รวมรายชื่อมือถือและแท็บเล็ตที่ได้รับรางวัล Specphone Award ในปี 2022 จากทางทีมงาน Specphone โดยในปีนี้ทางผู้ผลิตมือถือแบรนด์ต่างๆ ได้มีการเปิดตัวมือถือและแท็บเล็ตรุ่นใหม่ๆ ออกมาเยอะมากๆ พร้อมทั้งอัดสเปคมาให้แบบจัดเต็ม หลังจากอัดอั้นมานาน วันนี้เราจะมาแนะนำมือถือและแท็บเล็ตที่ได้รับรางวัล Specphone Award ประจำปี 2022 ซึ่งทางทีมงานเห็นว่ายอดเยี่ยมในด้านต่างๆ ตามความเห็นของเหล่าทีมงาน Specphone ไม่ว่าจะเป็นในด้านความคุ้มค่า, การดีไซน์, กล้อง, การเล่นเกม และอื่นๆ โดยจะมีรุ่นไหนบ้างที่ได้รับ Specphone Award เราไปชมกันได้เลย
มือถือที่ได้รับรางวัล Specphone Award ในปี 2022
1. HUAWEI Mate50 Pro
ขอเปิดเครื่องแรกด้วย HUAWEI Mate50 Pro กับรางวัล Best Innovation กันก่อนเลย โดยสาเหตุที่ทำให้ Mate50 Pro เครื่องนี้ได้รับรางวัลนั้นก็เพราะความสามารถในการปรับรูรับแสงที่ทาง HUAWEI เรียกว่า Ultra Aperture XMAGE ซึ่งจะเป็นการปรับเปลี่ยนรูรับแสงทางกายภาพ หรือการหด-ขยายขนาดรูรับแสงที่ตัวเลนส์กล้องจริงๆ โดยสามาถรปรับได้ 10 ขนาด ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่มีในมือถือแบรนด์อื่นๆ และด้วยการใช้งานควบคู่กับ XD Fusion Pro ทำให้ได้ภาพที
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : OLED, ขนาด 6.74 นิ้ว, ความละเอียด 2,616 × 1,212 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 300Hz, PMW Dimming 1,440Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1 (4G)
- แรม : 8GB
- ความจุ : 256GB รองรับหน่วยความจำภายนอก SD NM สูงสุด 256 GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.4-f/4.0, Laser AF, OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 64 MP, f/3.5, OIS, 3.5x optical zoom (periscope telephoto)
- ตัวที่ 3: 13 MP, f/2.2, 120˚ (ultrawide)
- กล้องหน้า : 13 MP, f/2.4 (ultrawide) + 3D ToF
- แบตเตอรี่ : 4,7000 mAh + 66W HUAWEI SuperCharge, 50W HUAWEI SuperCharge Wireless
- ราคา : 43,990 บาท
2. HONOR 70 5G
ต่อด้วยมือถือ Editor’s Choice ที่ทางทีมงานมองว่าเป็นมือถือที่คุ้มค่าน่าซื้อที่สุดไม่ว่าจะด้วยดีไซน์ สเปคหรือราคากับ HONOR 70 5G โดยตัว HONOR 70 5G นั้นเป็นมือถือระดับกลางๆ ค่อนบนที่มาด้วยดีไซน์แบบเดียวกับมือถือระดับเรือธงใช้กัน พร้อมด้วยสเปคที่เรียกได้ว่าครอบคลบุมทุกการใช้งานทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นโซเชียล, เล่นเกมหรือถ่ายภาพ ก็สามารถทำได้หมด ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 120Hz ชิปประมวลผล Snapdragon 778G+ กล้องหลังความละเอียด 54MP พร้อมกล้อง Ultra-Wide ความละเอียด 50MP พร้อมด้วยฟีเจอร์กล้องอีกเพียง และระบบชาร์จเร็วถึง 66W ในราคาแค่ 16,990 บาท เรียกได้ว่าเป็นมือถือสำหรับคนงบไม่เยอะแต่อยากถือมือถือฟีลเรือธงสุดๆ
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : OLED, ขนาด 6.67 นิ้ว, ความละเอียด 2,400 x 1,080 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 778G+
- แรม : 8GB
- ความจุ : 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 54 MP, f/1.9, (wide)
- ตัวที่ 2: 50 MP, f/2.2, AF, 122˚ (ultrawide+macro)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (depth)
- กล้องหน้า : 32 MP, f/2.4, (wide)
- แบตเตอรี่ : 4,800 mAh + 66W HONOR SuperCharge
- ราคา : 16,990 บาท
3. iPhone 14 Pro Max
iPhone 14 Pro Max มือถือตัวท๊อปสุดของ Apple ผู้ได้ Best Flagship อันดับ 2 จากทาง Specphone ไป เอาจริงๆ เครื่องนี้ถือว่าเป็นเรือธงที่ดีที่สุดตัวหนึ่งเลยไม่ว่าจะเป็นความแรง ความลื่นไหล การถ่ายภาพและวิดีโอ รวมไปถึงความอึดของแบตเตอรี่ แต่ทำไมถึงได้อันดับที่ 2 นั้นเหตุผลก็ง่ายๆ แค่ข้อเดียวคือราคาที่สูงแบบสุดๆ นั่นเอง ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 44,900 บาทนั่นเอง แถมยิ่งถ้าต้องการใช้ฟีเจอร์ให้เต็มที่ราคาก็ต้องขยับขึ้นไปอย่างน้อยเป็น 48,900 บาทขึ้นไปอีกต่างหาก ทำให้ได้เป็นอันดับ 2 ไปนั่นเอง
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : Super Retina XDR (LTPO OLED) แบบ Dymamic Island, ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด 2,796 x 1,290 พิกเซล, ProMotion 120Hz
- ชิปประมวลผล : Apple A16 Bionic
- แรม : 6GB
- ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB / 1TB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 48 MP, f/1.8, sensor-shift OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 12 MP, f/2.8, OIS, 3x optical zoom (telephoto)
- ตัวที่ 3: 12 MP, f/2.2, 120˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 4: LiDAR scanner
- กล้องหน้า : 12 MP, f/1.9 (wide)
- แบตเตอรี่ : 4,323 mAh + 29W PD, MagSafe 15W, Qi 7.5W
- ราคา :
- 128GB : 44,900 บาท
- 256GB : 48,900 บาท
- 512GB : 57,900 บาท
- 1TB : 66,900 บาท
4. OPPO Reno8 Series
มาที่อันดับ 4 กับ OPPO Reno8 Series กันบ้าง โดยที่ครั้งนี้มาเป็นซีรี่ส์เลยก็เนื่องจากซีรี่ส์ Reno8 นั้นทำออกมาได้ดีทั้งซีรี่ส์ในด้านการถ่ายภาพ Portrait จนได้รางวัล Best Portrait กันทั้งซีรี่ส์เลย ซึ่งความสามารถในการถ่าย Portrait ก็จะมากขึ้นตามรุ่นอีกด้วย ถ้าถามว่าตัวไหนจบสุดแน่นอนว่าต้องเป็น Reno8 Pro ที่สามารถถ่ายแบบสวยๆ ได้ในทุกสภาพแสง แต่ก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงพอสมควรถึง 27,990 บาท แต่ถ้าใีงบไม่เยอะ Reno8 Z 5G ก็จะเป็นตัวเลือกที่ดีเพราะด้วยราคาแค่ 12,990 บาทเท่านั้น ส่วน Reno8 นับเป็นรุ่นกลางๆ ระหว่างทั้ง 2 รุ่นคือเสปคแรงกว่า Reno8 Z ใช้งานได้หลากหลายกว่า แต่ไม่สุดเหมือน Reno8 Pro เท่านั้น
สเปคคร่าวๆ ของ OPPO Reno8 Z 5G
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.43 นิ้ว, ความละเอียด 2,400 x 1,080 พิกเซล, Refresh Rate 60Hz, Touch Sampling Rate 180Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 695 5G
- แรม : 8GB
- ความจุ : 128GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 64 MP, f/1.7 (wide)
- ตัวที่ 2: 2 MP, f/2.4 (macro)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (depth)
- กล้องหน้า : 16 MP, f/2.4 (wide)
- แบตเตอรี่ : 4,500 mAh + 33W SUPERVOOC
- ราคา : 12,990 บาท
OPPO Reno8 Z 5G หน้าสเปคเต็ม / รีวิว
สเปคคร่าวๆ ของ OPPO Reno8 5G
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.4 นิ้ว, ความละเอียด 2,400 x 1,080 พิกเซล, Refresh Rate 90Hz, Touch Sampling Rate 180Hz
- ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 1300
- แรม : 8GB / 12GB
- ความจุ : 128GB / 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.8 (wide)
- ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.2, 112˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (macro)
- กล้องหน้า : 32 MP, f/2.4 (wide)
- แบตเตอรี่ : 4,500 mAh + 80W SUPERVOOC
- ราคา : 19,990 บาท
OPPO Reno8 5G หน้าสเปคเต็ม / รีวิว
สเปคคร่าวๆ ของ OPPO Reno8 Pro 5G
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด 2,412 x 1,080 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 720Hz
- ชิปประมวลผล : MediaTek Domensity 8100-Max
- แรม : 12GB
- ความจุ : 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.8 (wide)
- ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.2, 120˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (macro)
- กล้องหน้า : 32 MP, f/2.4
- แบตเตอรี่ : 4,500 mAh + 80W SUPERVOOC
- ราคา : 27,990 บาท
OPPO Reno8 Z 5G หน้าสเปคเต็ม / รีวิว
5. POCO M5
มาถึงรางวัลที่ 5 กับ POCO M5 ผู้ได้รางวัล Best Value 4G Smartphone กันบ้าง ถ้าถามว่าทำไม POCO M5 ตัวนี้ถึงได้รางวัลนี้ก็เพราะ POCO M5 คือมือถือ 4G ที่ให้สเปคมาในระดับที่ใช้งานได้แทบทุกอย่างในราคาเพียงแค่ 5,999 บาท และยิ่งถ้ามีคูปองส่วนลดหหรือซื้อช่วง Flash Sales แล้วจะทำให้ได้ราคาที่ถูกแบบสุดๆ เลยนั่นเอง ชิปประมวลผล Helio G99 ที่ให่มานั้นก็สามารถใช้เล่นเกมส่วนใหญ่ได้ กล้องความละเอียด 50 MP ก็เพียงพอแล้วในการใช้ในชีวิตประจำวัน แถมถึงจะไม่เร็วมากแต่ก็ยังให้ระบบชาร์จเร็วมาด้วย เรียกได้ว่าครบเครื่องสุดๆ แล้วสำหรับมือถือในช่วง 5,000 บาทนี้
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.58 นิ้ว, ความละเอียด 2,408 x 1,080 พิกเซล, Refresh Rate 90Hz
- ชิปประมวลผล : MediaTek Helio G99
- แรม : 6GB
- ความจุ : 128GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.8 (wide)
- ตัวที่ 2: 2 MP, f/2.4 (macro)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (depth)
- กล้องหน้า : 5 MP, f/2.2 (wide)
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh + 18W Fast Charge
- ราคา : 5,999 บาท
6. realme GT Neo3
เมื่อมี Best Value 4G ไปแล้วก็ต้องมี Best Value 5G กันด้วย โดยเครื่องที่ได้รางวัลนี้คือ realme GT Neo3 มือถือเกมมิ่งระดับกลางของ realme ที่ยัดสเปคมาไได้โหดแบบสุดๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 120Hz ชิปประมวลผล Dimensity 8100 ความจุขนาด 256GB ระบบระบายความร้อน Stainless Steel ที่ช่วยระบายความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม และระบบชาร์จเร็ว 80W SuperDart ซึ่งทั้งหมดนี่ด้วยราคาแค่ 18,999 บาทเท่านั้น ถ้าไม่เรียกว่าคุ้มก็ไม่รู้จะว่าอย่างไรแล้ว
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด 2,412 x 1,080 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 1,000Hz
- ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 8100
- แรม : 8GB
- ความจุ : 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.9 (wide)
- ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.3, 120˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (macro)
- กล้องหน้า : 16 MP, f/2.5 (wide)
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh + 80W SuperDart Charge
- ราคา : 18,999 บาท
7. Redmi 10 5G
มือถือคุ้มราคาอีกตัวกับรางวัล Best Budget ก็คือ Redmi 10 5G ด้วยราคาที่ไม่ได้แรงเกินไปแต่ได้ 5G มาใช้งานพร้อมด้วยเสปคที่เอามาใช้ในชีวิตประจำวันได้สบายๆ ทำให้ Redmi 10 5G เป็นตัวหนึ่งที่เรียกได้ว่าราคาเหมาะสมกับยุคมือถือราคาแพงแล้ว แถมหากหาซื้อแบบออนไลน์ยังสามารถซื้อในราคาที่ถูกกว่านี้ได้อีก ซึ่ง Redmi 10 5G นี้จะมีให้เลือก 2 ความจุคือ 64GB และ 128GB ในราคาที่ต่างกัน 1,300 บาท ถ้าเป็ฯคนที่ไม่ได้ใช้พื้นที่เก็บข้อมูลเยอะ 64GB ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดี ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้เยอะ แต่ถ้าเป็นวัยรุ่นหรือวัยทำงานอาจจะต้องไปซื้อรุ่น 128GB แทนเพื่อให้สามารถใช้งานได้ยาวๆ
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 6.58 นิ้ว, ความละเอียด 2,408 x 1,080 พิกเซล, Refresh Rate 90Hz
- ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 700
- แรม : 4GB / 6GB
- ความจุ : 64GB / 128GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.8 (wide)
- ตัวที่ 2: 2 MP, f/2.4 (depth)
- กล้องหน้า : 5 MP, f/2.0 (wide)
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh + 18W Fast Charge
- ราคา :
- 4GB / 64GB : 5,999 บาท
- 6GB / 128GB : 7,299 บาท
8. Samsung Galaxy S22 Ultra 5G
มาถึงคิว Best Flagship ประจำปี 2022 กันบ้าง โดยผู้ที่ได้รางวัลนี้ไปก็คือ Samsung Galaxy S22 Ultra มือถือระดับเรือธงมากความสามารถที่มาพร้อมปากกาในตัวและความสามารถในการซูมระยะไกลแบบสุดๆ อีกทั้งยังสามารถใช้งานเสมือนคอมพิวเตอร์ได้ผ่าน DeX Mode อีกด้วย ไม่เรียกว่ามากความสามารถก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว โดยเหตุที่ให้ Galaxy S22 Ultra มาเป็นอันดับ 1 และกดให้ iPhone 14 Pro Max ลงไปที่อันดับ 2 ก็ไม่ใช่อะไร เพราะราคาค่าตัวนั่นเอง โดยราคาเริ่มต้นของ Galaxy S22 Ultra นั้นเพียง 39,990 บาท ส่วนถ้่าเอาแบบเซฟ ใช้งานได้ทุกรูปแบบจริงๆ ก็จะมีราคา 43,990 บาท ซึ่งไม่ว่ายังไงก็ถูกกว่า iPhone 14 Pro Max แน่นอน อีกทั้ง Sasmung ยังจัดโปรลดราคาอยู่เรื่อยๆ อีกด้วย ทำให้สามารถซื้อได้ในราคาที่ถูกลงมาก
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : Dynamic AMOLED 2X, ขนาด 6.8 นิ้ว, ความละเอียด 3,080 x 1,440 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 240Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1
- แรม : 8GB / 12GB
- ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 108 MP, f/1.8, Laser AF, OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 10 MP, f/4.9, OIS, 10x optical zoom (periscope telephoto)
- ตัวที่ 3: 10 MP, f/2.4, OIS, 3x optical zoom (telephoto)
- ตัวที่ 4: 12 MP, f/2.2, 120˚ (ultrawide)
- กล้องหน้า : 40 MP, f/2.2 (wide)
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh + 45W Super Fast Charge 2.0, Qi 15W, Reverse 4.5W
- ราคา :
- 8GB / 128GB : 39,900 บาท
- 12GB / 256GB : 43,900 บาท
- 12GB / 512GB : 47,900 บาท
9. Samsung Galaxy Z Flip4 5G
ยังอยู่กับมือถือ Sasmung ด้วยรางวัล Best Design กับ Samsung Galaxy Z Flip4 5G มือถือพับได้รุ่นเอกตัวหนึ่งของ Samsung ที่นอกจากจะมีขนาดเล็กกระทัดรัดแล้วยังสามารถตกตแต่งได้ตามใจชอบอีกด้วย โดยใน Galaxy Z Flip4 ตัวนี้สามารถเอาสติกเกอร์ต่างๆ มาติดตามตัวเครื่องที่ว่างเพื่อตกแต่งเพิ่มตามที่ชอบได้ แถมยังสามารถเปลี่ยนสีฝาหลังตัวเครื่องได้ด้วยในรุ่น Bespoke Edition (ต้องเลือกสีตั้งแต่ขั้นตอนซื้อเลย) ด้วยความที่สามารถตกแต่งได้หลากหลาย ทำให้เรามอบรางวัล Best Design ให้นั่นเอง
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ :
- หน้าจอนอก : Super AMOLED, ขนาด 1.9 นิ้ว, ความละเอียด 512 x 260 พิกเซล
- หน้าจอใน : Dynamic AMOLED 2X, ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด 2,640 x 1,080 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1
- แรม : 8GB
- ความจุ : 128GB / 256GB / 512GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 12 MP, f/1.8, OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 12 MP, f/2.2, 123˚ (ultrawide)
- กล้องหน้า : 10 MP, f/2.4 (wide)
- แบตเตอรี่ : 3,700 mAh + 25W Adaptive Fast Charge + 15W Wireless Charging
- ราคา :
- 8GB / 128GB : 35,900 บาท
- 8GB / 256GB : 38,900 บาท
- 8GB / 512GB : 44,900 บาท
10. Samsung Galaxy Z Fold4 5G
ปิดท้ายกันด้วย Samsung Galaxy Z Fold4 5G มือถือพับได้ที่ดีที่สุดในปี 2022 ด้วยความสามารถที่เป็นได้ทั้งมือถือและแท็บเล็ต และที่สำคัญคือรองรับการใช้งาน S Pen อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ยังไม่มีมือถือพับได้ในไทยเครื่องไหนที่รองรับการใช้ปากกาคู่กับหน้าจอพับได้ ด้วยความที่มีความอเนกประสงค์ใช้งานได้ทุกรูปแบบทำให้ Galaxy Z Fold4 เป็นมือถือพับได้ที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ :
- หน้าจอนอก : Dynamic AMOLED 2X, ขนาด 6.2 นิ้ว, ความละเอียด 2,316 x 904 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz
- หน้าจอใน : Dynamic AMOLED 2X, ขนาด 7.6 นิ้ว, ความละเอียด 2,176 x 1,812 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling rate 180Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8+ Gen 1
- แรม : 12GB
- ความจุ : 256GB / 512GB / 1TB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.8, OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 10 MP, f/2.4, OIS, 3x optical zoom (telephoto)
- ตัวที่ 3: 12 MP, f/2.2, 123˚ (ultrawide)
- กล้องหน้า :
- ด้านนอก : 10 MP, f/2.2 (wide)
- ด้านใน : 4 MP, f/1.8 (wide) (under display)
- แบตเตอรี่ : 4,400 mAh + 25W Adaptive Fast Charge + 15W Wireless Charging
- ราคา :
- 12GB / 256GB :59,900 บาท
- 12GB / 512GB : 65,900 บาท
- 12GB / 1TB : 75,900 บาท
11. vivo V25 5G
ทีนี้มาถึงคิดรางวัลกล้องกันบ้างกับ vivo V25 5G ด้วยรางวัล Best Selfie Smartphone มือถือที่มีกล้องเซลฟี่ที่ทางทีมงานมองว่าดูดีและน่าสนใจที่สุดในปี 2022 ด้วยกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 50MP และระบบโฟกัสดวงตาที่แม่นยำและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมาพร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยให้การเซลฟี่มีความสวยงามมากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็น Bokeh Flare Portrait, HD Natural Portrait, Night Portrait หรือ Portrait Creation เป็นต้น นอกจากฟีเจอร์เพียบแล้วน้ำหนักตัวเครื่องยังไม่ได้มากมายอะไร ช่วยให้สามารถยกถือถ่ายเซลฟี่ได้โดยที่มือไม่สั่น แถมยังสามารถยกถือถ่ายเป็นระยะเวลานานๆ ได้อีกด้วย
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.44 นิ้ว, ความละเอียด 2404 x 1080 พิกเซล, Refresh Rate 90Hz, Touch Sampling Rate 180Hz
- ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 900
- แรม : 8GB
- ความจุ : 128GB / 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 64 MP, f/1.8, OIS (wide)
- ตัวที่ 2 : 8 MP, f/2.2, 120˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3 : 2 MP, f/2.4 (macro)
- กล้องหน้า : 50 MP, f/2.0, AF (wide)
- แบตเตอรี่ : 4,500 mAh + 44W FlashCharge
- ราคา :
- 8GB / 128GB : 13,999 บาท
- 8GB / 256GB : 14,999 บาท
12. vivo X80 Pro
เมื่อมีกล้องหน้าก็ต้องมีกล้องหลังกับรางวัล Best Camera ซึ่งรางวัลนี้ก็ไปตกกับ vivo อีกเช่นกัน แต่คราวนี้เป็น vivo X80 Pro มือถือกล้องเทพจาก ZEISS พร้อมกันสั่นแบบ Gimbal ที่ทำให้ภาพออกมานิ่งเสมือนต่อ Gimball จริงๆ นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์จาก ZEISS มาเพิ่มสีสันในการถ่ายภาพให้อีก สำหรับคุณภาพของรูปถ่ายที่ได้นับต้องบอกเลยว่าเหมือนถือกล้องจริงๆ อยู่อย่างไรก็มิปาน ไม่ง่าจะเป็นการเก็บรายละเอียดหรือสีสันก็ออกมาได้สมจริงแบบสุดๆ เรียกได้ว่ากล้องในรูปของมือถือก็ได้ สำหรับคนที่ต้องการกล้องเทพๆ ไว้ใช้ถ่ายตอนไปเที่ยวแต่ไม่อยากพกอะไรเยอะแยะ vivo X80 Pro คือตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว เพราะเป็นได้ทั้งมือถือและกล้องเลยทีเดียว
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : LTPO AMOELD, ขนาด 6.78 นิ้ว, ความละเอียด 3,200 x 1,440 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 240Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 พร้อมด้วย vivo V1+ ISP
- แรม : 12GB
- ความจุ : 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 50 MP, f/1.6, Laser AF, OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 8 MP, f/3.4, OIS, 5x optical zoom (periscope telephoto)
- ตัวที่ 3: 12 MP, f/1.9, OIS, 2x optical zoom (telephoto)
- ตัวที่ 4: 48 MP, f/2.2, AF, 114˚ (ultrawide)
- กล้องหน้า : 32 MP, f/2.5 (wide)
- แบตเตอรี่ : 4,700 mAh + 80W FlashCharge, 50W Wireless FlashCharge
- ราคา : 39,999 บาท
13. Xiaomi 12T
ปิดท้ายส่วนของมือถือด้วย Best Value Flagship มือถือเรือธงราคาคุ้มค่าแห่งปี 2022 กับ Xiaomi 12T มือถือระดับเรือธงในราคาไม่ถึง 20,000 บาท ด้วยสเปคที่ให้มากับราคาที่ขายแล้วก็สมควรอย่างยิ่งสำหรับรางวัล Best Valute Flagship ซึ่งถ้าสงสัยว่าทำไม Xiaomi 12T Pro ไม่ได้รางวัลนั้นก็ด้วยสเปคที่ไม่ได้ต่างกันในระดับที่จะส่งผลต่อการใช้งานจริงๆ แต่ราคาที่ห่างกัน 8,000 บาทสำหรับใครหลายๆ คนก็เป็นมูลค่าที่หนักหนาเอาการ ทำให้ Xiaomi 12T เป็นมือถือระดับเรือธงที่มีราคาคุ้มค่ามากกว่า สามารถจับต้องได้ง่ายกว่านั่นเอง
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : AMOLED, ขนาด 6.67 นิ้ว, ความละเอียด 2,712 x 1,212 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz, Touch Sampling Rate 480Hz
- ชิปประมวลผล : MediaTek Dimensity 8100-Ultra
- แรม : 8GB
- ความจุ : 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 108 MP, f/1.7, OIS (wide)
- ตัวที่ 2: 8 MP, f/2.2, 120˚ (ultrawide)
- ตัวที่ 3: 2 MP, f/2.4 (macro)
- กล้องหน้า : 20 MP, f/2.24 (wide)
- แบตเตอรี่ : 5,000 mAh + 120W Xiaomi AdaptiveCharge
- ราคา : 17,990 บาท
แท็บเล็ตที่ได้รับรางวัล Specphone Award ในปี 2022
1. HUAWEI MatePad SE
คราวนี้ถึงคิวของแท็บเล็ตกันบ้าง โดยตัวแรกเลยคือ HUAWEI MatePad SE กับรางวัล Best Value Multimedia Tablet ด้วยความที่เป็นแท็บเล็ตสเปคครบเครื่องในราคาที่ไม่ได้แพงจนเกินไป ข้อเสียเดียวของเครื่องนี้ก็คือการที่ไม่สามารถใช้แอปฯ ต่างๆ ของ Google ตรงๆ ได้ ทำให้ชวดรางวัล Best Value Android Tablet ให้ตัวอื่นไป แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสเปคที่ทาง HUAWEI ให้มานั้นแย่ เพราะให้หน้าจอระดับ 2K มา ใช้ชิป Snapdragon 680 มีลำโพงคู่สเตอริโอที่เสียงดังกระหึ่ม มีน้ำหนักเพียง 440 กรัม และมีความบางเพียง 7.85 มม. เท่านั้น ทำให้สามารถใช้เป็นแท็บเล็ตเพื่อความบันเทิงได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีโหมดสำหรับเด็กที่ช่วยให้พ่อแม่สามารถควบคุมการใช้งานต่างๆ ของลูกๆ ได้
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 10.4 นิ้ว, ความละเอียด 2,000 x 1,200 พิกเซล
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680 4G
- แรม : 4GB
- ความจุ : 64GB / 128GB
- กล้องหลัง : 5MP, f/2.2, AF (wide)
- กล้องหน้า : 2MP, f/2.2 (wide)
- แบตเตอรี่ : 5,100 mAh
- ราคา :
- Wi-Fi 64GB : 6,990 บาท (Online Only)
- Wi-Fi 128GB : 7,990 บาท
- LTE 128GB : 9,990 บาท
2. HONOR Pad 8
และแล้วก็ถึงคิว Best Value Android Tablet กันบ้าง โดยผู้ที่ได้รางวัลนี้ไปก็คือ HONOR Pad 8 แท็บเล็ตราคาไม่แรงของ HONOR ที่มาพร้อมหน้าจอที่ใหญ่ถึง 12 นิ้ว มีลำโพงตัวเครื่องถึง 8 ตัวพร้อมด้วระบบเสียง HONOR Histen และ DTS:X®Ultra ขีับเคลื่อนด้วย Snapdragon 680 แต่ที่สำคัญสุดคือมาพร้อมความจุ 128GB และมีชาร์จเร็ว 22.5W มาให้ ซึ่งโดยปกติแล้วแท็บเล็ตในเรทราคาไม่เกินหมื่นจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่ก็จะไม่ได้ทั้งคู่เลยก็มี เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ต Android ที่คุ้มที่สุดในปี 2022 นี้เลยก็ว่าได้
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : IPS-LCD, ขนาด 12 นิ้ว, ความละเอียด 2,000 x 1,200 พิกเซล
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 680 4G
- แรม : 6GB
- ความจุ : 128GB
- กล้องหลัง : 5MP, f/2.2, AF (wide)
- กล้องหน้า : 5MP, f/2.2 (wide)
- แบตเตอรี่ : 7,250 mAh + 22.5W HONOR FastCharge
- ราคา : 9,990 บาท
หน้าสเปคเต็ม / รีวิว
3. iPad Air 5 (M1)
มาถึงฝั่ง Apple กันบ้างด้วยแท็บเล็ตตัวจบที่สุดของปี 2022 กับ iPad Air 5 หรือ iPad Air M1 กับรางวัล Best Overall ด้วยความสามารถที่ทำได้ทุกอย่างๆ แท้จริง ก็จริงว่าความสามารถบางอย่างอาจจะสู้ iPad Pro ไม่ได้ แต่ทว่าเมื่อมองที่ราคาประกอบด้วยแล้วทำให้ iPad Air มีความคุ้มค่ากว่ากันเยอะมากนัก ด้วยชิปประมวลผล Apple M1 ที่แรงระดับเดียวกับ Macbook หน้าจอขนาดใหญ่ 10.9 นิ้ว พร้อมทั้งยังรองรับ Apple Pencil 2 และ Magic Keyboard ซึ่งหากซื้อทั้ง 2 อย่างพ่วงมาด้วยก็สามารถแปลง iPad ให้กลายเป็น Notebook ขนาดย่อมได้เลยทีเดียว
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : Liquid Retina (IPS-LCD), ขนาด 10.9 นิ้ว, ความละเอียด 2,360 x 1,640 พิกเซล
- ชิปประมวลผล : Apple M1
- แรม : 8GB
- ความจุ : 64GB / 256GB
- กล้องหลัง : 12 MP, f/1.8 (wide)
- กล้องหน้า : 12 MP, f/2.4 (ultrawide)
- แบตเตอรี่ : 28.6 Wh (หาขนาดแบบจริงๆ ไม่ได้เลย) + 20W PD
- ราคา :
- Wi-Fi 64GB : 20,900 บาท
- Wi-Fi 256GB : 25,900 บาท
- Cellular 64GB : 25,900 บาท
- Cellular 256GB : 30,900 บาท
4. iPad mini 6
เมื่อพูดถึง iPad อย่าง iPad Air ไปแล้วก็ต้องพูดถึง iPad ขนาดพกพาอย่าง iPad mini 6 ด้วย ถึงแม้ตอนเปิดตัวจะมีดราม่าอยู่บ้างแต่ถ้าพูดถึงในปี 2022 นี้ก็สมควรที่จะได้รางวัล Best Ultra-portable Tablet อย่างแน่นอน ด้วยขนาดตัวที่ไม่ได้ใหญ่มากมายอะไรและน้ำหนักตัวราวๆ 300 กรัมทำให้สามารถพกพาได้ง่ายแบบสุดๆ แถมชิปประมวลผล A15 Bionic ที่ใส่มาก็เป็นตัวเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 13 เรียกได้ว่าแรงแบบเหลือๆ ทำให้เป็นแท็บเล็กขนาดพกพาที่ครบเครื่องสุดๆ จะเอาไปใช้ทำงานนอกสถานที่ๆ ต้องการความคล่องตัวหรือจะเอาไปเล่นเกมก็ได้ทั้งนั้น แถมในปี 2022 นี้ก็ไม่มีใครที่เปิดตัวแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้วออกมาสู้ iPad mini 6 ได้เลยสักเครื่อง
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : Liquid Retina (IPS-LCD), ขนาด 8.3 นิ้ว, ความละเอียด 2,360 x 1,640 พิกเซล
- ชิปประมวลผล : Apple A15 Bionic
- แรม : 4GB
- ความจุ : 64GB / 256GB
- กล้องหลัง : 12 MP, f/1.8, AF (wide)
- กล้องหน้า : 12 MP, f/2.4 (ultrawide)
- แบตเตอรี่ : ราวๆ 5,000 mAh + 20W PD
- ราคา :
- Wi-Fi 64GB : 17,900 บาท
- Wi-Fi 256GB : 23,400 บาท
- Cellular 64GB : 23,400 บาท
- Cellular 256GB : 28,900 บาท
5. Samsung Galaxy Tab S8
กลับมาที่แท็บเล็ต Android กันอีกครั้งพร้อมกับการปิดท้ายบทความด้วย Samsung Galaxy Tab S8 แท็บเล็ตระดับเรือธงตัวเริ่มต้นของ Samsung ที่เรียกได้ว่าจบสุดในฝั่ง Android ด้วยรางวัล Best Premium Android Tablet ประจำปี 2022 ซึ่งถ้าถามว่าแล้วทำไม Galaxy Tab S8 Ultra ถึงไม่ได้รางวัลนี้ทั้งๆ ที่สเปคสูงกว่า ก็เนื่องมาจากขนาดตัวที่ใหญ่จัดๆ และน้ำหนักที่เรียกได้ว่าเอาเรื่อง จึงเป็นแท็บเล็ตที่ไม่เหมาะกับการพกพา ทำให้ Galaxy Tab S8 ที่มีขนาดเล็กกว่า แต่ประสิทธิภาพต่างๆ ไม่ได้ต่างกันมากถึงน่าสนในกว่านั่นเอง แถมราคาเริ่มต้นก็ถูกกว่าเยอะเลยด้วย ทำให้ Samsung Galaxy Tab S8 ถูกเลือกให้เป็นแท็บเล็ต Android ระดับเรือธงที่ดีที่สุดในปี 2022 นี้
สเปคคร่าวๆ
- หน้าจอ : TFT-LCD, ขนาด 11 นิ้ว, ความละเอียด 2,560 x 1,600 พิกเซล, Refresh Rate 120Hz
- ชิปประมวลผล : Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1
- แรม : 8GB / 12GB
- ความจุ : 128GB / 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1: 13 MP, f/2.0 (wide)
- ตัวที่ 2: 6 MP, f/2.2 (ultrawide)
- กล้องหน้า : 12MP, f/2.4, 120˚ (ultrawide)
- แบตเตอรี่ : 8,000 mAh + 45W Super Charge 2.0
- ราคา :
- Wi-Fi : 23,900 บาท
- 5G : 30,900 บาท
หน้าสเปคเต็ม / รีวิว
รางวัล Specphone Award ประจำปี 2022 ทั้ง 18 เครื่องที่เราได้พูดถึงในบทความรายชื่อมือถือที่ได้รับรางวัล Specphone Award ในปี 2022 นี้เป็นมือถือและแท็บเล็ตที่ทางทีมงาน Specphone เห็นว่าเป็นที่สุดในปี 2022 นี้แล้ว ถึงแม้อาจจะมีเพื่อนๆ หลายคนมีความเห็นแตกต่างกันไปบ้างก็ตาม ถึงอย่างนั้นทางทีมงานก็ได้คัดสรรเครื่องที่คิดว่าดีที่สุดมาแนะนำเพื่อนๆ แล้ว