ช่วงนี้ SpecPhone เรามีรีวิวเกี่ยวกับอุปกรณ์เพื่อสุขภาพมาให้อ่านกันรัวๆ เลยครับ นั่นก็เพราะว่าช่วงนี้เทรนคนรักสุขภาพกำลังมาแรงมาก และในปีหน้าก็น่าจะได้เห็นอุปกรณ์เพื่อสุขภาพออกมาในท้องตลาดกันเพียบ แต่สำหรับอุปกรณ์ที่เราจะรีวิวให้ชมกันในวันนี้บอกเลยว่ามันเป็นการฟิวชันที่แปลก แต่ก็ลงตัวมากครับ เพราะเจ้า?Jabra Sport Pulse Wireless นี่จัดว่าไม่ธรรมดาเลย เพราะมันเป็นหูฟังไร้สายที่ออกแบบมาเพื่อการออกกำลังกาย กันละอองน้ำ กันเหงื่อได้ แต่ประเด็นคือมันสามารถวัดอัตราการเต้นหัวใจของเราได้ด้วย
สำหรับสเปคของ?Jabra Sport Pulse ผมคงไม่ลงรายละเอียดมากครับ เพราะเพื่อนๆ ก็ไม่น่าจะสนใจเช่นกัน (ผมคิดเองเออเองนะ 555) แต่จะบอกคร่าวๆ ว่าในกล่องของ Jabra Sport Pulse นั้นมีอะไรให้มาในกล่องบ้าง
- หูฟัง Jabra Sport Pulse
- จุกยาง 3 ขนาด
- Earhook
- สาย USB
- คู่มือ
- ราคา 7,490 บาท
ส่วนรายละเอียดของ?Jabra Sport Pulse เริ่มจากตัวหูฟังข้างซ้ายก็จะประกอบไปด้วยปุ่มสำหรับกดรับสาย และเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ เพราะฉะนั้นเวลาที่ออกกำลังกายแล้วมีคนทันให้ดึงหูข้างขวาออกนะครับ เพราะถ้าดึงข้างซ้ายออกตัว Heart Rate Monitor ก็จะหลุดทันที
ด้านขวาจะประกอบไปด้วยช่องเสียบสาย USB สำหรับชาร์จไฟ
และบริเวณทางด้านขวาจะมีรีโมทสำหรับควบคุมเพลง และเพิ่มลดเสียงครับ ไมค์สำหรับสนทนาก็อยู่ตรงนี้นั่นแหละ
สำหรับการสวมใส่?Jabra Sport Pulse ก็ตามแบบของหูฟังแบบ In-Ear ทั่วไปครับ มีทริคเล็กน้อยอยู่ที่การเลือกขนาดของจุกหูฟังให้เหมาะสมกับรูหูของเรา การสวมใส่ค่อนข้างสบายครับ ตัวหูมีน้ำหนักเบา แต่ทีนี้เวลาที่เราใส่ออกกำลังกายที่ต้องใช้การเคลื่อนไหวมากๆ ก็ต้องเปลี่ยนไปใช้ที่ครอบหูแบบ Earhook ครับ (ตัวของเทสไม่ได้ให้มาด้วย แต่ตัวแพคเกจขายจริงมีแน่นอน) เพราะเท่าที่ผมลองใช้งานดูเนี่ย ถ้าไม่ได้ใส่ Earhook วิ่งนิดวิ่งหน่อยก็หลุดบ่อยมากครับ ส่วนการกันเสียงรบกวน?Jabra Sport Pulse ทำได้ดีตามมาตรฐานหูฟัง In-Ear คือใส่แล้วยังมีเสียงลอดเข้ามาได้ แต่ถ้าเปิดเพลงเมื่อไหร่ก็เข้าโหมดส่วนตัวทันที เพราะฉะนั้นผมไม่แนะนำให้ใช้หูฟังรุ่นนี้ในการออกกำลังกายที่มีความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมอย่างเช่นการปั่นจักรยานในเมือง หรือการวิ่งริมถนนนะครับ เนื่องจากตอนนั้นเราจะไม่ได้ยินอะไรเลยจริงๆ แต่ถ้าเป็นการออกกำลังกายในฟิตเนส หรือในสวนสาธารณะก็ถือว่าโอเคเลย
พูดถึงเรื่องเสียงกันบ้าง สำหรับเสียงที่?Jabra Sport Pulse ให้นั้นถ้าเทียบกับราคาค่าตัว 7,490 บาทผมว่ายังสอบไม่ผ่านครับ แต่ถ้ามองว่าเป็นหูฟังบลูทูธสำหรับออกกำลังกาย แล้วแถมฟีเจอร์การวัดอัตราการเต้นหัวใจด้วยนั้นก็ถือว่าโอเคอยู่ เพราะแนวเสียงของ?Jabra Sport Pulse ไม่มีอะไรโดดเด่นเลยครับ หลักๆ ก็จะไปเด่นที่เสียงกลาง ส่วนเสียงเบสไม่ค่อยกระแทกกระทั้น อิมแพคแทบไม่มีให้ได้ยิน เบสมาไวไปไวเกินไปครับ ยังไม่ทันซึมซับเสียงทุ้มเลยก็หายซะแล้ว และปัญหาอีกอย่างคือการแยกชิ้นดนตรีค่อนข้างนัวมาก เจอช็อตที่มีเครื่องดนตรีหลายชิ้นจะแยกได้ยากมาก แต่ถ้ามองว่าซื้อมาใช้ฟังตอนออกกำลังกายที่ไม่ต้องเน้นเรื่องคุณภาพเสียงมากอันนี้ก็แล้วแต่ครับ แต่ส่วนตัวผมมองว่าหูฟังสำหรับออกกำลังกายแบบแอคทีฟ ควรจะต้องให้เสียงเบสที่อิมแพคแรงในระดับหนึ่ง เพราะมันช่วยในการจับจังหวะ และทำให้เราออกกำลังกายได้สนุกมากยิ่งขึ้น
ในการใช้งาน?Jabra Sport Pulse (ตอนรีวิว Jabra Sport Pulse ผมใช้งานคู่กับ iPhone 5s) อันดับแรกก็ต้องทำการ Pair เจ้า?Jabra Sport Pulse เสียก่อน ซึ่งก็ไม่ยากครับ การจับคู่ทำได้ไวมาก และเมื่อจับคู่แล้วเราก็สามารถฟังเพลงได้ทันที แต่ถ้าต้องการใช้ฟีเจอร์อื่น อย่างฟีเจอร์การวัดอัตราการเต้นหัวใจต้องดาวโหลดแอพพลิเคชันเพิ่มเติมครับ ในที่นี้ผมขอรีวิวร่วมกับแอพพลิเคชัน Jabra Sport (ตัว Jabra Sport Pulse รองรับกับแอพพลิเคชันหลายแอพครับ เช่น Endomondo, Nike+ เป็นต้น)
ตัวแอพพลิเคชัน?Jabra Sport?ก็จะสามารถเลือก Activity ได้ และเลือกได้ว่าจะให้ตัว Heart Rate Sensor รายงานสถานการณ์แบบไหน ซึ่งจะมีทั้งแบบการแทร็คทั่วไป จนถึงการเลือก Heart Rate Zone ได้เลย ว่าต้องการให้มันแทร็คที่อะไร จะ Cardio หรือจะเลือกการเทรนแบบ Interval Training (ฝึกแบบหนักสลับเบา) ซึ่งการที่เรารู้ว่า ณ ตอนนั้นอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ที่เท่าไหร่ มันช่วยให้การออกกำลังกายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นครับ
ส่วนความแม่นยำในการวัดอัตราการเต้นของหัวใจที่ตัว Sensor ของ?Jabra Sport Pulse สำหรับผมให้คะแนนเท่ากับเครื่องวัดอัตราการเต้นหัวใจที่ติดกับลู่วิ่งในฟิตเนสครับ คือจับได้ค่อนข้างแม่นยำ แต่ไม่ถึงกับ Real-Time คือมันจะใช้เวลาซักพักในการจับ Heart Rate ครั้งแรก ไม่เหมือนกับพวก Heart Rate Monitor ที่เป็นแบบสายคาดอก หรือประเภทที่เกิดมาเพื่อวัดอัตราการเต้นหัวใจโดยเฉพาะ พวกนั้นจะจับอัตราการเต้นหัวใจได้ไวและแม่นยำมาก
และระหว่างที่เราออกกำลังกายก็จะมีเสียงคอยบอกระยะทาง, อัตราการเต้นหัวใจเรื่อยๆ ครับ
อีกฟีเจอร์หนึ่งของ?Jabra Sport Pulse คือมันมาพร้อมกับระบบเสียง Dolby ครับ แต่ระบบเสียง Dolby จะต้องเปิดใช้งานผ่านแอพพลิเคชัน Jabra-Sound เท่านั้น แต่ถ้าถามผมว่าเสียงมันดีขึ้นหรือไม่ ตรงนี้ผมชอบเสียงที่เปิดผ่าน Music ของ iPhone มากกว่านะ
ส่วนปัญหาของ?Jabra Sport Pulse เท่าที่เจอมาระหว่างใช้งานคือเรื่องสัญญาณหลุดครับ เวลาที่เอาไปใช้งานในที่ๆ มีคนใช้งานมือถือเยอะๆ เช่นในฟิตเนส บางครั้งก็จะพบว่าเพลงติดๆ ขัดๆ เหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้เจอบ่อยเท่าไหร่ ถือว่าดีกว่าหูฟังที่เป็น Bluetooth 3.0 พอสมควร (Jabra Sport Pulse เป็น Bluetooth 4.0) และอีกปํญหาก็คือแบตเตอรี่ที่ไม่ค่อยอึดอย่างแรง ชาร์จไฟหนึ่งครั้งใช้งานได้ประมาณ 5 ชั่วโมงเท่านั้นเอง ใครที่จะซื้อ?Jabra Sport Pulse เอาไปใส่วิ่งมาราธอน หรือใส่ปั่นจักรยานทางไกลอาจจะต้องเผื่อใจนะครับ เจ้านี่แบตหมดไวมาก ซึ่งตรงนี้น่าจะมาจากการที่มี Heart Rate Monitor มาช่วยสูบแบตด้วยแหละ
ภาพรวมของ?Jabra Sport Pulse ก็ถือว่าเป็นหูฟังสำหรับออกกำลังกายที่ไม่ได้โดดเด่นเรื่องเสียง แต่เน้นที่ฟีเจอร์มากกว่าครับ ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันละอองน้ำและเหงื่อ อีกทั้งมาพร้อมกับเครื่องวัดอัตราการเต้นหัวใจในตัว ซึ่งวัดได้แม่นในระดับหนึ่งเลย การเชื่อมต่อทำได้รวดเร็ว แอพพลิเคชันใช้งานได้ง่าย ถึงแม้ราคาอาจจะค่อนข้างแรงที่ 7,490 บาท แต่ถ้ามองที่ตัวฟีเจอร์โดยรวมก็ถือว่าคุ้มนะครับ ไม่ต้องพกอะไรเยอะด้วย
ข้อดี
- หูฟังมีน้ำหนักเบา สวมใส่ง่าย
- การเชื่อมต่อทำได้ง่าย
- มี Heart Rate Monitor ในตัว
ข้อสังเกต
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ไม่นาน
- เสียงที่ให้ไม่ค่อยประทับใจ เบสมาไม่สุด กลางแหลมพอมีให้ได้ยิน แต่การแยกชิ้นดนตรียังทำได้ไม่ค่อยดี