เมื่อพูดถึงเรื่องกล้องของ Nokia เเล้วเป็นที่รู้กันในหมู่ผู้ใช้ว่าให้กล้องอยู่ในระดับที่ดี ส่วนตัวสุดยอดกล้องของ Nokia คงไม่พ้นว่าคือ Nokia N8 ที่มาพร้อมกับความละเอียดที่สูงถึง 12 ล้านพิกเซล เเต่รุ่นถัดมาซึ่งก็คือ N9 กลับมีความละเอียดลดลงมาเหลือ 8 ล้านพิกเซลเเทน เเต่จริงๆ เเล้วฟีเจอร์กล้องต่างๆ ของ N9 นั้นเหนือกว่าของ N8 เสียอีก ซึ่งคราวนี้นาย Damian Dinning ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการพัฒนากล้องของ N8 ซึ่งรวมไปถึงสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าๆ? อย่าง N86 /N82 / N95 เเละ N73 ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกล้องของตัวนี้ครับ
เรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับกล้องของ N9 มีดังนี้ครับ
- ขนาดโมดูลของกล้องนั้น เล็กกว่าของ N8 ถึง 70% เเละใช้เลนส์ Carl Zeiss คุณภาพสูงเช่นเดิม
- สามารถถ่ายภาพขนาด 16 : 9 เเละ 4 : 3 ได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่ได้ใช้วิธีการตัดภาพ (มีอธิบายด้านล่าง)
- เลนส์มุมกว้างที่สามารถถ่ายภาพได้มากกว่าสมาร์ทโฟนในระดับเดียวกันถึง 60% เเละมีรูรับเเสง (Aperture) เท่ากับ f/2.2
- กล้องตอบสนองการใช้งานได้เร็ว
- สามารถทัชเพื่อ Autofocus ได้ขณะอัดวีดีโอ
- Dual LED Flash เเบบใหม่ สว่างกว่าเดิม 20%
- ฟังชั่น Geotag จะใส่ชื่อสถานที่เเทนเขต
- ฟังชั่นลดการเบลอของภาพขณะเคลื่อนไหว (Automatic Motion Blur Reduction)
- เเชร์รูปผ่านเครื่องโดยผ่าน NFC
เซนเซอร์รูปเเบบใหม่
ปกติเเล้วเซนเซอร์กล้องของสมาร์ทโฟนที่เราเห็นเเล้วจะเป็นเเบบ 4 : 3 เเต่เมื่อความนิยมของการดูภาพเเบบ widescreen มีเพิ่มขึ้น ทำให้เราก็เห็นว่าสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่น ก็ถ่ายภาพเเบบ 16 : 9 ได้เช่นกัน (ตอนนี้อาจจะเป็นมาตรฐานไปเเล้ว) เเต่ความเป็นจริงเเล้วการถ่ายภาพเเบบ 16 : 9 นั้นเป็นเพียงการ ?ตัด? ภาพเเบบ 4 : 3 ออกในเเนวตั้งเเละเเนวนอน ทำให้เราได้ภาพที่ดูเหมือนเเบบกว้างนั่นเองครับ
ตัวอย่างการตัดภาพเเบบ 4 : 3 ให้เป็น 16 : 9 โดยตัดส่วนบนเเละล่างออก
เเต่สำหรับ Nokia N9 นั้น เซนเซอร์มีความพิเศษออกไป คือสามารถเปลี่ยนโหมดได้ว่าจะให้ถ่ายเเบบ 4 : 3 หรือ 16 :9 ได้ (สมาร์ทโฟนปกติถ่ายได้ 4 : 3 เเต่พอจะทำให้เป็น 16 : 9 ก็นำ 4 : 3 มาตัดบนเเละล่างอย่างรูปตัวอย่างข้างบน) ตามตัวอย่างรูปด้านล่างครับ
จากรูปตัวอย่าง เราจะเห็นว่าการเปลี่ยนโหมดของภาพนั่น ใช้พื้นที่ทุกส่วนของเลนส์ โดยภาพเเบบ 16 : 9 ก็จะใช้ความกว้างจนสุดขอบเลนส์ ส่วนเเบบ 4 : 3 ก็จะใช้ความสูงจนสุดขอบเลนส์เช่นกัน เมื่อ N9 ถ่ายรูปออกมาก็จะเป็นดังนี้ครับ
จะเห็นว่ารูปด้านขวานั้สามารถเก็บภาพในมุมกว้างได้กว้างกว่าด้านซ้าย ในขณะเดียวกันรูปด้านซ้ายก็เก็บภาพความสูงได้สูงกว่าด้านขวาเช่นเดียวกัน
นี่เป็นรูปถ่ายจากสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป ซึ่งเเถบน้ำเงินของรูปด้านซ้าย กล้องรุ่นอื่นๆ จะไม่มีทางเห็น จะมีเเต่ Nokia N9 เท่านั้นเพราะใช้เซนเซอร์เบบ 16 : 9 ที่เเท้จริง ไม่ได้ผ่านการตัดภาพ
นอกจากนี้เเล้ว ฟีเจอร์กล้องของ N9 ยังพกความสามารถอื่นๆ มากมาย โดยเฉพาะค่า Aperture ที่มีค่า f เพียง 2.2 เท่านั้น (กล้องสมาร์ททั่วๆ ไปอยู่ที่ 2.8) ทำให้ถ่ายรูปในที่มืดได้ดีกว่าสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่มาก รวมไปถึงพวกเรื่อง Face Detection, Continuous Focus เเละสามารถเเก้ไขรูปภาพได้หลังถ่ายเสร็จ ถึงเเม้ไม่พอใจกับรูปภาพที่เเก้ไขก็สามารถย้อนกลับเป็นรูปภาพดั้งเดิมที่เราถ่ายไว้ได้
โดยปกติเเล้วเราไม่ค่อยเห็นมีผู้ผลิตรายใด ใส่ใจกับคุณภาพของกล้องเท่ากับ Nokia มาก่อน โดยบอกถึงรายละเอียดต่างๆ ที่เจ้าอื่นๆ ไม่เคยยอมบอก อย่างมากก็เเค่ High Quality Camera เท่านั้น เเต่ Nokia ก็ได้ทำให้เราเห็นเเล้วว่า กล้องของสมาร์ทโฟนที่มีคุณภาพ เป็นอย่างไรครับ : ) ถึงเเม้ว่าตัวจุดบอดของ Nokia N9 เองจะอยู่ที่ระบบปฏิบัติการณ์ Meego ที่ยังดูมีอนาคตไม่เเน่นอนนัก เเต่ตอนนี้ Nokia ยังพอจะกลับลำทันนะครับ กับการผลักดัน Meego ให้เป็นเเพลตฟอร์มหลักของตนได้
สำหรับใครที่มีความรู้เรื่องกล้องเเนะนำให้ลองอ่านต้นฉบับที่ http://conversations.nokia.com/2011/06/27/damian-dinning-on-nokia-n9-imaging/?sf1704763=1 ซึ่งเขียนไว้ละเอียดทีเดียวครับ