Lady Gaga เล่าให้ Apple Music ฟังเกี่ยวกับอัลบั้มใหม่ Chromatica
ในบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มกับ Zane Lowe นักร้องหญิง Lady Gaga ได้อธิบายความหมายของคำว่า Chromatica กับ Apple Music ว่า “เสียงดนตรีคือสิ่งเยียวยาจิตใจในชีวิตฉัน และมันก็ช่วยฉันอีกครั้งตอนทำเพลงนี้ นี่แหละคือที่มาของ Chromatica” เธอกล่าวเสริมว่า “ฉันมีชีวิตอยู่ใน Chromatica นั่นคือที่ของฉัน ฉันมองผ่านเฟรม… ฉันเจอโลก… ฉันลบทิ้ง โลกไม่อยู่แล้ว ฉันมีชีวิตอยู่ใน Chromatica” เมื่อถามว่าคำนี้มาได้อย่างไร Gaga บอกว่า “Chromatica คือมุมมอง” และ “การทำเพลงและการนำเสนอเพลงแก่แฟนเพลงทั่วโลกคือมุมมองที่ฉันมีต่อชีวิต และก็เป็นของขวัญที่ฉันอยากมอบให้โลกใบนี้”
ฟัง Gaga พูดถึง Chromatica และบทสัมภาษณ์ฉบับเต็มได้ด้านล่าง — เครดิต Apple Music
Lady Gaga บอกกับ Apple Music เกี่ยวกับความหมายของ Chromatica…
“ฉันเสาะหาความแตกต่างในเชิงบวก แต่ก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันคืออะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเจอไหม และมันน่าสนใจ เพราะมันอยู่ในเพลง “Stupid Love” ที่กำลังติดชาร์ต Billboard และอยู่ในมิวสิควิดีโอ และอื่นๆ ที่จะตามมา สัญลักษณ์ของ Chromatica เป็นรูปคลื่นสัญญาณซึ่งเป็นสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์สำหรับคลื่นเสียง และเป็นพื้นฐานของเสียงทั้งหมด เสียงดนตรีคือสิ่งเยียวยาจิตใจในชีวิตฉัน และมันก็ช่วยฉันอีกครั้งตอนทำเพลงนี้ นี่แหละคือที่มาของ Chromatica มันเป็นเรื่องของการเยียวยาและความกล้าหาญ เมื่อเราพูดถึงความรัก ฉันว่าเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องรวมข้อเท็จจริงที่ว่ามันต้องอาศัยความกล้าอย่างมากที่จะรักใครสักคน”
“ฉันคิดว่าสิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือฉันสามารถมองเห็นโลกได้ในมุมที่เลือกจะมอง ไม่ได้หมายความว่าฉันลบด้านไม่ดีทิ้งไปนะ แค่หมายถึงว่าฉันสามารถจัดเฟรมประสบการณ์ชีวิตของตัวเองใหม่ รวมทั้งวิธีที่โลกจัดกรอบให้ประสบการณ์ชีวิต ไปจนถึงการรักและเชื่อในอะไรสักอย่าง นั่นล่ะคือ Chromatica ฉันมีชีวิตอยู่ใน Chromatica นั่นคือที่ของฉัน ฉันมองผ่านเฟรม… ฉันเจอโลก… ฉันลบทิ้ง โลกไม่อยู่แล้ว ฉันมีชีวิตอยู่ใน Chromatica”
Lady Gaga บอกกับ Apple Music ถึงที่มาของคำว่า Chromatica…
“โปรดิวเซอร์ BloodPop เสนอเรื่องนี้ขึ้นมา เราคุยกันว่าคำว่า Chromatica มันมีความหมายในตัวเอง เมื่อพูดถึงเรื่องสีสีน มันหมายถึงสีต่างๆ ทุกสี และเมื่อพูดถึงเรื่องเสียง มันก็คือบันไดเสียงโครมาติก เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นทั้งสีและเสียง เรากำลังพูดถึงการหลอมรวมผู้คนทุกกลุ่ม ชีวิต และอะไรต่อมิอะไรที่เราเห็นรอบตัว และสิ่งที่เราได้เจอคือคณิตศาสตร์ ซึ่งมีหลักการคล้ายกันมากกับเสียงดนตรี เราคุยกันเสร็จ แล้วฉันก็กลับไปคิดและได้คำตอบว่า “เอาล่ะ มันคือการหลอมรวม แต่ในแง่ของความคิดนะ” มันไม่ใช่แค่ “โอ้ Chromatica เรากำลังหลอมรวมทุกสี คนทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน” และที่ฉันบอกว่า “สีทุกสี ผู้คนทุกกลุ่ม” ฉันหมายถึงเรื่องที่ลึกซึ้งยิ่งกว่านั้นมาก ฉันคิดว่าจริงๆ แล้วการที่เราพยายามหลอมรวมทุกสิ่งให้เป็นสีง่ายๆ สีเดียวเป็นเพียงแค่ความพยายามผิวเผินเท่านั้น ทั้งที่จริงๆ แล้วเราทุกคนแตกต่างกันมากทั้งในแง่ของพันธุกรรมและที่เหนือกว่านั้น เรียกได้ว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิง และฉันคิดว่า Chromatic นี่ล่ะคือมุมมองสำหรับเรื่องนี้ นั่นคือมุมมองของฉัน ฉันไม่รู้นะว่าเคยทำอัลบั้มที่ไม่เป็น Chromatica หรือเปล่า เพราะฉันก็ใส่มุมมองของตัวเองเข้าไปในการทำเพลงทุกครั้ง นี่ก็เป็นแค่วิธีหนึ่งในการแสดงออกทั้งแบบตรงตามตัวอักษรและแบบตีความ การทำเพลงและนำออกสู่โลกคือมุมมองที่ฉันมีต่อชีวิต และก็เป็นของขวัญที่ฉันอยากมอบให้โลกใบนี้ด้วยวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และฉันคิดว่าทุกคนก็ทำสิ่งที่ดีที่สุดในทุกวัน และนี่คือมุมมองของฉัน ซึ่งก็เป็นแบบนี้มาตลอด แค่ตอนนี้ฉันเพิ่งรู้ตัวเท่านั้นเอง ฟังดูมีเหตุผลไหมล่ะ”
Embed –