ราคา iPhone 8 Plus ล่าสุดจาก AIS TrueMove H และ Dtac อัพเดท 2022
ถึงแม้ว่าในตอนนี้ทาง Apple ร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศอย่าง BNN, Powerbuy ได้เลิกจำหน่าย iPhone 8 Plus ไปแล้ว เนื่องจากสินค้าหมด และก็หาซื้อยากมากๆ ในตอนนี้ รวมไปถึงทางค่ายโอเปอร์เรเตอร์ใหญ่ ทั้ง 3 ค่าย อย่าง AIS TrueMove H และ Dtac ก็ไม่มีวางขายแล้ว ทั้งหน้าร้านและซื้อแบบออนไลน์ ทั้งเครื่องเปล่า และแบบซื้อร่วมโปรโมชัน ก็ไม่มีขายแล้ว แต่ก็ยังมีขายอยู่บ้างทางร้านค้าออนไลน์
จริงๆ ก็ถือว่า iPhone 8 Plus นั้น ยังคงมีความน่าสนใจไม่น้อยเลย สำหรับ iPhone รุ่นนี้ ที่ราคาก็ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่แพงมาก ถ้าซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ หรือตามร้านตู้ รวมไปถึงร้านเครื่องที่เป็นมือสอง ที่ตอนนี้ยังคงมีคนที่ยังค้นหา และยังอยากใช้งานอยู่ เนื่องจากรุ่นนี้มีราคาที่ยังเข้าถึงง่าย หน้าจอที่ใหญ่ใช้งานได้อย่างเต็มที่ และความเทพของเครื่องก็ยังแน่นอยู่ จะบอกว่ารุ่นนี้รวมฟังก์ชันตัวแรก และตัวสุดท้ายไว้ในเครื่องเดียวกันก็ว่าได้ ก็คือ เป็นตัวแรกที่เปลี่ยนฝาหลังเป็นแบบกระจก และเป็นตัวสุดท้ายที่มีปุ่ม Touch ID ที่สาวก iPhone บางคนก็ยังชอบแบบที่มีปุ่มอยู่ แล้วถ้าจะซื้อมาจะยังน่าสนใจอยู่ไหม? ถ้าให้พูดจริงๆ ก็ลดรุ่นลงไปแค่ 5 รุ่นเท่านั้น ถ้านับรวม iPhone 13 ที่เปิดตัวกันไปแล้ว แน่นอนว่าเมื่อมีรุ่นใหม่ รุ่นเก่าก็ต้องถูกโละออกไปด้วย ทำให้ไม่สามารถซื้อจากค่ายใหญ่ๆ ได้อีกต่อไป
ถ้าใครอยากอัพเกรดรุ่นขึ้นไปอีกเป็น iPhone 11 หรือ iPhone 12 สามารถเข้าไปดูราคาล่าสุดปี 2022 ของ iPhone 11 ได้ที่นี่ และของ iPhone 12 ได้ที่นี่ หรือถ้าให้แนะนำรุ่นที่ยังมีปุ่มแบบคลาสสิคอยู่ สามารถเลือกซื้อเป็นตัว iPhone SE 2020 ที่มีทั้งสเปคที่ดีกว่า เร็วแรงกว่า แต่ว่าจะได้หน้าจอที่เล็กลงกว่าเล็กน้อย ถ้าใครจะซื้อมาเล่นเกม หรือว่าใช้งานแบบทั่วไป ก็ยังเป็นรุ่นที่น่าสนใจมากเหมือนกัน ดูรีวิว iPhone SE 2020 ที่นี่ หรือดู Unbox ที่นี่ ส่วนราคาของ iPhone SE จะมีราคาอยู่ที่ สั่งซื้อได้ที่นี่
- iPhone SE รุ่น 64GB ราคา 14,900 บาท
- iPhone SE รุ่น 128GB ราคา 16,900 บาท
และในวันนี้ทาง Specphone ก็จะมาอัพเดทกันว่า ราคาของ iPhone 8 Plus ในตอนนี้มีราคาขายกันที่เท่าไหร่บ้าง ที่สามารถซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ได้ รวมไปถึงราคาของเครื่องมือสอง มีราคากลางที่เท่าไหร่ และสเปคเครื่องยังน่าสนใจอยู่หรือไม่ ถ้าจะซื้อมาใช้ในตอนนี้ และเนื่องจากตัวเครื่องรุ่นนี้ไม่มีขายจากทางศูนย์ และค่ายใหญ่ทั้ง 2 ค่ายแล้ว อ้างอิงจากวันที่อัพเดทบทความนี้ ยังเหลือเครื่องแท้ศูนย์จาก AIS เท่านั้น สามารถกดข้ามไปดูราคาจากร้านค้าออนไลน์ และราคามือสองได้เลยถ้าอยากซื้อเครื่องเปล่า แต่ถ้าอยากได้เครื่องศูนย์ก็ต้องรีบกันหน่อยนะ เพราะสินค้ามีจำนวนจำกัดมากๆ
โปรโมชัน iPhone 8 Plus จาก AIS (สินค้าหมดแล้ว)
เครื่องจาก AIS นั้น จะมีขายแค่แบบ 256GB เท่านั้น ราคาเครื่องเปล่าจะอยู่ที่ 25,900 บาท แต่ถ้าซื้อพร้อมแพ็กเกจก็จะยิ่งได้ส่วนลดไปด้วย ลดได้สูงถึง 6,500 บาท สามารถเลือกซื้อร่วมกับแพ็กเกจราคา 699 บาทขึ้นไป โดยสามารถใช้ร่วมกับโปรโมชัน AIS Best Buy และต้องใช้ซิม AIS ที่เป็นลูกค้าปัจจุบันสัญญา 12 เดือน (ใช้งานเกิน 1 ปีขึ้นไป) ในการร่วมแพ็กเกจ ส่วนเรื่องสีที่เหลืออยู่ จะเหลือเพียงสีเงิน (Silver) สีเดียวเท่านั้น โดยมีโปรโมชัน ดังนี้
AIS Hot Deal
แพ็กเกจ | ราคาเครื่อง | ราคาแพ็กเกจ | ชำระล่วงหน้า | สัญญา |
AIS Best Buy (ลูกค้าปัจจุบัน 1 ปีขึ้นไป) | 19,400 บาท | 699 บาทขึ้นไป | ไม่มี | 12 เดือน |
AIS Best Buy (ลูกค้า Serenade 3 ปีขึ้นไป) | 18,400 บาท | 699 บาทขึ้นไป | ไม่มี | 12 เดือน |
AIS Best Buy (ลูกค้า Serenade 1 ปีขึ้นไป) | 18,900 บาท | 699 บาทขึ้นไป | ไม่มี | 12 เดือน |
ลูกค้าทั่วไป (เครื่องเปล่า) | 25,900 บาท | ไม่มี | ไม่มี | ไม่มี |
อย่าลืมว่าสินค้ามีจำนวนจำกัด นับจากวันที่ได้อัพเดทบทความนี้เป็นต้นไป ซึ่งโปรโมชันนี้จะมีตั้งแต่วันที่ 4 พ.ย. 64 – 17 ม.ค. 65 หลังจากนั้นถ้าเครื่องหมดหรือว่ามีโปรโมชันเปลี่ยนแปลง ก็ต้องรอดูการอัพเดทอีกครั้งว่าจะยังเหลืออีกหรือไม่อย่างไร ส่วนการซื้อนั้นสามารถซื้อราคาเต็มจำนวน หรือว่าจะเลือกผ่อนชำระก็ได้ด้วย iPhone & iPad Best Buy ติดสัญญา 12 เดือน (ราคาลดพิเศษ / ผ่อนชำระ 0% / ผูกสัญญา 12 เดือน) ดูรายละเอียดบัตรเครดิตต่างๆ ได้ที่นี่ และใครที่ต้องการซื้อ iPhone 8 Plus กับ AIS สามารถเข้าไปซื้อ ได้ที่นี่ ตอนนี้สินค้าหมดเรียบร้อยแล้ว
โปรโมชัน iPhone 8 Plus จาก TrueMove H (ไม่มีขายแล้ว)
มาถึงทางด้านของฝั่ง TrueMove H กันบ้าง ซึ่งค่ายนี้ก็ยังเน้นราคาที่ถูกที่สุดอยู่เหมือนเดิม โดยลดราคาให้สูงสุดถึง 10,000 บาท จากราคาเครื่องเปล่า 16,400 บาท แต่ต้องเน้นย้ำว่า เป็น iPhone 8 Plus 64GB เท่านั้น และมีให้เลือกโปรโมชันได้มากถึง 4 โปรโมชัน พร้อมสีครบทุกสี (ควรสอบถามก่อนทุกครั้ง) มีโปรโมชัน ดังนี้
แพ๊กเกจ TrueMove H Super Save ย้ายค่ายเบอร์เดิม
ราคาเครื่อง | ราคาแพ็กเกจ | ชำระล่วงหน้า | สัญญา | โทร | อินเทอร์เน็ต |
6,400 บาท | 1,899 บาท | 3,500 บาท | 12 เดือน | โทรในเครือข่ายไม่อั้น 2,000 นาที ส่วนเกิน 1.50 บาทต่อนาที | ไม่อั้น ไม่ลดสปีด ที่ความเร็วสูงสุด 300 Mbps |
6,400 บาท | 1,499 บาท | 3,500 บาท | 12 เดือน | โทรในเครือข่ายไม่อั้น 1,500 นาที ส่วนเกิน 1.50 บาทต่อนาที | ไม่อั้น ไม่ลดสปีด ที่ความเร็วสูงสุด 300 Mbps |
7,400 บาท | 1,299 บาท | 3,000 บาท | 12 เดือน | โทรในเครือข่ายไม่อั้น 850 นาที ส่วนเกิน 1.50 บาทต่อนาที | ไม่อั้น ไม่ลดสปีด ที่ความเร็วสูงสุด 300 Mbps |
แพ๊กเกจ TrueMove H Super Save เปิดเบอร์ใหม่, เปลี่ยนเติมเงินเป็นรายเดือน และลูกค้ารายเดือน จะเหมือนกัน
ราคาเครื่อง | ราคาแพ็กเกจ | ชำระล่วงหน้า | สัญญา | โทร | อินเทอร์เน็ต |
7,400 บาท | 1,899 บาท | 3,500 บาท | 12 เดือน | โทรในเครือข่ายไม่อั้น 2,000 นาที ส่วนเกิน 1.50 บาทต่อนาที | ไม่อั้น ไม่ลดสปีด ที่ความเร็วสูงสุด 300 Mbps |
7,400 บาท | 1,499 บาท | 3,500 บาท | 12 เดือน | โทรในเครือข่ายไม่อั้น 1,500 นาที ส่วนเกิน 1.50 บาทต่อนาที | ไม่อั้น ไม่ลดสปีด ที่ความเร็วสูงสุด 300 Mbps |
8,400 บาท | 1,299 บาท | 3,000 บาท | 12 เดือน | โทรในเครือข่ายไม่อั้น 850 นาที ส่วนเกิน 1.50 บาทต่อนาที | ไม่อั้น ไม่ลดสปีด ที่ความเร็วสูงสุด 300 Mbps |
นอกจากนี้ยังได้รับ WiFi ไม่อั้น สามารถใช้ 4G HD Voice ได้ และ สิทธิพิเศษ ด้วยการ ดูหนัง ฟังเพลง ผ่านแอปฯ True ID แบบ Ultimate โดยไม่เสียค่าอินเทอร์เน็ต นาน 12 เดือน เงื่อนไขและสิทธิพิเศษอื่นๆ ควรสอบถามทาง TrueMove H ก่อนทุกครั้ง หรืออ่านรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่
โปรโมชัน iPhone 8 Plus จาก Dtac (ไม่มีขายแล้ว)
มาถึงค่ายสุดท้ายจาก Dtac โดยเครื่องนั้นจะมีขายแค่ iPhone 8 Plus 128GB เท่านั้น และสีต้องสอบถามก่อนทุกครั้ง ที่มีราคาเครื่องเปล่าอยู่ที่ 18,400 บาท แต่ถ้าซื้อร่วมกับโปรโมชัน ก็สามารถรับส่วนลดสูงสุดถึง 10,400 บาทเลยทีเดียว โดยผู้ที่สามารถซื้อได้ต้องใช้ซิม Dtac เท่านั้น สามารถเข้าร่วมกับแพ๊กเกจใดก็ได้ ที่มีมูลค่าแพ๊กเกจเท่ากัน ใช้ได้สำหรับ เปิดเบอร์ใหม่ เปลี่ยนจากเติมเงินเป็นรายเดือน และลูกค้ารายเดือน มีรายละเอียดโปรโมชัน ดังนี้
โปรโมชัน Dtac ใจดี
ราคาเครื่อง | ราคาแพ็กเกจ | ชำระล่วงหน้า | สัญญา |
10,400 บาท | 1,099 บาท | 1,000 บาท | 12 เดือน |
12,400 บาท | 899 บาท | 500 บาท | 12 เดือน |
13,900 บาท | 699 บาท | 500 บาท | 12 เดือน |
พิเศษ สำหรับลูกค้าที่ย้ายค่ายเบอร์เดิม ลดลงอีก 1,500 บาท และยังสามารถรับส่วนลดอุปกรณ์เสริม จากของ Apple เมื่อซื้อ iPhone หรือ iPad พร้อมแพ็กเกจ ในระหว่างวันที่ 31 ก.ค.63- 31 ส.ค. 2563 ด้วย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ราคา iPhone 8 Plus จากร้านค้าออนไลน์
สำหรับร้านค้าออนไลน์อย่าง Shopee หรือ Lazada นั้น จะยังคงมีร้านที่ยังเอารุ่นนี้ออกมาวางขายอยู่บ้าง และมีอยู่หลายร้านให้เลือกซื้อกันด้วย แต่ก็ต้องเตือนกันไว้ก่อนว่า การซื้อของผ่านทางร้านออนไลน์เหล่านี้ ต้องดูความน่าเชื่อถือของร้าน และมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหนด้วย จะได้ไม่โดนโกง ด้วยการนำของมือสอง หรือนำเครื่อง Refurbished (อ่านวิธีเช็คเครื่อง Refurbished ได้ที่นี่) กลับมาวางขายใหม่ ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นเครื่องประกันศูนย์ และเป็นเครื่องไทย แต่ก็มีคนนำตัว Demo มาวางขายด้วยเช่นกัน ควรเช็คให้ดีก่อนซื้อทุกครั้ง
ส่วนรุ่นที่มีวางขายอยู่ตอนนี้ก็จะมีตั้งแต่รุ่น 64GB, 128GB และตัว 256GB โดยมีราคาที่แตกต่างกันไปด้วย มีราคาเริ่มต้นของเครื่องแท้ เป็นเครื่องค้างสต็อก พร้อมประกันร้านแทน มีราคาตั้งแต่ 10,680 – 14,100 บาทขึ้นไป แล้วแต่ขนาดความจุของตัวเครื่อง ดูรายละเอียดได้ ที่นี่ และก็อย่าลืมดูความน่าเชื่อถือของร้านก่อนซื้อด้วย
แต่ถ้าเป็นเครื่องนอก เครื่อง Refurbished จะมีราคาเริ่มต้น 6,900 – 14,500 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดความจุของตัวเครื่อง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมจาก Shopee ได้ ที่นี่ และจาก Lazada ได้ที่นี่
ราคา iPhone 8 Plus มือสอง จากร้านค้าออนไลน์
นอกจากจะมีสินค้ามือ 1 ที่ยังมีขายอยู่ในร้านค้าออนไลน์ทั่วไปแล้ว เครื่องมือสอง ก็ยังมีคนนำออกมาวางขายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสภาพของบางเครื่องนั้น ก็ยังอยู่ในสภาพดี 97% ไปจนถึงสภาพที่พอใช้ได้ ขึ้นอยู่กับงบประมาณ และการตัดสินใจของตัวเราเองด้วย ว่าต้องการใช้งานแบบไหน ซึ่งร้านค้าออนไลน์จากทาง Shopee และ Lazada ก็ยังมีมือสองขายอยู่ด้วยเช่นกัน ทั้งเครื่องเปล่า 64GB 128GB ไปจนถึง 256GB โดยร้านที่ขายก็จะมีราคาแตกต่างกันออกไป รวมไปถึงรายบุคคลที่นำมาปล่อยต่อเองด้วย แนะนำว่าถ้าอยากได้เครื่องแท้แบบไม่ติด Refurbished ก็ให้เลือกซื้อเป็นมือสองไปเลยก็ได้เหมือนกัน
รุ่นที่เอามาวางขายนั้น จะมีทั้งของแท้มีประกันอยู่ และแบบ Refurbished ข้อควรระวังคือ ระวังได้ของปลอม และควรทำการตรวจสอบก่อนซื้อขายทุกครั้ง รวมไปถึงการดูอุปกรณ์แต่ละอย่าง ที่ให้มาด้วย บางร้านอาจไม่ได้บอกว่าอุปกรณ์ที่ให้มานั้น เป็นของก๊อป AAA หรือบางร้านก็ไม่ได้บอกว่านำมาขายจากไหน ควรตรวจสอบให้ดีก่อนซื้อทุกครั้ง ราคาของ iphone 8 Plus จะมีราคากลางอยู่ที่ 7,500 – 11,000 บาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดความจุ และสภาพของตัวเครื่อง ดูรายละเอียดจาก Shopee ได้ที่นี่ และดูรายละเอียดของ Lazada ได้ที่นี่
สเปคของ iPhone 8 Plus
แม้ว่าตอนเปิดตัวของรุ่นนี้ จะผ่านมาถึง 3 ปีแล้ว แต่ความทันสมัยของตัวเครื่องและระบบ ก็ยังถือว่าใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีอยู่ โดยตอนเปิดตัวของรุ่นนี้ จะมีออกมา 3 รุ่น คือ iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X แต่ที่เราจะมีพูดถึงวันนี้ก็คือ เพียงแค่ iPhone 8 Plus เพียงตัวเดียว มาเริ่มกันเลยดีกว่า
ภายนอกของตัวเครื่อง iPhone 8 Plus
ถ้าดูจากภายนอกจริงๆ ตัวนี้คล้ายกับ iPhone 7 เลย แต่วัสดุจริงๆ ต่างกันเยอะมาก รุ่นนี้ได้การดีไซน์ใหม่ ให้แตกต่างจากเดิม โดยเปลี่ยนวัสดุฝาหลังจากเดิมที่ใช้ Stainless Steel ที่ให้ความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว แต่ iPhone รุ่นนี้ได้เปลี่ยนมาใช้ แบบกระจกและอะลูมิเนียมแทน ซึ่งก็จะได้ทั้งความแข็งแกร่งของตัวเครื่อง และรองรับ Wireless Charge ได้ด้วย ถือเป็นรุ่นแรกของ iPhone เลยที่เปลี่ยนมาเป็นแบบนี้ ส่วนกรอบข้างยังเป็นแบบเดิมอยู่ ให้ความรู้สึกเหมือน iPhone 4 รุ่นนี้ทำออกมา 3 สี คือ สีเงิน สีทอง และสีเทาสเปซเกรย์ เมื่อฝาหลังเป็นแบบกระจกเงาแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มความสวยมากขึ้นไปอีก
น้ำหนักของตัวเครื่องอยู่ที่ 202 กรัม ก็ถือว่ามีน้ำหนัก เหมาะสมกับความใหญ่ของตัวเครื่อง ส่วนความกว้างและความยาวของเครื่องคือ 158.4 x 78.1 มิลลิเมตร และมีความหนา 7.5 มิลลิเมตร ส่วนรูพอร์ทก็ไม่มีช่องต่อหูฟัง 3.5 เหมือนเดิม และมีความสามารถในการกันน้ำ ลึกไม่เกิน 1 เมตร กันฝุ่นอยู่เหมือนเดิมด้วย
สเปคจอแสดงผลแบบ True Tone
หน้าจอของ iPhone 8 Plus ยังคงเป็นเหมือนเดิม คือเป็นแบบ Retina HD ให้สีสันหน้าจอออกมาสวยงามดูสมจริง ที่ขนาดกว้าง 5.5 นิ้ว ในแนวทแยง แบบ Widescreen LCD Multi-Touch 16.7 ล้านสี และความละเอียด 1920 x 1080 พิกเซล (401 ppi) แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาเป็นพิเศษ ก็คือ True Tone ที่มีความสามารถช่วยปรับ White Balance ทำให้หน้าจอเปลี่ยนความเข้มแสง ให้พอดีกับสภาพแวดล้อมรอบตัวด้วย
ให้ความรู้สึกว่าการใช้งานเป็นธรรมชาติมากขึ้น และแสดงสีออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ซึ่ง True Tone นี้มีใน iPad Pro ด้วย ตัวนี้ลำโพงถูกพัฒนามาให้มีความดังกว่าตัวเก่าถึง 25% ด้วย ผิวกระจกผ่านกระบวนการลงหมึกถึง 7 ชั้น ส่งผลให้สามารถแสดงเฉดสี และความทึบแสงได้อย่างแม่นยำ และสีดูมีมิติมากขึ้น
Touch ID รุ่นสุดท้าย
ส่วนการสแกนนิ้วมือ ยังคงเป็นปุ่ม Home แบบ Touch ID อยู่เหมือนเดิม พร้อมเคลือบสี 7 ชั้น ป้องกันการเกิดรอยขีดข่วนและแข็งแรงมากขึ้น และสามารถสแกนได้แม่ยำกว่าเดิมด้วย ซึ่งรุ่นนี้ ถือว่าเป็นรุ่นสุดท้ายแล้ว ที่มีปุ่ม Home และการสแกนแบบ Touch ID
ระบบการทำงานที่ลื่นไหล
ระบบการทำงานของ iPhone ตัวนี้ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 11 ด้วยหน่วยประมวลผล Hexa Core พร้อมกับความแรงจากชิป A11 Bionic ที่แรงและฉลาดที่สุดของ iPhone ทั้งหมดที่เคยมีมา สำหรับในสมัยนั้น ตัวนี้มี CPU แบบ 6 คอร์ แบ่งเป็นช่วยเพิ่มความเร็ว ช่วยประหยัดพลังงาน จึงช่วยให้การทำงานที่ซับซ้อนของระบบ สามารถทำงานได้อย่างลื่นไหลมากกว่าเดิมถึง 70%
หน่วยความจำของตัวนี้จะอยู่ที่ 3 GB และความจุคือ 64 GB กับ 128 GB ซึ่งในตอนนี้ที่ศูนย์การขาย ส่วนใหญ่จะเป็น 128 GB มากกว่าตัว 64 GB แล้ว ความเทพอีกอย่างของรุ่นนี้คือ มี 3 คอร์ที่เพิ่มความสามารถทางด้านกราฟิกอีก 30% ทำให้การเล่นเกมดีขึ้นเยอะมาก รวมไปถึงการเล่นเกมแบบ 3D ผ่านระบบ AR ด้วย
การเชื่อมต่อข้อมูล
การเชื่อมต่อข้อมูลของ iPhone 8 Plus ภายในเครื่องสามารถเชื่อมต่อ WiFi แบบ 802.11 ac และการเชื่อมต่อ แบบปกติทั่วไป แต่ที่น่าสนใจอีกอย่างของตัวนี้ก็คือ ไม่มีรู 3.5 ที่เอาไว้ต่อสายหูฟังได้อีกต่อไปแล้ว แต่จะมาแทนด้วย USB Lightning ที่ใช้เสียบกับหูฟังแทน และรองรับเครือข่าย GSM มากสุด 1900 MHz รวมไปถึง 4G LTE และ 4G VoLTE ที่ช่วยให้ส่งข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ไม่ติดขัด
กล้องหลัง ที่เพิ่มประสิทธิภาพมากขึ้น
กล้องหลังของ iPhone 8 Plus ที่หลายคนให้ความคาดหวัง ก็ได้การพัฒนามากขึ้นจาก iPhone 7 ด้วย Dual-Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ประกอบไปด้วยเลนส์ 6 ชิ้น มีมาให้ทั้งเลนส์ปกติ เลนส์ Tele ที่ปรับรูรับแสงมากสุดถึง F/2.8 และเลนส์ Wide ที่ปรับได้กว้างสุด F/1.8 แค่นี้ก็ถือว่าโหดมากแล้วในตอนนั้น พร้อมระบบเซ็นเซอร์ และระบบโฟกัสที่ไวขึ้น รวมไปถึงการถ่ายภาพแบบ HDR ที่เปิดรูรับแสงได้มากขึ้น และซุมได้มากสุดถึง 10 เท่า
แฟลชของรุ่นนี้เป็น True Tone แบบ LED มากถึง 4 ดวง พร้อมด้วยคุณสมบัติสโลว์ซิงค์ ที่จะทำให้ภาพมีความสว่างเท่ากันกับฉาก ยังคงมีระบบกันสั่นแบบ OIS ส่วนการถ่ายวิดีโอนั้น สามารถถ่ายได้สูงสุดถึงความชัดระดับ 4K (3840 x 2160 พิกเซล) ที่ความเร็ว 30 fps และโหมดการถ่ายแบบ สโลว์โมชันขนาด 1080p ที่ 120 fps และ 720p ที่ 240 fps
กล้องหน้าระดับ HD
กล้องหน้าของรุ่นนี้ มีความละเอียด 7 ล้านพิกเซล และมีรูรับแสงกว้างสูงสุดถึง f/2.2 ซึ่งก็ยังมีการใช้แฟลชแบบเดิมคือ Retina Flash ที่ใช้หน้าจอในการเปิดแฟลช เพิ่มความสว่างให้กับกล้องหน้าได้ด้วย ยิ่งไปกว่านั้นยังรองรับการถ่ายวิดีโอในความละเอียด 1080p HD และถ่าย Burst mode และ Timer mode ได้ในกล้องหน้าด้วย
แบตเตอรี่ กับการชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายแบบใหม่
ความแปลกใหม่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของรุ่นนี้เลย คือ การชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย (Wireless Charging) เพียงแค่วางไว้การเครื่องชาร์จ ที่เป็น Wireless Charging ก็สามารถชาร์จได้แล้ว และนี่ก็คือเหตุผลที่ทำไมถึงเปลี่ยนฝาหลังมาเป็นแบบกระจก แบตเตอรี่ของ iPhone 8 Plus มีความจุที่ 2,691 mAh แบบ Li-Po และรองรับ Fast Charging ช่วยให้ชาร์จแบตเตอรี่ได้เร็วขึ้นด้วย
สรุป
ทั้งหมดนี้ก็คือข้อมูลที่เรานำมาอัพเดทให้รู้กัน ซึ่งจากทั้งสามค่ายใหญ่ AIS Truemove H และ dtac รวมไปถึงศูนย์ตัวแทนจำหน่าย ก็มีออกมาวางขายแค่เพียงค่าย AIS ค่ายเดียว แต่ตอนนี้เครื่องก็ได้หมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงทำได้เพียงแค่ซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ หรือซื้อผ่านตู้ขายสินค้ามือถือทั่วไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าราคามือ 1 แท้เครื่องศูนย์นั้น จะยังมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ก็จะได้ความมั่นใจในการใช้งานไปเต็มๆ ว่าเป็นเครื่องแท้มือ 1 แน่นอน ส่วนเครื่องนอกหรือเครื่อง Refurbished มือ 1 นั้นจะมีราคาพอๆ กับเครื่องแท้ไทยศูนย์มือสองเลย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของแต่ละคนด้วย ถ้าหากอยากได้มือ 1 แต่ไม่มั่นใจ จะไปใช้มือสอง ก็ควรต้องศึกษาและตรวจสอบให้มั่นใจก่อนซื้อทุกครั้ง เพราะส่วนใหญ่ในตอนนี้ก็เป็นเครื่อง Refurbished กันหมดแล้วที่ยังเหลือวางขายอยู่ แต่จะมีประกันร้านกี่ปีก็แล้วแต่ร้านค้านั้นๆ ด้วย ถ้าให้แนะนำสำหรับคนที่ยังชอบ iPhone มีปุ่มแบบคลาสสิคในราคาเบาๆ แถมยังได้สเปคดีกว่ารุ่นนี้ แนะนำเป็นรุ่น iPhone SE อย่างที่บอกไปเลย ถึงแม้ว่าจะได้หน้าจอที่เล็กลงบ้าง แต่ก็ยังมีความคล้ายๆ กันในหลายๆ ด้าน ดูรีวิว iPhone SE 2020 ทีนี่ หรือดู Unbox ได้ที่นี่ ที่ตอนนี้มีราคามือ 1 คือ
- iPhone SE รุ่น 64GB ราคา 14,900 บาท
- iPhone SE รุ่น 128GB ราคา 16,900 บาท
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลที่เรารวบรวมมาฝากกัน สำหรับราคาอัพเดทของ iPhone 8 Plus ล่าสุดของเดือน กุมภาพันธ์ 2022 และยาวไปตลอดทั้งปี 2022 เลย ซึ่งโดยรวมแล้วรุ่นนี้ก็ยังมีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย ถ้าซื้อมาใช้งานทั่วไปก็ยังถือว่าใช้งานได้อยู่ดีมาก ยังไม่ตกรุ่น และสเปคก็ยังแรงใช้ได้เลย ซื้อเป็นของขวัญก็ยังได้ แล้วถ้ามีอะไรอัพเดทอีก specphone ก็จะนำมาฝากกันอีกนะครับ