ก่อนหน้านี้เราได้เคยรีวิว ASTON Idea 3 Plus สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ 6 นิ้ว ที่วางจำหน่ายในราคาไม่แพงเพียง 4,990 บาท ซึ่งก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจรุ่นหนึ่ง ด้วยจุดเด่นเรื่องหน้าจอขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนปกติทั่วไปในท้องตลาด แน่นอนว่าบทความรีวิวนี้ก็ยังคงเป็นสมาร์ทโฟนจากแบรนด์ ASTON เหมือนเดิม และมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว เช่นเดียวกับ ASTON Idea 3 Plus แต่มีราคาย่อมเยากว่า โดย ASTON Thunder Cover Plus สมาร์ทโฟนหน้าจอ 6 นิ้ว รุ่นใหม่ล่าสุดจะมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 3,490 บาทเท่านั้น
เหตุผลที่ ASTON Thunder Cover Plus สามารถขายได้ในราคา 3,490 บาท เมื่อเทียบกับสเปคแล้วก็ถือว่าเป็นราคาที่ดีใช้ได้ เนื่องจากขายแบบ Exclusive เฉพาะใน Lazada เท่านั้น ทำให้สามารถลดต้นทุนด้านการจัดเก็บ, การสต็อกสินค้า และอื่น ๆ ไปได้ ก็เลยทำให้สามารถขายราคาที่ถูกกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ในขณะที่ ASTON Thunder Cover Plus มีสเปคที่เทียบเท่า หรือดีกว่าด้วยซ้ำ
สเปค ASTON Thunder Cover Plus
- หน้าจอ IPS ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด qHD (960 x 540 พิกเซล)
- ชิปประมวลผล MediaTek MT6735P Quad-core
- Ram 2 GB
- ความจุ 16 GB รองรับ MicroSD Card ความจุสูงสุด 128 GB
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
- รองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE/ Wi-Fi/ Bluetooth
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop
- แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh
- ราคา 3,490 บาท
อุปกรณ์ในกล่องของ ASTON Thunder Cover Plus ก็ให้มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ, สายชาร์จแบบ Micro USB, หูฟัง, เคสฝาพับขนาดพอดีกับตัวเครื่อง รวมถึงฟิล์มกันรอยที่แถมมาให้ถึง 2 ชิ้น (ติดจากโรงงาน 1 แถมในกล่องอีก 1) และกระจกกันรอยอีก 1 ชิ้น ความน่าสนใจของเคสฝาพับที่แถมมาในกล่อง ASTON Thunder Cover Plus คือนอกจากจะเป็นเคสฝาพับแล้ว ยังสามารถแสดงนาฬิกา รวมถึงหน้าต่างการเล่นเพลงจากตัวเคสได้โดยตรงอีกด้วย
ASTON Thunder Cover Plus ราคา 3,490 บาท วางจำหน่ายแบบ Exclusive เฉพาะที่ Lazada เท่านั้น สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม กดเข้าไปที่: goo.gl/CkHsDZ
ข้อดี
– ตัวหนังสือเมื่อปรับใหญ่สุด แทบไม่ต้องเพ่งหน้าจอเลย
– แบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh อึดใช้ได้
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม พร้อม MicroSD Card สูงสุดถึง 128 GB
– อุปกรณ์เสริมในกล่องให้มาครบครัน
ข้อสังเกต
– เล่นเกมได้หลายเกม แต่ต้องปรับตั้งค่าให้เหมาะสม
– ภาพจากกล้อง จัดอยู่ในระดับที่พอใช้งานได้
– ตัวเครื่องไม่มีไฟใต้ปุ่มกด
บทสรุป
BEST PRICE
Design
ASTON Thunder Cover Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่มีขนาดตัวเครื่องใหญ่ ตามสไตล์ของโทรศัพท์มือถือหน้าจอ 6 นิ้ว เวลาที่จับถือจะรู้สึกเต็มไม้เต็มมือ แน่นอนว่าการใช้งานด้วยมือเดียวอาจทำได้ไม่สะดวกเท่าไหร่ แนะนำให้ถือใช้งานสองมือเป็นหลัก ด้วยตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่ และมีน้ำหนักพอสมควร
การใช้งาน ASTON Thunder Cover Plus ครั้งแรก จะต้องทำการใส่แบตเตอรี่เข้าไปในตัวเครื่องเสียก่อน วิธีการใส่แบตเตอรี่ก็ให้ทำการถอดฝาหลัง โดยให้สังเกตบริเวณมุมซ้ายล่างของฝาหลัง จะมีสลักที่ช่วยในการเปิดฝาหลังอยู่ ให้ทำการงัดขึ้นได้เลย ตัวฝาหลังแกะไม่ยาก เมื่อแกะฝาหลังออกก็จะพบกับช่องใส่แบตเตอรี่, ช่องใส่ซิม 1 (ขนาดปกติ), ช่องใส่ซิม 2 (รองรับ Micro SIM) และช่องใส่ MicroSD Card ที่รองรับ MicroSD Card ความจุสูงสุด 128 GB จะมีข้อสังเกตเล็กน้อยเกี่ยวกับฝาหลัง ตอนที่รีวิว ASTON Thunder Cover Plus ผมรู้สึกว่าฝาหลังบริเวณด้านบนเหมือนล็อกไม่สนิทเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้มีผลต่อการใช้งานทั่วไป
รายละเอียดทางด้านหลังของ ASTON Thunder Cover Plus ประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED จำนวน 1 ดวงด้วยกัน ด้านล่างจะเป็นลำโพงหลักของตัวเครื่อง ให้เสียงที่ดังใช้ได้ แต่ถ้าเปิดดังมากไปจะมีอาการลำโพงแตก แนะนำให้เปิดเสียงที่ไม่เกิน 70% จะดีที่สุดครับ
ด้านหน้าของ ASTON Thunder Cover Plus ประกอบไปด้วยหน้าจอ IPS ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด qHD 960 x 540 พิกเซล พร้อมระบบปรับแสงหน้าจออัตโนมัติ และเป็นกระจกนิรภัย Gorilla Glass แบบโค้ง 2.5D ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ขอบหน้าจออยู่ในระดับปกติ ไม่หนาจนเกินไป การแสดงผลหน้าจอถือว่าใช้ได้ จะติดก็ตรงที่สีสันหน้าจอจะออกซีดหน่อย และมุมมองภาพเองไม่ได้กว้างมาก
ด้านบนหน้าจอมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED สำหรับถ่ายภาพในที่แสงน้อย, ลำโพงสำหรับสนทนาโทรศัพท์ และไฟ LED สำหรับแจ้งเตือนสถานะ
ด้านล่างหน้าจอประกอบไปด้วยปุ่ม Navigation Keys เรียงจากซ้ายไปขวา ได้แก่ ปุ่ม Recent App, ปุ่มโฮม และปุ่มย้อนกลับ เป็นปุ่มกดแบบสัมผัส ไม่มีไฟใต้ปุ่ม
ด้านข้างของ ASTON Thunder Cover Plus ใช้วัสดุเป็นโลหะ ตัวเครื่องรีวิว ASTON Thunder Cover Plus ที่เราได้มาเป็นตัวเครื่องสีน้ำเงิน Midnight Blue ที่มีขอบตัวเครื่องสีทอง รายละเอียดเริ่มจากทางด้านขวา ประกอบไปด้วยปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่ม Power
ด้านบนประกอบไปด้วยช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร และช่องเสียบ Micro USB สำหรับการชาร์จ และเชื่อมต่อข้อมูล ส่วนไมโครโฟนสำหรับสนทนาโทรศัพท์จะอยู่ทางด้านล่างของตัวเครื่อง และมีไมโครโฟนเพียงตัวเดียว
ภาพรวมของ ASTON Thunder Cover Plus ในส่วนของการดีไซน์ เมื่อเทียบกับราคาค่าตัว 3,490 บาทก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ อย่างตัววัสดุเองก็ไม่ได้เป็นพลาสติกทั้งหมด แต่ยังมีการใช้ขอบตัวเครื่องเป็นโลหะ ให้ความรู้สึกแข็งแรง ทนทานกว่าพลาสติกเพียงอย่างเดียว ส่วนหน้าจอเองก็เลือกใช้กระจกโค้ง 2.5D ที่ให้ความสวยงามกับตัวเครื่อง และเป็นหน้าจอแบบ IPS การแสดงผลโอเค ติดตรงที่สีหน้าจออาจจะซีดไปหน่อย การใช้งานโดยรวมถือว่าใช้งานได้สะดวกตามขนาดมือถือหน้าจอ 6 นิ้ว สามารถรับชมคอนเท้นได้อย่างเต็มตา
Software
ASTON Thunder Cover Plus มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.1 Lollipop แต่มีการปรับแต่งไอคอนของแอปพลิเคชันตามสไตล์ของ ASTON แต่ถ้ากดเข้าไปในหน้าการตั้งค่า หรือในแอปพลิเคชันพื้นฐาน รวมถึง Widget ต่าง ๆ อันนี้ก็จะเหมือน Stock Rom ครับ สรุปง่าย ๆ ว่ามันใช้งานไม่ยาก ใครที่เริ่มใช้งานสมาร์ทโฟนก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งในซอฟท์แวร์ของ ASTON Thunder Cover Plus คือมีการลงแอปพลิเคชันจากโรงงาน (Bloatware) มาให้น้อยมาก ขนาดพวก Google Service บางตัว เช่น Youtube, Google Music ก็ต้องไปดาวน์โหลดเพิ่มเองใน Google Play พื้นที่ความจุเหลือให้ใช้ประมาณ 10 GB แต่ก็สามารถเพิ่มความจุภายนอกได้ด้วย MicroSD Card สูงสุด 128 GB
Camera
ASTON Thunder Cover Plus มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ทำให้สามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดี ตัวซอฟท์แวร์กล้องเองถอดแบบมาจาก Stock Rom Android 5.1 Lollipop มีโหมดหลัก ๆ ตามนี้ครับ
- โหมดอัตโนมัติ
- พาโนรามา
- วีดีโอ (กล้องหลังรองรับความละเอียดสูงสุด Full HD, กล้องหน้า 480p)
การถ่ายภาพด้วย ASTON Thunder Cover Plus ก็ถือว่าใช้งานได้ไม่ยาก ด้วยโหมดการถ่ายภาพที่มีให้เลือกไม่เยอะ หลัก ๆ คือยกขึ้นมาถ่าย ตัวกล้องสามารถเลือกจุดโฟกัสได้ การจับโฟกัสถ้าเป็นการถ่ายในที่แสงปกติก็จับโฟกัสได้ดีไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเป็นการถ่ายภาพในที่แสงน้อยการจับโฟกัสจะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด
คุณภาพของภาพถ่ายถือว่าอยู่ในเกณฑ์สมาร์ทโฟนราคาประมาณ 3,000 บาท ภาพถ่ายในที่แสงปกติคุณภาพพอใช้งานได้ ส่วนการถ่ายภาพในที่แสงน้อยอาจจะต้องใช้การเปิดแฟลชช่วย สำหรับตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้อง ASTON Thunder Cover Plus ก็ตาม Gallery ด้านล่างเลยครับ
Performance
ประสิทธิภาพของ ASTON Thunder Cover Plus ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ต MediaTek MT6735P + Ram 2 GB สำหรับการใช้งานทั่วไปก็ไม่ได้ติดปัญหาอะไร แม้จะมีอาการหน่วงบ้างแต่ก็พอให้อภัยได้เมื่อเทียบกับราคาค่าตัวที่ไม่แพง การใช้งานแอปพลิเคชันบางแอปพลิเคชัน แนะนำให้เลือกเวอร์ชัน Lite เช่น Facebook Lite, Messenger Lite เพื่อการใช้งานที่ลื่นไหล และไม่กินพื้นที่ความจุมากจนเกินไป
การทดสอบเล่นเกม เราลองทดสอบด้วยกัน 2 เกม ได้แก่ ROV กับ Lineage 2 Revolution ทั้งสองเกมเป็นเกมยอดนิยม มียอดการดาวน์โหลดสูงเป็นอันดับต้น ๆ ใน Google Play และเป็นเกมที่กินสเปคในระดับหนึ่ง โดย ASTON Thunder Cover Plus ก็สามารถเล่นได้ทั้ง 2 เกม แต่อาจจะต้องมีการปรับตั้งค่าให้เหมาะสม อย่างเกม Lineage 2 Revolution ต้องปรับการตั้งค่าที่กลาง – ต่ำ จึงจะเล่นได้ ส่วนเกม ROV สามารถเล่นได้ไม่มีปัญหาอะไร (ปิดการตั้งค่า HD กับพาร์ติเคิล)
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของ ASTON Thunder Cover Plus จะเชื่อมต่อได้ผ่าน 2 ส่วน ได้แก่ Wi-Fi และการเชื่อมต่อดาต้า 4G โดยการเชื่อมต่อ Wi-Fi จะรองรับเฉพาะความถี่ 2.4 Ghz ส่วนการเชื่อมต่อ 4G LTE ตัวชิปเซ็ต MediaTek MT6735P จะรองรับการเชื่อมต่อ LTE Cat.4 ที่ความเร็วสูงสุด 150 Mbps แต่ในการใช้งานจริงจะมีเรื่องของพื้นที่ และความแรงสัญญาณเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
แบตเตอรี่และการจัดการพลังงานของ ASTON Thunder Cover Plus เป็นจุดที่สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ทำได้ดีมาก ด้วยสเปคที่เน้นเรื่องการประหยัดพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นชิปเซ็ต และความละเอียดหน้าจอ รวมกับแบตเตอรี่ความจุ 3,000 mAh ทำให้การใช้งาน ASTON Thunder Cover Plus สามารถใช้งานได้สบาย ๆ ในหนึ่งวัน โดยเป็นการใช้งานโซเชียล, ถ่ายรูป และมีการเล่นเกมบ้างเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นการใช้งานหนัก ๆ อันนี้ก็แนะนำให้พก Powerbank ติดตัวไว้น่าจะดีกว่า