Samsung เปิดตัว Samsung Galaxy Buds Core หูฟัง True Wireless Stereo (TWS) รุ่นใหม่ในกลุ่มราคาประหยัดในประเทศอินเดียเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา โดยเป็นรุ่นต่อยอดจาก Galaxy Buds FE ที่เปิดตัวในปี 2023 ซึ่งหูฟังรุ่นนี้มาพร้อมกับดีไซน์ที่ใส่สะดวกสบาย ยังมีปีกให้เหมือนเดิม พร้อมคุณสมบัติเด่นอย่าง Active Noise Cancellation (ANC) และผสานเทคโนโลยี Galaxy AI เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ล้ำสมัยในราคาที่เข้าถึงได้ กับแบตเตอรี่สุดอึดที่อยู่ได้อย่างยาวนานในราคาเริ่มต้นประมาณ 1,900 บาทเท่านั้น ไปดูกันว่ามีสเปคอะไรน่าสนใจกันบ้าง
Samsung Galaxy Buds Core

สำหรับดีไซน์ของ Samsung Galaxy Buds Core ยังคงดีไซน์แบบ Wingtip เพื่อความกระชับและใส่สบาย ตัวหูฟังเป็นแบบ In-ear มีจุกหูฟังให้เลือก 3 ขนาด และ Wingtip 2 ขนาด ปรับให้เหมาะกับหูแต่ละคน ตัวหูฟังน้ำหนักเบาแค่ 5.3 กรัมต่อข้าง ส่วนเคสชาร์จหนัก 31.2 กรัม ดีไซน์คล้าย Galaxy Buds FE เรียบง่ายแต่ดูดี มีสองสีให้เลือกคือสีขาว และสีดำ กันน้ำและฝุ่นได้ที่ระดับ IP54 ดีกว่าเดิม ควบคุมผ่านตัวหูฟังได้ด้วย


ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นประหยัด แต่ Samsung Galaxy Buds Core ก็ให้เสียงเบสแน่นด้วยไดรเวอร์เดี่ยว พร้อมไมโครโฟน 3 ตัวต่อข้าง สามารถแยกเสียงพูดออกจากเสียงรบกวนรอบข้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ล่ามและ Live Translation ที่ขับเคลื่อนโดย Galaxy AI และสามารถถอดเสียงการพูดคุยและแปลแบบเรียลไทม์ได้ แค่ชี้ไมโครโฟนของโทรศัพท์ไปที่ลำโพง จากนั้นแตะไปที่ Galaxy Buds Core เพื่อฟังการแปลบทสนทนาได้เลยทันที
จุดเด่นที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือฟีเจอร์ Active Noise Cancellation (ANC) ที่สามารถตัดเสียงรบกวนจากภายนอก และ Ambient Sound ที่ช่วยให้ได้ยินเสียงรอบข้างเมื่อต้องการ เช่น ขณะเดินทางหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ต้องระวังความปลอดภัย สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายกับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต อุปกรณ์อื่นๆ และสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้ง่ายๆ โดยเฉพาะคนที่ใช้อุปกรณ์ของ Samsung Galaxy เหมือนกัน

สุดท้ายคือแบตเตอรี่ที่อึดสุดๆ สำหรับ Samsung Galaxy Buds Core เพราะมีแบตเตอรี่ใช้งานได้นานถึง 35 ชั่วโมงเมื่อใช้งานกับเคสชาร์จ (ความจุ 500 mAh) ตัวหูฟังแต่ละข้างมีแบตเตอรี่ 65 mAh เมื่อเปิดใช้ ANC จะสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าใช้งานได้นานกว่ารุ่นก่อนหน้าที่ทำได้ 30 ชั่วโมงเท่านั้น ตัวเคสชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ได้เลย และถ้าหูฟังหล่นหายก็มี Samsung Find ไว้ดูตำแหน่งหูฟังได้ด้วย

สเปคและฟีเจอร์เด่นๆ ของ Samsung Galaxy Buds Core
- ขนาด:
- หูฟัง: 19.2×17.1×22.2 มม. น้ำหนัก: 5.3 กรัม | เคส: 50.0x 50.0×27.7 มม. น้ำหนัก: 31.2 กรัม
- เชื่อมต่อ: Bluetooth v5.4, รองรับตัวแปลงสัญญาณ AAC, SBC และ Scalable codecs
- Active Noise Cancellation (ANC): ตัดเสียงรบกวนรอบข้าง แม้จะไม่เทียบเท่ารุ่นท็อปอย่าง Buds 3 Pro แต่ก็ช่วยลดเสียงรบกวนพื้นฐาน เช่น เสียงรถหรือเสียงต่างๆ ได้ดีในชีวิตประจำวัน
- Ambient Sound Mode: ฟังเสียงภายนอกได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง
- Galaxy AI: ฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์ (Interpreter Mode) และ Live Translation
- Touch Controls: แตะเพื่อหยุดเพลงหรือปรับเสียงได้ทันที
- กันน้ำกันฝุ่น: IP54
- แบตเตอรี่: สูงสุด 35 ชั่วโมง (ปิด ANC) / 20 ชั่วโมง (เปิด ANC)
ราคาและการวางจำหน่าย
Samsung Galaxy Buds Core เปิดตัวพร้อมวางขายแล้วทั้งในประเทศอินเดีย และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ มี 2 สีให้เลือกคือ สีขาว และสีดำ จะวางจำหน่ายที่ Amazon.in และร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์ของ Samsung.com ตั้งแต่วันนี้ 27 มิถุนายน เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป โดยมีราคาเปิดตัวออกมาที่ 4,999 รูปี หรือประมาณ 1,900 บาทเท่านั้น
ส่วนบ้านเราตอนนี้ยังไมไ่ด้มีข่าวยืนยันออกมาว่าจะนำเข้าไปขายหรือไม่ ต้องรอลุ้นกันอีกทีในช่วงเปิดตัวในงาน Galaxy Unpacked ที่จะมีทั้ง Samsung Galaxy Z Fold7, Galaxy Z Flip7 และ Galaxy Z Flip7 FE เปิดตัวออกมาพร้อมกัน และเป็นไปได้ว่าอาจจะมีหูฟังรุ่นนี้รวมอยู่ด้วยก็เป็นได้
ที่มา: Samsung in