เรียกได้ว่ามาเร็ว เคลมเร็วจริง ๆ สำหรับ Galaxy Z Fold2 5G ที่ซัมซุงประเทศไทยได้เปิดจอง และเปิดให้สื่อเข้าร่วมรอบพรีวิว Samsung Galaxy Z Fold2 5G หลังงานเปิดตัวทันที ถือเป็นประเทศแรก ๆ ในโลกเลยก็ว่าได้ครับ ที่วางจำหน่ายสมาร์ตโฟนจอพับสุดล้ำรุ่นนี้
พรีวิว Samsung Galaxy Z Fold2 5G
ส่วนตัวผมมองว่า Samsung Galaxy Z Fold2 5G เป็นรุ่นที่ปรับปรุงมาจาก Galaxy Fold รุ่นแรกได้น่าสนใจ ทั้งเรื่องราคาที่เปิดมาถูกกว่ารุ่นแรก 69,990 บาท เข้าถึงได้ง่ายขึ้น เมื่อเทียบกับพวกสมาร์ตโฟนเรือธงระดับท็อป ๆ ในตอนนี้ เพิ่มเงินประมาณหมื่นกว่าบาท หากคิดว่าซื้อแท็บเล็ตเพิ่มอีกตัว ผมว่าก็เป็นราคาที่รับได้นะครับ
นอกจากราคาที่เปิดมาให้เข้าถึงง่ายขึ้นแล้ว Galaxy Z Fold2 5G ยังปรับปรุงเรื่องหน้าจอให้เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น เริ่มจากหน้าจอด้านนอกที่มีขนาดใหญ่ถึง 6.2 นิ้ว (Galaxy Fold หน้าจอ 4.6 นิ้ว) พอ ๆ กับสมาร์ตโฟนทั่วไปในท้องตลาด ส่วนหน้าจอด้านในมีขนาด 7.6 นิ้ว (Fold รุ่นแรก จอด้านใน 7.2 นิ้ว) อัตรารีเฟรชหน้าจอด้านใน 120Hz ใช้งานได้อย่างลื่นไหล
กลไกบานพับของ Galaxy Z Fold2 5G ก็ถูกปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้า ตอนนี้สามารถพับและใช้งานได้ในทุกองศาแล้ว คล้าย ๆ กับบานพับของ Galaxy Z Fold ที่เป็นจอพับทรงตลับแป้ง พอพับได้หลายองศา จึงปรับใช้งานได้หลากหลายสถานการณ์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางเครื่องเพื่อใช้ถ่ายภาพ หรือจะเป็นการพับเครื่องเพื่อใช้รับชมภาพยนตร์ รวมถึงการพับหน้าจอเล็กน้อย ก็ทำให้ใช้งานในโหมดแท็บเล็ตได้คล่องตัวขึ้น
Galaxy Z Fold2 5G มาพร้อมกับกล้องที่มากถึง 5 ตัวด้วยกัน แบ่งออกเป็นดังนี้
- กล้องหน้าในโหมดสมาร์ตโฟน ความละเอียด 10MP F/2.2
- กล้องหน้าในโหมดแท็บเล็ต ความละเอียด 10MP F/2.2
- กล้องหลัง 3 ตัว ประกอบไปด้วย
- เลนส์หลัก 12MP F/1.8
- เลนส์มุมกว้าง 12MP F/2.2
- เลนส์ซูม 2x ความละเอียด 12MP F/2.4
ความรู้สึกเมื่อได้กาง และพับ Galaxy Z Fold2 5G ด้วยบานพับแบบ Hideaway Hinge และกลไก CAM mechanism ทำให้การกางตัวเครื่องมีความสมูทมากขึ้น นอกจากนี้ยังมี Sweeper Technology นวัตกรรมเส้นใยไฟเบอร์ที่ซ่อนอยู่ข้างในบานพับ ทำหน้าที่ในการป้องกันฝุ่นละอองไม่ให้เข้าไปในตัวเครื่อง และตัวเครื่องเคลือบสารกันละอองน้ำไว้ในระดับหนึ่ง
หน้าจอของ Galaxy Z Fold2 5G เริ่มจากหน้าจอด้านหน้า เป็นหน้าจอ Infinity-O แบบ Super AMOLED ขนาด 6.2 นิ้ว กระจกหน้าจอแบบ Gorilla Glass Victus อัตราส่วนหน้าจอแบบ 21:9 เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ให้ความใกล้เคียงกับหน้าจอสมาร์ตโฟนปกติ แต่ด้วยความที่เป็นอัตราส่วน 21:9 อาจต้องปรับตัวเล็กน้อยในการใช้งาน ตัวเครื่องในโหมดโทรศัพท์เลยดูยาว ๆ ไปสักหน่อย
หน้าจอด้านในของ Galaxy Z Fold2 5G ทำจาก Ultra Thin Glass เมื่อกางออกมา 180 องศา เป็นหน้าจอ Dynamic AMOLED 2x ขนาด 7.6 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอ 4:3 มีอัตรารีเฟรชหน้าจอสูง 120Hz สามารถเปิดแอปได้พร้อมกันสูงสุด 3 แอปพร้อมกัน เหมาะกับการใช้งานแบบ Multitasking ด้านในติดฟิล์มกันรอยมาให้แล้ว และห้ามลอกฟิล์มเด็ดขาด เพราะส่งผลกระทบกับหน้าจอโดยตรงครับ
สีบานพับด้านนอก เป็นจุดที่สามารถสั่ง Customize หรือเลือกสีที่ถูกใจได้ แต่เฉพาะการซื้อกับทาง Samsung โดยตรงผ่านทางเว็บไซต์เท่านั้น สามารถเลือกได้ทั้งสี Metallic Silver, Metallic Gold, Metallic Red และ Metallic Blue แต่ถ้าไม่เลือกสีบานพับ ก็จะเป็นสีเดียวกับตัวเครื่อง
ความหนาของ Galaxy Z Fold2 5G เมื่อพับเครื่อง จะมีความหนาพอสมควรครับ ผมเทียบกับ Galaxy Note10+ ที่ใส่เคสฝาพับแล้วก็ยังหนากว่า ส่วนความหนาเมื่อกางออกเป็นแท็บเล็ต จะพอ ๆ กับ iPad Pro 12.9 นิ้ว ซึ่งมองในมุมของการเป็นแท็บเล็ตนี่ถือว่าบางทีเดียว
บริเวณด้านหลังของ Galaxy Z Fold2 5G ใช้วัสดุเป็นกระจก Gorilla Glass 6 แต่จะมีพื้นผิวแตกต่างไปตามสี แบบเดียวกับใน Galaxy Note20 Ultra หากซื้อสี Mystic Bronze ฝาหลังจะเป็นผิวด้าน ส่วนสีดำ Mystic Black ก็จะเป็นฝาหลังเงาแบบกระจก
ด้านหลังประกอบไปด้วยกล้อง 3 ตัว วางบนโมดูลสี่เหลี่ยม นูนขึ้นมาจากฝาหลังพอสมควร โดยตัวกระจกเลนส์กล้องใช้วัสดุเป็น Gorilla Glass 3 ทนทานต่อรอยขีดข่วนได้ในระดับหนึ่ง
ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ Galaxy Z Fold2 5G
พอร์ตเชื่อมต่อรุ่นนี้อยู่บริเวณด้านล่างตัวเครื่อง เป็นพอร์ตแบบ USB Type-C รองรับชาร์จเร็ว 25W พร้อมแบตเตอรี่ความจุ 4,500 mAh ส่วนลำโพง เป็นลำโพงคู่ Stereo อยู่บริเวณด้านบนและด้านล่าง ให้เสียงที่ดังทีเดียวครับ
ด้านข้างของตัวเครื่อง Galaxy Z Fold2 5G ประกอบไปด้วยปุ่ม Power ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว และปุ่มปรับระดับเสียง
การใช้งาน Galaxy Z Fold2 5G สามารถประยุกต์ได้หลายรูปแบบ ด้วยความที่หน้าจอกางได้หลายองศา ไม่ว่าจะเป็นการรับชมภาพยนตร์ด้วยจอด้านนอก หรือเป็นการตั้งกล้องเซลฟี่ด้วยจอด้านใน หรือสิ่งที่สมาร์ตโฟนลักษณะนี้ถนัดอย่างการทำงานแบบ Multitasking ใช้งานพร้อมกันหลายแอป
รวมถึงการเล่นเกม หากเป็นเกมที่รองรับอย่าง Call of Duty Mobile, Asphalt 9 สามารถสลับหน้าจอจากโหมดโทรศัพท์มาเป็นแท็บเล็ตได้ทันที โดยตัวเกมก็จะทำการปรับภาพให้เหมาะสมในแต่ละโหมดโดยอัตโนมัติ บางเกมได้มุมมองกว้างขึ้นจากปกติด้วยครับ และด้วยสเปคที่เป็น Snapdragon 865+ กับ RAM 12GB เรื่องความลื่นไหลในการเล่นเกมนั้นเรียกได้ว่าหายห่วง
สำหรับ Galaxy Z Fold2 สมาร์ทโฟนหน้าจอพับได้เจเนอเรชันที่ 3 จากซัมซุง เปิดตัวด้วย 2 เฉดสีสุดพรีเมียมอย่าง Mystic Bronze และ Mystic Black สนนราคา 69,900 บาท และมีโปรโมชั่นเมื่อซื้อพร้อมสมัครแพ็กเกจกับทางเครือข่าย ค่าเครื่องจะลดลงไปถูกสุดที่ 49,900 บาท นอกจากนี้ยังมีรุ่นพิเศษ Galaxy Z Fold2 Thom Browne Edition ที่มาพร้อมกับ Galaxy Buds Live, Galaxy Watch 3 พร้อมอุปกรณ์เสริม สนนราคา 109,000 บาทอีกด้วย
สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมของ Galaxy Z Fold2 5G และ Galaxy Z Fold2 Thom Browne Edition ได้ที่ www.samsung.com/th