ขึ้นชื่อว่ามือถือแบรนด์คนไทยก็ต้องนึกถึงมือถือจาก i-mobile เป็นอันดับแรกๆเสมอ อีกทั้งยังเป็นที่รู้กันดีถึงความคุ้มค่าที่ i-mobile ใส่ลงมาในมือถือแต่ละรุ่น และจากที่ผมได้รีวิว i-mobile IQ Big 2 ไปแล้วในครั้งก่อน วันนี้ผมจะมารีวิวอีกหนึ่งรุ่น ที่เรียกว่าเป็นรุ่นใหญ่ที่เอาใจคนที่รักการถ่ายภาพเป็นพิเศษ เพราะในรุ่นนี้จะมาพร้อมกับกล้องขนาด 30 ล้านพิกเซล และรุ่นที่ว่านั่นก็คือ i-mobile IQX Pro 2 นั่นเองครับ ถือว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่คุ้มค่ามากๆเพราะเมื่อเทียบจากกล้องที่มีความละเอียดถึง 30 ล้านพิกเซลในราคาที่ไม่ถึงหนึ่งหมื่นบาทแล้วเรียกได้ว่า i-mobile IQX Pro 2 เป็นรุ่นเดียวที่มีสเปคแบบนี้ และราคาของตัวเครื่องนั้นก็สามารถจับต้องได้ไม่ยากเรื่องของสเปคของตัวเครื่องและการใช้งานจะเป็นอย่างไร ติดตามกันได้เลยครับ
สเปค i-mobile IQ X Pro 2
- หน้าจอขนาด 5.5 นิ้วความละเอียดแบบ Full HD
- ระบบปฏิบัติการ Android 5.0 Lollipop
- ซีพียู Snapdragon 615 Octa Core 1.5GHz
- แรม 3 GB
- หน่วยความจำภายใน 32 GB
- รองรับหน่วยความจำภายนอก 32 GB
- กล้องหลัง 30 ล้านพิกเซล (sensor 20 ล้านพิกเซล)
- กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
- รองรับการใช้งาน 4G
- รองรับการใช้งาน 2 ซิม
- แบตเตอรี่ 2,500 mAh
- ราคา 8,900 บาท
- สเปคแบบเต็มๆ i-mobile IQX Pro 2
เมื่อแกะกล่องออกมาแล้วเราจะพบว่าภายในกล่องนั้นจะมีอุปกรณ์พื้นฐานให้มาอย่างครบครัน ตามมาตรฐานของ i-mobile ที่ไม่ว่าจะเป็นเคสกันรอยตัวเครื่อง, ฟิลม์กันรอยหน้าจอ, หูฟัง, สายสัญญาณ DTV และในรุ่นนี้จะมี Stand Holder หรือขาตั้งตัวเครื่องแถมมาให้สำหรับใช้รับชมทีวีดิจิตอลแบบไม่ง้ออินเทอร์เน็ต เอาแค่ของแถมที่ให้มาในกล่องเพียงอย่างเดียวก็ไม่ต้องไปหาซื้อที่ไหนแล้ว เรียกว่าแค่เปิดกล่องเครื่องก็พร้อมใช้งานทันทีตามสไตล์ i-mobile
จุดเด่น
– แรม 3 GB
– รองรับการใช้งาน 4G
– กล้องความละเอียดสูงถึง 30 ล้านพิกเซล
– หน่วยความจำภายใน 32 GB
– มีอุปกรณ์ที่จำเป็นมาให้อย่างครบครัน
– รองรับการใช้งาน DTV
ข้อสังเกต
– ตัวเครื่องทำจากพลาสติก
– กล้องจับภาพได้ช้า
– จากการใช้งานพบภาพกระตุกบ้างเป็นบางครั้ง
บทสรุป
BEST PRICE
Design
เริ่มกันที่ดีไซน์ของตัวเครื่อง i-mobile IQX Pro 2 นั้นจะมาพร้อมหน้าตาแบบเรียบง่าย โดยวัสดุของตัวเครื่องนั้นจะใช้พลาสติกเป็นส่วนประกอบโดยส่วนใหญ่ รูปทรงของตัวเครื่องนั้นออกแบบมาในดีไซน์สี่เหลี่ยมเมื่อมองจากด้านหน้าของตัวเครื่อง แต่เมื่อพลิกไปที่ด้านหลังของตัวเครื่องเราจะเห็นถึงความโค้งมนอย่างชัดเจน ถือว่าตัวเครื่องมีดีไซน์ที่น่าสนใจ ช่วยให้จับถือตัวเครื่องได้สะดวก เพราะออกแบบมาเข้ากับมือตอนใช้งานพอดี
ด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วและในรุ่นนี้ใช้หน้าจอจาก JDI ที่ใช้เทคโนโลยี in-cell touch ที่นำระบบทัชสกรีนใส่เข้ามาในโมดูลจอแสดงผลความละเอียดสูง ส่งผลให้ความหนาของหน้าจอนั้นลดลง พูดง่ายๆก็คือจอภาพบางแต่ได้สีสันที่ดีขึ้น และหน้าจอของ i-mobile IQ X Pro 2 นั้นมีความละเอียดอยู่ที่ระดับ Full HD (1080 x 1920)
ดังนั้นเรื่องของความคมชัดของภาพนั้นหายห่วงอย่างแน่นอน กับความละเอียดหน้าจอระดับ Full HD การแสดงผลมีความคมชัดสูงตามแบบฉบับของหน้าจอ JDI แต่มีข้อสังเกตเล็กน้อยตรงที่หน้าจอ i-mobile IQ X Pro 2 นั้นสู้แสงได้ในระดับปานกลางเท่านั้น ดังนั้นหากใช้งานในที่ๆ มีแสงแดดจัดก็จะต้องปรับแสงหน้าจอให้สว่างมากกว่าปกติ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ที่พอรับได้ครับ
ด้านบนของหน้าจอจะเป็นกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED ที่จะช่วยให้การถ่ายภาพแบบ Selfie ในที่แสงน้อยนั้นสามารถทำได้ดีมากยิ่งขึ้น จุดตรงกลางของด้านบนจะเป็นลำโพงสำหรับสนทนา และใกล้กันจะเป็นเซนเซอร์วัดสภาพแสง และเซนเซอร์วัดระยะเพื่อปิดหน้าจออัตโนมัติขณะทำการสนทนาโทรศัพท์ ซึ่งเป็นเซนเซอร์ที่ควรมีอยู่ในมือถือทุกเครื่อง
ที่ด้านล่างของหน้าจอจะเป็นปุ่มควบคุมแบบสัมผัสซึ่งหน้าตาของปุ่มในรุ่นนี้นั้นเรียกว่าแตกต่างจากรุ่นก่อนๆอย่างชัดเจนซึ่งจะประกอบไปด้วยปุ่ม Recent, Home และปุ่ม Back ตามลำดับ และทั้งสามปุ่มจะมีไฟ LED ใส่มาให้เพื่อให้สามารถใช้งานในเวลากลางคืนได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ปุ่ม Home ที่หน้าจอของ i-mobile IQX Pro 2 นั้นจะมีไฟแสดงสถานะของตัวเครื่องเพิ่มเติมเข้ามาด้วย ซึ่งจะกระพริบเป็นสีเขียวเมื่อมีการแจ้งเตือน หรือมีข้อความใหม่เข้ามา และเมื่อทำการชาร์จแบตเตอรี่หรือเมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมดปุ่ม Home นั้นก็จะกลายเป็นสีแดงเพื่อแจ้งสถานะของตัวเครื่องให้เราทราบ นับว่าเป็นอีกหนึ่งลูกเล่นที่น่าสนใจและเป็นจุดเด่นของรุ่นนี้ที่ทำให้เราไม่ต้องมาเช็คปริมาณแบตเตอรี่บ่อยๆ ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
ด้านบนของตัวเครื่องนั้นจะมีเพียงช่องสำหรับเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม อยู่เพียงช่องเดียวเท่านั้นนอกนั้นเป็นพื้นผิวตัวเครื่องสีขาวเรียบๆ สวยงาม และที่ด้านซ้ายของตัวเครื่องจะมีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบไมโครซิม และ Micro SD ที่เป็นแบบไฮบริดที่หากไม่ใช้งาน Micro SD นั้นเราสามารถใช้งานซิม 2 แบบไมโครซิมได้ซึ่งเราจะต้องใช้อุปกรณ์จิ้มเพื่อนำถาดใส่ซิมการ์ดออกมา ซึ่งด้านซ้ายของตัวเครื่องมีเพียงช่องสำหรับใส่ซิมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ด้านขวาของตัวเครื่องจะประกอบไปด้วยปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และปุ่มลำหรับเปิด/ปิดเครื่อง ซึ่งต้องบอกว่าด้านข้างของตัวเครื่องนั้นมีความโค้งมนรวมเป็นชิ้นเดียวกับด้านหลังของตัวเครื่องซึ่งทำให้ตัวเครื่องนั้นดูมีความเรียบง่าย เนื่องจากสีของรุ่นนี้มีเพียงสีเดียวคือสีแบบทูโทนหน้าดำหลังขาวนั่นเอง
ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีพอร์ต Micro-USB สำหรับเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ หรือเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ และจะมีลำโพงที่ออกแบบมาเหมือนจะเป็นลำโพงคู่แต่เป็นลำโพงเดี่ยวเหมือนเช่นเคย ซึ่งมือถือในยุคปัจจุบันนี้มักจะใช้ดีไซน์แบบนี้เพื่อให้มือถือนั้นมีจุดสนใจมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม
และที่ด้านหลังของตัวเครื่องจะสังเกตได้ว่าด้านบนของตัวเครื่องจะเห็นกล้องถ่ายภาพนั้นยื่นออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย เรียกว่าเป็นจุดสนใจอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากสิ่งที่โดดเด่นในรุ่นนี้นั้นจะเป็นเรื่องของกล้องถ่ายภาพที่มีความละเอียดสูงถึง 30 ล้านพิกเซล(เซนเซอร์ 20 ล้านพิกเซล) F/1.8 ใต้เลนส์กล้องจะเป็นแฟลชแบบ LED ที่จะช่วยให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีมากยิ่งขึ้นแต่แอบเสียดายเล็กน้อยที่แฟลชที่ใช้ไม่ใช่แฟลชแบบ Dual Tone ที่ช่วยให้สีผิวสมจริงมากยิ่งขึ้น และที่ใต้แฟลชของตัวเครื่องจะเป็นไมค์ตัวที่สองเพื่อตัดเสียงรบกวนภายนอกขณะสนทนาโทรศัพท์ และที่ตรงกลางของตัวเครื่องนั้นจะเป็นโลโก้ IQ อย่างชัดเจนซึ่งตามปกติแล้วมือถือตระกูล IQ ของ i-mobile นั้นมักจะใส่มาทุกเครื่องอยู่แล้ว
ด้านการพกพา i-mobile IQX Pro 2 นั้นมีน้ำหนักเพียง 147 กรัมเท่านั้น ซึ่งถือว่ามีน้ำหนักเบาสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก แม้ว่าหน้าจอจะมีขนาด 5.5 นิ้วก็ตาม และด้วยดีไซน์ของตัวเครื่องนั้นไม่เหลี่ยมไปเสียทีเดียวทำให้สามารถถือได้อย่างกระชับมือ เพราะด้านหลังของตัวเครื่องนั้นมีดีไซน์โค้งมนเข้ารูปกับมือของเรา เรียกว่าเป็นมือถือที่ถือง่ายไม่ว่าผู้ใช้งานจะเป็นผู้หญิง หรือผู้ชายก็สามารถใช้งานได้สบายๆ เลยล่ะครับ
Software
i-mobile IQX Pro 2 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 5.0.2 และ UI ที่ใช้นั้นจะคล้ายกับ Pure Android ตามลักษณะของมือถือตระกูล IQ ที่จะใช้ UI แบบนี้ทั้งหมด ซึ่งข้อดีในการใช้ UI แบบนี้ ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนสไตล์และรูปแบบไอคอนได้ มีให้เลือกถึง 4 แบบด้วยกัน แต่ไม่สามารถโหลดสไตล์เพิ่มเติมมาใช้ได้ อาจจะต้องทำการดาวน์โหลด Launcher อื่นๆจาก Play Store มาใช้งานแทน หากไม่ชอบหน้าตาเดิมๆ ของตัวเครื่อง ต้องยกความดีความชอบให้แก่ความยืดหยุ่นของระบบปฎิบัติการ Android อีกเช่นเคย
เรื่องของแอปพลิเคชั่นที่ i-mobile IQX Pro 2 มีติดเครื่องมานั้นเรียกว่าครบถ้วนเหมือนเดิมตามสไตล์ i-mobile ทั้งโซเชียลมีเดียเช่น Line, Facebook, Instagram และอื่นๆหรือ แอปพื้นฐานจาก Google นั้นก็มีให้หมด ซึ่งแอปที่ติดเครื่องมาแอปไหนที่เราไม่ได้ใช้งานก็สามารถที่จะลบไปได้เพื่อเป็นการประหยัดเนื้อที่ไปในตัวอีกด้วย เรื่องของเอฟเฟคต่างๆ นั้นก็มีมาให้เรานั้นได้ปรับแต่งตามลักษณะการใช้งานของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน
Camera
มาถึงเรื่องที่เป็นไฮไลท์ในรุ่นนี้ นั่นคือเรื่องของกล้องถ่ายภาพ โดย i-mobile IQ X Pro 2 นั้นมาพร้อมกับกล้องขนาด 30 ล้านพิกเซล แต่เซนเซอร์ของกล้องนั้นจะอยู่ที่ 20.7 ล้านพิกเซลเท่านั้น แต่อาศัยการใช้ซอฟท์แวร์อัพสเกลภาพขึ้นไปเป็น 30 ล้านพิกเซล กล้องของ i-mobile IQ X Pro 2 นั้นจะใช้โมดูล IMX220 ซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่ใช้บนสมาร์ทโฟน Sony Xperia ตระกูล Z ทั้งหลายทำให้เรื่องของความคมชัด หรือรายละเอียดของภาพที่ออกมานั้นมีรายละเอียดที่ดีมากกว่ามือถือราคาทั่วไปอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมาพร้อมรู้รับแสงที่กว้างถึง F 1.8 ที่ทำให้การถ่ายภาพในที่แสงน้อย หรือการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอนั้นสามารถทำได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น
แต่ด้วยความที่ i-mobile IQ X Pro 2 มีเซนเซอร์ขนาด 20.7 ล้านพิกเซลนั้นทำให้เมื่อเราตั้งค่าที่ความละเอียด 30 ล้านพิกเซลการอัพสเกลนั้นทำให้เม็ดสีดูฟุ้งไม่คมชัดเมื่อได้ทำการขยายภาพ ดังนั้นการถ่ายภาพด้วย i-mobile IQ X Pro 2 ควรจะตั้งค่าเพียงแค่ 20 ล้านพิกเซลตามขนาดของเซนเซอร์จึงจะดีที่สุด และผมก็ได้นำตัวอย่างภาพที่ถ่ายจาก i-mobile IQ X Pro 2 มาฝากกันครับ
Performance
มาถึงเรื่องของประสิทธิภาพของ i-mobile IQ X Pro 2 กันบ้าง โดยโทรศัพท์มือถือรุ่นนี้มาพร้อมกับซีพียู Qualcomm Snapdragon 615 ที่จะใช้ในมือถือ Android ระดับกลางทั่วไป นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับ Ram มากถึง 3 GB ที่จะทำให้เรานั้นสามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นได้พร้อมกันหลายแอปมากยิ่งขึ้น และเมื่อทำการทดสอบประสิทธิภาพตัวเครื่องด้วยแอปพลิเคชั่นอย่าง Antutu Benchmark แล้วพบว่า i-mobile IQX Pro 2 นั้นสามารถทำคะแนนได้ราว 32,360 คะแนนซึ่งถือว่าด้วยคะแนนประมาณนี้การใช้งานทั่วไปนั้นสามารถทำได้อย่างราบรื่น
และเมื่อทำการทดสอบกับเกมอย่าง Minion Rush ที่มากับเครื่องก็พบว่าสามารถเล่นได้ดีในระดับหนึ่งแต่ยังพบปัญหากระตุกอยู่บ้าง ซึ่งเป็นปัญหาที่ยังคงรอการแก้ไขของซีพียู Snapdragon 615 ซึ่งมักจะพบปัญหานี้ในมือถือหลายๆ รุ่นที่ใช้ซีพียูเดียวกัน ในส่วนของการเชื่อมต่อนั้นก็ทำได้อย่างสมบูรณ์แบบ รองรับทั้ง Wifi, 3G, 4G และยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมอีกด้วย รวมไปถึงการใช้งานแอปพลิเคชั่นพื้นฐานทั่วไปนั้นก็สามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่ในการใช้งานหนักๆ เช่นการดู YouTube แบบความละเอียด Full HD ขึ้นไป ในบางครั้งพบปัญหาภาพกระตุกเช่นเดียวกับการเล่นเกมที่มีกินกราฟฟิคมากๆ
และเมื่อเปิดแอปพลิเคชั่นหรือเวลาเล่นเป็นเวลานาน ตัวเครื่องนั้นมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นจนรู้สึกได้ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับร้อนขนาดถือไม่ได้ ประมาณว่าอุ่นๆ มือเท่านั้น ดังนั้นในเรื่องของการใช้งานโดยรวมนั้นสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี เล่นแอปต่างๆได้อย่างลื่นไหล
แบตเตอรี่ของ i-mobile IQ X Pro 2 นั้นมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 2,500 mAh ที่ดูเหมือนจะน้อยไปสักหน่อยเมื่อเทียบกับจอแสดงผลแบบ Full HD ขนาด 5.5 นิ้ว ทำให้อาจจะต้องชาร์จวันละ 1-2 รอบหากใช้งานหนักๆอย่างเช่นเล่นเกม แต่หากสแตนบายเครื่องทิ้งไว้ ก็พบว่าตัวเครื่องนั้นสามารถอยู่ได้่นาน หมดห่วงเรื่องแบตเตอรี่ไหลไปได้เลยครับ ซีพียู Snardragon นั้นไม่กินพลังงานมากเหมือนตระกูล Snapdragon 800