หนึ่งในอุปกรณ์เสริมที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่จะต้องซื้อทันทีหลังจากที่ซื้อมือถือ ก็คงหนีไม่พ้นเคสมือถือ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันริ้วรอย และความเสียหายที่จะเกิดกับตัวเครื่อง โดยเคสมือถือเดี๋ยวนี้ก็ผลิตจากวัสดุหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นซิลิโคน, หนัง, พลาสติก, โลหะ, TPU และอื่น ๆ แต่สำหรับเคสมือถือที่ผมจะมารีวิวจะเป็นเคสมือถือที่ใช้วัสดุเป็นโลหะ กับกระจกนิรภัยอย่างดี ที่สำคัญคือมันเป็นเคสที่ออกแบบมาเพื่อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus สีดำเงา Jet Black โดยเฉพาะ!!
ทำไม iPhone 7 สี Jet Black จะต้องใช้เคสรุ่นนี้?
จุดเด่นของ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus สีดำ Jet Black ก็คือมีพื้นผิวสีดำเงา (เป็นรอยง่ายมาก) และที่สำคัญคือมันเป็นสีดำที่กึ่ง ๆ Limited เพราะจะมีขายเฉพาะในรุ่นความจุ 128 GB ขึ้นไป ส่วนมากคนที่ซื้อ iPhone 7 สี Jet Black ก็มักจะต้องการโชว์ตัวเครื่องอยู่แล้ว SwitchEasy Glass จึงเกิดมาเพื่อการโชว์เครื่องที่สมบูรณ์แบบ
มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่า แบบนี้ใส่เคส TPU ใส หรือเคสพลาสติกใสก็จบแล้ว โชว์เครื่องได้เหมือนกัน แถมยังไม่ต้องจ่ายแพงอีกด้วย แต่ไม่ใช่สำหรับ iPhone 7 สี Jet Black เพราะถ้าเราใส่เคสใสธรรมดา มันจะเกิดปัญหาลายน้ำขึ้นทันที เนื่องจากตัวพื้นผิวที่เป็นสีดำเงา
แต่สิ่งที่ SwitchEasy Glass ทำก็คือเว้นช่องว่างระหว่างฝาหลัง iPhone 7 กับแผ่นกระจกนิรภัยไว้ประมาณ 0.8 มิลลิเมตร ซึ่งมันหนาพอดีกับเลนส์กล้อง iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ที่นูนขึ้นมาจากตัวเครื่อง ทำให้ SwitchEasy Glass สามารถปกป้องได้ทั้งฝาหลัง และเลนส์กล้องไปพร้อม ๆ กับการโชว์ความเป็น iPhone 7 สีดำ Jet Black เพราะตัวกระจกฝาหลังเองก็มีความโปร่งใส่สูงถึง 90%
อุปกรณ์ภายในกล่อง
SwitchEasy Glass มาในกล่องกระดาษสุดพรีเมียม สมกับราคา 1,690 บาทสำหรับ iPhone 7 Plus และราคา 1,590 บาทสำหรับ iPhone 7 เมื่อเปิดกล่องมาจะพบกับตัวเคส SwitchEasy Glass ที่มาพร้อมกับขอบเคสสีดำ ใช้วัสดุเป็นโลหะเกรดเดียวกับที่อยู่ในชิ้นส่วนอากาศยาน ส่วนอุปกรณ์ในกล่องก็ได้แก่
- เคส SwitchEasy Glass
- แผ่นปิดกันฝุ่น
- อุปกรณ์ทำความสะอาดหน้าจอ
- ฟิล์มกันรอยจาก SwitchEasy แบบปกติ
ตัวเคส SwitchEasy Glass จะประกอบไปด้วย 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่ฝาหลังที่เป็นกระจกนิรภัยแบบ 7H ทนทานต่อรอยขีดข่วนมากกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับเคสพลาสติกใส กับตัวเฟรมโลหะที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี Wireless Pass Thru หรือเทคโนโลยีการออกแบบที่ทำให้การรับสัญญาณยังคงเป็นไปอย่างปกติ เพราะถ้าเป็นเคสโลหะทั่วไป มักจะทำให้การรับสัญญาณแย่ลง ทั้งคลื่นมือถือและ Wi-Fi
วิธีการติดตั้ง
สำหรับวิธีการติดตั้ง SwitchEasy Glass ก็ไม่ยาก อันดับแรกเราต้องทำการติดแผ่นกันฝุ่นก่อน อย่างที่ผมได้เกริ่นไปแล้วว่า SwitchEasy Glass จะเว้นช่องว่างระหว่างฝาหลัง iPhone และแผ่นกระจกไว้ 0.8 มิลลิเมตร โดยช่องว่างที่ว่าก็จะอยู่บริเวณกล้องหลังนั่นเอง ส่วนเหตุผลที่ SwitchEasy ไม่ออกแบบให้มันปิดกล้องหลังไปเลยก็น่าจะเป็นเรื่องริ้วรอยที่จะเกิดกับตัวเครื่องนั่นเอง การเลือกใช้วัสดุเป็นแผ่นโฟมเล็ก ๆ แล้วให้มาติดเองดูจะเป็นทางออกที่ดีกว่า
หลังจากที่เราติดแผ่นกันฝุ่นเรียบร้อยแล้ว ในขั้นตอนตรงนี้แนะนำให้ใจเย็น ๆ ตอนติดครับ แล้วก็พยายามเล็งให้มันพอดีกับเส้นที่ออกแบบไว้ พยายามอย่าออกแรงกดมันเยอะ เพราะเราจะให้ตัวเครื่อง iPhone จัดการกดด้วยตัวเองด้วยการวาง iPhone ลงบนแผ่นกระจก จากนั้นก็ใส่เฟรมตามลงไป
วิธีการใส่เฟรมโลหะก็ให้เริ่มจากด้านล่างตัวเครื่องก่อนครับ มันจะมีสลักอยู่ แล้วจะไล่ไปถึงด้านบน จากนั้นก็ทำการเลื่อนปุ่มล็อกทางด้านบนของเคส ให้เป็นสัญลักษณ์แม่กุญแจล็อก เท่านี้ก็เป็นอันเรียบร้อยสำหรับ SwitchEasy Glass for Jet Black
SwitchEasy Glass ดีไหม ใช้แล้วเป็นยังไง?
ส่วนตัวผมใช้ SwitchEasy Glass มาตั้งแต่ซื้อเครื่อง iPhone 7 Plus เมื่อปลายปี 2016 ความรู้สึกแรกเลยคือตัวเครื่องมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นมาพอสมควร รวมถึงขนาดตัวเครื่องโดยรวมก็ใหญ่ขึ้นมาอีก และที่สำคัญคือมันลื่นกว่าเดิมพอสมควรเมื่อเทียบกับเคสแบบอื่น
ด้านการปกป้อง SwitchEasy Glass สามารถป้องกันริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นกับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus ได้ดี แต่ถ้าเป็นการปกป้องความเสียหายจากแรงกระแทก ผมว่า SwitchEasy Glass ยังทำได้ไม่ดีเท่าไหร่ ทั้งตัวเคสที่ไม่ได้คลุมพื้นที่ด้านหน้า และกระจกด้านหลังเองที่สามารถแตกร้าวได้ แต่ถ้าเป็นการตกจากขอบด้านข้าง ตรงนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะเฟรมโลหะของ SwitchEasy Glass นั้นแข็งแรงทนทานทีเดียว
ด้านความสวยงาม SwitchEasy Glass นั้นเกิดมาเพื่อ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus สีดำเงา Jet Black จริง ๆ ครับ เพราะหลังจากติดตั้งแล้วเราสามารถโชว์ความเงาของสีดำ Jet Black ได้แทบ 100% โดยที่ไม่มีปัญหาเรื่องลายน้ำ และไม่ต้องกังวลเรื่องรอยขนแมวที่มักจะเกิดขึ้นกับตัวเครื่อง
สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจ SwitchEasy Glass for Jet Black ก็สามารถหาซื้อได้ตามร้าน iStudio, dotLife และร้านมือถือชั้นนำทั่วไปครับ สนนราคาก็ 1,590 บาท (iPhone 7) และราคา 1,690 บาท (iPhone 7 Plus) ส่วนเรื่องอะไหล่ของ SwitchEasy Glass ทาง SwitchEasy ประเทศไทยก็ได้มีการสต็อกอะไหล่ไว้ในกรณีที่เสียหายด้วยครับ เท่าที่ทราบราคามา ตัวแผ่นกันฝุ่น จะมีขายเป็นแผง ราคาก็แผงละ 80 บาท หรืออย่างฝาหลังกระจกก็มีจำหน่ายแยกที่ราคา 350 บาท
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.facebook.com/sweasyth/