Acer Aspire Switch 10 สุดยอดไฮบริดโน๊ตบุ๊ตแท็บเล็ตของแบรนด์ Acer ที่จัดได้ว่าตอบสนองต่อความต้องการในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะใช้งานเป็นโน๊ตบุ๊ค หรือว่าจะแยกร่างเป็นแท็บเล็ตก็ได้ จะว่าไปแล้วแบรนโน๊ตบุ๊คไม่ว่าจะแบรนไหนๆก็เริ่มจะมีการปรับตัว เพื่อแข่งขันกับตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน และ Acer Aspire Switch 10 ก็ได้จัดเต็มรวมๆทุกๆอย่าง ผสมผสานมาไว้ในหนึ่งเดียว และนี่แหละครับที่เป็นความสามารถของเจ้าตัว Acer Aspire Switch 10 ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับสเปคกันก่อนครับ
สเปค?Acer Aspire Switch 10?
- ซีพียู Intel Atom Bay Trail Z3745 1.33GHz
- ชิปกราฟิค Intel HD (Gen 7 Baytrail)
- แรม?2GB (LPDDR3)
- หน่วยความจำภายในแบบ SSD 64GB, HDD 500GB ที่ตัวคีย์บอร์ด
- เพิ่ม?Micro SD Card ได้สูงสุด?32GB
- หน้าจอ IPS ขนาด 10.1 นิ้วอัตราส่วน 16:9 ความละเอียด 1366?768 pixels, Zero Air Gap, LumiFlex
- กล้องหน้าความละเอียด?2 ล้านพิกเซล
- สเปค?Acer Aspire Switch 10 เต็มๆ
- ราคาเปิดตัว 15,900 บาท
Acer Aspire Switch 10 ดูโดยรวมแล้วจะเป็นแท็บเล็ตวินโดว์ที่โดนเด่นพอสมควรเลยครับ โดยจะเน้นไปทางด้านประหยัดพลังงาน โดยที่สามารถใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น ด้วยซีพียู Intel Atom Z3745 และเป็นซีพียูแบบ 4 Core 4 Thread และในส่วนแรมก็ได้ใส่มาให้ถึง 2GB ก็ถือว่ากำลังพอเหมาะกับแท็บเล็ต ณ ตอนนี้ พร้อมทั้งยังมีหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 64GB และฮาร์ดดิสก์ที่ Docking Keyboard อีก 500GB นอกจากนั้นยังสามารถเพิ่ม SD Card เพิ่มได้อีกด้วยครับ นับได้ว่าจับเต็มกันเลยในส่วนนี้ และในด้านของพอร์ตการเชื่อมต่อก็มีมาให้อย่างครบครับ ไม่ว่าจะเป็น Micro-HDMI ที่ไว้ต่อออกจอไว้พรีเซ็นต์งานก็สะดวกสบายเลยครับ
Design
การออกแบบของ Acer Aspire Switch 10 จัดได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ของ Acer อีกหนึ่งรุ่นที่ทำออกมาได้ดีน่าใช้ โดยจุดเด่นนั้นจะอยู่ที่ในส่วนของหน้าจอที่ใช้เทคโนโลยี Zero Air Gap ร่วมด้วยกับซอฟต์แวร์ LumiFlex ที่ช่วยลดแสงสะท้อนในแต่ละมุมมองที่รับชมโดยเฉพาะภายใต้แสงแดดในตอนกลางวัน ทำให้มุมมองสีของภาพไม่ผิดเพี้ยนไป ดูแล้วโฉบเฉี่ยวไม่เบาเลยทีเดียวกับหน้าจอของ Acer Aspire Switch 10 ในด้านของวัสดุตัวเครื่องจะเป็นพลาสติกจะออกแนวคล้ายๆกับอลูมิเนียม โดยที่พื้นผิวสัมผัสเป็นลายๆ ดูแล้วมีสเน่ห์ไม่เบาเลยทีเดียว ทำให้จับได้อย่างกระชับไม่ลื่น แต่หากโดนกุญแจข่วนเข้าไปอาจจะเป็นรอยได้ครับ แนะนำว่าให้ติดฟิล์มกันรอยเหมือนๆกับที่ติดกับฝาจอโน๊ตบุ๊คนั่นแหละครับ
ขนาดของตัวเครื่อง 262.00 x 178.00 มิลลิเมตร ความหนาเพียง 10.2 มิลลิเมตรเท่านั้น ซึ่งก็บางพอสมควรเลยครับ โดยที่น้ำหนักของตัวเครื่องจะอยู่ที่ 585 กรัม ในส่วนนี้จะไม่รวมกับตัว Docking Keyboard ถ้ารวมด้วยก็จะประมาณ 1.2 กิโลกรัม ซึ่งถ้าดูแล้วก็อาจจะหนักเอาเรื่องอยู่ครับ แต่ก็ยังสามารถพกพาได้สะดวก หรืออยากจะเบา ก็เอาตัว Docking Keyboard ออกสิครับ เบาแน่นอนเลย 555?
ไฮบริดโน๊ตบุ๊คแท็บแท็ตที่ตอบสนองทุกการใช้งาน
ส่วนของหน้าจอจะขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ความละเอียดอยู่ที่ 1366?768 พิกเซล และที่เป็นจุดเด่นก็จะเป็นพาแนลจอ IPS ที่ให้ทั้งสีสันที่สดใสและมุมมองการรับชมที่กว้าง พร้อมด้วยกระจก Gorilla Glass กันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี ด้านบนของตัวเครื่องเราเป็นกล้องหน้าขนาด 2 ล้านพิกเซล เลนส์กล้องหน้าแบบ Wide View Angle ทำให้ได้มุมมองของภาพกว้างขึ้น และลำโพงจะอยู่ในส่วนด้านล่างของตัวเครื่อง เป็นลำโพง Stereo ที่เสียงดีเอาเรื่องอยู่ครับ ระดับของเสียงนั้นดังพอสมควรเลย
มาดูในส่วนของขอบกันบ้างครับ เริ่มจากด้านขวามือของตัวเครื่อง จะเป็นช่องสำหรับเสียบชาร์ตแบตเตอรี่, พอร์ต Micro HDMI, Micro USB, Micro SD card, ปุ่ม Restart เอาไว้เวลาเครื่องค้าง, และขวามือสุดคือรูไมโครโฟน ด้านซ้ายมือของตัวเครื่องจะเป็นช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, ปุ่ม Power ขณะเปิดหรือชาร์ตจะมีไฟโขว์สถานะที่ปุ่มนี้ด้วยครับ, สุดท้ายเป็นปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง และในส่วนของขอบด้านล่างที่เห็นว่าเป็นช่องๆนั่น จะเป็นช่องสำหรับเชื่อมต่อกับ Docking Keyboard เข้ากับตัวหน้าจอ ตรงกลางนั้นจะเป็นพอร์ตการเชื่อมต่อข้อมูล หลายคนคงจะสงสัยกันว่า เมื่อเชื่อมต่อหน้าจอกับตัว Docking Keyboard เข้าด้วยกันแล้ว มันจะแน่น หรือถ้าเขย่าแล้ว มันจะหลุดออกจากกันง่ายไหม? ตอบได้เลยครับ ว่ามันเชื่อมต่อกันได้แน่นมากๆ ลองเขย่าๆแล้วก็ไม่หลุดแต่อย่างใด อาจจะเป็นด้วยจากช่องที่เชื่อมต่อกันนั้นจะเป็นแม่แหล็กครับ จึงทำให้ยึดติดเชื่อมต่อกันได้แน่นเอาเรื่องเลย
ดูกันต่อเลยครับกับส่วนของ Docking Keyboard ในส่วนคีย์บอร์ดนี้ก็จะเป็นแบบ QWERTY ซึ่งมันก็เหมือนในโน๊ตบุ๊คเลยนั่นเอง เอาเป็นว่าก็คุ้นเคยกันอยู่แล้วล่ะครับ ใช้งานกันได้คล่องเลย แถมยังมี Touch Pad อีกด้วยครับ แต่เดี๋ยวก่อนครับ มันไม่ใช้เป็นแค่ Docking Keyboard ธรรมดา เพราะยังฝังตัวฮาร์ดดิสไว้อีกด้วย โดยมีความจุถึง 500GB เลยทีเดียว แต่เรื่องของเรื่องก็มีอยู่ว่าอย่าทำตกกันเลยล่ะ เพราะอาจจะทำให้ฮาร์ดดิสเสียไปเลยก็ได้ครับ โดย Docking Keyboard ก็จะมีพอร์ด USB 2.0 เพิ่มให้อีกพอร์ตนึง เผื่อไว้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ก็ถือว่าสะดวกสบายไม่น้อยเลยทีเดียว
Software
Acer Aspire Switch 10 รุ่นนี้มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 แบบ 32-bit ?แน่นอนครับว่าหลายคนคงจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วกับระบบ?ปฏิบัติการ?Windows 8.1 ?ที่ใช้งานกันอยู่กันประจำบนคอมพิวเตอร์อยู่ เมื่อมาใช้งานกับ Acer Aspire Switch 10 คุณไม่ต้องปรับตัวอะไรเลยก็สามารถใช้งานแท็บเล็ต ระบบ Windows 8.1 ได้อย่างสบายๆเพราะมันเคยชินอยู่แล้ว แถมด้วยราคาที่ไม่แพง แต่ใช้งานได้จริงๆในทุกเรื่อง โดยสามารถติดตั้งโปรแกรมต่างๆเหมือนในคอมพิวเตอร์ทั่วๆไปได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น Microsoft office ไว้ทำงานด้านเอกสาร หรือจะพรีเซ็นต์งานก็เป็นเรื่องที่ง่ายดายไปได้ในทันที ?หรือว่าจะเป็นการใช้งานในโหมด Metro UI ได้อย่างสะดวก โดยการสั่งงานด้วยนิ้วแทบจะสมบูรณ์แบบเต็ม100%เลยก็ว่าได้ ทำให้การใช้งานของ?Acer Aspire Switch 10 ยืดหยุ่นและตอบโจทย์ตามแทรนด์ของโลกได้เป็นอย่างดี
Feature
Aspire Switch 10 สามารถแปลงได้เป็นสี่โหมดที่ต่างกันที่ทำให้เราสามารถมัลติทาสก์ได้ในทุกสภาพแวดล้อม ถอดออกและใช้งานเป็นแท็บเล็ต, ทำงานอย่างจริงจังในโหมดแล็ปท็อป, หมุนจอภาพเพื่อแบ่งปัน หรือพลิกกลับเพื่อรับชมภาพยนตร์เมื่อมีพื้นที่จำกัด
Notebook Mode เป็นรูปแบบธรรมดาทั่วไปเหมือนกับโน้ตบุ๊กปกติ เน้นสำหรับการใช้งานทั่วไป เล่นอินเตอร์เน็ต รวมไปถึงงานเอกสารต่างๆ ที่จำเป็นต้องใช้คีย์บอร์ดในการควบคุม โดยคีย์บอร์ดของเครื่องนี้จะเป็น Chiclet Keyboard ที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงพอดีนิ้ว เพื่อลดโอกาสพิมพ์ผิดพลาดได้ ซึ่งเมื่อใช้งานจริงแล้วก็ถือว่าทำได้ดีอย่างน่าประทับใจ ตามมาตรฐานที่มีในโน้ตบุ๊ค Acer รุ่นอื่นๆ ทีเดียว
Pad Mode ด้วยการถอดหน้าจอออกมาจาก Docking Keyboard เราก็จะได้แท็บเล็ตที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งเรามีความคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับการเอาไว้เล่นเกมหรือดู E-Book อย่างที่แท็บเล็ตอื่นๆ ทั่วไปในตลาดสามารถทำได้ พร้อมแอพพลิเคชั่นมากมายที่รองรับการใช้งานแท็บเล็ต ซึ่งด้วยตัวเครื่องมีขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว ถือว่ามีขนาดที่เล็กเหมาะสม โดยเมื่อเข้าสู่โหมดการทำงานแบบแท็บเล็ตก็ไม่มีน้ำหนักจนเกินไป พอถือใช้งานด้วยมือเดียวได้อย่างสบายๆ
Display Mode เน้นใช้งานที่ระบบจอสัมผัสของตัวเครื่องอย่างเดียว ซึ่งจะเป็นการถอดหน้าจอแล้วกลับไปอีกด้าน โดยรูปแบบการใช้งานนี้จะเน้นไปทางการใช้งานแอพพลิเคชั่นของ Windows เอง หรือเน้นไปทางการดู Youtube หรือชมภาพยนตร์เป็นหลัก ซึ่งหน้าจอของ Acer Aspire Switch 10 เครื่องนี้เป็นจอแบบพาเนล IPS ขนาด 10.1 นิ้ว ทำให้การแสดงผลภาพออกมาคมชัดสวยงาม พร้อมรองรับการทำงานแบบมัลติทัชได้ แน่นอนว่าเป็นประสบการณ์ใช้งานที่หาได้ยากในราคาโน้ตบุ๊กไม่เกินสองหมื่นบาท
Tent Mode ค่อนข้างจะคล้ายกับ Display Mode ก่อนหน้านี้ แต่จะอยู่ในรูปทรงตั้งเครื่องเอาไว้เป็นลักษณะสามเหลี่ยม ใช้ในการวิวดูข้อมูลการแสดงผลหน้าจอเป็นหลัก อีกทั้งยังสามารถจับพาดหรือเกาะกับสิ่งของรอบๆ ได้? ด้วยบานพับที่แข็งแรง โดยออกแบบให้มีขนาดใหญ่เพื่อรองรับถอดหน้าจอไปมาโดยไม่ก่อปัญหาการหลวมหรือเสียหายขึ้นมาก่อนเวลาอันควร ซึ่งจากการทดลองใช้งานแล้ว ถือว่าทนทานระดับหนึ่งทีเดียว
Performance
Acer Aspire Switch 10 จัดได้ว่าสเปคอยู่ในระดับที่ดีเอาเรื่องเลยครับ ด้วยซีพียู Intel Atom Z3745 และเป็นซีพียูแบบ 4 Core 4 Thread ที่มีความแรงและในเรื่องของการประหยัดพลังงานที่ขึ้นชื่ออยู่แล้ว เพราะตัวนี้กินพลังงานน้อยมาก และในส่วนแรมก็ได้ใส่มาให้ถึง 2GB?ซึ่งก็พอเพียงสำหรับการใช้งานทั่วๆไป โดยการใช้งานสามารถใช้ได้อย่างคล่องตัว ไม่มีอาการกระตุกให้เห็นแต่อย่างใด อาจจะด้วยอานิสงค์ของระบบปฏิบัติการ?Windows 8.1 ที่มีความลื่นและเสถียรอยู่แล้ว ในการใช้งานหลักๆของการรีวิวนั้น จะเป็นการใช้งานอินเตอร์เน็ตเปิดเว็บไซต์ทั่วๆไป และมีการใช้ Microsoft Office บ้างเล็กน้อย ซึ่งก็สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ
Overall
Acer Aspire Switch 10 จัดได้ว่าเป็นไฮบริดโน๊ตบุ๊คตัวนึงที่มีความสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเลย เพราะด้วยความสามารถแยกร่างได้จากโน๊ตบุ๊คเป็นแท็บเล็ตได้ ทำให้คล่องตัวในการใช้งานได้ในทุกๆสถานการณ์ พร้อมด้วยระบบปฎิบัติการ Windows 8.1 ที่มีความสมบูรณ์แบบของทางด้านซอฟแวร์ เพราะสามารถติดตั้งโปรแกรมเหมือนกับในคอมพิวเตอร์ทั่วๆไปได้ นอกจากนั้นยังใช้งานได้ยาวนานยิ่งโดยความสามารถของซีพียู Intel Atom Z3745
ในเรื่องของการใช้งาน ก็สามารถแปลงได้เป็นสี่โหมดที่ต่างกันที่ทำให้เราสามารถมัลติทาสก์ได้ในทุกสภาพแวดล้อมไม่ว่าจะเป็น Notebook Mode, Pad Mode, Display Mode, Tent Mode ซึ่งความสามารถต่างๆเหล่านี้ก็มีความยืดหยุ่นกว่าโน๊ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตทั่วๆไปอย่างแน่นอน และสุดท้ายนี้ หากใครกำลังมองหาไฮบริดสักตัวหนึ่ง Acer Aspire Switch 10 ก็จัดได้ว่าเป็นตัวที่น่าสนใจเลยครับ เพราะด้วยราคาเพียง 15,900 บาท ได้ทั้งโน๊ตบุ๊คและแท็บเล็ต คุ้มสุดๆเลย 2 in 1?
ขอดี
- ซีพียู Intel Atom Bay Trail Z3745 1.33GHz ที่มีประสิทธิภาพประหยัดพลังงานได้ดีพอสมควร
- หน้าจอ IPS ขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมด้วยกระจก Gorilla Glass กันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี
- มีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครัน
- Docking Keyboard ที่มีฮาร์ดดิสเสริมเข้ามา ด้วยความจุถึง 500 GB
- วัสดุงานประกอบของตัวเครื่องค่อนข้างดี
- ระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 ตัวเต็ม ทำงานได้เต็มที่
- แถม Office Home and Student 2013
ข้อสังเกตุ
- มีน้ำหนักพอสมควรเมื่อเชื่อมต่อกับ?Docking Keyboard
- การใช้งาน?Docking Keyboard ต้องระมัดระวังไม่ให้ตก ถ้าไม่งั้นฮาร์ดดิสอาจจะเสียได้
- ไม่มีกล้องหลัง