Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Phone Review»Full»[Review] ASUS Zenfone 2 Laser SE ปรับสเปคใหม่ในร่างเดิม โดดเด่นเรื่องการถ่ายรูป
    Full

    [Review] ASUS Zenfone 2 Laser SE ปรับสเปคใหม่ในร่างเดิม โดดเด่นเรื่องการถ่ายรูป

    SpecPhone HQBy SpecPhone HQ16 สิงหาคม 2016Updated:24 สิงหาคม 2020
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    หลังจากที่ ASUS ได้เปิดตัว Zenfone 2 Laser ในช่วงปีที่แล้ว ซึ่งมุ่งเน้นให้ซีรี่ส์ Zenfone Laser มีจุดเด่นในเรื่องของการถ่ายภาพที่มีราคาไม่แพง โดยมีฟีเจอร์ที่สำคัญอย่างเลเซอร์โฟกัสอัตโนมัติที่สามารถจับโฟกัสภาพได้รวดเร็วมาก และมีลูกเล่นซอฟต์แวร์ PixelMaster เข้ามาช่วยในด้านการถ่ายภาพอย่างมืออาชีพ

    ก่อนที่จะเข้าสู่รีวิว มาทำความรู้จักความเป็นมาของ Zenfone 2 Laser กันก่อน เพราะ ASUS ได้วางขายในประเทศไทยด้วยชื่อ Zenfone 2 Laser ถึง 5 รุ่นย่อย โดยในช่วงเดือนกันยายนในปีที่แล้ว ASUS ได้เปิดตัว Zenfone 2 Laser ก่อน 3 รุ่นย่อยนั่นก็คือ Asus Zenfone 2 Laser (ZE500KG) Asus Zenfone 2 Laser (ZE500KL) และ Asus Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ซึ่งมีความแตกต่างกันที่ความละเอียดของกล้องหลัง ขนาดของหน้าจอ และราคาที่อย่ในเชื่อง 5,000-6,000 บาท ต่อมาในช่วงเดือนมกราคมในปีนี้ ASUS ได้เปิดตัว Asus Zenfone 2 Laser (ZE601KL) โดยเพิ่มขนาดหน้าจอขึ้นเป็น 6 นิ้วและแรม 3 GB โดยมีราคาอยู่ที่ 8,490 บาท และล่าสุด ASUS ได้ปรับปรุงสเปคและนำ Asus Zenfone 2 Laser SE ออกมาขายอีกครั้งซึ่งสามารถเข้าไปดูความแตกต่างของ Zenfone 2 Laser ได้ที่เปรียบเทียบสเปค Zenfone 2 Laser และในบทความรีวิวครั้งนี้ก็จะเป็นรุ่นนี้ Zenfone 2 Laser SE โดยมีรายละเอียดดังนี้ครับ

    สเปค ASUS Zenfone 2 Laser SE

    • หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วแบบ IPS LCD ที่มีความละเอียด 1280 × 720 พิเซล
    • ชิปประมวลผล Snapdragon 615 MSM8939 Quad-core  1.5 GHz
    • แรม 3 GB
    • หน่วยความจำภายใน 32 GB (รองรับการใช้งาน Micro SD ได้สูงสุด 128 GB)
    • กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED
    • กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
    • ระบบปฎิบัติการ Android 6.0.1
    • แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh
    • ราคา 6,990 บาท
    • สเปคแบบเต็มของ ASUS Zenfone 2 Laser SE

    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00003

    สำหรับสเปคของ ASUS Zenfone 2 Laser SE หรือเติมคำว่า Special Edition เข้าไป จะอัพเกรดสเปคจาก Asus Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ที่วางขายในปีที่แล้ว โดยจะเปลี่ยนมาใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 615 MSM8939 Quad-core @ 1.5 GHz จากรุ่นเดิมที่ใช้ Snapdragon 410 และทำการเพิ่มแรมเป็น 3 GB จากเดิมที่มีอยู่ 2 GB เพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเป็น 32 GB และใช้ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 ซึ่งจะเพิ่มราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิมหนึ่งพันบาทและกับสิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามา ซึ่งก็ถือเป็นการอัพเกรดสเปคทิ้งท้ายก่อนที่จะเปิดตัว Zenfone 3 Laser ในประเทศไทย

    จุดเด่น

    – กล้องที่โฟกัสได้อย่างรวดเร็วด้วยเลเซอร์โฟกัส
    – มีลูกเล่นจากซอฟต์แวร์กล้องเยอะมาก
    – รองรับ Dual Sims
    – มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow
    – สเปคต่อราคา จัดว่าคุ้มค่ากับการเพิ่มเงิน 1,000 บาท จากรุ่นก่อนหน้านี้

    ข้อสังเกต

    – หน้าจอน่าจะมีความละเอียดแบบ FullHD
    – คุณภาพของกล้องยังห่างจากตระกูล Zenfone Zoom

    บทสรุป

     ASUS Zenfone 2 Laser SE ถือเป็นรุ่นอัพเกรดรุ่นสุดท้ายของซีรี่ส์ Zenfone 2 Laser ที่วางขายด้วยกันถึง 5 รุ่นย่อยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดย ASUS Zenfone 2 Laser SE ได้ทำการปรับสเปคให้มีความเหมาะสมกับปัจจุบัน และสามารถสู้กับคู่แข่งได้สมน้ำสมเนื้อมากขึ้น โดยทำการเปลี่ยนชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 615 เพิ่มแรมเป็น 3 GB และเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเป็น 32 GB ที่สำคัญยังมากับระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 ตั้งแต่อยู่ในกล่อง สำหรับจุดเด่นของซีรี่ส์ Zenfone Laser ก็คือเรื่องกล้องซึ่งได้นำฟีเจอร์เลเซอร์โฟกัสเข้ามาช่วยในการจับโฟกัสภาพ ทำให้จับโฟกัสวัตถุที่อยู่ในระยะใกล้ได้ภายในเวลา 0.3 วินาทีเท่านั้น โดย  ASUS Zenfone 2 Laser SE มาพร้อมกับกล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมกับรูรับแสงกว้างถึง f/2.0 นอกจากนี้ยังมาพร้อบกับ PixelMaster 2.0 ที่เป็นโหมดถ่ายรูปสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นโหมด Super HDR ที่จะช่วยเพิ่มความสว่างให้ภาพถึง 4 เท่า สำหรับการใช้งานโดยรวมนั้นถือว่ามีความเหมาะสมกับราคา 6,990 บาท ซึ่งการเพิ่มเงินจากรุ่นเดิมประมาณหนึ่งพันบาทนั้น จะได้ชิปที่แรงกว่า แรมที่เพิ่มขึ้นและพื้นที่เก็บข้อมูลภายในที่มากขึ้น ก็ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่เป็นที่น่าเสียดายที่หน้าจอรุ่นนี้ยังมีความละเอียดเพียง 720p เท่านั้น ถ้าหากว่ามากับความละเอียด 1080p จะถือว่าเป็นรุ่นที่สมบูรณ์แบบรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้
    Editor : Nayvardar
    79
    BEST PRICE

    Design

    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00010

    “ปรับสเปคใหม่ ในร่างเดิม”
    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00004

    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00002

    ASUS Zenfone Laser 2 SE เป็นรุ่นที่นำโมเดล Asus Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ที่มีการวางขายในปีที่แล้วมาอัพเกรดสเปคและวางขายอีกครั้งในปีนี้ จึงมีตัวเครื่องภายนอกที่เหมือนกัน ซึ่งก็มีลักษณะเหมือนกับ ASUS Zenfone 2 ทั่วไปนั้นก็คือเน้นความเป็นพรีเมี่ยมที่มีเอกลักษณ์ด้วยการวาดลวดลายโลหะให้เป็นเส้นวงกลมให้ดูมีมิติที่ทำให้รู้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนของ ASUS ซึ่งสำหรับ ASUS Zenfone Laser 2 SE จะเป็นรุ่นที่ทำตลาดในระดับกลางที่ค่อนข้างลงไปตลาดล่างด้วย จึงเลือกใช้วัสดุพลาสติกที่ขัดลายให้เป็นโลหะเพื่อที่ให้สัมผัสที่คล้ายกับโลหะในราคาต้นทุนที่ถูกกว่าได้

    สำหรับรายละเอียดการออกแบบของ ASUS Zenfone Laser 2 SE เริ่มจากด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นกระจกเกือบทั้งหมดโดยจะมีบริเวณด้านล่างของตัวเครื่องเท่านั้นที่เป็นพลาสติกขัดลวดลายให้มีลักษณะเป็นโลหะที่มีเส้นสายครึ่งวงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ของ ASUS และภายใต้หน้าจอนั้นมีหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้วอยู่ด้านใน +โดยมีการออกแบบลดความกว้างของขอบให้บางลงทำให้พื้นที่หน้าจอคิดเป็น 72 % จากตัวเครื่องด้านหน้าทั้งหมด ในส่วนด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นลำโพงสนทนาสีเงินที่อยู่บนโลโก้ ASUS  ที่อยู่ตรงกลางระหว่างกล้องหน้า และเซ็นเซอร์วัดระดับแสงและวัดระยะห่างของใบหน้า ในส่วนด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นปุ่มเมนูแบบสัมผัสแบบ 3 ปุ่มนั่นก็คือ ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มโฮม และปุ่ม Multitasking ที่เป็นสีเงินเนื่องจากยังไม่มีไฟมาให้

    ในส่วนของด้านหลังมีการออกแบบรูปลักษณ์ให้มีลักษณะโค้งเพื่อให้สามารถจับถือได้ง่าย โดยมีส่วนที่บางที่สุดอยู่ที่ 3.9 มม. และตัวเครื่องหนาสุดที่ 10.9 มม. ในส่วนของฝาหลังใช้วัสดุพลาสติกที่มีการขัดลายให้เหมือนกับโลหะที่ดูสวยงาม ด้านบนของฝาหลังจะเป็นกล้องที่อยู่ระหว่าง Dual LED Flash และเลเซอร์โฟกัสอัตโนมัติที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ถัดมาด้านล่างจะเป็นปุ่มวงรีขนาดใหญ่สีเงิน ที่ขัดลายให้คล้ายกับโลหะซึ่งจะเป็นปุ่มสำหรับเพิ่มเสียงและลดเสียงนั่นเอง บริเวณตรงกลางจะเป็นโลโก้ ASUS ขนาดใหญ่ และลำโพงหลังจะเป็นสี่เหลี่ยมคาดยาวด้านล่างของฝาหลังตัวเครื่อง สำหรับด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นที่อยู่ของปุ่มพาวเวอร์ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และลำโพงสำหรับตัดเสียงรบกวน ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบ microUSB และลำโพงใช้สำหรับสนทนา ในส่วนด้านข้างของตัวเครื่องทั้งสองด้านไม่มีปุ่มอะไรเลย เพราะการย้ายปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงไปไว้ด้านหลังของตัวเครื่องนั่นเอง

    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00007

    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00006

    สำหรับหน้าจอของ ASUS Zenfone Laser 2 SE จะมากับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD ที่มีความละเอียด 1280 × 720 พิกเซล ที่มีความละเอียด 267 DPI และมีความสว่างสูงสุดที่ 400 nits พร้อมกับเทคโนโลยีหน้าจอ TruVivid ทำให้หน้าจอแสดงสีได้สดใสสวยงาม ที่สำคัญยังมากับเทคโนโลยีกระจกหน้าจอ Gorilla Glass 4 ซึ่งเพิ่มความทนทานมากกว่ารุ่นเดิมถึง 2.5 เท่า และลดหน้าจอแตกได้มากกว่าหน้าจอทั่วไปถึง 85 % ซึ่งถ้าหาก ASUS Zenfone Laser 2 SE มีหน้าจอความละเอียด 1920 × 1080 จะเป็นอะไรที่ครบมาก

    จากการใช้งานจริง การจับถือตัวเครื่องให้ความกระชับมือมากจากตัวเครื่องทีมีความโค้งรับกับมือในขณะที่จับถือ ฝาหลังที่เป็นพลาสติกแต่ขัดลายให้เป็นโลหะถึงแม้จะให้ความรู้สึกว่ามันเปราะบางไม่แข็งแรง แต่ก็ให้ความรู้สึกดีกว่าพลาสติกที่เรียบ ๆ นะ สำหรับขอบจอนั้นยังมีความหนาอยู่ตามสไตล์การออกแบบของ Zenfone Generation 2 ซึ่งถ้าบางมากกว่านี้น่าจะทำให้ตัวเครื่องดูสวยขึ้น สิ่งที่เป็นข้อสังเกตมากที่สุดคงจะเป็นความละเอียดของหน้าจอซึ่งมีความละเอียด 1280 × 720 ทำให้หน้าจอดูไม่คมชัดสักเท่าไหร่ บางครั้งต้องเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ซึ่งหากใครที่เคยใช้หน้าจอความละเอียด 1920 × 1080 มาก่อนเห็นความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

    Software

    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00013

    ในส่วนของซอฟต์แวร์นั้น ASUS Zenfone 2 Laser SE มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าชื่มชม เนื่องจาก Zenfone 2 Laser ที่วางขายในปีที่แล้วนั้นใช้ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop ซึ่งถือว่า ASUS ได้อัพเดท Android เวอร์ชั่นใหม่มาให้ด้วย โดย ASUS Zenfone 2 Laser SE ยังมาพร้อมอินเตอร์เฟส ZenUI ที่มีฟังก์ชันการทำงานอีกเพียบ เช่น ZenMotion, Snapview และ ZenUI Instant Updates ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการใช้งานให้สะดวกมากยิ่งขึ้น

    สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นฟีเจอร์ ZenMotion นั้นได้ใช้งานบ่อยมาก ตั้งแต่การเปิดหน้าจอและปิดหน้าจอที่สามารถทำได้โดยแตะหน้าจอสองครั้งติดกันแทนการเอื้อมมือไปกดปุ่มพาวเวอร์ หรือจะวาดเป็นตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อเข้าสู้แอพพลิเคชั่นที่ตั้งค่าไว้ได้ และผลพลอยได้จากระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow นั่นก็คือ DozeMode ที่ทำให้ประหยัดพลังงานขณะอยู่ในโหมด Sleep อย่างเห็นได้ชัด สำหรับการใช้งานทั่วไปอย่างเล่นโซเชียลมีเดีย ดูหนัง ฟังเพลง ทั่วไป ใช้งานได้อย่างสบาย สลับแอพพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วจากแรมที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 3 GB และระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ทำให้ตัวเครื่องทำงานได้อย่างลื่น ๆ

    software1

    Feature

    Asus-Zenfone-2-Laser-Light-Speed-Shots-with-Laser-Auto-Focus-1024x518

    Laser Auto-Focus

    กล้องหลังมีเทคโนโลยีเลเซอร์ออโต้โฟกัสที่ความรวดเร็วในการจับโฟกัสอย่างมาก โดยใช้เวลาในการจับโฟกัสภาพเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น ทำให้การถ่ายภาพในระยะใลก้ได้รวดเร็วและได้ภาพที่คมชัดแม้ในสถานการณ์ที่มีแสงน้อย

    pixelmaster-hdr

    โหมดแบล็คไลท์ Pixel Master (Super HDR) 

    จะทำการจับภาพหลายช็อตในฉากเดียวกันอย่างอัตโนมัติโดยเทคโนโลยี ASUS Pixel Enhancing ในการประมวลผล ซึ่งช่วยเพิ่มความสว่างมากถึง 4 เท่า ส่งผลให้ภาพถ่ายสว่างขึ้นมากถึง 400% ซึ่งมาพร้อมกับความคมชัดและรายละเอียดของภาพที่สมจริงซึ่งจากการทดสอบถ่ายภาพด้วยโหมดปกติ และโหมด Super HDR จากภาพด้านล่างจะเห็นได้ว่าโหมด Super HDR นั้นทำให้ภาพสมจริงและสวยงามขึ้นมาก

    superhdr

     

    2

    ASUS ZenUI Interface

    ZenUI เป็นอินเตอร์เฟซของของ ASUS ที่ช่วยในการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมไม่ว่าจะเป็น ZenMotion ที่เป็นศูนย์รวมของฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้การใช้สมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวันสะดวกมากขึ้น สำหรับ Personalized UI เป็นศูนย์รวมของธีมรูปแบบต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับตกแต่งสมาร์ทโฟนให้มีความแปลกใหม่เสมอ และมีส่วนในการรักษาความปลอดภัยโดนจะมีการอัพเดท ZenUI อยู่เสมอ

    zen

    Camera

    สำหรับรายละเอียดของกล้องของ ASUS Zenfone 2 Laser SE มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีเลนส์ 5 ชิ้นที่ผลิตจาก Largan Precision มีรูรับแสงกว้าง f/2.0 และมี Dual Tone LED Flash มีเทคโนโลยี Pixel-Merging ที่ช่วยจับภาพให้สว่างขึ้นสูงสุด 400 % ในขณะถ่ายภาพที่มีแสงน้อย และมีโหมด Super Resolution ที่สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงสุดได้ถึง 52 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซลที่สามารถถ่ายมุมกว้างได้ถึง 85 องศา

    Untitled-1

    PixelMaster3

    สำหรับซอฟต์แวร์ Pixel Master ที่อยู่ประจำการในสมาร์ทโฟน ASUS เกือบทุกรุ่นนั้นเป็นซอฟต์แวร์ที่มีการใช้งานง่ายมีโหมดต่าง ๆ ให้เลือกใช้อย่างมากมาย ซึ่งในเครื่องนี้จะเป็น Pixel Master 2.0 จากการใช้งานจริงถือว่าทำได้เหมาะสมกับราคา ซึ่งจะดูโดดเด่นในขณะที่ถ่ายรูปแบบมาโคร จะจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากเลเซอร์โฟกัสจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่ออยู่ใกล้วัตถุที่ถ่ายภาพ อีกจุดเด่นหนึ่งก็คือโหมด Super HDR และโหมดถ่ายในที่มืดซึ่งระบบจะทำการตรวจภาพอัตโนมัติถ้าหากพบว่าอยู่ในสถานที่แสงน้อยก็จะขึ้นเมนูลัดขึ้นมาให้ใช้ได้อย่างสะดวกมาก ซึ่งจากการถ่ายด้วย Super HDR จะทำให้ภาพสวยงามและสมจริงมากกว่าโหมดปกติอย่างเห็นได้ชัด สำหรับโหมดกลางคืนก็เร่งแสงขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจไม่ต้องเปิดแฟลชแต่อย่างใด ถึงแม้คุณภาพของรูปอาจจะไม่สู้พวกตระกูล Zenfone Zoom แต่ก็ให้คุณภาพที่เหมาะสมในราคาที่ไม่แพง

    PixelMaster1

     

    ตัวอย่างจากกล้องหน้าและกล้องหลังของ ASUS Zenfone 2 Laser SE

    Performance

    performance

    ASUS Zenfone 2 Laser SE มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 615 MSM8939 ซึ่งเป็นชิป Quad Core 8x ARM Cortex A53 ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.5 GHz พร้อมกับ GPU Adreno 405 ซึ่งอัพเกรดขึ้นจากรุ่นเดิมที่ใช้ชิป Snapdragon 410 Quad Core @ 1.2 GHz และแรมถูกเพิ่มขึ้นเป็น 3 GB จากรุ่นเดิมที่มีอยู่ 2 GB จากการใช้งานทั่วไปอย่างเล่นเน็ต หรือโซเชียวต่าง ๆ ใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งจากแรมที่เพิ่มเข้ามาทำให้การสลับแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ถ้าหากเปิดแอพพลิเคชั่นไว้เยอะ ๆ ก็แอบมีการโหลดข้อมูลใหม่บ้างเนื่องจากแอพพลิเคชันปัจจุบันก็กินแรมเยอะเหมือนกันซึ่งแรมขนาด 3 GB นั้นถือว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปเท่านั้น แต่สำหรับเกมที่มีกราฟฟิกสูง ๆ นั้นอาจจะมีเฟรมเรทตกบ้างตามประสิทธิภาพของชิปประมวลผลระดับกลาง ๆ สำหรับพื้นที่เก็บข้อมูลภายในนั้นมีขนาด 32 GB ซึ่งใช้งานทั่วไปก็ถือว่ามีขนาดเหลือเฟือ แต่สำหรับคนที่เก็บข้อมูลเยอะ ๆ ก็สามารถเพิ่มความจุได้ด้วย microSD สูงสุดถึง 128 GB

    สำหรับแบตเตอรี่นั้นให้มาขนาด 3,000 mAh ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งจากการใช้งานทั่วไปในหนึ่งวัน เช่นการเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ และฟังเพลงไปด้วย 2 ชั่วโมง เล่นโซเชียล 1 ชั่วโมง เปิดเครือข่าย 4G ไว้ทั้งวัน กลับถึงบ้านพบว่าแบตเตอรี่เหลือมากกว่า 30 % ซึ่งถือเป็นผลพลอยได้จากระบบปฏิบัติการ Android Marshmallow 6.0.1 ที่มี DozeMode เข้ามาช่วยในเรื่องการหยุดการทำงานของตัวเครื่องที่ไม่จำเป็นในขณะเครื่องอยู่ในโหมด Sleep ทำให้ถึงแม้ว่าจะเปิดเครือข่ายมือถือทิ้งไว้ก็กินแบตเตอรี่ไปน้อยมาก

    Gallery

    จุดเด่น

    – กล้องที่โฟกัสได้อย่างรวดเร็วด้วยเลเซอร์โฟกัส
    – มีลูกเล่นจากซอฟต์แวร์กล้องเยอะมาก
    – รองรับ Dual Sims
    – มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow
    – สเปคต่อราคา จัดว่าคุ้มค่ากับการเพิ่มเงิน 1,000 บาท จากรุ่นก่อนหน้านี้

    ข้อสังเกต

    – หน้าจอน่าจะมีความละเอียดแบบ FullHD
    – คุณภาพของกล้องยังห่างจากตระกูล Zenfone Zoom

    บทสรุป

     ASUS Zenfone 2 Laser SE ถือเป็นรุ่นอัพเกรดรุ่นสุดท้ายของซีรี่ส์ Zenfone 2 Laser ที่วางขายด้วยกันถึง 5 รุ่นย่อยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดย ASUS Zenfone 2 Laser SE ได้ทำการปรับสเปคให้มีความเหมาะสมกับปัจจุบัน และสามารถสู้กับคู่แข่งได้สมน้ำสมเนื้อมากขึ้น โดยทำการเปลี่ยนชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 615 เพิ่มแรมเป็น 3 GB และเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลภายในเป็น 32 GB ที่สำคัญยังมากับระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 ตั้งแต่อยู่ในกล่อง สำหรับจุดเด่นของซีรี่ส์ Zenfone Laser ก็คือเรื่องกล้องซึ่งได้นำฟีเจอร์เลเซอร์โฟกัสเข้ามาช่วยในการจับโฟกัสภาพ ทำให้จับโฟกัสวัตถุที่อยู่ในระยะใกล้ได้ภายในเวลา 0.3 วินาทีเท่านั้น โดย  ASUS Zenfone 2 Laser SE มาพร้อมกับกล้องหลัง ความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมกับรูรับแสงกว้างถึง f/2.0 นอกจากนี้ยังมาพร้อบกับ PixelMaster 2.0 ที่เป็นโหมดถ่ายรูปสำหรับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นโหมด Super HDR ที่จะช่วยเพิ่มความสว่างให้ภาพถึง 4 เท่า สำหรับการใช้งานโดยรวมนั้นถือว่ามีความเหมาะสมกับราคา 6,990 บาท ซึ่งการเพิ่มเงินจากรุ่นเดิมประมาณหนึ่งพันบาทนั้น จะได้ชิปที่แรงกว่า แรมที่เพิ่มขึ้นและพื้นที่เก็บข้อมูลภายในที่มากขึ้น ก็ถือว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่เป็นที่น่าเสียดายที่หน้าจอรุ่นนี้ยังมีความละเอียดเพียง 720p เท่านั้น ถ้าหากว่ามากับความละเอียด 1080p จะถือว่าเป็นรุ่นที่สมบูรณ์แบบรุ่นหนึ่งเลยก็ว่าได้
    Editor : Nayvardar
    79
    BEST PRICE

    Design

    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00010

    “ปรับสเปคใหม่ ในร่างเดิม”
    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00004

    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00002

    ASUS Zenfone Laser 2 SE เป็นรุ่นที่นำโมเดล Asus Zenfone 2 Laser (ZE550KL) ที่มีการวางขายในปีที่แล้วมาอัพเกรดสเปคและวางขายอีกครั้งในปีนี้ จึงมีตัวเครื่องภายนอกที่เหมือนกัน ซึ่งก็มีลักษณะเหมือนกับ ASUS Zenfone 2 ทั่วไปนั้นก็คือเน้นความเป็นพรีเมี่ยมที่มีเอกลักษณ์ด้วยการวาดลวดลายโลหะให้เป็นเส้นวงกลมให้ดูมีมิติที่ทำให้รู้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนของ ASUS ซึ่งสำหรับ ASUS Zenfone Laser 2 SE จะเป็นรุ่นที่ทำตลาดในระดับกลางที่ค่อนข้างลงไปตลาดล่างด้วย จึงเลือกใช้วัสดุพลาสติกที่ขัดลายให้เป็นโลหะเพื่อที่ให้สัมผัสที่คล้ายกับโลหะในราคาต้นทุนที่ถูกกว่าได้

    สำหรับรายละเอียดการออกแบบของ ASUS Zenfone Laser 2 SE เริ่มจากด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นกระจกเกือบทั้งหมดโดยจะมีบริเวณด้านล่างของตัวเครื่องเท่านั้นที่เป็นพลาสติกขัดลวดลายให้มีลักษณะเป็นโลหะที่มีเส้นสายครึ่งวงกลมที่เป็นเอกลักษณ์ของ ASUS และภายใต้หน้าจอนั้นมีหน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้วอยู่ด้านใน +โดยมีการออกแบบลดความกว้างของขอบให้บางลงทำให้พื้นที่หน้าจอคิดเป็น 72 % จากตัวเครื่องด้านหน้าทั้งหมด ในส่วนด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นลำโพงสนทนาสีเงินที่อยู่บนโลโก้ ASUS  ที่อยู่ตรงกลางระหว่างกล้องหน้า และเซ็นเซอร์วัดระดับแสงและวัดระยะห่างของใบหน้า ในส่วนด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นปุ่มเมนูแบบสัมผัสแบบ 3 ปุ่มนั่นก็คือ ปุ่มย้อนกลับ ปุ่มโฮม และปุ่ม Multitasking ที่เป็นสีเงินเนื่องจากยังไม่มีไฟมาให้

    ในส่วนของด้านหลังมีการออกแบบรูปลักษณ์ให้มีลักษณะโค้งเพื่อให้สามารถจับถือได้ง่าย โดยมีส่วนที่บางที่สุดอยู่ที่ 3.9 มม. และตัวเครื่องหนาสุดที่ 10.9 มม. ในส่วนของฝาหลังใช้วัสดุพลาสติกที่มีการขัดลายให้เหมือนกับโลหะที่ดูสวยงาม ด้านบนของฝาหลังจะเป็นกล้องที่อยู่ระหว่าง Dual LED Flash และเลเซอร์โฟกัสอัตโนมัติที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ ถัดมาด้านล่างจะเป็นปุ่มวงรีขนาดใหญ่สีเงิน ที่ขัดลายให้คล้ายกับโลหะซึ่งจะเป็นปุ่มสำหรับเพิ่มเสียงและลดเสียงนั่นเอง บริเวณตรงกลางจะเป็นโลโก้ ASUS ขนาดใหญ่ และลำโพงหลังจะเป็นสี่เหลี่ยมคาดยาวด้านล่างของฝาหลังตัวเครื่อง สำหรับด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นที่อยู่ของปุ่มพาวเวอร์ ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และลำโพงสำหรับตัดเสียงรบกวน ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีช่องเสียบ microUSB และลำโพงใช้สำหรับสนทนา ในส่วนด้านข้างของตัวเครื่องทั้งสองด้านไม่มีปุ่มอะไรเลย เพราะการย้ายปุ่มเพิ่มเสียงลดเสียงไปไว้ด้านหลังของตัวเครื่องนั่นเอง

    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00007

    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00006

    สำหรับหน้าจอของ ASUS Zenfone Laser 2 SE จะมากับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว แบบ IPS LCD ที่มีความละเอียด 1280 × 720 พิกเซล ที่มีความละเอียด 267 DPI และมีความสว่างสูงสุดที่ 400 nits พร้อมกับเทคโนโลยีหน้าจอ TruVivid ทำให้หน้าจอแสดงสีได้สดใสสวยงาม ที่สำคัญยังมากับเทคโนโลยีกระจกหน้าจอ Gorilla Glass 4 ซึ่งเพิ่มความทนทานมากกว่ารุ่นเดิมถึง 2.5 เท่า และลดหน้าจอแตกได้มากกว่าหน้าจอทั่วไปถึง 85 % ซึ่งถ้าหาก ASUS Zenfone Laser 2 SE มีหน้าจอความละเอียด 1920 × 1080 จะเป็นอะไรที่ครบมาก

    จากการใช้งานจริง การจับถือตัวเครื่องให้ความกระชับมือมากจากตัวเครื่องทีมีความโค้งรับกับมือในขณะที่จับถือ ฝาหลังที่เป็นพลาสติกแต่ขัดลายให้เป็นโลหะถึงแม้จะให้ความรู้สึกว่ามันเปราะบางไม่แข็งแรง แต่ก็ให้ความรู้สึกดีกว่าพลาสติกที่เรียบ ๆ นะ สำหรับขอบจอนั้นยังมีความหนาอยู่ตามสไตล์การออกแบบของ Zenfone Generation 2 ซึ่งถ้าบางมากกว่านี้น่าจะทำให้ตัวเครื่องดูสวยขึ้น สิ่งที่เป็นข้อสังเกตมากที่สุดคงจะเป็นความละเอียดของหน้าจอซึ่งมีความละเอียด 1280 × 720 ทำให้หน้าจอดูไม่คมชัดสักเท่าไหร่ บางครั้งต้องเพ่งเล็งเป็นพิเศษ ซึ่งหากใครที่เคยใช้หน้าจอความละเอียด 1920 × 1080 มาก่อนเห็นความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด

    Software

    Review-ASUS-Zenfone-2-Laser-SE-SpecPhone-00013

    ในส่วนของซอฟต์แวร์นั้น ASUS Zenfone 2 Laser SE มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าชื่มชม เนื่องจาก Zenfone 2 Laser ที่วางขายในปีที่แล้วนั้นใช้ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop ซึ่งถือว่า ASUS ได้อัพเดท Android เวอร์ชั่นใหม่มาให้ด้วย โดย ASUS Zenfone 2 Laser SE ยังมาพร้อมอินเตอร์เฟส ZenUI ที่มีฟังก์ชันการทำงานอีกเพียบ เช่น ZenMotion, Snapview และ ZenUI Instant Updates ซึ่งจะเป็นตัวช่วยในการใช้งานให้สะดวกมากยิ่งขึ้น

    สำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นฟีเจอร์ ZenMotion นั้นได้ใช้งานบ่อยมาก ตั้งแต่การเปิดหน้าจอและปิดหน้าจอที่สามารถทำได้โดยแตะหน้าจอสองครั้งติดกันแทนการเอื้อมมือไปกดปุ่มพาวเวอร์ หรือจะวาดเป็นตัวอักษรบนหน้าจอเพื่อเข้าสู้แอพพลิเคชั่นที่ตั้งค่าไว้ได้ และผลพลอยได้จากระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow นั่นก็คือ DozeMode ที่ทำให้ประหยัดพลังงานขณะอยู่ในโหมด Sleep อย่างเห็นได้ชัด สำหรับการใช้งานทั่วไปอย่างเล่นโซเชียลมีเดีย ดูหนัง ฟังเพลง ทั่วไป ใช้งานได้อย่างสบาย สลับแอพพลิเคชันได้อย่างรวดเร็วจากแรมที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 3 GB และระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ทำให้ตัวเครื่องทำงานได้อย่างลื่น ๆ

    software1

    Feature

    Asus-Zenfone-2-Laser-Light-Speed-Shots-with-Laser-Auto-Focus-1024x518

    Laser Auto-Focus

    กล้องหลังมีเทคโนโลยีเลเซอร์ออโต้โฟกัสที่ความรวดเร็วในการจับโฟกัสอย่างมาก โดยใช้เวลาในการจับโฟกัสภาพเพียง 0.3 วินาทีเท่านั้น ทำให้การถ่ายภาพในระยะใลก้ได้รวดเร็วและได้ภาพที่คมชัดแม้ในสถานการณ์ที่มีแสงน้อย

    pixelmaster-hdr

    โหมดแบล็คไลท์ Pixel Master (Super HDR) 

    จะทำการจับภาพหลายช็อตในฉากเดียวกันอย่างอัตโนมัติโดยเทคโนโลยี ASUS Pixel Enhancing ในการประมวลผล ซึ่งช่วยเพิ่มความสว่างมากถึง 4 เท่า ส่งผลให้ภาพถ่ายสว่างขึ้นมากถึง 400% ซึ่งมาพร้อมกับความคมชัดและรายละเอียดของภาพที่สมจริงซึ่งจากการทดสอบถ่ายภาพด้วยโหมดปกติ และโหมด Super HDR จากภาพด้านล่างจะเห็นได้ว่าโหมด Super HDR นั้นทำให้ภาพสมจริงและสวยงามขึ้นมาก

    superhdr

     

    2

    ASUS ZenUI Interface

    ZenUI เป็นอินเตอร์เฟซของของ ASUS ที่ช่วยในการใช้งานได้อย่างดีเยี่ยมไม่ว่าจะเป็น ZenMotion ที่เป็นศูนย์รวมของฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ช่วยให้การใช้สมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวันสะดวกมากขึ้น สำหรับ Personalized UI เป็นศูนย์รวมของธีมรูปแบบต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับตกแต่งสมาร์ทโฟนให้มีความแปลกใหม่เสมอ และมีส่วนในการรักษาความปลอดภัยโดนจะมีการอัพเดท ZenUI อยู่เสมอ

    zen

    Camera

    สำหรับรายละเอียดของกล้องของ ASUS Zenfone 2 Laser SE มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ที่มีเลนส์ 5 ชิ้นที่ผลิตจาก Largan Precision มีรูรับแสงกว้าง f/2.0 และมี Dual Tone LED Flash มีเทคโนโลยี Pixel-Merging ที่ช่วยจับภาพให้สว่างขึ้นสูงสุด 400 % ในขณะถ่ายภาพที่มีแสงน้อย และมีโหมด Super Resolution ที่สามารถถ่ายภาพความละเอียดสูงสุดได้ถึง 52 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 5 ล้านพิกเซลที่สามารถถ่ายมุมกว้างได้ถึง 85 องศา

    Untitled-1

    PixelMaster3

    สำหรับซอฟต์แวร์ Pixel Master ที่อยู่ประจำการในสมาร์ทโฟน ASUS เกือบทุกรุ่นนั้นเป็นซอฟต์แวร์ที่มีการใช้งานง่ายมีโหมดต่าง ๆ ให้เลือกใช้อย่างมากมาย ซึ่งในเครื่องนี้จะเป็น Pixel Master 2.0 จากการใช้งานจริงถือว่าทำได้เหมาะสมกับราคา ซึ่งจะดูโดดเด่นในขณะที่ถ่ายรูปแบบมาโคร จะจับโฟกัสได้อย่างรวดเร็วเนื่องจากเลเซอร์โฟกัสจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเมื่ออยู่ใกล้วัตถุที่ถ่ายภาพ อีกจุดเด่นหนึ่งก็คือโหมด Super HDR และโหมดถ่ายในที่มืดซึ่งระบบจะทำการตรวจภาพอัตโนมัติถ้าหากพบว่าอยู่ในสถานที่แสงน้อยก็จะขึ้นเมนูลัดขึ้นมาให้ใช้ได้อย่างสะดวกมาก ซึ่งจากการถ่ายด้วย Super HDR จะทำให้ภาพสวยงามและสมจริงมากกว่าโหมดปกติอย่างเห็นได้ชัด สำหรับโหมดกลางคืนก็เร่งแสงขึ้นมาได้อย่างน่าประทับใจไม่ต้องเปิดแฟลชแต่อย่างใด ถึงแม้คุณภาพของรูปอาจจะไม่สู้พวกตระกูล Zenfone Zoom แต่ก็ให้คุณภาพที่เหมาะสมในราคาที่ไม่แพง

    PixelMaster1

     

    ตัวอย่างจากกล้องหน้าและกล้องหลังของ ASUS Zenfone 2 Laser SE

    Performance

    performance

    ASUS Zenfone 2 Laser SE มาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 615 MSM8939 ซึ่งเป็นชิป Quad Core 8x ARM Cortex A53 ที่มีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 1.5 GHz พร้อมกับ GPU Adreno 405 ซึ่งอัพเกรดขึ้นจากรุ่นเดิมที่ใช้ชิป Snapdragon 410 Quad Core @ 1.2 GHz และแรมถูกเพิ่มขึ้นเป็น 3 GB จากรุ่นเดิมที่มีอยู่ 2 GB จากการใช้งานทั่วไปอย่างเล่นเน็ต หรือโซเชียวต่าง ๆ ใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา ซึ่งจากแรมที่เพิ่มเข้ามาทำให้การสลับแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วมากขึ้น แต่ถ้าหากเปิดแอพพลิเคชั่นไว้เยอะ ๆ ก็แอบมีการโหลดข้อมูลใหม่บ้างเนื่องจากแอพพลิเคชันปัจจุบันก็กินแรมเยอะเหมือนกันซึ่งแรมขนาด 3 GB นั้นถือว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปเท่านั้น แต่สำหรับเกมที่มีกราฟฟิกสูง ๆ นั้นอาจจะมีเฟรมเรทตกบ้างตามประสิทธิภาพของชิปประมวลผลระดับกลาง ๆ สำหรับพื้นที่เก็บข้อมูลภายในนั้นมีขนาด 32 GB ซึ่งใช้งานทั่วไปก็ถือว่ามีขนาดเหลือเฟือ แต่สำหรับคนที่เก็บข้อมูลเยอะ ๆ ก็สามารถเพิ่มความจุได้ด้วย microSD สูงสุดถึง 128 GB

    สำหรับแบตเตอรี่นั้นให้มาขนาด 3,000 mAh ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งจากการใช้งานทั่วไปในหนึ่งวัน เช่นการเข้าเว็บไซต์ต่าง ๆ และฟังเพลงไปด้วย 2 ชั่วโมง เล่นโซเชียล 1 ชั่วโมง เปิดเครือข่าย 4G ไว้ทั้งวัน กลับถึงบ้านพบว่าแบตเตอรี่เหลือมากกว่า 30 % ซึ่งถือเป็นผลพลอยได้จากระบบปฏิบัติการ Android Marshmallow 6.0.1 ที่มี DozeMode เข้ามาช่วยในเรื่องการหยุดการทำงานของตัวเครื่องที่ไม่จำเป็นในขณะเครื่องอยู่ในโหมด Sleep ทำให้ถึงแม้ว่าจะเปิดเครือข่ายมือถือทิ้งไว้ก็กินแบตเตอรี่ไปน้อยมาก

    Gallery

    Asus Asus Zenfone 2 Laser
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    SpecPhone HQ

    Related Posts

    รีวิว Alldocube iPlay 50 mini และ iPlay 60 Pad Pro แท็บเล็ตตัวคุ้มที่มาขายไทยอย่างเป็นทางการ

    7 พฤษภาคม 2025

    รีวิว Redmi A5 สมาร์ทโฟนจอใหญ่ 6.88 นิ้ว 120Hz แบตอึด 5,200 mAh ในราคาเริ่มต้นเพียง 2,499 บาท

    27 เมษายน 2025

    รีวิวคู่หูพันธุ์แบตอึด!! vivo V50 Lite และ Watch GT แบตอึดเกินใคร ฟีเจอร์แน่น ในราคาที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงได้

    22 เมษายน 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    Samsung Galaxy S25 Edge มาแล้ว เปิดราคา 36,xxx บาง 5.8mm แต่แรงด้วย SD 8 Elite for Galaxy

    13 พฤษภาคม 2025

    Apple อาจใช้ AI ช่วยประหยัดพลังงาน คาดใส่เข้ามาใน iOS 19

    13 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 3 กลุ่มหลักที่เหมาะกับ iPhone 16e – ถ้าซื้อไปใช้ รับรองว่าคุ้ม!

    13 พฤษภาคม 2025

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X