iPhone 11 คือ iPhone รุ่นราคาประหยัดที่เปิดตัวมาในปี 2019 และได้รับความนิยมมาอย่างยาวนานในฐานะ iPhone ตัวตุ้ม อีกทั้ง Apple ก็ยังขายบน Apple Store มาอย่างยาวนานจนกระทั่ง iPhone 14 Series ออก ถึงได้ทำการถอดออกจาก Apple Store ไป แถมตอนนี้การหามือ 1 ก็เป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากแล้ว แต่สำหรับมือสองแล้วถือเป็นราคาที่ค่อนข่างน่าสนใจทีเดียว ด้วยเรทราคาหมื่นต้นๆ เรียกได้ว่าเป็นเรทราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้นเยอะ วันนี้เราก็เลยจะมาวิเคราะห์กันเบาๆ ว่าในปัจจุบันนี้ ปี 2023 นี้ iPhone 11 ยังน่าซื้ออยู่ไหม แต่ก่อนจะไปเข้าบทวิเคราะห์กัน เรามาย้อนดูสเปคกันสักหน่อยก่อนดีกว่า
สเปคของ iPhone 11
iPhone 11 นั้นเป็น iPhone ตัวเริ่มต้นที่ออกมาเพื่อคนที่ต้องการ iPhone ในราคาไม่แพงมากนัก เน้นใช้งานทั่วไปเป็นหลัก ทำให้สเปคต่างๆ ไม่ได้ดูโดดเด่นมากนัก แต่ทั้งคุณภาพปละประสิทธืภาพก็สมกับราคาที่ขาย โดยสเปคต่างๆ จะมีดังนี้
- หน้าจอ : Liquid Retina HD (IPS-LCD), ขนาด 6.1 นิ้ว, ความละเอียด 1792 x 828 พิกเซล, Refresh Rate 60Hz, รองรับการแสดงผลแบบ True Tone, ขอบเขตสีกว้าง DCI-P3, ความสว่างสูงสุด 625 นิต, เคลือบสารกันรอยนิ้วมือ
- ชิปประมวลผล : Apple A13 Bionic
- แรม : 4GB
- ความจุ : 64GB / 128GB / 256GB
- กล้องหลัง :
- ตัวที่ 1 : 12MP, f/1.8, OIS (wide)
- ตัวที่ 2 : 12MP, f/2.4, 120°, OIS (ultrawide)
- กล้องหน้า : 12MP, f/2.2 (wide)
- แบตเตอรี่ : 3,110 mAh + 18W PD, 7.5W Qi Wireless Charging
- ขนาด : 150.9 × 75.7 × 8.3 มม.
- น้ำหนัก : 194 กรัม
- สี : ดำ, เขียว, เหลือง, ม่วง, (PRODUCT)RED™, ขาว
- วัสดุ : กระจก, อะลูมิเนียม
- มาตราฐานกันน้ำ-กันฝุ่น : IP68
iPhone 11 ยังน่าซื้อไหมในปี 2023
ยังน่าซื้อไหมน่าจะเป็นหนึ่งในคำถามของผู้ที่กำลังจะเลือกซื้อ iPhone ราคาประหยัดต้องคิดกันบ้าง เพราะตอนนี้ไทยเราก็เข้าสู่งยุค 5G ที่เหล่าผู้ให้บริการต่างก็ออกโปร 5G มาให้ใช้กันหมดแล้ว ทำให้ในปัจจุบันนี้หลายๆ คนเริ่มหันไปมองหามือถือที่รองรับ 5G กันหมด แต่ถึงอย่างนั้น 4G ก็ยังไมไ่ด้หายไปไหน และยังมีผู้ใช้ 4G อยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้มือถือ 4G ยังคงได้รับความนิยมอยู่ และ iPhone รุ่น 4G เองก็เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ค่อนข้างน่าสนใจ เนื่องจากถึงแม้จะเป็นเครื่องรุ่นเก่า แต่สเปคที่มีนั้นก็มากพอที่จะเอามาใช้งานต่อไปได้อีกหลายปี และ iPhone 11 ก็คือหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจ เนื่องจากราคามือสองตอนนี้ลงมาเหลือมื่นต้นๆ ซึ่งจากที่ไปลองหาดูจะอยู่ที่ราวๆ 12,000 บาท – 14,000 บาท นับว่าเป็นเรทราคาที่ค่อนข้างน่าสนใจเล้กน้อย เพราะถึงจะมีอายุหลายปีแล้วแต่ก็ยังได้รับการอัปเดต iOS อีกหลายปีแน่นอน ทำให้ในเรื่องของความคุ้มค่านั้นยังมีอยู่ แล้วทีนี้ถ้าถามว่ามันน่าซื้อไหม เราต้องต้องมาวิเคราะห์กันไปที่ละจุด
หน้าจอ
ในส่วนของหน้าจอแสดงผลนั้นสำหรับมือถือในเรทราคาหมื่นต้นๆ แล้ว การที่เป็นหน้าจอ IPS นั้นนับว่าดูด้อยมากเมื่อเทียบกับทางฝั่ง Android แต่ทว่าในความเป็นจริงนั้นสีสันที่หน้าจอแสดงออกมาก็มีความสวยงามในระดับที่ไม่ได้หนีกันเท่าไร แต่ด้วยการที่เป็นหน้าจอ IPS ทำให้หน้าจอเสียได้ยากกว่า และยังมีราคาที่ถูกกว่าด้วยเมื่อเทียบกับจอ OLED นอกจากนี้ตัวหน้าจอยังเป็นจอแบบ 60Hz ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ทางฝั่ง Android เขาไป 90Hz หรือ 120Hz กันแล้ว ทำให้อาจจะดูเหมือนด้อยกว่าแต่ทว่า iPhone 14 และ iPhone 14 Plus ที่เป็นรุ่นล่าสุดเองก็ยังเป็นจอแบบ 60Hz เพราะฉะนั้นก็มองข้ามเรื่องนี้ไปได้เลย (ถ้าใส่ใจเรื่องนี้คงต้องซื้อรุ่น 12 Pro ขึ้นไปอย่างเดียว) ทำให้เมื่อเทียบข้อดีกับข้อเสียแล้วก็ถือว่าถัวเฉลี่ยกันไป แต่สำหรับคนที่คิดจะซื้อมือสองอาจจะต้องสำรวจเรื่องหน้าจอให้ถี่ถ้วนหน่อย เพราะเป็นหนึ่งในจุดที่มักจะมีปัญหาเวลาเอาไปซ่อมร้านนอกโดยเฉพาะเรื่อง True Tone และการสแกนหน้าที่มักจะพกเป็นตำหนิบ่อยๆ เวลาเจอคนขาย iPhone ราคาถูกกว่าปกติ
ชิปประมวลผล
ในเรื่องของชิปประมวลผลนั้นชิป Apple A13 Bionic นั้นเป็นชิประดับเรือธงของ Apple เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ซึ่งในเรื่องของความแรงนั้นถือว่าเป็นที่สุดในสมัยนั้นเลยทีเดียว และถึงจะผ่านมา 4 ปีแล้ว ความแรงก็ยังถือว่าเพียงพอต่อการใช้แอปฯ ต่างๆ และการเล่นเกมต่างๆ เนื่องจากตัวชิปประมวลผลนั้นแรงเกินกว่าที่ตัวแอปฯ หรือเกมต้องใช้ไปแล้ว ทำให้สามารถใช้เล่นเกมได้ลื่นๆ ทุกเกม เพียงแต่ถ้าเป็นเกมที่กินทรัพยากรหนักๆ อาจจะทำให้มีการกระตุกได้เช่นกัน โดยเฉพาะเกมที่กินสเปคหนักอย่าง Genshin Impact หรือ APEX Legend เป็นต้น แต่ถ้าพูดถึงการเอามาใช้และเล่นเกมในชีวิตประจำวันแล้วนับว่า A13 Bionic ยังมีความแรงเพียงพอกับการใช้งานในปัจจุบันอยู่ จุดที่อาจเรียกได้ว่าด้อยกว่ามือถือในปัจจุบันส่วนใหญ่ก็คือชิป A13 Bionic นั้นเป็นชิปรุ่นสุดท้ายของ Apple ที่ไม่รองรับ 5G นั้นเอง ทำให้ความเร็วในการเชื่อมต่อต่างๆ อาจจะด้องกว่า iPhone รุ่นใหม่ๆ หรือมือถือ Android ในปัจจุบัน แต่เอาเข้าจริงในความเห็นของผู้เขียนแล้วการรองรับ 5G ก็ไม่ได้มีความจำเป็นอะไรมากนัก โดยเฉพาะฝั่ง iPhone ที่พอเปิด 5G แล้วแบตเตอรี่จะไหลเร็วมากจนสุดท้ายก็ต้องกลับมาเปิด 4G อยู่ดี แถมตอนนี้โปรเน็ตไม่จำกัดก็ได้รับความนิยมที่ค่อนข้างสูงเลย เนื่องจากสามารถใช้เน็ตไปเท่าไรก็ได้โดยที่ความเร็วไม่ลด แต่ความเร็วก็จะโดนจำกันอยู่ที่ 10Mbps, 20Mbps หรือ 30Mbps ซึ่งเป็นความเร็วระดับ 4G เท่านั้น ทำให้ไม่มีความจำเป็นอะไรมากนักที่ต้องไปเพิ่มเงินซื้อเครื่อง 5G มาใช้
กล้องถ่ายภาพ
ในเรื่องของการถ่ายภาพนั้นมาพร้อมกล้องหลักและกล้อง Ultra-Wide ความละเีอยด 12MP เท่ากันทั้งคู่ ซึ่งถ้าพูดถึงในการใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็นการถ่ายเล่น, ถ่ายอาหาร, ถ่ายคน หรือถ่ายวิวก็ยังทำออกมาได้ดี รวมถึงการถ่ายวิดีโอด้วย ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้เอามาถ่ายเล่นๆ แต่เอามาถ่ายเพื่อทำเงินไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพ / ถ่ายวิดีโอเพื่อขาย หรือถ่ายเพื่อเอามาทำคอนเทนต์ต่างๆ ลงโซเชียลนั้น ก็นับว่ายังเป็นอะไรที่ใช้ได้ดีอยู่ (คอนเทนต์ครีเอเตอร์บางคนใช้ iPhone รุ่นเก่ากว่านี้ทำคลิปออกมาก็ยังมีเลย) ดังนั้นถ้าพูดถึงเรื่องกล้องแล้วก็ยังเอามาใช้งานต่อได้ยาวๆ เพียงแต่จุดด้อยของ iPhone 11 ในเรื่องของกล้องจะมีอยู่ 1 จุดก็คือการถ่ายภาพในที่แสงน้อย ซึ่งตรงนี้ iPhone รุ่นหลังก็แก้ปัญหานี้ไปแล้ว ถ้าไม่ได้ใช้ถ่ายตอนกลางคืนบ่อยๆ ก็ไม่ต้องไปสนใจมากนักก็ได้
สรุป iPhone 11 ยังน่าซื้ออยู่ไหม
หากถามว่า iPhone 11 ยังน่าซื้ออยู่ไหม ถึงแม้จะเป็นมือสอง ทางผู้เขียนก็มองว่ามันยังน่าซื้ออยู่ ถึงจะไม่ใช่ที่สุดก็ตาม ซึ่งสาเหตุก็มาจากราคา iPhone XS Max ที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกันสุดๆ แต่ได้วัสดุตัวเครื่องที่พรีเมี่ยมกว่านั่นเอง แต่ก็จ้องแลกมาด้วยชิปประมวลผลที่เก่ากว่า และไม่มีกล้อง Ultra-Wide มาให้ด้วย มีแต่กล้อง Telephoto ซึ่งถ้าถามว่าอันไหนได้ใช้งานบ่อยกว่ากันก็ต้องบอกเลยว่าจากประสบการณ์แล้วกล้อง Ultra-Wide ได้ใช้บ่อยกว่าเยอะ ทำให้เพื่อนๆ ต้องเลือกเอาว่าจะเอาวัสดุพรีเมี่ยม, จอ OLED หรือจะเอากล้อง Ultra-Wide แต่ได้จอ IPS และวัสดุที่ด้อยกว่า
ซึ่งโดยส่วนตัวผู้เขียนมองว่าถ้าสามารถหาล๊อตหลังๆ สภาพดีๆ หรือยังมีประกันอยู่ได้ก็จะน่าซื้อกว่า แต่ถ้าเป็นคนที่มองของเป็น รู้วิธีตรวจสภาพเครื่อง iPhone XS Max ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ไม่เลว สุดท้ายนี้ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนๆ ชื่นชอบแบบไหนมากกว่า และมีกำลังทรัพย?พอจะซื้อเครื่องไหนได้
สำหรับคนที่อยากรู้ว่าสเปคเป็นอย่างไรสามารถเข้าไปดูได้ที่ Specphone และถ้าอยากดูรีวิวเครื่องสามารถดูได้ที่ Review หรือจะลองไปฟังคลิปวิเคราะห์ของปี 2022 ดูกได้นะที่ ในปี 2022 กับราคาที่หาได้หมื่นกลางๆ ยังน่าใช้อยู่ไหม? ระยะยาวจะเป็นยังไง?