สำหรับ Gadget ที่ผมจะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันในวันนี้ เป็นแฟลชไดรฟ์ USB 3.0 ความจุ 32 GB ที่ไม่ใช่แฟลชไดรฟ์ปกติธรรมดาทั่วไป เพราะ Kingston DataTraveler 2000 (DT2000) เป็นแฟลชไดรฟ์ระดับ Business หรือที่ใช้กันในธุรกิจเป็นหลัก เนื่องจากตัว Kingston DT2000 มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลด้วยฮาร์ดแวร์ ไม่ได้ใช้การเข้ารหัสด้วยซอฟท์แวร์เหมือนแฟลชไดรฟ์ทั่วไป
**หมายเหตุ Kingston DT2000 เป็นแฟลชไดรฟ์ที่ออกแบบมาให้ใช้ในองค์กรเป็นหลัก เพราะฉะนั้นอาจหาซื้อตามร้านไอทีทั่วไปไม่ได้นะครับ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคือต้องซื้อผ่าน Kingston โดยตรงเท่านั้น**
หน้าตาของ Kingston DT2000 ก็ประมาณนี้ครับ ตัวแฟลชไดรฟ์มีความยาวกว่ามาตรฐานทั่วไป ส่วนตัวเลข 1 – 0 ที่เราเห็นนั่นเอาไว้สำหรับใช้ในการเข้ารหัสด้วยฮาร์ดแวร์ พูดให้เข้าใจง่ายกว่านั้นก็คือ จะเข้าถึงข้อมูลในตัวแฟลชไดรฟ์ Kingston DT2000 ได้เนี่ย ต้องทำการปลดล็อกรหัสที่แฟลชไดรฟ์เสียก่อน ถ้าเราเสียบไปแบบดื้อๆ เลยก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นครับ
DT2000 ใช้ระบบเข้ารหัสฮาร์ดแวร์ XTS-AES 256 บิต ระบบเดียวกับที่ใช้ในการทหาร โดยจะเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดที่จัดเก็บไว้ในไดรฟ์แบบ Real Time และไม่อิงจากตัว OS ด้วยนะครับ จะเป็นระบบปฏิบัติการอะไรก็ใช้งานได้หมด แค่ต้องใส่รหัสให้ถูกเท่านั้นเอง
หากแฟลชไดรฟ์สูญหาย หรือถูกขโมยไป ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้เลยว่าข้อมูลจะไม่สามารถเข้าถึงได้โดยบุคคลอื่นที่ไม่รู้รหัสในการปลดล็อก และการปลดล็อก Kingston DT2000 จะต้องทำผ่านแป้นพิมพ์ที่ติดอยู่กับตัวแฟลชไดรฟ์เท่านั้นครับ ไม่สามารถปลดล็อกผ่านโปรแกรมได้เลย
ในการใช้งาน Kingston DT2000 ครั้งแรก จำเป็นที่จะต้องชาร์จไฟเสียก่อน วิธีการชาร์จไฟก็คือเสียบ Kingston DT2000 ไว้กับคอมพิวเตอร์ สังเกตว่าไฟสีน้ำเงินใต้ปุ่มกุญแจติดก็เป็นอันใช้ได้ โดยการชาร์จไฟครั้งแรกจะใช้เวลานาน 1 ชั่วโมง
วิธีการใช้งาน Kingston DT2000 อันดับแรกให้เราทำการปลดล็อกรหัสเสียก่อน โดยรหัสที่ตั้งมาจากโรงงานก็คือ 11 22 33 44 วิธีการกดรหัสก็คือให้เรากดปุ่มกุญแจ 1 ครั้ง เมื่อไฟทุกสีติดแล้วก็ให้เรากรอกรหัสลงไป พอกรอกรหัสเสร็จให้กดปุ่ม Key อีกที
ถ้าใส่รหัสถูกต้อง แฟลชไดรฟ์ก็จะขึ้นไฟสีเขียว ให้เราเสียบ Kingston DT2000 เข้ากับคอมพิวเตอร์, สมาร์ทโฟน (ผ่านสาย OTG) ได้ทันที โดยจะมีเวลาให้ประมาณ 30 วินาที หากเราไม่ทำการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ในเวลาที่กำหนด แฟลชไดรฟ์ก็จะทำการล็อกตัวเองอีกครั้ง
ไฟล์ที่อยู่ใน Kingston DT2000 จะมีแค่คู่มือการใช้งานเท่านั้น ไม่มีไฟล์อื่น เช่นพวกโปรแกรมล็อกแฟลชไดรฟ์ติดมาให้เหมือนแฟลชไดรฟ์ยี่ห้ออื่น (ซึ่งปกติเราก็จะไม่ค่อยใช้กันอยู่แล้ว) เนื่องจากรุ่นนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ตัวฮาร์ดแวร์ เพราะฉะนั้นไม่ต้องใช้ซอฟท์แวร์ก็ได้ครับ
เนื้อที่มีให้ใช้ทั้งหมดประมาณ 30 GB นิดๆ ตามปกติของแฟลชไดรฟ์ความจุ 32 GB แหละครับ
ความเร็วในการอ่านเขียนของ Kingston DT2000 อยู่ในระดับที่สูงกว่าแฟลชไดรฟ์ทั่วไปตามท้องตลาด โดยผมได้ทำการทดสอบด้วยโปรแกรม Black Magic บน Macbook Pro Retina 13 ผ่านพอร์ต USB 3.0 พบว่าทำความเร็วในการเขียนได้ที่ประมาณ 80 MB/s ขึ้นไป ส่วนความเร็วในการอ่านนั้นอยู่ที่ 140 MB/s ขึ้นไป
ทดสอบด้วยการโยนไฟล์ความจุ 4.12 GB จาก Macbook ลงแฟลชไดรฟ์ Kingston DT2000 ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที ก็โอนไฟล์เรียบร้อย ในเรื่องความเร็วนี่สอบผ่านสบายๆ เลยครับ
ที่ผมลองเล่นให้ดูนี่เป็นแค่ความสามารถพื้นฐานของ Kingston DT2000 เท่านั้นนะครับ เพราะแฟลชไดรฟ์รุ่นนี้ สามารถทำอะไรได้อีกเยอะเลย เช่นการตั้งให้อ่านเพียงอย่างเดียว (Read Only) เขียนไฟล์ลงไปไม่ได้ ซึ่งจะช่วยป้องกันไวรัสจากคอมเครื่องอื่นได้ หรือจะตั้งเวลาตอนเสียบแฟลชไดรฟ์ได้ด้วย เมื่อไม่มีการใช้งานเครบกำหนดที่ตั้งเวลาไว้ ให้แฟลชไดรฟ์ล็อกตัวเองก็ยังได้
แต่ที่ผมชอบที่สุดคือ ถ้ามีการกดรหัสผิดติดต่อกัน 10 ครั้ง ก็บอกลาข้อมูลในแฟลชไดรฟ์ได้เลยครับ หายและสลายไปเป็นปุ๋ย กู้คืนไม่ได้อีกตลอดกาล
เสียดายที่ผมยังไม่มีข้อมูลที่มันเป็นความลับขนาดนั้นน่ะสิครับ 😛
