ถ้าพูดถึงชื่อ ZTE ในวงการมือถือบ้านเราอาจจะไม่ได้คุ้นหูมากนัก แต่ก่อนอื่นเลยสิ่งที่ต้องทราบเกี่ยวกับแบรนด์ ZTE คือมือถือ ZTE ทำตลาดแบบลับๆ ในบ้านเรามานานพอสมควรแล้ว แต่ไม่ใช่ผ่านแบรนด์ ZTE โดยตรง เป็นการผลิต OEM ให้กับ Dtac ครับ มือถือ Dtac Joey รุ่นต่างๆ นั่นแหละครับ OEM จาก ZTE ล้วนๆ เลย
สำหรับมือถือ ZTE ตัวที่เรานำมารีวิวให้รับชมกันนั้นเป็นอีกหนึ่งรุ่นที่เปิดราคาออกมาได้น่าสนใจ เป็นช่วงราคายอดฮิตที่ 5,790 บาท ถือว่าการแข่งขันสูงมาก เพราะตลาดในช่วงราคานี้ Asus Zenfone 5 กับ Acer Liquid Z500 ถือครองอยู่ แต่มือถือ ZTE อย่าง ZTE Blade Vec 3G มือถือในซีรี่ส์คุ้มค่า จอสวย ประสิทธิภาพแรงพอตัว เน้นใช้งานครบครัน โดยสเปคของ ZTE Blade Vec 3G ก็จะประมาณนี้ครับ
สเปค ZTE Blade Vec 3G
- ชิปประมวลผล MediaTek MT6582 quad-core ความเร็ว 1.3 GHz
- แรม 1 GB รอม 8 GB มีช่อง MicroSD
- หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720
- Android 4.4 KitKat
- กล้องหลัง 8 ล้าน กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
- ใช้งานได้ 2 ซิม รองรับ 3G?ทุกความถี่ (ใช้ 3G ได้แค่ซิมแรก)
- แบตเตอรี่ 2300 mAh
- มีวิทยุ FM
- ราคา 5,790 บาท
- สเปคเต็มๆ ZTE Blade Vec 3G
โดยเครื่องรีวิว ZTE Blade Vec 3G ที่ทาง SpecPhone ได้รับมานั้นได้มาแค่ตัวเครื่องเปล่าๆ เพราะเป็นเครื่องเดียวกับในงานเปิดตัว ZTE Blade Vec นั่นแหละครับ แต่คาดว่าเครื่องขายจริงของ ZTE Blade Vec 3G ก้ไม่น่าจะเปลี่ยนไปจากเครื่องรีวิว ZTE Blade Vec 3G ที่เราได้รับมาเท่าไหร่นัก ใช้อ้างอิงกันได้แน่นอนครับ
Design
ด้านหน้าของ ZTE Blade Vec 3G โดยรวมเป็นมือถือที่ดูบ้านๆ มาก แต่ความเฟี้ยวฟ้าวของ ZTE Blade Vec 3G อยู่ที่ฝาหลังลายเคฟลาร์ ให้ความรู้สึกแบบเดียวกับรถแต่งเลยหล่ะครับ สำหรับรายละเอียดด้านหน้าของ ZTE Blade Vec 3G จะค่อนข้างเรียบๆ ประกอบไปด้วยหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD ขอบจอค่อนข้างบางในระดับหนึ่ง ด้านบนของหน้าจอประกอบไปด้วยลำโพงสำหรับสนทนา, ไฟแจ้งเตือน LED?และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ด้านล่างของหน้าจอไม่มีปุ่มกดใดๆ เพราะปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App ใช้เป็นปุ่มกดแบบ Soft Key ที่กินพื้นที่หน้าจอส่วนล่างครับ
ด้านข้างของ ZTE Blade Vec 3G บริเวณส่วนบนและล่างจะมีลักษณะโค้งมน แอบคล้ายการดีไซน์แบบ Double C ของ Huawei เล็กๆ สำหรับรายละเอียดบริเวณด้านข้างของ?ZTE Blade Vec 3G เริ่มจากด้านขวามือจะประกอบไปด้วยปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง ด้านซ้ายมือเป็นช่องใส่ซิมจำนวน 2 ช่อง และช่องใส่ MicroSD Card ที่ต้องอาศัยเข็มจิ้มถาดซิมในการเปิด ด้านบนเป็นไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องเสียบสาย USB, ช่องเสียบหูฟัง และไมค์สำหรับสนทนาโทรศัพท์
ด้านหลังของ?ZTE Blade Vec 3G อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่าเป็นจุดเด่นที่สุดในการดีไซน์ของ?ZTE Blade Vec 3G เลยก็ว่าได้ครับ เพราะเล่นมาพร้อมฝาหลังลายเคฟล่าร์ที่ถือว่าแปลก และแหวกแนวแบบสุดๆ รายละเอียดบริเวณฝาหลังจะประกอบไปด้วยโลโก้ ZTE, กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช และลำโพงบริเวณมุมขวาล่างของฝาหลังครับ
สัมผัสของฝาหลัง?ZTE Blade Vec 3G เป็นอะไรที่ค่อนข้างประทับใจในมือถือเครื่องนี้ครับ สัมผัสที่ให้ค่อนข้างลงตัวเอามากๆ พื้นผิวไม่ลื่น ทำให้จับได้ถนัด ไม่เก็บลายนิ้วมือ และยังได้ความนุ่มมือในระดับที่ใกล้เคียงกับพื้นผิวแบบ Soft Touch อีกต่างหาก จัดเป็นมือถือที่ให้ฟิลลิ่งในการสัมผัสที่ดีเครื่องหนึ่งเลยหล่ะ
ดีไซน์โดยรวมก็เฉยๆ นะ แต่พอมาดูฝาหลังเคฟลาร์เท่านั้นแหละ…โอ้โหแหม่เลยครับ
ภาพรวมในส่วนของการออกแบบ, วัสดุ และงานประกอบของ ZTE Blade Vec 3G ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีในระดับของมือถือราคา 5,790 บาท วัสดุที่เลือกมาสมราคา งานประกอบแน่นหนาใช้ได้ ส่วนดีไซน์อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลครับ แต่ส่วนตัวผมมองว่าดีไซน์ของ ZTE Blade Vec 3G ทำออกมาได้น่าประทับนะครับ โดยเฉพาะฝาหลังลายเคฟลาร์ที่ให้ทั้งความโฉบเฉี่ยว และยังให้ผิวสัมผัสที่ดีในการใช้งานอีกด้วย
Software
ZTE Blade Vec 3G มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 4.4.2 Kitkat ส่วนตัว UI ไม่ได้มีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก ภาพรวมก็เหมือนแอนดรอยทั่วไปเลยครับ จริงๆ ต้องบอกว่ามันเหมือนกับรอมใน Nexus มากๆ แทบไม่มีความเปลี่ยนแปลงจากเดิมเลยแม้แต่น้อย ข้อดีก็คือได้เรื่องความลื่นครับ เพราะไม่มีการทำ UI ครอบทับให้เปลืองพลังในการประมวลผล ส่วนพวก Bloatware ก็มีน้อยมาก เน้นใช้งานง่ายครับ แต่ถ้าใครอยากได้ฟีเจอร์พิเศษ ตรงนี้ต้องบอกว่า ZTE Blade Vec 3G แทบจะไม่มีฟีเจอร์อะไรพิเศษไปจากมือถือแอนดรอยทั่วไปเลยครับ แต่เราสามารถหาโหลดแอพพลิเคชันเพิ่มจากใน Google Play ได้ครับ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีแอพพลิเคชันที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้เลือกโหลดมากกว่าเดิมแล้ว
ส่วนหน้าตาของซอฟท์แวร์ ZTE Blade Vec 3G ก็ประมาณนี้ครับ
Camera
เรื่องกล้องนี่จะถือว่าเป็นจุดเด่นของ ZTE Blade Vec 3G ก็ว่าได้ครับ เอาแค่ความละเอียดของกล้องหน้า-กล้องหลังก็กินขาดหลายแบรนด์ในช่วงราคาเดียวกันไปแล้ว เพราะ ZTE Blade Vec 3G มาพร้อมกับกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าก็จัดเต็มที่ 5 ล้านพิกเซลรองรับการเซลฟี่เต็มรูปแบบ โดยกล้องหลังของ ZTE Blade Vec 3G จะมาพร้อมกับโหมดต่างๆ ด้วยกัน 5 โหมด ดังนี้ครับ
- โหมด Auto พร้อม HDR
- Motion Track Mode – สำหรับบันทึกช็อตเคลื่อนไหวครับ
- โหมดหน้าสวย
- พาโนรามา
- Multi Angel View Mode
การใช้งานกล้องหลังของ ZTE Blade Vec 3G ก็ถือว่าทำออกมาได้ดีครับ ถ่ายรูปง่าย จับโฟกัสและลั่นชัตเตอร์ได้ไวพอสมควร คุณภาพของรูปถ่ายก็ถือว่าโอเคเลยสำหรับมือถือราคา 5,790 บาท โดยเฉพาะ HDR ในโหมด Auto นี่ฉลาดใช้ได้เลยครับ ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลของ ZTE Blade Vec 3G อย่างที่ได้บอกไว้ครับว่ารองรับการเซลฟี่เต็มรูปแบบ เนื่องจากตัวเซนเซอร์เป็นเลนส์มุมกว้างครับ แค่ยื่นแขนนิดเดียวก็ถ่ายรูปตัวเองได้ครึ่งตัวแล้ว ที่สำคัญคือมาพร้อมกับโหมดหน้าสวย ถ่ายกันฟรุ้งฟริ้งไปเลย และยังมีโหมด Smile Shutter ที่ตรวจจับรอยยิ้มแล้วลั่นชัตเตอร์ได้ทันทีไม่ต้องเอื้อมมือไปกดปุ่มชัตเตอร์ให้ลำบากครับ
สำหรับภาพถ่ายจากกล้องของ ZTE Blade Vec 3G สามารถรับชมได้จาก Gallery ได้เลยครับ
Performance
ประสิทธิภาพของ ZTE Blade Vec 3G ถ้าพูดถึงความแรงอันนี้ก็ต้องบอกว่าจัดอยู่ในระดับกลางๆ ครับ แต่ถ้าพูดถึงความคุ้มค่าต่อราคาค่าตัว 5,790 บาท ZTE Blade Vec 3G ถือว่าเป็นมือถือที่ให้สเปคมาคุ้มค่าเลยทีเดียว เพราะ CPU Quad Core ที่อยู่บน ZTE Blade Vec 3G ก็สามารถใช้งานได้ค่อนข้างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป, เล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Facebook, Twitter, Instagram, Line เป็นต้น) รวมถึงเอาไปใช้เล่นเกมก็ยังไหวครับ
โดยเกมที่ ZTE Blade Vec 3G สามารถเล่นได้นั้นมีเพียบเลยครับ เอาเป็นว่าเกมไหนที่สามารถดาวโหลดผ่าน Play Store ได้ ZTE Blade Vec 3G ก็เล่นได้หมดนั่นแหละ แต่ถ้าเป็นเกมที่กินกราฟฟิคเครื่องจัดๆ เช่นเกมรถแข่ง Asphalt 8 อันนี้ก็ต้องอยู่ที่การปรับตั้งค่าครับ (เล่น Asphalt 8 บน ZTE Blade Vec 3G ปรับกราฟฟิคระดับกลางนี่ลื่นหัวแตกเลย) ส่วนพวกเกม Line เช่น Cookie Run, Line Stage, Line เกมเศรษฐี อันนี้ไม่ใช่ปัญหาครับ ZTE Blade Vec 3G เล่นได้สบายๆ จิ๊บๆ
จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ ZTE Blade Vec 3G ก็คือเรื่องการจัดการพลังงานครับ ด้วยแบตเตอรี่ที่ให้มามากถึง 2300 mAh กับการจัดการพลังงานใน ?ROM ที่ทำออกมาได้ค่อนข้างดี ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้พลังงานมากครับ สามารถเล่นโซเชียล, เล่นเกมนิดหน่อยแก้เบื่อระหว่างทางได้สบายๆ โดยที่แบตเตอรี่ยังอยู่ครบวัน แทบไม่ต้องง้อ Power Bank เลยหล่ะครับ
Overall
มาถึงส่วนสุดท้ายของรีวิว ZTE Blade Vec 3G แล้วนะครับ สำหรับภาพรวมของมือถือ ZTE Blade Vec 3G ที่จะวางขายในบ้านเราประมาณกลางเดือนนี้ ส่วนตัวผมคิดว่า ZTE Blade Vec 3G เป็นมือถือที่ดีเครื่องหนึ่งครับ ดีไซน์ออกแบบมาได้แปลกและโดดเด่นพอตัวเลย สเปคก็ใช้ได้ แต่ติดนิดเดียวตรงที่วางขายช้าไป จะบอกว่าตกขบวนก็คงไม่ผิดนักครับ เพราะเอาจริงๆ มือถือในช่วงราคาไม่เกิน 6,000 บาทตอนนี้การแข่งขันสูงมาก และคู่แข่งบางยี่ห้อก็ให้สเปคไปไกลแล้ว อย่างน้อยที่สุดมือถือราคาไม่เกิน 6,000 บาทก็มีหลายรุ่นที่ให้แรม 2 GB มาใช้กันแล้ว ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องมาดูกันอีกทีครับ ว่าตอนวางขายจริง ZTE จะมีโปรโมชันโหดๆ มาช่วยกระตุ้นยอดขายหรือไม่ โดย ZTE Blade Vec 3G จะวางขายภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และในช่วงแรกจะวางขายเฉพาะใน Jaymart ก่อนครับ (รวมถึง ZTE รุ่นอื่นๆ ด้วย)
ข้อดี
- ดีไซน์แปลกตา ฝาหลังลายเคฟลาร์โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
- ตัวเครื่องน้ำหนักเบา
- หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว สีสันสดใจ เป็นหน้าจอที่สวยใช้ได้เลย
- กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซลคุณภาพของรูปถ่ายอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว
- กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลถ่ายเซลฟี่ได้สนุก มีโหมดหน้าสวย
- แบตเตอรี่อึดพอที่จะใช้งานหมดวันโดยไม่ต้องชาร์จ
ข้อสังเกต
- งานประกอบยังไม่ค่อยดี (อาจเป็นเฉพาะเครื่องรีวิวที่เป็นตัวโชว์)
- น่าจะให้แรมมา 2 GB