบในเครื่องเดียว ไม่ต้องจ่ายแพงก็ได้ของดีมาใช้งานแน่นอน
- 10 แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทปลายปี 2025
แนะนำ 10 แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทปลายปี 2025

1. Alldocube iPlay 70
เริ่มด้วยแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทที่เป็นรุ่นสเปคคุ้มมีจอใหญ่ ใส่ได้ 2 ซิม รองรับ 4G LTE โทรได้ มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 10.1 นิ้วคมชัดดูหนังได้ แถมเล่นลื่น 90Hz และใช้ชิป octa-core ประสิทธิภาพพอตัว ทำงานบน Android 15 คู่กับ RAM 4GB และความจุ 128GB เพิ่มด้วย microSD Card สูงสุด 1TB ส่วนแบตมีความจุ 6000mAh ชาร์จไว 18W และมีกล้องหน้ากับกล้องหลังความละเอียดเท่ากัน 5MP เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ตจอใหญ่ สเปคดี ไว้สำหรับดูหนัง ฟังเพลง หรือใช้งานทั่วไปที่ไม่หนักมาก ในราคาที่ไม่ต้องคิดเยอะ

2. Alldocube iPlay 50 Mini
แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทอีกหนึ่งรุ่นของ Alldocube ที่มีราคาเบาๆ และเหมาะกับคนที่ต้องการรุ่นพกพาง่าย จอไม่ใหญ่มาก ด้วยหน้าจอ IPS-LCD ขนาด 8.4 นิ้วกำลังดีถือมือเดียวได้เลย ความละเอียด FHD+ หน้าจอคมชัด ขับเคลื่อนด้วยชิป Unisoc T606 ทำงานบน Android 13 พร้อม RAM 4GB ที่ขยายได้ และความจุสูงสุด 128GB สามารถใส่ซิมใช้ 4G โทรได้ 2 ซิม มีแบตความจุ 4,000mAh ชาร์จไว 10W ใช้งานได้ต่อเนื่อง มีกล้องหน้ากับกล้องหลัง 5MP เท่ากัน เหมาะมากสำหรับคนที่ชอบดูวิดีโอ ดูหนัง หรือพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ง่ายๆ ด้วยขนาดที่กะทัดรัด และเชื่อมต่อเน็ตได้ตลอดเวลา
- รุ่น RAM 4GB/64GB: ราคา 3,799 บาท สั่งซื้อที่ Shopee/ Lazada พร้อมของแถม
- รุ่น RAM 4GB/128GB: ราคา 3,899 บาท สั่งซื้อที่ Shopee/ Lazada พร้อมของแถม

3. Infinix XPAD 20
หนึ่งในรุ่นที่คุ้มและเป็นแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทที่น่าสนใจในช่วงปลายปีนี้เลยก็ว่าได้ ด้วยหน้าจอ IPS LCD ขนาดใหญ่ 11นิ้ว ความละเอียด FHD+ และมีรีเฟรชเรท 90Hz ทำให้การดูหนังหรือไถโซเชียลลื่นไหลสบายตา ใช้ชิปเป็นตัว Helio G88 ประสิทธิภาพดีสำหรับการใช้งานทั่วไป และการเล่นเกมที่ไม่หนักมากได้เลย ทำงานกับ RAM 4GB ขยายเพิ่มได้เท่าตัวและความจุ 128GB ใส่ซิมใช้งาน 4G ได้ทุกที่ ส่วนแบตมีให้ 7000mAh ชาร์จไว 10W ใช้ไปเลยยาวๆ กล้องหลังมี 8MP และกล้องหน้า 5MP เหมาะกับคนที่อยากได้แท็บเล็ตจอใหญ่ไว้ดูวิดีโอ ประชุมออนไลน์ หรือเล่นเกมเบาๆ เน้นความคุ้มค่าและใช้งานได้หลากหลาย

4. HONOR Pad X7 LTE
แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทขนาดกะทัดรัดรุ่นล่าสุดจาก HONOR สำหรับใช้งานทั่วไปและความบันเทิง รองรับการใส่ซิมเล่นเน็ตโทรได้ตลอดเวลา มีหน้าจอ TFT LCD กว้าง 8.7 นิ้วรองรับรีเฟรชเรท 90Hz แสดงผลสบายตาเล่นลื่น มาพร้อมกับชิป Snapdragon 680 ที่มี RAM 4GB และความจุ 128GB ที่มีประสิทธิภาพแรงเล่นเกมหายห่วง ทำงานบนระบบ Android 15 และมีแบตความจุ 7020mAh ชาร์จไวได้ 10W โดยมีกล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 5MP ถือเป็นแท็บเล็ตที่เน้นความคุ้มค่า เหมาะกับการพกพาและคนที่อยากได้จอขนาดเล็ก ไว้ดูหนังเล่นเกมได้แน่นอน

5. OPPO Pad SE (WiFi)
แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทจาก OPPO ที่ใช้โค้ดและซื้อช่องทางออนไลน์ได้ไม่เกินแน่นอน มีสเปคที่ครบจบในตัวมากๆ ด้วยหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 11นิ้ว ความละเอียด FHD+ ที่มีรีเฟรชเรท 90Hz ใช้ร่วมกับปากกา Stylus ได้ และใช้เป็นตัว Helio G100 เพียงพอสำหรับการดูหนัง เล่นโซเชียล และเกมได้สบายๆ มีโหมดสำหรับเด็กให้ด้วย ทำงานพร้อม RAM 4GB และความจุ 128GB จุดเด่นคือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 9340mAh ชาร์จไวได้ 33W ใช้งานได้นานหายห่วง มีกล้องหน้าและกล้องหลังความละเอียด 5MP เท่ากัน รุ่นนี้จึงเหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ตจอสวย ลำโพงดี และแบตอึดไว้ดูหนัง ฟังเพลง หรือใช้งานมัลติมีเดียโดยเฉพาะ

6. REDMI Pad 2 (4/128GB)
แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทสำหรับรุ่นเริ่มต้นของ Redmi ตัวใหม่ล่าสุดที่มีสเปคจบๆ ใส่ซิมเชื่อม 4G ได้อีกหนึ่งตัว มาพร้อมหน้าจอ IPS-LCD ขนาด 11นิ้ว ความละเอียด 2.5K และรีเฟรช 90Hz ให้ภาพคมชัดลื่นไหล ใช้ชิป Helio G100-Ultra เร็วแรงใช้เล่นเกมหรือใช้ทั่วไปได้สบายๆ มี RAM ให้เลือกสูงสุดถึง 8GB แต่ถ้ารุ่นเริ่มต้นมี 4GB ความจุ 128GB มีแบตใหญ่ 9000mAh ชาร์จไว 18W เล่นลืมแบตไปเลย และยังมีลำโพงถึง 4 ตัวที่รองรับ Dolby Atmos กล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 5MP เหมาะกับคนที่เน้นการดูหนัง ดูซีรีส์ เล่นเกม และอยากได้รุ่นที่ตอบโจทย์ความบันเทิงทั้งเสียงและภาพครบๆ

7. Redmi Pad SE 8.7 4G
แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทขนาดกะทัดรัดที่เน้นการพกพาและใช้งานได้ทุกที่ ใส่ซิมเชื่อมต่อ 4G ได้ทุกที่ ถึงแม้จะเปิดตัวมาปีที่แล้ว แต่ก็ยังใช้งานได้ดีแน่นอน ด้วยหน้าจอขนาด 8.7 นิ้ว ความละเอียด HD+ และรีเฟรชเรท 90Hz เล่นได้ลื่นไหลสบายตา มาพร้อมกับชิป Helio G85 สามารถใช้งานทั่วไป และเล่นเกมเบาๆ ได้ มี RAM สูงสุด 6GB และความจุสูงสุด 128GB และมีแบตเตอรี่ความจุ 6650mAh ชาร์จไวได้ 18W กล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 5MP เหมาะกับคนที่ต้องเดินทางบ่อย พกพาง่ายไว้ดูหนังเล่นเกมเบาๆ หรือต้องการแท็บเล็ตขนาดเล็ก ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลา
- รุ่น RAM 4GB/64GB: ราคา 3,199 บาท สั่งซื้อที่ Shopee/ Lazada
- รุ่น RAM 6GB/128GB: ราคา 4,499 บาท สั่งซื้อที่ Shopee/ Lazada

8. HUAWEI MatePad SE 11″
แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทที่โดดเด่นด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 11 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับปากกา Stylus ขับเคลื่อนด้วยชิป Kirin 710A ที่มีประสิทธิภาพดี ใช้งานทั่วไปหรือเล่นเกมได้ปกติ มาพร้อม RAM สูงสุด 8GB และความจุ 128GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ HarmonyOS ของ Huawei และมีแบตเตอรี่ความจุ 7700mAh ชาร์จไว 22.5W พร้อมลำโพง 4 ตัวรอบทิศทาง มีกล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 5MP เหมาะกับนักเรียน นักศึกษา หรือคนที่ต้องการแท็บเล็ตจอใหญ่ไว้ใช้สำหรับเรียนออนไลน์ และดูความบันเทิงในชีวิตประจำวัน
- รุ่น WiFi RAM 6GB/128GB: ราคา 4,990 บาท สั่งซื้อที่ Shopee
- รุ่น LTE RAM 4GB/128GB: ราคา 5,490 บาท สั่งซื้อที่ Shopee
- รุ่น LTE RAM 8GB/128GB: ราคา 6,490 บาท สั่งซื้อที่ Shopee

9. Lenovo Tab ZAEJ0148TH LTE
แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทที่สามารถใส่ซิมเชื่อมต่อ 4G ได้ตลอดเวลา มาพร้อมหน้าจอ TFT LCD ขนาด 10.1 นิ้วขนาดกำลังดีไม่เล็กไม่ใหญ่ มาพร้อมกับชิป Helio G85 ที่มี RAM 4GB และความจุ 128GB สำหรับใช้งานทั่วไป ดูหนัง หรือเล่นเกมได้เหมือนกัน และมีแบตเตอรี่ขนาด 5100mAh ใช้งานได้เต็มวัน โดยมีกล้องหลัง 8MP และกล้องหน้า 5MP รุ่นนี้จะเหมาะกับคนที่อยากได้แท็บเล็ตไว้เรียน เล่นเกม หรือเอาไว้ใช้งานเพื่อความบันเทิงได้ครบ สามารถพกพาได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่อง Wi-Fi

10. TCL Tab10L Gen4 (LTE)
ปิดท้ายด้วยแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทรุ่นล่าสุดของ TCL ที่เน้นความคุ้มค่าและราคาเข้าถึงง่าย มาพร้อมหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด HD+ เพียงพอต่อการดูวิดีโอและเล่นเน็ตทั่วไปแล้ว รุ่นนี้ใช้ชิป MediaTek MT8768 พร้อม RAM 4GB และความจุ 128GB ที่เน้นการใช้งานทั่วไป เล่นเกมพอไหว จุดเด่นคือรองรับการใส่ซิม 4G LTE เชื่อมต่อเล่นเน็ตได้ทุกที่ ส่วนแบตมีความจุ 6000mAh และมีกล้องหลัง 5MP กับกล้องหน้า 2MP ถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มองหาแท็บเล็ตจอใหญ่ไว้ใช้งานเช่น การเรียนออนไลน์ การใช้งานโซเชียลทั่วไป หรือการดูหนังที่ไม่ได้ต้องการสเปคสูงมาก
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 10 แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทในช่วงปลายปี 2025ที่น่าสนใจที่เราได้รวมมา แนะนำว่าให้ดูการใช้งานของตัวเองเป็นหลัก เพื่อให้ได้แท็บเล็ตที่ตอบโจทย์และคุ้มค่ามากที่สุด หลักๆ ที่ควรดูก็คือ
- หน้าจอ ถ้าเป็นคนที่ชอบดูหนัง ดูซีรีส์ หรือต้องใช้แท็บเล็ตเพื่อเรียนออนไลน์ ควรเลือกรุ่นที่มีขนาดจอใหญ่ แต่ถ้าจะเน้นพกพา เอาไว้เล่นเกมหรือไม่ชอบจอใหญ่ก็มีรุ่นจอมินิที่ตอบโจทย์มากกว่า นอกจากนี้ก็ควรดูอัตรารีเฟรชเรทด้วย เพราะจะส่งผลต่อการใช้งานตรงๆ เลย
- ประสิทธิภาพ ควรดูรุ่นที่เหมาะกับการใช้งานด้วย ว่าอยากได้ชิปแรงไว้เล่นเกม หรือจะเอาไว้ใช้งานทั่วไป รวมถึง RAM และความจุประกอบกันไปด้วย
- ต่อเน็ตได้ สำหรับคนที่ต้องการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ หรือต้องการใช้งานอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา ควรเลือกรุ่นที่รองรับ 4G LTE
- แบตเตอรี่ ควรเลือกรุ่นที่มีความจุขนาดใหญ่สำหรับคนที่อยากใช้เต็มๆ วัน ซึ่งรุ่นจอเล็กอาจจะมีแบตที่น้อยกว่าหน่อย แต่ส่วนใหญ่ก็จะรองรับการใช้งานได้ตลอดทั้งวันอยู่แล้ว
ลองดูว่าอยากได้แท็บเล็ตราคาประหยัดเหล่านี้ไปใช้งานในรูปแบบไหนมากกว่ากัน ถ้าดูจากปัจจัยเหล่านี้ตามความต้องการส่วนตัว รับรองว่าจะเป็นตัวช่วยเลือกแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาทที่ได้ทั้งสเปคดี ดูหนัง เล่นเกม ได้ครบจบในเครื่องเดียวแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง
- 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทปลายปี 2025 รุ่นไหนดีที่น่าใช้ สเปคแรงสำหรับใช้งานทั่วไป
- 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 10000 ปลายปี 2025 ซื้อรุ่นไหนดีที่ได้สเปคครบทั้งกล้องและเล่นเกม
- 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 ปี 2025 ล่าสุดรุ่นไหนดี สเปคครบน่าใช้งานปลายปีนี้
- 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 20000 ปลายปี 2025 ซื้อรุ่นไหนดี ได้กล้องสวย สเปคแรงเล่นเกมลื่น
