สำหรับตลาดมือถือบ้านเราในตอนนี้ ช่วงราคาที่โดดเด่นและมีการแข่งขันสูงช่วงราคาหนึ่ง ก็คงจะเป็นมือถือในช่วงราคาประมาณ 7,000 – 10,000 บาท เนื่องจากเป็นช่วงราคาที่ไม่แพงจนเกินไป และยังได้โทรศัพท์มือถือที่มีสมรรถณะที่ดี ใช้งานได้หลากหลาย ทั้งการเอนเตอร์เทนและการทำงาน อีกทั้งสเปคที่ได้ก็แตกต่างจากพวกมือถือราคาหมื่นบาทขึ้นไปไม่มาก อาจโดนตัดโน่นนี่นิดหน่อย แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่รับได้
Lenovo K4 Note ก็เป็นโทรศัพท์มือถืออีกรุ่นที่น่าสนใจในช่วงราคาดังกล่าวเช่นกัน ด้วยสเปคที่ให้มาครบๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอขนาดใหญ่, แบตเตอรี่อึด 3300 mAh, Ram 3 GB และยังมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือติดมาให้อีกต่างหาก เรียกว่าเป็นมือถือในฝันของหลายๆ คนเลยทีเดียว เพราะราคาของ Lenovo K4 Note นั้นอยู่ที่ 7,590 บาทเท่านั้น
สเปค Lenovo K4 Note
- หน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD
- ซีพียู MediaTek MT6753 แบบ Octa Core ความเร็ว 1.3 GHz
- แรม 3 GB
- หน่วยความจำภายใน 16 GB (รองรับการใช้งาน Micro SD สูงสุด 128 GB)
- กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED แบบ Dual Tone
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- รองรับการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปดล็อคตัวเครื่่อง
- รองรับการใช้งาน 2 ซิมและ 4G LTE
- แบตเตอรี่ความจุ 3,300 mAh
- ราคา 7,590 บาท
- สเปคของ Lenovo K4 Note แบบเต็ม
อันดับแรกต้องขอขอบคุณ Lenovo Mobile ประเทศไทยที่ส่งเครื่อง Lenovo K4 Note พร้อม Lenovo ANTVR มาให้ทีมงาน SpecPhone.com ได้รีวิว โดยตัวเครื่องที่ส่งมาให้นั้นเป็นเครื่องแบบเดียวกับที่ขายเลยครับ กล่องของ Lenovo K4 Note นั้นจะมาแบบเรียบง่ายเหมือนเช่นเคย เมื่อเปิดกล่องออกมาเราจะพบกับอุปกรณ์ที่ทาง Lenovo แถมมาให้ภายในกล่อง ซึ่งก็จะประกอบด้วย อะแดปเตอร์ชาร์จแบตเตอรี่,สาย Micro USB , ฟิล์มกันรอยหน้าจอ และ เคสกันรอยตัวเครื่อง มีแค่เพียงหูฟังแบบ 3.5 มม. เท่านั้นที่ไม่ได้แถมมาให้ รวมไปถึงแว่น Lenovo ANTVR ที่จะต้องซื้อพร้อมกับตัวเครื่อง ซึ่งเท่ากับว่าแว่น Lenovo ANTVR นั้นไม่มีขายแยกนั่นเอง โดยเราจะต้องเพิ่มเงินอีก 700 บาททำให้ราคาของตัวเครื่องพร้อมแว่น Lenovo ANTVR นั้นอยู่ที่ 8,290 บาท และมาพูดถึงส่วนแรกของการรีวิวนั่นคือเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนเลยดีกว่าครับ
จุดเด่น
– มาพร้อมเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
– รองรับการใช้งาน 2 ซิม
– ลำโพงเสียงดังฟังชัดเจน
– มีฟีเจอร์เจ๋งๆอย่าง VR
– ราคาไม่แพงเกินไป
ข้อสังเกต
– กล่อยถ่ายในที่แสงน้อยได้ไม่ค่อยดี
– ซีพียูประมวลผลค่อนข้างช้า
– ราคานี้ยังมีตัวเลือกอีกหลายรุ่น
– ลูกเล่นของเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือยังมีน้อยเมื่อเทียบกํบคู่แข่งหลายๆ แบรนด์
บทสรุป
สรุปได้ว่า Lenovo K4 Note เป็นมือถือที่ไม่เหมาะกับการเล่นเกมหนักๆ แต่เกมธรรมดาทั่วๆ ไปนั้นสามารถเล่นได้อย่างราบรื่น ส่วนตัวผมคิดว่าจะดีกว่านี้หาก Lenovo ปรับปรุงแก้ไขในเรื่องของสเปคบางส่วนให้สมกับราคาของตัวเครื่องมากกว่านี้ อย่างเช่นเรื่องของซีพียูที่หากใช้ Snapdragon 615 ก็อาจจะทำให้ Lenovo K4 Note นั้นเล่นเกมได้ดีกว่านี้ ส่วนเรื่องของการถ่ายภาพนั้นหากจัดการแก้ไขในเรื่องของซอฟท์แวร์ของกล้องถ่ายภาพก็อาจทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ในภาพด้วยเช่นกัน และเรื่องสุดท้ายคือเรื่องของราคาวางจำหน่ายของ Lenovo K4 Note ซึ่งยังมีมือถืออีกหลายรุ่นที่เปิดตัวในราคาใกล้เคียงกันแต่มาพร้อมสเปคตัวเครื่องที่สูงกว่านี้ แต่หากไม่ติดใจในเรื่องของสเปคตัวเครื่อง Lenovo K4 Note จัดว่าเป็นมือถือที่ใช้งานได้ดีเครื่องหนึ่งเลยล่ะครับ
BEST DESIGN
Design
เริ่มกันที่เรื่องแรกนั่นคือเรื่องของดีไซน์ตัวเครื่อง Lenovo K4 Note มาพร้อมกับดีไซน์ที่ใกล้เคียงกับ Lenovo Vibe X3 แต่ต่างกันที่วัสดุที่ใช้ในการประกอบซึ่ง Lenovo Vibe X3 จะใช้บอดี้แบบโลหะส่วน Lenovo K4 Note จะมาพร้อมบอดี้แบบโพลีคาร์บอเนต ซุึ่งก็ถือว่าตัวเครื่องนั้นดูดีไม่แพ้กัน ด้านหน้าของ Lenovo K4 Note จะประกอบด้วยหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว ความละเอียดแบบ Full HD ในเรื่องของมุมมองนั้นถือว่าสอบผ่านได้อย่างง่ายดาย
เพราะหน้าจอแบบ IPS นั้นมีมุมมองกว้างถึง 178 องศาทำให้ไม่ว่าจะมุมไหนเราก็มองหน้าจอของ Lenovo K4 Note ได้อย่างชัดเจน เรื่องของสีสันของหน้าจอก็ถือว่าความสดใสของหน้าจอนั้นทำได้ดีตามไสตล์ของจอแบบ IPS เร่องของความคมชัดของภาพนั้นก็เต็มประสิทธิภาพของความละเอียดแบบ Full HD ทำให้ Lenovo K4 Note เป็นมือถือจอใหญ่ ภาพคมชัด และสีสันสดใส รับรองว่าเรื่องของหน้าจอนั้น Lenovo K4 Note ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
ด้านบนของหน้าจอนั้นจะเป็นตำแหน่งของช่องลำโพงสนทนาและยังมาพร้อมกับลำโพงตัวเครื่องที่ดำแหน่งเดียวกันอีกด้วย เนื่องจาก Lenovo K4 Note เป็นมือถือที่มาพร้อมกับลำโพงคู่ที่ด้านหน้าของตัวเครื่องนั่นเอง เสียงที่ออกมาจากลำโพงนั้นดังเอาเรื่องเลยล่ะครับ บอกตรงๆว่าผมเองนันรู้สึกแปลกใจมากเมื่อได้ยินเสียงจากลำโพงคู่ของ Lenovo K4 Note เพราะเสียงจากลำโพงทั้งสองข้างนันดังเท่าๆกันเลย ไม่เหมือนกับมือถือลำโพงคู่บางรุ่นที่ลำโพงทั้งสองข้างนั้นดังไม่เท่ากัน ซึ่งส่วนใหญ่แล้วลำโพงด้านล่างจะดังกว่าลำโพงด้านบนเสมอๆ
และด้วยความสงสัยในเรื่องของคุณภาพเสียงผมจึงได้ทดลองฟังเพลงหลายๆแนว ตั้งแต่แนว Pop ไปจนถึง Dubstep ก็พบว่าไม่มีเสียงแตกซ่าออกมาจากลำโพงของ Lenovo K4 Note เลยสักนิด ถึงแม้จะเปิดที่ความดังสูงสุดก็ตาม ถือว่าตรงนี้น่าประทับใจมาก และเมื่อผมได้ลองเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. เข้าไปกับ Lenovo K4 Note ก็ได้สะดุดตากับสัญลักษณ์ Hi-Fi ที่ได้โผล่ขึ้นมาและแน่นอนว่าเมื่อผมได้ทดสอบกับลำโพงตัวเครื่องไปแล้ว ครั้งนี้ต้องถึงคราวของเสียงที่ออกมาผ่านหูฟังกันบ้าง ส่วนเสียงจะดีหรือไม่ก็ฃึ้นอยู่กับหูฟังที่เราใช้งานด้วยเช่นกัน
และเมื่อผมได้ทำการทดสอบโดยการฟังเพลงผ่านหูฟังด้วยไฟล์เพลงความละเอียดสูงก็พบว่าเสียงที่ออกมานั้นจะอยู่ในโทนกลางๆ ฟังง่าย สบายๆ แต่ถ้าโหลดแอพอย่าง Poweramp มาใช้รับรองว่าเสียงดีแน่นอน สรุปว่าในเรื่องของระบบเสียงของ Lenovo K4 Note นั้นสำหรับผมถือว่าสอบผ่านเลย ซึ่งส่วนยากนั้นอยู่ที่ลำโพงของตัวเครื่อง เพราะว่าเราไม่สามารถปรับแต่งอะไรได้เลย ส่วนในเรื่องของการฟังเพลงผ่านหูฟังยังมีแอพพลิเคชั่นที่ช่วยแก้ปัญหาได้
นอกจากจุดเด่นในเรื่องของระบบเสียงแล้วด้านบนของหน้าจอยังประกอบด้วยกล้องขนาด 5 ล้านพิกเซลซึ่งไม่มีแฟลช LED ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในที่แสงน้อยเข้ามา ดังนั้นการถ่ายภาพในที่แสงน้อยนั้นอาจจะมีปัญหาอยู่บ้างซึ่งผมจะพูดในหัวข้อ Camera กันต่อไป และใกล้ๆกับกล้องถ่ายภาพจะเป็นไฟ LED ที่จะติดขึ้นเมื่อมีการแจ้งเตือนต่างๆ พร้อมกับเซนเซอร์ปรับสภาพแสงแบบอัตโนมัติ และเซนเซอร์ปิดหน้าจอในขณะที่ทำการสนทนา
ด้านล่างของหน้าจอจะเป็นตำแหน่งของปุ่มควบคุมหลักของตัวเครื่อง ซึ่งน่าเสียดายเล็กน้อยที่ไม่มีไฟ LED ใส่มาให้ด้านในทำให้เวลาใช้งานตอนกลางคืนนั้นทำได้ลำบากอยู่เหมือนกัน ต้องอาศัยความเคยชินในการใช้งานหรือพูดง่ายๆ ว่าถ้าชินแล้วก็ใช้งานได้ไม่ยากเท่าไหร่ และที่ด้านล่างสุดจะเป็นลำโพงตัวที่ 2 ของ Lenovo K4 Note ที่จะอยู่ในตำแหน่งนี้
ด้าบบนตัวเครื่องของ Lenovo K4 Note จะมีแค่ช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. เท่านั้นจะไม่มีปุ่มควบคุมอื่นๆ อยู่เลย และที่ด้านล่างของ Lenovo K4 Note จะเป็นตำแหน่งของช่องเสียบสาย Micro USB เพื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ ใกล้กันจะเป็นตำแหน่งของไมค์สนทนาโทรศัพท์ตัวแรก ซึ่ง Lenovo K4 Note มาพร้อมกับไมโครโฟนทั้งหมด 3 ตัวด้วยกันซึ่งจะใช้เทคโนโลยีจาก Wolfson® ในการช่วยตัดเสียงรบกวนภายนอกให้ดีขึ้น
ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะไม่มีปุ่มควบคุมใดๆ อยู่ในส่วนนี้เลย ส่วนด้านขวาของตัวเครื่องนั้นจะเป็นตำแหน่งของปุ่มควบคุมระดับเสียง และปุ่ม Power ที่ใช้ในการเปิด/ปิดเครื่อง และจะสังเกตได้ว่า Lenovo K4 Note รุ่นที่ผมได้มารีวิวนั้นจะมีวัสดุที่คล้ายกับโลหะอยู่รอบตัวเครื่องซึ่งทำให้ Lenovo K4 Note นั้นดูดียิ่งขึ้นอีกด้วย และมาพูดถึงส่วนที่เป็นจุดเด่นของรุ่นนี้นั่นคือด้านหลังตัวเครื่องของ Lenovo K4 Note ซึ่งสิ่งที่จะสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจนนั่นคือ เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ที่จะถูกครอบทับด้วยชิ้นส่วนที่คล้ายกับโลหะดูแข็งแรงทนทาน
ด้านบนของเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือจะเป็นกล้องขนาด 13 ล้านพิกเซล ซึ่งเป็นความละเอียดที่นิยมนำมาใช้ในมือถือกันในตอนนี้ และ Lenovo K4 Note ยังมาพร้อมกับแฟลชแบบ Dual Tone ที่จะทำให้การถ่ายภาพคนในที่แสงน้อยนั้นดียิ่งขึ้น เพราะสีผิวที่ออกมานั้นจะดูสมจริงไม่ขาวจนเกินไป และเราจะเห็นโลโก้ของ Lenovo เด่นชัดอยู๋ตรงกลาง ส่วนด้านล่างของด้านหลังตัวเครื่องนั้นจะเป็นโลโก้ DOLBY ATMOS ซึ่งเป็นระบบเสียงที่ใช้ในมือถือรุ่นนี้
ในแง่ของการพกพา Lenovo K4 Note เป็นมือถือที่พกพาได้ไม่ยากอีกหนึ่งรุ่น เพราะตัวเครื่องของ Lenovo K4 Note นั้นมีน้ำหนักอยู่ที่ 158 กรัม ซึ่งเรียกว่านำหนักกำลังดีไม่หนักจนเกินไป ด้านหลังของตัวเครื่องนั้นถูกดีไซน์ให้โค้งเล็กน้อยเพื่อรับกับอุ้งมือของผู้ใช้งาน ในเรื่องของความบาง Lenovo K4 Note มาพร้อมกับขนาดความบางที่ 9.2 มม. ซึ่งถือว่าพกพาได้ไม่ยากเท่าไรนัก ผมได้ทดสอบโดยการใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงยีนส์แล้วลองใช้ชีวิตตามปกติ ไม่ว่าจะเป็น เดิน,นั่ง,วิ่ง หรือแม้แต่ขี่มอเตอร์ไซค์ก็พบว่าไม่รู้สึกว่าตัวเครื่องเกะกะแต่อย่างใด สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ หรืออาจจะแก้ปัญหาอีกทางนึงด้วยการใส่กระเป๋าสะพายเล็กๆ เอาไว้ก็ได้เหมือนกัน
Software
และมาต่อกันที่เรื่องของซอฟท์แวร์กันบ้าง Lenovo K4 Note มาพร้อมกับ Vibe UI หน้าตาเรียบง่ายสวยงาม บนพื้นฐานของ Android 5.1 Lollipop จุดเด่นของ Vibe UI คือนอกจากจะมีหน้าตาสวยงามแล้วยังสามารถปรับแต่งได้อย่างหลากหลายอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ Lock Screen, หน้า Recent Task ไปจนถึง Theme ต่างๆก็สามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ แอพที่ติดมากับเครื่องโดยมากจะเป็นแอพจากทาง Google อย่างเช่น Google Chrome , YouTube , Gmail , Google Drive , Google+ ซึ่งแอพพวกนี้จะไม่สามารถลบออกจากตัวเครื่องได้ เรียกว่าเป็นข้อจำกัดเล็กๆ น้อยๆ ทางด้านซอฟท์แวร์
นอกจากนี้ยังมีแอพอื่นๆ อย่างเช่น SHAREit และ SYNCit ที่ไม่สามารถลบออกได้ด้วยเช่นกัน แต่แอพที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ก็ล้วนเป็นแอพที่มีประโยชน์ในการใช้งานของเราในแต่ละวัน หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB ที่มีใน Lenovo K4 Note นั้นก็สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นได้อย่างสบายๆ แต่อาจจะต้องมีการใช้งาน Micro SD ในกรณีที่ต้องการเก็บข้อมูลเยอะๆ ซึ่ง Lenovo K4 Note นั้นก็รองรับหน่วยความจำภายในถึง 128 GB เลยทีเดียว
Feature
มาพูดถึงเรื่องของฟีเจอร์กับบ้างดีกว่า Lenovo K4 Note มาพร้อมฟีเจอร์ที่มีความโดดเด่นมากๆ และสามารถใช้งานได้จริงอย่างฟีเจอร์ VR (Virtual Reality) หรือ ระบบเสมือนจริง ยกตัวอย่างเช่น เวลาดูวีดีโอเราจะรู้สึกเหมือนกับไปอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ซึ่งเป็นเทคนิคการถ่ายทำแบบพิเศษโดยการใช้กล้องแบบ 360 องศา แต่ก่อนที่จะพูดถึงเรื่องนั้นมาพูดถึงฟีเจอร์อื่นๆ กันก่อนดีกว่าซึ่งนอกจาก VR แล้ว Lenovo K4 Note มาพร้อมฟีเจอร์ดีๆอย่างเช่นฟีเจอร์ดังต่อไปนี้
Fingerprint
Fingerprint หรือฟีเจอร์เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเป็นฟีเจอร์ที่ทำให้ Lenovo K4 Note เป็นมือถือที่น่าสนใจ เพราะราคาของตัวเครื่องนั้นอยู่ที่เพียง 7,590 บาทแต่ได้ระบบสแกนลายนิ้วมือที่อยู่บนมือถือระดับเรือธงมาใช้งาน ซึ่งส่วนตัวแล้วผมชอบฟีเจอร์นี้มากเลย เพราะเราไม่ต้องยุ่งยากกับการกดปุ่มเพื่อเปิดหน้าจอแล้วค่อยปลดล็อค แค่เพียงวางนิ้วมือไว้บนเซนเซอร์ด้านหลังตัวเครื่องของ Lenovo K4 Note จากนั้นเครื่องก็จะทำการปลดล็อคให้เลยภายในพริบตาเท่านั้น
Fingerprint Gesture
เป็นฟีเจอร์ที่จะทำให้การใช้งานเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือนั้นสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยเราสามารถควบคุมตัวเครื่องได้ง่ายๆ เพียงแค่ใช้นิ้วมือแตะที่เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเท่านั้น อย่างเช่น ตั้งค่าให้แตะเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ 1 ครั้งเพื่อกลับหน้า Home หรือแตะนิ้วค้างไว้ที่เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อเปิดหน้า Recent Task เป็นต้น และนอกจากนี้เรายังสามารถใช้นิ้วแตะที่เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อถ่ายภาพได้อีกด้วย
VR
และนี่คือฟีเจอร์ที่เป็นจุดขายของ Lenovo K4 Note เลยก็ว่าได้นั่นคือฟีเจอร์ VR หรือ ระบบเสมือนจริงซึ่งสามารถเปิดใช้งานได้เลยโดยไม่ต้องพึ่งพาแอพใดๆ แต่ต้องบอกก่อนเล็กน้อยครับว่า VR ใน Lenovo K4 Note นั้นจะแตกต่างจากวีดีโอ VR แบบที่เราดูกันทั่วไป โดยหลักการทำงานของ VR ใน Lenovo K4 Note นั้นจะเป็นการแบ่งหน้าจอออกเป็น 2 ส่วนดังภาพด้านล่างที่ผมได้นำมาฝากกัน โดยเมื่อเราสวมแว่น VR เราจะเห็นภาพที่มาคล้ายกับ 3D มากกว่า
แต่หากอยากจะดู VR แบบจริงๆผมแนะนำให้ลองค้นหาวีดีโอแบบ VR บนเว็บไซต์ YouTube.com ซึ่งเราจะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ๆ ในการรับชมมากกว่าการเปิดโหมด VR แบบธรรมดาๆ บน Lenovo K4 Note และผมได้นำตัวอย่างวีดีโอแบบ VR มาให้ได้ลองรับชมกันแล้ว
Camera
เรื่องของกล้องถ่ายภาพ Lenovo K4 Note มาพร้อมกับกล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซลและกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และนี่คือข้อสังเกตที่สำคัญข้อนึงเลยนั่นคือเรื่องของลูกเล่นต่างๆ ในการถ่ายภาพซึ่งต้องบอกตรงๆว่า Lenovo K4 Note นั้นอาจจะไม่ได้เน้นในเรื่องของการถ่ายภาพสักเท่าไหร่ เพราะมีโหมดให้ถ่ายภาพด้วยกล้องหลังเพียงแค่ HDR , Panorama และ Effects เท่านั้น และมีลูกเล่นเพิ่มเติมอย่างที่ผมได้กล่าวไปแล้วนั่นคือการใช้เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อถ่ายภาพนั่นเอง และในส่วนของกล้องหน้าจะมีโหมดที่น่าสนใจอย่างเช่น Fill Light ที่จะใช้แสงจากหน้าจอเป็นเสมือนแฟลชโดยสามารถเลือกโทนสีตามที่ต้องการได้ และแน่นอนว่าหากต้องการใช้งานให้ได้เต็มประสิทธิภาพควรจะใช้งานในที่แสงน้อยจะดีที่สุด และนี่คือปัญหาเพราะเท่าที่ได้ทดสอบก็พบว่า Lenovo K4 Note นั้นถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ไม่ค่อยดีเท่าที่ควรแต่หากถ่ายในที่แสงปกติคุณภาพโดยรวมนั้นจะอยู่ในระดับกลางๆ และนี่คือภาพถ่ายตัวอย่างจากกล้องของ Lenovo K4 Note
ภาพตัวอย่างจากกล้องหน้าของ Lenovo K4 Note
Performance
มาถึงเรื่องสุดท้ายนั่นคือเรื่องของประสิทธิภาพการทำงานของ Lenovo K4 Note กันบ้าง Lenovo K4 Note มาพร้อมกับซีพียู MediaTek MT 6753 แบบ Octa core ความเร็ว 1.3 GHz ระะบบปฎิบัติการ Android 5.1 Lollipop และแรมขนาด 3 GB ซึ่งในเรื่องของการใช้งานทั่วไปนั้นสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ แต่เมื่อผมได้ลองทดสอบโดยการเล่นเกมที่ขึ้นชื่อเรื่องกินสเปคอย่าง N.O.V.A 3 ก็พบว่าไม่สามารถเล่นได้อย่างราบรื่น เมื่อเล่นเกม Asphalt 8 ก็พบว่าเมื่อปรับกราฟฟิกไปที่ High ก็พบว่าเกมกระตุกอย่างมากจนแทบเล่นไม่ได้เลย และเมื่อปรับเป็น Medium ก็พบว่ายังมีการการหน่วงให้เห็นอยู่ จึงได้ลองปรับเป็น Low จึงจะพอเล่นได้
สุดท้ายจึงได้ลองเล่นเกมง่ายๆ อย่าง Subway Surfer ก็พบว่าสามารถเล่นได้อย่างราบรื่น ดังนั้นสรุปได้ว่า Lenovo K4 Note เป็นมือถือที่ไม่เหมาะกับการเล่นเกมหนักๆ แต่เกมธรรมดาทั่วๆ ไปนั้นสามารถเล่นได้อย่างราบรื่น ส่วนตัวผมคิดว่าจะดีกว่านี้หาก Lenovo ปรับปรุงแก้ไขในเรื่องของสเปคบางส่วนให้สมกับราคาของตัวเครื่องมากกว่านี้ อย่างเช่นเรื่องของซีพียูที่หากใช้ Snapdragon 615 ก็อาจจะทำให้ Lenovo K4 Note นั้นเล่นเกมได้ดีกว่านี้ ส่วนเรื่องของการถ่ายภาพนั้นหากจัดการแก้ไขในเรื่องของซอฟท์แวร์ของกล้องถ่ายภาพก็อาจทำให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ในภาพด้วยเช่นกัน และเรื่องสุดท้ายคือเรื่องของราคาวางจำหน่ายของ Lenovo K4 Note ซึ่งยังมีมือถืออีกหลายรุ่นที่เปิดตัวในราคาใกล้เคียงกันแต่มาพร้อมสเปคตัวเครื่องที่สูงกว่านี้ แต่หากไม่ติดใจในเรื่องของสเปคตัวเครื่อง Lenovo K4 Note จัดว่าเป็นมือถือที่ใช้งานได้ดีเครื่องหนึ่งเลยล่ะครับ