ล่าสุด realme ได้ทำการเปิดตัวเทคโนโลยีชาร์จเร็วใหม่ที่ทำให้โลกต้องตะลึงด้วย 320W SUPERSONIC Charge ที่สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนได้เร็วที่สุดในโลกเพียงแค่ 4 นาทีกว่าๆ เท่านั้น และบทความนี้จะมาพูดถึงนวัตกรรมชาร์จเร็วตัวใหม่นี้กัน ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างเราไปติดตามกันได้เลย
ย้อนประวัติเทคโนโลยีชาร์จเร็วของ realme กันสักหน่อย
นวัตกรรมชาร์จเร็วนั้นจนถึงตอนนี้ realme มักจะเป็นผู้นำตลอดโดยเริ่มต้นตั้งแต่ realme 7 Pro ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 65W SUPERVOOC ที่ตอนนี้กลายเป็นมาตราฐานของสมาร์ทโฟนระดับกลางไปแล้วด้วย ต่อด้วย realme GT Neo 3 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 150W SUPERVOOC และล่าสุดคือ realme GT 3 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 240W SUPERVOOC แต่ทว่า realme ก็ไม่ได้หยุดแค่นั้นด้วยการเปิดตัวเทคโนโลยีชาร์จเร็วรุ่นใหม่คือ 320W SUPERSONIC Charge นั่นเอง
เทคโนโลยีชาร์จเร็วรุ่นใหม่ 320W SUPERSONIC Charge
สำหรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 320W SUPERSONIC Charge นั้นคือผลวิจัยของ realme กว่า 2 ปี ที่วิจัยขึ้นมามีหัวข้อหลักสำคัญ 3 อย่างคือกำลังไฟสูง (High Power), ขนาดกระทัดรัด (Compact Size) และ ความปลอดภัยระหว่างชาร์จ (Guaranteed Safety) โดยแต่ละอย่างจะมีรายละเอียดดังนี้
กำลังไฟสูง (High Power)
นี่เป็นหัวข้อที่เป็นจุดชูโรงของเทคโนโลยีชาร์จเร็วนี้เลยก็ว่าได้ด้วย “ปาฏิหาริย์ 4 นาที” ที่ทาง realme ได้สร้างขึ้นมา โดย “ปาฏิหาริย์ 4 นาที” ที่เกิดขึ้นมานี้มาจากการทดลองชาร์จสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่ขนาด 4420mAh ด้วยเทคโนโลยีชาร์จ 320W SUPERSONIC Charge แล้วได้ผลลัพธ์ของการชาร์จแบตเตอรี่จาก 1-100% ได้ภายในเวลาเพียง 4.30 นาทีเท่านั้น
ซึ่งสิ่งที่ทำให้การชาร์จเร็วนี้เป็นไปได้ก็คือแบตเตอรี่ใหม่แบบ 4-Cells ที่หนาไม่ถึง 3 มม. และได้รับการออกแบบแผงวงจรใหม่ให้เป็นแบบพับทำให้สามารถใช้พื้นที่ได้เต็มประสิทธิภาพมาก และยังสามารถเพิ่มปริมาณแบตเตอรี่ขึ้นได้อีก 10% อีกด้วย
ในเรื่องของความร้อนสะสมนั้นก็หายห่วงได้เลยเพราะเมื่อทำการชาร์จจะเป็นการชาร์จพร้อมกันทั้ง 4 Cells ทำให้แบตเตอรี่เต็มเร็วขึ้นแต่ร้อนน้อยลงด้วย โดยการชาร์จนี้จะถูกควบคุมผ่านชุดชาร์จและอัลกอริทึมพิเศษอีกทีด้วยครับ
ความปลอดภัยระหว่างชาร์จ (Guaranteed Safety)
ต่อมาคือเรื่องความปลอดภัยในการชาร์จ เพราะยิ่งกำลังไฟสูงก็ยิ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้, หม้อแปลงระเบิด หรือบอร์ดช็อต เป็นต้น ทาง realme เองก็ใส่ใจกับเรื่องนี้จึงได้สร้างระบบความปลอดภัยขั้นสูงอย่าง AirGap Voltage Transformer ขึ้นมา และได้เปิดตัวหม้อแปลงแรงดันไฟฟ้า “AirGap” ขึ้นมาเพื่อลดความกังวลดังกล่าวครับ
โดย AirGap นี้คือเทคโนโลยีที่จะทำการแปลงพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้าขั้นสูงแบบไร้การสัมผัส จึงทำให้หากเกิดการลัดวงจรขึ้นมาไฟส่วนเกินจะไม่พุ่งไปหาแบตเตอรี่ จนเกิดเป็นความเสียหายร้ายแรงขึ้นมา สำหรับตัวหม้อแปลงดังกล่าวนี้จะมีขนาดที่เรียกได้ว่ากระทัดรัดเป็นพิเศษ เล็กกว่าปลายนิ้วก้อยเสียอีก โดยตัวหม้อแปลงจะทำการแปลงไฟจนเหลือแค่ 20V เพื่อปกป้องแบตเตอรี่ ในขณะที่ยังคงความสามารถในการแปลงไฟและควบคุมความร้อนได้สูงถึง 98% เลยทีเดียว
ขนาดกระทัดรัด (Compact Size)
ในเรื่องขนาดกระทัดรัดนับว่าเป็นสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างสำคัญเนื่องจากอะแดปเตอร์ชาร์จนั้นยิ่งกำลังไฟสูงเท่าไรก็จะยิ่งมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นตามไปด้วย ทำให้การพกพาค่อนข้างลำบาก นอกจากนี้ยังรองรับแต่เทคโนโลยีการชาร์จแบบเดียวด้วย ดังนั้นทาง realme จึงได้เปิดตัวอะแดปเตอร์รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า “Pocket Cannon (ปืนใหญ่ไซส์พกพา)” ที่มีความหนาแน่นของกำลังไฟที่ 3.3W ต่อลูกบาศก์เซนติเมตร ซึ่งเหนือไปว่า 240W SUPERVOOC ที่ realme เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ แต่ทว่าก็ยังคงมีขนาดตัวอะแดปเตอร์ที่เท่าๆ กันอยู่
และด้วยความที่ต้องการความอเนกประสงค์ด้วยแล้วทำให้อะแดปเตอร์ Pocket Cannon นี้จะมาพร้อมพอร์ต USB Type-C 2 พอร์ต ที่สามารถชาร์จสมาร์ทโฟนและแล็ปท็อปร่วมกันได้ โดยช่องแรกจะรองรับกำลังไฟที่ 150W และช่งอที่สองจะรองรับกำลังไฟที่ 65W แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือตัวอะแดปเตอร์ Pocket Cannon นั้นรองรับเทคโนโลยีชาร์จส่วนใหญ่เกือบหมดไม่ว่าจะเป็น UFCS (320W), PD, SUPERVOOC และ PPS ทำให้อะแดปเตอร์ Pocket Cannon นั้นมีความอเนกประสงค์ในการใช้งานสุดๆ
สำหรับ realme 320W SUPERSONIC Sharge นั้นเป็นเทคโนโลยีที่โหดสุดในตลาดเลยทีเดียว เพราะทำให้ใช้เวลาชาร์จสั้นลงอย่างมาก แต่ก็มาพร้อมความปลอดภัยที่ดียิ่งขึ้น และมีความอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นด้วย เพราะตัวอะแดปเตอร์นอกจากจะเอามาใช้ชาร์จสมาร์ทโฟนของ realme อย่างเดียวแล้วตอนนี้ยังสามารถเอาไปชาร์จกับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นรวมถึงแล็ปท็อปก็ยังได้ ทำให้การพกพาไปไหนสะดวกขึ้นด้วยครับ เรียกได้ว่าทาง realme ทำการบ้านมาดีทีเดียว เพราะการออกแบบอะแดปเตอร์แบบนี้เป็นการออกแบบที่เข้าใจผู้ใช้มากขึ้นด้วยความต้องการที่อยากพกพาให้สะดวกรวดเร็ว และสามารใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นที่มีได้ทั้งหมด เพียงแต่สำหรับคนไทยนั้นอาจจะต้องมารอลุ้นกันดูว่า realme จะยอมนำ 320W SUPERSONIC Charge เข้ามาไทยด้วยไหม หรือจะสงวนเฉพาะในจีนและบางประเทศเช่นเดิม