OPPO Find X3 Pro 5G เป็นสมาร์ตโฟนระดับแฟล็กชิพจากทาง OPPO ที่มาพร้อมกับสุดยอดนวัตกรรมใหม่ ๆ แบบอัดแน่น จัดเต็มเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ตโฟน OPPO ทั้งในเรื่องประสิทธิภาพที่เร็ว แรงด้วยชิป Snapdragon 888 5G การออกแบบตัวเครื่องที่สวยงาม หรูหรา พรีเมียม รวมถึงไฮไลต์สำคัญอย่างกล้องถ่ายภาพ ที่มาพร้อมเซ็นเซอร์ตัวท็อป และกล้องตัวใหม่ 60x Microlens ที่ช่วยเปิดมุมมองใหม่ ๆ ในการถ่ายภาพ ให้เห็นในหลายสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
เปิดมุมมองใหม่ ๆ ถ่ายใกล้ไปอีกระดับด้วย Microlens กำลังขยาย 60 เท่า
หนึ่งในกล้องที่เป็นไฮไลต์ของ OPPO Find X3 Pro 5G คือกล้อง Microlens มีความละเอียดอยู่ที่ 3 ล้านพิกเซล ลักษณะการใช้งานจะค่อนข้างเฉพาะทาง คือถ่ายใกล้มาก ๆ ในระดับกล้องจุลทรรศน์ มีกำลังขยายสูงสุด 60 เท่าจากที่ตาเรามองเห็น โดยตอนถ่าย บริเวณรอบตัวกล้อง Microlens จะมีไฟวงแหวน LED ส่องสว่าง จึงทำให้สามารถนำกล้องเข้าไปจ่อใกล้วัตถุมาก ๆ ได้ แตกต่างจากกล้อง Macro Lens บนสมาร์ตโฟนปกติทั่วไป ที่ระยะโฟกัสใกล้สุดประมาณ 2.5 – 4 เซนติเมตรเท่านั้น
นอกจากถ่ายภาพนิ่งได้แล้ว Microlens ของ OPPO Find X3 Pro 5G ยังสามารถใช้ถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 1080p ได้อีกด้วย
วิธีการเปิดใช้งานกล้อง Microlens ให้เข้าไปที่กล้องถ่ายรูป > More > Microscope สามารถเลือกกำลังขยายได้ทั้ง 30 เท่า และ 60 เท่า แต่แนะนำว่าตอนถ่าย ควรจัดวางวัตถุที่จะถ่ายให้เป็นระนาบเดียวกัน และตอนกดชัตเตอร์อาจต้องกลั้นหายใจชั่วคราว เพื่อให้มือนิ่งที่สุดครับ
สำหรับกล้อง Microlens ใน OPPO Find X3 Pro 5G ด้วยความสามารถเทียบเท่ากับกล้องจุลทรรศน์ ที่มีกำลังขยายสูงสุด 60 เท่า ทำให้ผู้ใช้งานมองเห็นรายละเอียดที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยสายตาปกติ จึงทำให้สมาร์ตโฟนเครื่องนี้ สร้างสรรค์ภาพถ่ายได้โดดเด่นไม่เหมือนใคร สิ่งของเดิม ๆ ที่เคยถ่ายภาพ จะได้มุมมองที่เปลี่ยนไปมากทีเดียว เมื่อถ่ายด้วย Microlens กำลังขยายสูงสุด 60 เท่าครับ
สำหรับกล้องหลังของ OPPO Find X3 Pro 5G จัดเต็มด้วยการใส่เซ็นเซอร์ระดับท็อป IMX766 ความละเอียด 50MP ในกล้องหลักคู่ ทั้งกล้อง Wide-angle และ Ultra-wide-angle ล้วนใช้เซ็นเซอร์ตัวเดียวกัน โดย IMX766 เป็นเซ็นเซอร์ที่ OPPO พัฒนาร่วมกับ Sony เพื่อให้สามารถจับภาพสีสันพันล้านสีแบบ 10-bit ได้หลากหลายมุมมอง
กล้องหลักเลนส์ Wide-angle ทางยาวโฟกัส 26 มม. ของ OPPO Find X3 Pro 5G มีความละเอียด 50MP ใช้เซ็นเซอร์ IMX766 มีรูรับแสงกว้าง f/1.8 พร้อมกันสั่น OIS และมีการทำ Pixel-binning ให้ภาพถ่ายในโหมดปกติที่ 12.5MP ส่วนกล้องหลัก Ultra-wide-angle 50MP IMX766 สามารถเก็บภาพได้กว้างถึง 110 องศา มาพร้อมกับระบบออโต้โฟกัส (ถ่ายมาโครได้ 4 เซนติเมตร) และการเคลือบผิวเลนส์เพื่อป้องกันแสงสะท้อน อีกทั้งมีการแก้เรื่องมุมมองภาพบิดเบี้ยว (Distortion)
ระบบโฟกัสของกล้องหลักคู่ใน OPPO Find X3 Pro 5G ใช้ระบบโฟกัสแบบ All Pixel Omni-Directional PDAFระบบโฟกัสที่สามารถโฟกัสได้ในทุกจุด ทุกพิกเซลสามารถโฟกัสได้หมด ให้ทั้งความรวดเร็วในการจับโฟกัส และมีความแม่นยำมากกว่า PDAF แบบปกติหลายเท่าตัว ส่วนเรื่องความสม่ำเสมอของสีในกล้อง เลนส์ Wide-angle กับ Ultra-wide-angle ของ OPPO Find X3 Pro 5G จะให้สีที่แม่นยำใกล้เคียงกันมาก ๆ
แนวคิดการใส่กล้องหลักคู่ของ OPPO Find X3 Pro 5G อิงมาจากการใช้งานของช่างภาพมืออาชีพ ที่ใช้กล้อง DSLR เวลาต้องการเปลี่ยนมุมมองในการถ่ายภาพ จะไม่เปลี่ยนกล้อง (เซ็นเซอร์) แต่จะเปลี่ยนเลนส์แทน เพราะฉะนั้นกล้องหลักเลนส์ Wide-angle กับกล้อง Ultra-wide-angle ของ OPPO Find X3 Pro 5G จึงใช้เซ็นเซอร์ IMX766 ตัวเดียวกัน เพื่อให้ได้ภาพถ่ายที่มีคุณภาพใกล้เคียงกันมากที่สุด ไม่ว่าจะถ่ายด้วยระยะปกติ หรือระยะที่เป็นเลนส์มุมกว้าง ซึ่งตรงนี้เป็นอะไรที่หาได้ยากในสมาร์ตโฟนปกติทั่วไป เพราะปกติแล้ว เลนส์มุมกว้าง Ultra-wide-angle บนกล้องโทรศัพท์มักจะให้คุณภาพรูปถ่ายที่ด้อยกว่าเลนส์หลักอยู่แล้ว
DOL HDR หรือ Digital Overlap High Dynamic Range เป็นอีกรูปแบบการบันทึกภาพ HDR ที่มีใน OPPO Find X3 Pro 5G จะสร้างเฟรมอย่างต่อเนื่องในรูปแบบ line-by-line ซึ่งจะช่วยลดช่วงเวลาของเฟรมเปิดรับแสงที่ยาวและสั้น ทำให้สามารถช่วยลดภาพซ้อน หรือแสงริ้วที่อาจเกิดขึ้นจากการถ่าย HDR ได้ ทำให้ภาพ HDR เก็บช่วงไดนามิกได้กว้างขึ้น มีอัตราส่วนของ signal-to-noise ที่ดีขึ้น
ในส่วนของการบันทึกภาพ อย่างที่บอกไปว่า OPPO Find X3 Pro 5G รองรับการบันทึกภาพแบบ 10 Bit เก็บสีได้ระดับพันล้านสี แต่ก็มีข้อสังเกตเล็กน้อยตรงที่การบันทึกภาพแบบพันล้านสี จะบันทึกเป็นไฟล์ HEIF เท่านั้น หากเปิดในโปรแกรม หรือแอปพลิเคชั่นที่ไม่รองรับ อาจต้องแปลงไฟล์ภาพถ่ายเป็น JPEG ก่อน ซึ่งจะทำให้สูญเสียคุณสมบัติของการบันทึกภาพ 10 Bit ไป แต่ถ้าเป็นการเปิดดูผ่านหน้าจอ OPPO Find X3 Pro 5G ตรง ๆ ก็สามารถแสดงภาพได้ปกติ
นอกจากการบันทึกไฟล์ภาพถ่ายเป็น JPEG, HEIF แล้ว การบันทึกไฟล์ดิบที่ไม่ได้มีการปรับแต่ง รอบนี้มีชื่อว่า RAW+ ที่เพิ่มเติมคุณสมบัติจากเมื่อตอน OPPO Find X2 Pro 5G โดยรองรับการจับภาพ HDR ในรูปแบบของ RAW ด้วย RAW+ และสามารถให้รายละเอียดภาพที่มากยิ่งข้ึน รวมถึงขยายขอบเขตในการปรับแต่ง (Post Processing) ที่มากกว่า
การบันทึกวิดีโอ OPPO Find X3 Pro 5G รองรับการบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 60fps ทั้งเลนส์ Wide-angle และ Ultra-wide-angle มีระบบกันสั่น OIS + EIS และฟีเจอร์กันสั่นวิดีโอ Ultra Steady, Ultra Steady Video ส่วนใครที่เป็นมือโปร ต้องการปรับตั้งค่าการถ่ายวิดีโอให้ละเอียด ก็มี Cinematic Mode ที่สามารถปรับแต่งค่าต่าง ๆ ในวิดีโอได้อย่างละเอียด และด้วยความที่เซ็นเซอร์รองรับการบันทึก 10 Bit เลยทำให้การบันทึกวิดีโอด้วย OPPO Find X3 Pro 5G รองรับช่วงสี BT.2020, HDR และ log recording อีกด้วย
อีกหนึ่งโหมดวิดีโอที่น่าสนใจอย่าง AI Highlight Video เป็นการนำ AI ที่ปกติจะถูกใช้ในการประมวลผลภาพถ่าย มาใช้ประมวลผลวิดีโอ สามารถเปิด HDR, โหมดกลางคืน, ซูมเสียง และ Ultra Steady Stabilization ได้โดยอัตโนมัติ อีกทั้งยังสามารถตรวจจับฉากต่าง ๆ ได้ ลักษณะการทำงานแบบเดียวกับภาพถ่ายที่เปิด AI scene enhancement on ผู้ใช้แค่ถ่ายวิดีโอตามปกติ ส่วนการปรับแต่ง การเลือกโหมดต่าง ๆ AI ของ OPPO Find X3 Pro 5G จัดการทุกอย่างให้ทั้งหมด
สเปค OPPO Find X3 Pro 5G
- จอภาพ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด Quad HD+, อัตรารีเฟรช 120Hz แบบไดนามิก, รองรับการแสดงผล HDR10+
- ชิป Qualcomm Snapdragon 888
- RAM 12GB + ROM 256GB
- กล้องหลัง 4 ตัว
- กล้องหลัก Wide-angle 50MP (ƒ/1.8), เซนเซอร์ Sony IMX766, All Pixel Omni-Directional PDAF
- กล้อง Ultra-wide-angle 50MP (ƒ/2.2), มุมกว้าง 110 องศา, เซนเซอร์ Sony IMX766, All Pixel Omni-Directional PDAF
- กล้อง Telephoto 13MP (ƒ/2.4)
- กล้อง Microlens 3MP (ƒ/3.0)
- กล้องหน้า 32MP (ƒ/2.4)
- รองรับการเชื่อมต่อ 5G
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax
- Bluetooth 5.2
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
- แบตเตอรี่ 4500mAh, รองรับชาร์จไว 65W SuperVOOC 2.0
- กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5
- กันน้ำและฝุ่น IP68
- ระบบปฏิบัติการ Color OS 11.2 บนพื้นฐาน Android 11
ภาพรวมของ OPPO Find X3 Pro 5G ถือเป็นสมาร์ตโฟนระดับแฟล็กชิพจากทาง OPPO ที่ให้ความเป็นที่สุดในแทบจะทุกด้าน โดยเฉพาะเรื่อง 1 พันล้านสีเต็มระบบ 10-bit Full-path Colour Engine ตั้งแต่กระบวนการบันทึกภาพ ไปจนถึงการแสดงผลด้วยหน้าจอ 10-bit ที่รองรับการแสดงสีในระดับ 1 พันล้านสี กล้องถ่ายภาพในรอบนี้ก็จัดเต็มด้วยกล้องหลักคู่ 50MP เซ็นเซอร์พิเศษ IMX766 ที่ร่วมกันพัฒนากับทาง Sony ให้คุณภาพของรูปถ่ายที่ดีเยี่ยม ทั้งเลนส์ Wide-angle, Ultra-wide-angle และไฮไลต์อย่างกล้อง Microlens ที่สามารถถ่ายใกล้ด้วยโหมด Microscope ถึงที่กำลังขยายสูงสุดถึง 60 เท่า เปิดมุมมองใหม่ ๆ ในการถ่ายภาพได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
สำหรับ OPPO Find X3 Pro 5G วางจำหน่ายแล้วในราคา 33,990 บาท สามารถหาซื้อได้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา, โอเปอร์เรเตอร์ AIS, TrueMove-H, dtac รวมถึงตัวแทนจำหน่ายของทาง OPPO และช่องทางออนไลน์ที่ Lazada, Shopee, JD Central