[Review] รีวิว Obi Worldphone SF1 มือถือแหวกแนวจากอดีตทีมงาน Apple ในราคา 7,290 บาท

วันนี้ผมมีมือถือจะมารีวิวให้ผู้อ่านทุกท่านได้อ่านกัน แต่ก่อนอื่นผมขอกล่าวถึงประวัติเล็กๆ น้อยๆ ของแบรนด์นี้สักนิดหนึ่งก่อน และแบรนด์นี้มีชื่อว่า Obi Worldphone นั่นเองครับ ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงจะเคยได้ยินชื่อนี้กันมาบ้างแล้วใช่ไหมล่ะครับ? Obi Worldphone เป็นแบรนด์มือถือแอนดรอยแบรนด์ใหม่ภายใต้การนำของ John Sculley ซึ่งเคยเป็นอดีต CEO ของ Apple นั่นเอง ไม่เพียงแค่อดีต CEO ของ Apple เท่านั้นยังรวมไปถึงเหล่าทีมออกแบบที่เคยทำงานให้กับ Apple อีกด้วย ซึ่ง Obi Worldphone ได้ถือกำเนิดขึ้นที่ Silicon Valley  เมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่ง Silicon Valley นั้นเป็นศูนย์รวมบริษัทไอทีชั้นนำของประเทศอเมริกานั่นเองครับ และเป็นแหล่งกำเนิดบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple

  • Obi Mobiles รุ่น SF1 เปิดขายวันที่ 8 ธันวาคมนี้ จำนวนจำกัด มาร่วมเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้สัมผัสมือถือสุด exclusive ได้ที่นี่ คลิกเลย

เอาหละครับพอทราบประวัติของบริษัทนี้กันอย่างคร่าวๆ แล้วกลับมาสู่การรีวิวของเรากันต่อดีกว่า วันนี้ผมได้รับเกียรติจาก Obi Worldphone ให้มารีวิวมือถือสุดแหวกแนวรุ่นแรกของพวกเขาและมือถือที่ว่านั่นคือ Obi Worldphone SF1  โดยคำว่า SF นั้นย่อมาจาก San Francisco แหล่งกำเนิดและเป็นที่ตั้งของบริษัทแม่ของ Obi Worldphone อีกด้วย เครื่องที่เราจะนำมารีวิวนั้นเป็นรุ่นแรม 2 GB หน่วยความจำภายใน 16 GB โดยจะวางจำหน่ายทาง Lazada ที่เดียวเท่านั้น จะไม่มีวางจำหน่ายตามห้างร้านทั่วไป และสเปคของ Obi Worldphone SF1 มีสเปคดังต่อไปนี้

สเปคของ Obi Worldphone SF1 

  • ชิปประมวลผล Qualcomm® MSM8939 Snapdragon 615 octa-core ความเร็ว 1.5 GHz
  • GPU: Adreno 405
  • หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด Full HD พร้อมกระจก Gorilla Glass 4
  • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED
  • กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล f/2.0 เซนเซอร์ Sony IMX214 พร้อมแฟลช LED
  • RAM: 2 GB
  • หน่วยความจำภายใน 16 GB
  • แบตเตอรี่ 3,000 mAh แบบไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้
  • รองรับ 2 ซิมแบบ Micro-SIM และ Nano-Sim (ต้องเลือกว่าจะใส่ Nano หรือ MicroSD สูงสุด 64 GB)
  • Android 5.0
  • รองรับคลื่นความถี่ GSM: 850/900/1800/1900 MHz , WCDMA: 850/900/1900/2100 MHz , 4G LTE: FDD B3 1800 MHz & TDD B40 2300 MHz
  • ราคา 7,290 บาท

Unbox-Obi-SF1-Ram-3-GB-SpecPhone-005

กล่องของ  Obi Worldphone SF1  นั้นมาในดีไซน์ที่ล้ำสมัยไม่เหมือนใคร เพราะไม่ใช่กล่องกระดาษกิ๊กก๊อกเหมือนมือถือยี่ห้ออื่นๆ ที่เราพบเห็นกันอยู่บ่อยๆ กล่องของ Obi Worldphone SF1  นั้นจะโชว์ตัวเครื่องถึง 360 องศาให้เรานั้นได้เห็นตัวเครื่องแบบเต็มๆ ก่อนซื้อมาใช้งาน และตัวกล่องนั้นทำจากพลาสติกใสที่มีความแข็งแรงมีกลิ่นอายชวนให้นึกถึงกล่องของ iPhone จาก Apple ในยุคแรกๆ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นกล่องกระดาษในยุคหลังๆ

การเปิดกล่องของ  Obi Worldphone SF1  นั้นก็ไม่เหมือนใครคือเราต้องลอกกระดาษกาวที่ด้านล่างของกล่องออกก่อนจึงจะเปิดกล่องได้ เมื่อเปิดกล่องออกมาแล้วภายในกล่องจะมีอุปกรณ์มาตรฐานอย่าง อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่ สายชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์แบบ Micro USB  คู่มือการใช้งาน และเข็มจิ้มเพื่อใส่ซิม แต่สิ่งที่สังเกตอย่างเห็นได้ชัดคือภายในกล่องนั้นไม่มีหูฟังขนาด 3.5 มม. ใส่มาให้ดังนั้นเราต้องซื้อหูฟังมาใช้งานเพิ่มเติมครับ

จุดเด่น

– ดีไซน์สวยงาม แปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร
– หน้าจอ JDI Full HD
– แรม 2 GB
– กล้องถ่ายรูปมีลูกเล่นหลากหลาย
– มีระบบเสียง Dolby Audio
– แบตเตอรี่ใช้งานได้อย่างยาวนาน

ข้อสังเกต

– ซีพียู Snapdragon 615 มีการกระตุกในบางแอพพลิเคชั่น
– รอม 16 GB ถือว่ายังไม่เยอะเท่าไร
– ลำโพงเมื่อเปิดดังสุดจะได้ยินเสียงแตกเล็กๆ
– เซนเซอร์ตอบสนองช้าในบางเวลา
– ปุ่มควบคุมหลักอยู่บนหน้าจอ

บทสรุป

Obi Worldphone SF1 เป็นมือถือที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมากอีกหนึ่งรุ่น เพราะนอกจากดีไซน์ของตัวเครื่องที่โดดเด่นแล้ว เรื่องของสเปคที่ให้มานั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าเรื่องของดีไซน์เลย เผลอๆ อาจดีกว่ามือถือราคาแพงๆ ที่ใช้ซีพียูรุ่นนี้อีกหลายรุ่น เรียกว่างานนี้ Obi เริ่มต้นได้อย่างน่าสนใจ หรืออาจจะประทับใจใครบางคนเข้าแล้วก็เป็นได้ สำหรับมือถือราคาไม่เกิน 8,000 บาท Obi Worldphone SF1 จะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวเลยล่ะครับ และ Obi Worldphone SF1  จะวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการเฉพาะที่ Lazada เท่านั้น
Editor : Nookies
80
BEST DESIGN

Design

OBI 4

OBI 5

 “Obi Worldphone SF1 ดีไซน์

แหวกแนวไม่ซ้ำใคร”

OBI 10

มาเริ่มกันที่ดีไซน์ของตัวเครื่องกันก่อนดีกว่าครับ ตัวเครื่องของ  Obi Worldphone SF1 นั้นทำจากไฟเบอร์กลาสและโลหะ ซึ่งผมต้องบอกว่าออกแบบตัวเครื่องได้แปลกมาก เพราะลักษณะของการออกแบบนั้นเหมือนกับการนำมือถือสองเครื่องมารวมไว้ในเครื่องเดียว ชนิดที่ว่าบรรยายไม่ถูกกันเลยครับ แต่เรียกว่าตัวเครื่องสวยออกแบบได้ดี

ด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นหน้าจอ JDI In-Cell IPS ขนาด 5 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD พร้อมด้วยเทคโนโลยี Fully-Laminated OGS (One Glass Solution) คือ การรวมเซ็นเซอร์ของระบบสัมผัสเอาไว้ในเนื้อกระจก ส่งผลให้หน้าจอนั้นมีความเบาบาง ไวต่อการสัมผัสมากยิ่งขึ้น ขอบของหน้าจอนั้นจะยื่นออกมาจากตัวเครื่องด้านหน้าเล็กน้อยซึ่งเป็นจุดเด่น

ที่สังเกตได้อย่างง่ายดาย และเป็นดีไซน์ใหม่ที่ยังไม่มีใครเคยทำมาก่อนอีกด้วย กระจกของหน้าจอนั้นใช้ Gorilla Glass 4 เหมือนอย่างที่มือถือเรือธงนั้นกำลังใช็อยู่ในตอนนี้ด้านบนของหน้าจอจะเป็นลำโพงสนทนาใกล้กันเป็นกล้องถ่ายรูปความละเอียดขนาด 5 ล้านพิกเซล และแฟลชแบบ LED เพื่อให้ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพแบบ Selfie ในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น

ใกล้กับกล้องจะเป็นเซ็นเซอร์ Accelerometer Sensor ที่ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้ และเซ็นเซอร์ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงานแบตเตอรี่จากการเปิดหน้าจอในขณะที่ผู้ใช้งานนั้นกำลังสนทนาโทรศัพท์

ด้านล่างของหน้าจอนั้นจะไม่มีปุ่มควบคุมใดๆ จะเป็นพื้นที่โล่งๆ ในสัดส่วนที่เท่ากับพื้นที่ด้าบบนของหน้าจอ ปุ่มควบคุมหลักของตัวเครื่องได้แก่ปุ่ม Home,Recent และปุ่ม Back ทั้งสามปุ่มนั้นจะอยู่ในหน้าจอ และมาในดีไซน์ตามแบบฉบับ Material Design ของ Android 5.0 Lollipop ที่ปุ่มควบคุมนั้นจะอยู่ภายในจอทั้งหมด และจะซ่อนตัวเมื่อผู้ใช้งานเปิดแอพพลิเคชั่น ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแอพพลิเคชั่นว่าจะให้ปุ่มเหล่านี้ซ่อนตัวหรือไม่เมื่อผู้ใช้งานเปิดแอพ

ด้านข้างของตัวเครื่องจะมาในดีไซน์โค้งมนเรียบไปกับด้านหน้าและด้านหลังของตัวเครื่อง ซึ่งให้ความรู็สึกที่ดีมากๆ เวลาถือในมือ ด้านซ้ายของตัวเครื่องนั้นจะเป็นปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่มเปิด/ปิด ที่จะยื่นออกมาเล็กน้อยเพื่อให้สามารถควบคุมได้อย่างถนัดมือมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

OBI 14

ด้านขวาของตัวเครื่องจะมีถาดใส่ซิมการ์ด ซึ่งซิมการ์ดที่ใช้จะเป็นแบบ microSIM ในช่องซิมการ์ดที่ 1 และแบบ nanoSIM ในช่องซิมการ์ดที่ 2 โดยในช่องที่ 2 จะต้องเลือกใช้งานระหว่างซิมการ์ด หรือเพิ่มหน่วยความจำภายนอก จะไม่สามารถใช้งานพร้อมๆ กันได้ ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่สำคัญในการใช้งาน ด้านบนของ Obi Worldphone SF1 จะเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. ใกล้กันเป็นไมค์ตัดเสียงรบกวนภายนอกในขณะผู้ใช้งานนั้นทำการสนทนาโทรศัพท์ วัสดุด้านบนของตัวเครื่องนั้นใช้โลหะเป็นส่วนประกอบเช่นเดียวกับส่วนอื่นๆ ดีไซน์ของด้านบนนั้นจะราบเรียบไม่เหมือนกับดีไซน์ในส่วนอื่นๆ ที่โค้งมน

และที่ด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นลักษณะโค้งมนรับกับด้านข้างทั้งสองด้านของตัวเครื่อง และจะต่างจากด้านบนที่มีดีไซน์เรียบ ถ้าจะว่าไปแล้วตัวเครื่องนั้นออกแบบคล้ายกับตัว U ที่ด้านล่างโค้งมนแต่ด้านบนเหลี่ยม ด้านล่างของ Obi Worldphone SF1 นั้นจะมีช่องลำโพงขนาดใหญ่ 2 ช่องด้วยกัน และตรงกลางของด้านล่างนั้นจะเป็นช่องสำหรับชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เพื่อทำการถ่ายโอนข้อมูลต่าง ๆ ที่ผู้ใช้งานนั้นต้องการ

OBI 15

ด้านหลังของ Obi Worldphone SF1 นั้นจะมีกล้องขนาด 13 ล้านพิกเซลซึ่งใช้เซ็นเซอร์รับภาพคุณภาพสูงแบบ Sony Exmor IMX214 กับขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ F/2.0 พร้อมไฟแฟลช LED พื้นผิวบริเวณด้านหลังและโดยรอบของตัวเครื่องนั้นให้ความรู้สึกแบบ Soft Touch ลื่นมือและเราจะสังเกตเห็นโลโก้ Obi อยู่ที่มุมขวาล่างของด้านหลังและเมื่อลองสังเกตดูดีๆ แล้วจะเห็นประโยคว่า Designed in San Francisco  ที่จะเป็นเครื่องยืนยันว่า Obi Worldphone SF1  ได้ออกแบบขึ้นที่ประเทศอเมริกาจริงๆ  และในส่วนของการผลิตนั้นจะใช้ประเทศจีนเป็นฐานในการผลิตมือถือออกมาสู่ท้องตลาด

Obi Worldphone SF1 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh  ซึ่งเมื่อดูจากด้านหลังของตัวเครื่องแล้วจะเห็นช่องที่คล้ายกับฝาหลังของตัวเครื่อง แต่อันที่จริงแล้วเป็นเพียงดีไซน์ของตัวเครื่องเท่านั้นเนื่องจากในรุ่นนี้นั้นไม่สามารถถอดแบตเตอรี่ออกได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นอย่าเผลอแกะเล่นเป็นอันขาด

ในแง่ของการพกพาไปตามที่ต่างๆ นั้นก็สามารถทำได้อย่างง่ายๆ เพราะ Obi Worldphone SF1  นั้นมีขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 146 x 74 x 8 มิลลิเมตร และมีน้ำหนัก 147 กรัมเท่านั้น ดังนั้นในเรื่องของการพกพาไปตามที่ต่างนั้นไม่เป็นภาระอย่างแน่นอน การจับถือตัวเครื่องนั้นก็ทำได้อย่างถนัดมือ เพราะด้วยดีไซน์ที่โค้งมนของตัวเครื่องและพื้นผิวแบบ Soft Touch ที่เป็นมิตรกับมือของเรา ทำให้แม้แต่ผมเองก็ยังถือติดมืออยู่บ่อยๆ เหมือนกัน การพกพาไปตามที่ต่างๆ นั้นก็สามารถทำอย่างง่ายดายไม่ว่าจะใส่เป้กระเป๋าสะพายเดินไปไหนมาไหนก็พกพาได้อย่างสะดวกมากๆ เลยล่ะครับ

Software

OBI 19

ในเรื่องของซอฟท์แวร์นั้น Obi Worldphone SF1 มาพร้อมกับ Android 5.0.2 ครอบทับด้วย UI จาก Obi Worldphone ที่ใช้งานได้อย่างลื่นไหลและรองรับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ได้อย่างไร้กังวล หน้าตาของ UI นั้นเน้นที่ความเรียบง่าย สบายตา อีกทั้งยังมีฟังก์ชันสำหรับการแจ้งเตือนต่างๆ และสามารถ เปิด-ปิด ฟังก์ชันลัดได้หลากหลาย เช่น GPS,การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และ WiFi แอพที่มีให้จากทาง Google ก็ครบครันไม่ว่าจะเป็น Google,Google

Screenshot_2015-12-07-12-22-26-horz

Chrome,Gmail,Youtube,Maps เรียกว่าแอพพลิเคชั่นหลักๆ นั้นมีให้ใช้กันอย่างครบครันเลยล่ะครับ และนอกจากนี้ยังมีซอฟท์แวร์อย่าง Dolby Audio ที่จะมาทำให้ระบบเสียงนั้นทรงพลังมากขึ้นไปอีกด้วย เรื่องของแอพที่มีติดเครื่อมานั้นก็ไม่ได้มีเยอะจนเกินไปและที่สำคัญคือหากเราไม่ชอบแอพที่ติดเครื่องมานั้นเราสามารถเลือกที่จะลบออกไปได้ครับ ตรงนี้ถือว่าเป็นความยืดหยุ่นที่ดีที่  Obi Worldphone นั้นให้อิสระกับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

Feature

OBI 6

มาพูดถึงฟีเจอร์หรือลูกเล่นกันบ้างครับ Obi Worldphone SF1 มาพร้อมฟีเจอร์ที่เรียกว่ามีประโยชน์หลายฟีเจอร์ด้วยกัน ทั้งเรื่องของกล้องถ่ายภาพ เรื่องของระบบเสียงที่ทรงพลัง และยังมีเรื่องของ Motion Control เพิ่มเข้ามาอีกด้วย เรียกว่าเพียงแค่นี้ก็ทำให่มือถือรุ่นนี้เป็นที่สนใจของใครหลายๆ คนได้ไม่ยากแล้วล่ะครับ ฟีเจอร์เด่นๆ จะมีอะไร และน่าสนใจขนาดไหนติดตามกันได้เลยครับ

Dolby Audio

feat

เป็นฟีเจอร์แรกที่ต้องกล่าวถึงเลยครับ เพราะนี่คือ Dolby Audio หรือระบบเสียงขั้นเทพที่เราได้ยินประสิทธิภาพของมันทุกครั้งเวลาที่เราไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ และ Dolby Audio ได้ถูกย่อส่วนมาไว้ใน Obi Worldphone SF1 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเปิดการทำงานของ Dolby Audio จะพบว่าเสียงที่ออกมานั้นมีมิติมากยิ่งขึ้น แต่การที่จะสัมผัสเสียงที่ดีขึ้นได้อย่างชัดเจนเราอาจจะต้องหาซื้อหูฟังที่มีคุณภาพดีอยู่ซักหน่อยจึงจะเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ย่านเสียงต่ำ เสียงกลาง และเสียงสูงนั้นมาอย่างครบครัน เป็นฟีเจอร์ที่จะทำให้การฟังเพลง ดูหนัง หรือเล่นเกมนั้นได้อรรถรสถึงใจมากยิ่งขึ้น

Smart Function

Smart Function หรือฟังก์ชั่นการใช้งานอัจฉริยะ เป็นหนึ่งฟีเจอร์ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก โดยการทำงานของฟังก์ชั่นนี้จะเน้นไปในส่วนของการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน และเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์เป็นอย่างมาก เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่ทำให้ Obi Worldphone SF1 นั้นมีความน่าสนใจกว่ามือถือในราคาใกล้เคียงกัน โดยฟังก์ชั่นหลักๆ ที่น่าสนใจได้แก่ Snap Photo ที่ใช้การโบกมือเพื่อเปลี่ยนรูปภาพที่กำลังดูใน Gallery โดยไม่ต้องสัมผัสกับหน้าจอโดยตรง เรียกว่าเป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์ในการใช้งานในแต่ละวัน แต่ติดตรงที่ว่าในบางครั้งเซนเซอร์มีการทำงานผิดพลาดเกิดขึ้น แต่ก็ไม่บ่อยเท่าใดนัก

Camera

OBI 18

มาถึงเรื่องของกล้องถ่ายภาพกันบ้างครับ  Obi Worldphone SF1 มาพร้อมกล้องถ่ายถาพขนาด 13 ล้านพิกเซลและใช้เซนเซอร์ความละเอียดสูงอย่าง Sony IMX214 มาช่วยให้ถ่ายภาพบน  Obi Worldphone SF1 นั้นทำได้ดีขึ้น ฟีเจอร์ในส่วนของกล้องถ่ายภาพนั้นก็มีฟีเจอร์เด่นๆ อย่าง IQ Camera ที่มาพร้อมลูกเล่นอย่าง Refocus,Chroma Flash,Opti zoom ที่มีอยู่ใน Obi Worldphone SF1 และมีหลักการทำงานดังนี้

  • Refocus เป็นฟีเจอร์ที่ให้เราสามารถเลือกจุดโฟกัสที่ต้องการได้ใหม่หลังจากเราทำการถ่ายภาพเหล่านั้นไปแล้ว หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆ ว่าการทำหน้าชัดหลังเบลอนั่นเอง ซึ่งสามารถทำได้แล้วบน  Obi Worldphone SF1 ไม่จำเป็นต้องเป็นมือถือราคาแพงอีกแล้ว
  • Chroma Flash  เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยในการถ่ายภาพในที่มืด ที่ะต้องการใช้แฟลชในการถ่ายภาพ และการถ่ายแบบใช้แฟลชปกติ จะทำให้ภาพมืดและสว่างไม่เท่ากัน แต่การใช้โหมด Chroma Flash จะทำให้ภาพมีความสวยงามยิ่งขึ้นเพราะการในงานในโหมดนี้จะกระจายแสงแฟลชทั่วทั้งภาพ ทำให้ภาพที่ออกมานั้นดียิ่งขึ้น
  • Opti zoom ในโหมดนี้จะเสมือนว่ามีเลนส์ซูมติดมากับ Obi Worldphone SF1 ด้วยเพราะสามารถซูมภาพที่อยู่ในระยะไกล และถ่ายออกมาได้อย่างคมชัดในทุกระยะ เราสามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ได้โดยการเข้าไปที่กล้องถ่ายภาพ จากนนั้นกด Auto จะมีรายการโผล่ขึ้นมาให้เลือก

และนอกจากฟีเจอร์นี้แล้วยังมีโหมดต่างๆ ให้เรานั้นได้เลือกใช้กันอีกมากมายอย่างเช่น แนวตั้ง,กีฬา,ดอกไม้,แสงแบ็คไลท์ และอื่นๆ เรียกว่าโหมดการใช้งานนั้นมีมาให้เพียบเลย และนี่คือตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Obi Worldphone SF1 ที่ผมนำมาฝากกันครับ

Performance

Unbox-Obi-SF1-Ram-3-GB-SpecPhone-018

มาพูดถึงเรื่องของประสิทธิภาพกันบ้างครับ  Obi Worldphone SF1 มาพร้อมกับซีพียู Snapdragon 615 octa-core ความเร็ว 1.5 GHz ที่ทำงานได้อย่างลื่นไหล แรมที่ให้มา 2 GB นั้นก็สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพการทำงาน และเมื่อได้ทำการทดสอบด้วย Antutu Benchmark ก็พบว่า Obi Worldphone SF1  เครื่องที่ทางเราได้นำมารีวิวนั้นสามารถทำคะแนนได้ที่ 32,533 คะแนน ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ สำหรับมือถือที่ใช้ซีพียู Snapdragon 615 นั้นคะแนนที่ได้ก็จะอยู่ประมาณนี้ รับรองว่าความเร็วของตัวเครื่องนั้นไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ที่ใช้ซีพียูเดียวกันนี้อย่างแน่นอน

Screenshot_2015-12-07-20-48-00-tile

และเมื่อผมได้ทดสอบประสิทธิภาพของ Obi Worldphone SF1  ด้วยการเล่นเกมหนักๆ อย่าง Modern Combat 5 และ Subway Surfers แล้วกลับพบว่าในบางฉากของเกมนั้นเกิดการกระตุกขึ้นเป็นระยะ ตามแบบฉบับของซีพียู Snapdragon 615 ทียังคงมีปัญหานี้อยู่ แต่ก็ไม่ได้ถึงขนาดว่าเล่นไม่ได้เลยแต่อย่างใด

Obi Worldphone SF1  มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 3,000 mAh ที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานในตลอดหนึ่งวัน และในรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Quick Charge 1.0 ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึนอีกด้วย ต้องขอชื่นชมว่า Obi Worldphone SF1 นั้นจัดว่าเป็นมือถือที่มีดีรอบตัว เพราะเมื่อเราพิจารณาจากราคาของตัวเครื่องที่ 7,290 บาท เทียบกับสิ่งที่ได้จากการเสียเงินจำนวนนี้ถือว่าคุ้มค่าที่จะเสียแล้วล่ะครับ

สำหรับเพื่อนๆ ที่สนใสซื้อ Obi Worldphone SF1 ก็สามารถซื้อได้กับทาง Lazada เท่านั้นครับ ส่วนทางไปซื้อมือถือ Obi Worldphone SF1 ก็ คลิกเลย!!

Gallery

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก