หลังจากที่เปิดตัวและวางจำหน่ายไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำหรับ OPPO F11 Pro ก็ถือว่าได้กระแสตอบรับที่ดีในหลายด้าน และเป็นหนึ่งรุ่นที่น่าจับตามองในช่วงราคาหมื่นต้น ๆ โดยบทความนี้จะเป็นการสรุปจุดเด่น OPPO F11 Pro คัดมาแล้วเน้น ๆ เผื่อใครที่กำลังเล็งสมาร์ทโฟนรุ่นนี้อยู่ จะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ
กล้องหลังความละเอียดสูง 48 ล้านพิกเซล ถ่ายรูปชัดเป๊ะ Portrait สุดปัง
จุดเด่นแรกของ OPPO F11 Pro คือมาพร้อมกับกล้องหลังคู่ โดยกล้องหลักเนี่ย ให้ความละเอียดสูงถึง 48 ล้านพิกเซล มีรูรับแสงกว้างถึง f/1.79 ทำให้การถ่ายภาพกลางคืน หรือถ่ายภาพในที่แสงน้อยดีขึ้นจากรุ่นก่อน อีกทั้งหลักการทำงานของเซ็นเซอร์ที่เป็นการรวมพิกเซลด้วยเทคโนโลยี Tetracell ทำให้ขนาดพิกเซลใหญ่ถึง 1.6 ไมครอน ส่งผลให้ตอบสนองความไวของแสงได้เร็วขึ้นและช่วยให้ผู้ใช้ถ่ายภาพบุคคลตอนกลางคืนได้ชัดเจนยิ่งขึ้นส่วนในที่แสงสว่างมากพอก็สามารถถ่ายที่ความละเอียดเต็ม ๆ 48 ล้านพิกเซลได้เช่นกัน
ด้วยความที่เซ็นเซอร์ถูกออกแบบมาให้ถ่ายภาพกลางคืนได้ดี เมื่อรวมกับการประมวลผลภาพถ่ายด้วย AI จึงทำให้ภาพถ่ายบุคคลตอนกลางคืนของ OPPO F11 Pro นั้นคมชัด สว่าง และเก็บรายละเอียดได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะ Ultra Night Mode พร้อมฟีเจอร์อย่าง Color Mapping ที่ระบุสีได้อย่างแม่นยำ และ Closed-loop VCM ที่ใช้เวลาโฟกัสเพียง 0.1 วินาที ทำให้การถ่ายภาพด้วย F11 Pro โดดเด่นทั้งกลางวัน และกลางคืน
ให้ภาพถ่ายที่สวยงามแบบนี้ โดยเฉพาะการถ่ายด้วย Ultra Night Mode คือสามารถจัดการพวก Noise ได้ดี ให้ภาพที่สว่าง คมชัด และไม่ต้องใช้ขาตั้งกล้องด้วย
หรือจะถ่ายPortrait ก็สวยงามในแบบฉบับของ OPPO
อีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ OPPO F11 Pro ถ่ายภาพได้ดี ก็คือฟีเจอร์ AI Scene Recognition ที่สามารถตรวจจับวัตถุ หรือฉากต่าง ๆ ได้ถึง 23 รูปแบบ 864 ฉาก ให้ภาพที่สวยแบบไม่ต้องแต่งเพิ่ม
ระบบชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 เร็วได้อีก
จุดเด่นที่สองของ OPPO F11 Pro คือมาพร้อมกับฟีเจอร์ชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 ที่ถูกอัพเกรดขึ้นมาจากรุ่นก่อน สามารถจ่ายไฟแบบแรงดันไฟฟ้าสูงได้นานขึ้น ทำให้ชาร์จได้เร็วกว่าเดิมถึง 20% ถ้าใครเคยใช้ VOOC Flash Charge ก็น่าจะทราบกันดีว่าชาร์จเร็วขนาดไหน ยิ่งช่วงเวลาจาก 0 – 50% จะยิ่งจ่ายไฟได้รวดเร็วมาก ๆ
แต่พอมาเป็น VOOC Flash Charge 3.0 ยิ่งเร็วขึ้นไปอีก ทำให้ระยะเวลาในการชาร์จจนแบตเตอรี่เต็ม ใช้เวลาเพียง 80 นาที เอาเป็นว่าเล่นเกมมาหนัก ๆ แบตเตอรี่ใกล้หมด ขอแค่ได้ชาร์จด้วย VOOC Flash Charge 3.0 สักประมาณ 30 นาที ก็มีแบตเตอรี่ให้ใช้จนหมดวันแบบสบาย ๆ
ส่วนใครที่กังวลด้านความปลอดภัย ชาร์จไวขนาดนี้จะเป็นอันตรายหรือไม่ ก็ไม่ต้องกังวลไปครับ เพราะด้านความปลอดภัยนั้น VOOC Flash Charge ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยจาก TÜV SÜD ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล อุปกรณ์ส่วนมากที่ได้ตรา TÜV SÜD นั่นคือที่สุดของความปลอดภัยล่ะครับ
กระบวนการชาร์จด้วย VOOC Flash Charge 3.0 จำเป็นที่จะต้องใช้อะแดปเตอร์, สาย USB ของแท้ของทาง OPPO เท่านั้นนะครับ เพราะจะมีกระบวนการตรวจสอบระหว่างชาร์จด้วยกันหลายขั้นตอน และถ้าขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งผิดปกติ ก็จะไม่ทำการชาร์จเร็วให้ คือจะใช้อะแดปเตอร์ VOOC กับสายทั่วไปก็จะเป็นการชาร์จธรรมดาแทน เป็นต้น
ดีไซน์เด่น หน้าจอใหญ่เต็มตา และที่สำคัญ ไร้ติ่งกวนใจ
อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นจุดเด่นของ OPPO F11 Pro คือการที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดพรีเมียม ให้ความใกล้เคียงกับพวกแฟลกชิปสมาร์ทโฟน และด้วยหน้าจอแบบ Panoramic Screen ไร้ขอบ ไร้ติ่งหน้าจอ เนื่องจากซ่อนกล้องหน้าไว้ข้างในตัวเครื่อง (Rising Camera) การรับชมคอนเทนต์จึงเต็มตา เต็มหน้าจอ 6.5 นิ้ว ที่ความละเอียด Full HD+ นอกจากนี้ความพรีเมียมอีกอย่างของ OPPO F11 Pro ก็คือใช้กระจกหน้าจอ Gorilla Glass 5 ที่มีความทนทานสูงด้วยครับ
ด้านหลังของ OPPO F11 Pro มาพร้อมกับการไล่เฉดสีแบบใหม่ โดยตัวเครื่องสี Thunder Black จะเป็นการไล่เฉดแบบสามสี ผสมระหว่างสีแดงกับสีน้ำเงิน และผสานตรงกลางเป็นสีดำ ส่วนอีกสีมีชื่อว่า Aurora Green ที่มีการไล่เฉดแบบ S-sharp ให้ความสวยงาม โดดเด่น และแตกต่างจากสมาร์ทโฟนทั่ว ๆ ไป
ColorOS 6 + Hyper Boost ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ลื่นไหล
ระบบปฏิบัติการ ColorOS 6 มีพื้นฐานมาจาก Android 9.0 Pie ไม่เพียงแต่มีหน้าตาที่สวยงาม แต่ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ช่วยให้การใช้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น Hyper Boost และ Game Space โดย Hyper Boost ช่วยให้การตอบสนองของตัวเครื่องเร็วขึ้น 30% ทั้งด้านระบบ, เกมส์ และใช้งานแอปพลิเคชัน เช่น การเปิด Facebook สามารถเปิด ได้เร็วขึ้นถึง 31% การกลับสู่หน้าหลักเร็วขึ้น 27% การปัดเพื่อไปหน้าจอถัดไปเร็วขึ้นถึง 19% และยังรองรับการเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมยอดนิยมได้ถึง 11 เกม
ส่วน Game Space เป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อการจัดการเกมในสมาร์ทโฟน OPPO โดยเฉพาะ สามารถปรับโหมดได้ถึง 3 โหมด ได้แก่ ประสิทธิภาพสูง, โหมดสมดุล และโหมดพลังงานต่ำ
นอกจากนี้ F11 Pro ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ในการปิดการแจ้งเตือน, ขึ้น pop-up เมื่อมีสายโทรเข้า รวมถึงฟีเจอร์อย่างการจับภาพหน้าจอเมื่อทำการเล่นเกมอีกด้วย
ภาพรวมของ OPPO F11 Pro กับราคา 10,990 บาท ก็ถือว่าเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจในช่วงราคาหมื่นต้น ๆ ล่ะครับ ได้ความเป็นสมาร์ทโฟน OPPO ที่หลายคนเชื่อมั่นในกล้องถ่ายภาพ รวมถึงดีไซน์ที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งหน้าจอยังเป็นแบบจอเต็มไร้ติ่ง Panoramic Screen ทำให้รับชมคอนเทนต์ได้อย่างเต็มตา และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน กับระบบชาร์จเร็วอันเลื่องชื่อ VOOC Flash Charge 3.0 ที่ชาร์จเร็วกว่ารุ่นก่อน ๆ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจ OPPO F11 Pro สามารถไปลองจับลองเล่นตัวเครื่องจริงก่อนซื้อได้ที่ OPPO Brand Shop ทุกสาขา รวมถึงร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของทาง OPPO