Apple ได้ทำการเปิดตัว iOS 11 อย่างเป็นทางการแล้วในงาน WWDC 2017 ที่ผ่านมานี้ มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Control Center แบบใหม่ และหน้าแรกของ App Store ที่มีการเปลี่ยนหน้าตาใหม่ให้มีความเหมือน Apple Music มากขึ้น แต่ยังไม่หมดยังมีอีกหลายฟีเจอร์รออยู่เพียบ ว่าแล้วไปชมกันเลย
ฟีเจอร์ใหม่บน iMessage
ฟีเจอร์ใหม่บน i Message จะมีการใช้ระบบ Cloud เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือสามารถ Sync ข้อความของเราให้กับเครื่องอื่น ๆ ที่ใช้บัญชี i Cloud เดียวกันได้ และระบบโอนเงินผ่าน i Message
อัพเกรด Siri ให้ดียิ่งขึ้น
มีการปรับปรุงหน้าตา และเสียงพูด Siri ใหม่ เสียงจะมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น Siri จะนำระบบ Deep Learning เข้ามาใช้ด้วย ทำให้เรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้ได้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่เรียกว่าเป็นทีเด็ด คือ Siri สามารถแปลภาษาได้แล้ว โดยในตอนแรกจะรองรับแค่ 6 ภาษา (ภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน, ภาษาฝรั่งเศส, ภาษาเยอรมัน, ภาษาอิตาลี และภาษาสเปน )
ยกเครื่อง Software กล้องใหม่
Video Format ใหม่เปลี่ยนจาก H.264 ไปเป็น HEVC ช่วยให้ไฟล์วีดีโอมีขนาดเล็กลง เช่นเดียวกับรูปภาพที่เดิมจะใช้ Format แบบ JPEG ส่วนของใหม่จะใช้ HEIF(high-efficiency image format) ทำให้ขนาดรูปภาพเล็กลง และเพิ่มประสิทธิภาพโหมด HDR และ low-light ให้ดีขึ้น
ลูกเล่นใหม่ใน Photo
เพิ่มการตัดต่อรูปภาพ Live Photo และการใส่ลูกเล่นใน Live Photo ทำให้รูปที่ได้มีความแปลกตา
Control Center หน้าตาใหม่
มีการปรับปรุงหน้าตาของ control center ใหม่ ทุกอย่างอยู่ในหน้าเดียว รองรับ 3D Touch โดยเมื่อกดแล้วจะเป็นการแสดงเมนูการตั้งค่าเพิ่ม ยอมรับเลยว่าหน้าตาเมนูบางส่วนดูคล้ายเมนูใน Apple Watch มากครับ
ฟีเจอร์ใหม่ Do Not Disturb While Driving
หรือฟีเจอร์การเตือนการใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ โดยจะบล็อคการแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น และหากใครที่ส่งข้อความมาหาตัวระบบจะตอบกลับโดยอัตโนมัติว่าให้ติดต่อมาในภายหลัง แน่นอนว่าฟีเจอร์นี้จะทำงานอัตโนมัติ โดยจะคาดเดาจากพฤติกรรมเรา
แอปพลิเคชัน Maps รองรับแผนที่ภายในอาคาร
แอปพลิเคชัน Maps จะมีการใส่ข้อมูลร้านอาหาร ร้านค้า และอีกมากมายลงในห้างสรรพสินค้าตามหัวเมืองใหญ่ทั่วโลก และข้อมูล ร้านอาหาร ร้านค้า และอีกมากมายในสนามบินทั่วโลกอีกด้วย
AirPlay 2
เรียกได้ว่าหลังงจากเปิดตัว HomePod ออกมาก็ต้องมีการพัฒนา Software เพื่อใช้กับมันด้วย AirPlay 2 หรือระบบที่จะทำให้ iPhone ของคุณควบคุมการทำงานของลำโพงหลายตัวได้ โดยอุปกรณ์ทั้งหมดต้องเชื่อมต่อ WiFi หลักการทำงานก็จะคล้ายกับแอปพลิเคชัน Remote ที่ใช้ iPhone ควบคุมการเล่นเพลงของ i Tunes บน PC เราได้
App Store หน้าตาใหม่
Apple ได้มีการปรับปรุงหน้าตาของ App Store ใหม่ โดยจะมีความคล้ายกับ Apple Music โดยจะเพิ่มในส่วนของภาพนิ่ง และวิดีโอ ในหน้าพรีวิวด้วย ,แยกหน้าของ App และเกมออกจากกัน และเพิ่มคอลัมน์ที่หน้าแรกในส่วนของ “Game of the day” และ “App of the day”
แอปพลิเคชันใหม่ Files
แอปพลิเคชันใหม่ Files หรือ แอปพลิเคชันที่จะทำให้คุณเข้าถึง และจัดการไฟล์ที่อยู่ในเครื่องได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อ Cloud ต่าง ๆ เช่น Google Drive, Dropbox ด้วย
ฟีเจอร์อื่น ๆ ใน iOS 11 สำหรับ iPad
- Drag and Drop รองรับการคัดลอกข้อมูลจากแอปพลิเคชันนึงไปยังอีกแอปพลิเคชันนึง
- Instant Note รองรับการจดโน๊ตด่วน และบันทึกโน๊ตบนหน้าจอด้วย Apple Pencil
- ปรับหน้าตา dock ใหม่ใน iPad
วันที่เปิดให้อัพเดท และรุ่นที่ได้ไปต่อ
Apple จะปล่อยอัพเดท iOS 11 ในช่วง เดือนกันยายนนี้คาดเปิดให้อัพเดตหลังการเปิดตัว iPhone ใหม่ ส่วนรุ่นที่ได้ไปต่อจะเป็นรุ่น iPhone 5s ขึ้นไป ลาก่อน iPhone 5 และ iPhone 5c ส่วน iOS 11 Beta สำหรับนักพัฒนานั้นจะเปิดให้ใช้ได้ทันทีหลังจบงาน
ที่มา phonearena