Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Editorial»[Special] กว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน HUAWEI ต้องผ่านอะไรมาบ้าง พาชมโรงงานตั้งแต่การพัฒนา ไปจนถึงการผลิต!!
    Editorial

    [Special] กว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน HUAWEI ต้องผ่านอะไรมาบ้าง พาชมโรงงานตั้งแต่การพัฒนา ไปจนถึงการผลิต!!

    Jamikorn SingnamthiengBy Jamikorn Singnamthieng16 กรกฎาคม 2018
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    HUAWEI ถือเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยเทคโนโลยี, นวัตกรรม รวมถึงความคุ้มค่า พูดกันตรง ๆ คือ HUAWEI ไม่ใช่แบรนด์ใหญ่ที่ขายของแพง แต่ประเด็นคือด้วยความที่ไม่ได้ขายของแพง อย่างรุ่นเรือธงที่เปิดราคามาไม่ถึง 30,000 บาท ในขณะที่คู่แข่งอัดราคากันไปถึง 40,000 บาทก็มีให้เห็นในตลาด Premium Smartphone แถมยังเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์จีนอีก แบบนี้เรื่องมาตรฐานของสินค้าจะเป็นอย่างไร มือถือ HUAWEI จะไว้ใจได้ไหมในเรื่องของคุณภาพ?

    บทความนี้ผมจะเล่าเรื่องสายงานการผลิตสมาร์ทโฟน HUAWEI จากที่ได้รับเชิญให้ไปเยี่ยมชมทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาสมาร์ทโฟน HUAWEI ที่กรุงปักกิ่ง และสายการผลิตสมาร์ทโฟน HUAWEI ที่สำนักงานใหญ่ HUAWEI ณ กรุงเซิ่นเจิ้น ประเทศจีน ได้ไปเห็นขั้นตอนการผลิต HUAWEI P20 แบบใกล้ชิด เห็นถึงกระบวนการผลิต, การทดสอบคุณภาพของสินค้าก่อนที่จะส่งถึงมือลูกค้าอย่างเรา ๆ

    อ่านเพิ่มเติม: Who is HUAWEI? (CBG) หัวเว่ยคือใคร แล้วเจ๋งพอที่จะขึ้นเป็นเบอร์ 1 ของโลกได้หรือไม่?

    ก่อนที่จะไปชมขั้นตอนการผลิตสมาร์ทโฟน HUAWEI ที่โรงงานเซิ่นเจิ้น ผมจะพาไปชมกระบวนการทดสอบและพัฒนาสมาร์ทโฟน HUAWEI ที่กรุงปักกิ่งก่อน เพราะข้อมูลส่วนนี้ก็ถือเป็นข้อมูลที่น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะส่วนตัวผมเอง หลังจากได้เยี่ยมชมขั้นตอนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ ก่อนที่จะเปิดสายการผลิตจริง ทำให้พอจะเข้าใจเลยว่า ทำไมสมาร์ทโฟน HUAWEI ถึงได้ Strong ในเรื่องของภาครับสัญญาณเป็นอย่างมาก ใส่ซิมอะไรก็จับคลื่นได้อย่างดีไม่มีปัญหา สมกับที่เป็นแบรนด์ Network ระดับต้น ๆ ของโลกมาก่อน

    สถาบันวิจัย HUAWEI ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน

    สถาบันวิจัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2016 ห้องวิจัยดังกล่าวตั้งอยู่ในอาคาร Q6 และ Q7 ครอบคลุมพื้นที่กว่า 12,000 ตารางเมตร มีห้องแล็ปทั้งหมด 23 ห้อง ใน 9 ประเภทการวิจัย อีกทั้งติดตั้งอุปกรณ์ไฮเทคระดับมืออาชีพมากกว่า 7,000 ชิ้น ทำให้สามารถทดสอบสมาร์ทโฟนได้ 5,000 เครื่องพร้อมกัน หรือเทียบเท่ากับ 40 ล้านเครื่องต่อเดือน นี่คือสิ่งที่ HUAWEI บรีฟให้ผม กับนักข่าวให้ทราบถึงข้อมูลคร่าว ๆ ก่อนที่จะไปเยี่ยมชมจริง

    แต่พอไปถึงศูนย์วิจัยจริง ๆ ต้องบอกเลยว่า เป็นศูนย์วิจัยที่ (โคตร) ใหญ่มาก ๆ เลยครับ สำคัญคือใช้เครื่องจักรในการทดสอบเป็นส่วนใหญ่ ในห้องแล็ปจะใช้คนงานน้อยมาก โดย HUAWEI ให้เหตุผลว่าในการทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์ การใช้เครื่องจักรจะสามารถควบคุมตัวแปร และทดสอบได้แม่นยำมากกว่า อย่างการทดสอบการตกกระแทก จะได้มุม องศา แรงเหวี่ยง หรือแรงกดทับที่เท่ากันในทุกการทดสอบ เป็นต้น

    ศูนย์วิจัยของ HUAWEI ที่ผมได้ไปเยี่ยมชม จะแบ่งออกเป็น 5 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่

     

    1. Automated End Device Test Center

    ห้องวิจัยนี้มีเครื่องทดสอบอัตโนมัติถึง 800 เครื่องสำหรับการทดสอบสมาร์ทโฟน 5,000 เครื่องได้ในเวลาเดียวกัน ห้องวิจัยแห่งนี้เป็นห้องวิจัยที่สนับสนุนการทำงานของแผนกต่าง ๆ ทั้งการวิจัยและพัฒนาซอฟต์แวร์ การทดสอบผลิตภัณฑ์ และฝ่ายบำรุงรักษาระบบปฏิบัติงานต่าง ๆ ช่วยให้ทุกฝ่ายทำงานโดยมีเป้าหมายเดียวกันคือ ‘การพัฒนาซอฟต์แวร์’ ที่ไร้ข้อผิดพลาดให้เร็วที่สุด

    ระบบอัตโนมัติในห้องวิจัยนี้ทำงานได้เร็วเทียบเท่ากับการทำงานของพนักงาน 10,000 คน ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันซี่งเป็นห้องวิจัยระดับชั้นนำของอุตสาหกรรม สามารถทำการวิจัยได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับห้องวิจัยของกูเกิล

     

    1. The Communication Protocol Test Lab

    ห้องวิจัยนี้สามารถรองรับมาตรฐานการสื่อสารและคลื่นวิทยุทุกประเภทเพื่อจำลองสภาพเครือข่ายให้หลากหลายมากที่สุด โดยสามารถจำลองเครือข่ายของ 14 ประเทศ 36 เมือง และสถานที่กว่า 100 สถานที่ (เช่น ภูเขา สำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และซูเปอร์มาร์เก็ต) โดยสามารถจำลองสัญญาณได้มากถึง 50 สัญญาณในเครือข่ายรูปแบบต่าง ๆ ถือเป็นระดับสูงสุดของอุตสาหกรรม

    ห้องวิจัยนี้สามารถจำลองมาตรฐานการสื่อสารและคลื่นความถี่ได้ทุกประเภทเพื่อจำลองสภาพเครือข่ายให้ได้หลากหลายรูปแบบมากที่สุด โดยรองรับมากกว่า 1,000 แบบ จากเครือข่ายผู้ให้บริการขนาดใหญ่ได้กว่า 20 ราย ห้องวิจัยนี้สามารถจำลองสภาพการสื่อสารที่หลากหลายทั้งการใช้เสียง การใช้ข้อมูล การค้นหาอินเทอร์เน็ต รวมไปถึง VoWifi, VoLTE, CA และ MIMOนอกจากนี้ ห้องวิจัยนี้ยังเป็นห้องวิจัยเดียวที่ระบบ Wi-Fi มีการผสานการทำงานของทั้ง CDMA และ GUTL เข้าด้วยกัน

    ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ HUAWEI ที่ได้ใช้ประโยชน์จากห้องทดสอบนี้เต็ม ๆ ก็คือสมาร์ทโฟนเรือธง Mate Series เลยครับ ที่ในงานเปิดตัวมีการเคลมเลยว่ารับได้แทบจะทุกเครือข่ายในโลก ไม่ได้โมเมว่าแค่ตัวรับสัญญาณครอบคลุม แต่มันผ่านการทดสอบมาแล้วว่า ใช้งานได้ทุกเครือข่ายแบบเต็มประสิทธิภาพจริง ๆ

     

    1. Reliability Lab

    เป็นห้องวิจัยที่ทดสอบความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ด้วยการจำลองสถานการณ์การใช้งานต่าง ๆ เพื่อปรับปรุงความทนทานของสมาร์ทโฟนหัวเว่ย ห้องวิจัยนี้สามารถทดสอบระดับความล้าของสมาร์ทโฟน ความคงทนของสมาร์ทโฟน แรงกระทำเชิงกลต่อสมาร์ทโฟน ระดับความทนทานของส่วนประกอบต่าง ๆ ในสมาร์ทโฟน ความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือน ความทนทานต่ออุณหภูมิที่ร้อนจัด รวมทั้งการกระจายความร้อน

    ห้องวิจัยความคงทนของผลิตภัณฑ์สามารถทดสอบผลิตภัณฑ์โดยการจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เทียบเท่าการใช้งานสมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวันเป็นเวลานานกว่า 1 ปี ซึ่งขั้นตอนการทดสอบต่าง ๆ จะทำในขั้นต่ำเป็นหลักล้านครั้ง ได้แก่

    การทดสอบการตก

    เป็นการจำลองการตกหล่นของสมาร์ทโฟนในระดับความสูงและสถานการณ์ต่าง ๆ ในห้องทดสอบจะมีเครื่องจักรหลากหลายแบบ ทั้งแบบทิ้งให้ตกลงแบบดื้อ ๆ หรือการตกแล้วตกอีกในเครื่องทดสอบที่เหมือนเครื่องซักผ้า สมาร์ทโฟนตัวทดสอบจะถูกเหวี่ยงในถังไปเรื่อย ๆ

    ทดสอบความทนทานต่อความชื้น, ฝุ่นละออง

    ระดับความทนทานต่อความชื้นของสมาร์ทโฟนหัวเว่ยอยู่ในระดับ IPX2 คือทนทานต่อละอองฝน ละอองน้ำจากการสาดหรือหกใส่ หรือของเหลวในลักษณะเทียบเท่า ส่วนระดับความทนทานต่อทรายและฝุ่นนั้นจะอยู่ที่ระดับ 5 หรือ 6 คือป้องกันอุปกรณ์จากฝุ่นที่เกาะตัวหรือฝุ่นทรายที่อาจจะปลิวมากระทบสมาร์ทโฟน

    เอาเป็นว่ามาตรฐานเบื้องต้นของสมาร์ทโฟน HUAWEI คือ IP52 หรือ IP62 นั่นเอง แต่ในรุ่นท็อปอย่าง HUAWEI Mate 10 Pro ที่กันน้ำ ก็จะเป็นมาตรฐาน IP67 โน่นเลยครับ

    ทดสอบความทนทานต่อแรงสะเทือน

    หัวเว่ยยังทดสอบความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนได้ในห้องวิจัยนี้ ซึ่งครอบคลุมถึงการสั่นสะเทือนระดับต่ำในชีวิตประจำวัน ทั้งการใช้งานในยานพาหนะที่กำลังเคลื่อนที่ เช่น รถยนต์หรือจักรยาน รวมถึงแรงสั่นสะเทือนระหว่างการขนส่งทั้งทางบก ทางน้ำ และทางอากาศ

    นอกจากนี้ ห้องวิจัยนี้ยังสามารถทำการทดสอบการใช้สมาร์ทโฟนนำทางบนยานพาหนะหรือสถานที่ที่มีการสั่นไหวรุนแรงเป็นเวลาขั้นต่ำ 3 ชั่วโมงด้วย

    ทดสอบความทนทานในอุณหภูมิต่าง ๆ

    รวมไปถึงจำลองสภาพแวดล้อมที่ระดับน้ำทะเลหรือริมชายหาดเพื่อศึกษาการใช้งาน (เรื่องเกลือ) อีกทั้งยังจำลองอุณหภูมิสูง – ต่ำ หรือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างเฉียบพลัน (ทดสอบมากกว่า 240 ชั่วโมง) รวมทั้งสภาพเปียกหรือชื้น ซึ่งการทดสอบต่าง ๆ เป็นไปตามมาตรฐานต่างของทวีปยุโรป อเมริกาเหนือ และประเทศอื่น ๆ โดยส่วนใหญ่

     

    1. Antenna Test Lab

    ห้องวิจัยนี้สามารถทำการศึกษาหรือทดลองเพื่อปรับปรุงคุณภาพของการสื่อสารทางโทรศัพท์ การเชื่อมต่อข้อมูลที่รวดเร็วและการใช้ GPS ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมให้แก่ผู้ใช้โดยห้องวิจัยเสาสัญญาณนี้ ประกอบด้วย ห้องทดสอบที่ไร้การสะท้อนของคลื่นไมโครเวฟ (microwave anechoic chamber), ห้องทดสอบการสะท้อนกลับของคลื่น (reverberation chamber), และห้องทดสอบที่มีความแม่นยำสูงสุด

     

    1. Audio Lab

    ห้องวิจัยด้านเสียงของหัวเว่ยมีอุปกรณ์สำหรับพัฒนาอุปกรณ์ด้านเสียง วิจัยอัลกอริธึ่ม และตรวจสอบประสิทธิภาพของอุปกรณ์เสียงกว่า 200 ชิ้น ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับฟังเสียงที่ดีที่สุดจากสมาร์ทโฟนโดยห้องวิจัยด้านเสียงของหัวเว่ยเป็นห้องวิจัยด้านเสียงแห่งเดียวในประเทศจีนที่สามารถทำการทดสอบต่าง ๆ ตามเกณฑ์ของกลุ่ม 3GPP, Vodafone และมาตรฐานสากลอื่น ๆ

    ห้องวิจัยนี้ช่วยให้หัวเว่ยสามารถทดสอบอุปกรณ์ก่อนวางจำหน่ายร่วมกับผู้ให้บริการชั้นนำอย่าง AT&T, Vodafone, Verizon และอื่น ๆ ได้ จัดเป็นห้องวิจัยในประเทศจีนแรกที่ผ่านเกณฑ์การลดเสียงรบกวน 3PASS noise reduction test system อันเป็นมาตรฐานล่าสุดของสถาบันมาตรฐานโทรคมนาคมแห่งยุโรป (ETSI) เนื่องจากยังไม่มีห้องวิจัยอื่นใดที่ได้รับการรับรองนี้เพิ่มเติมในปัจจุบัน จึงอาจกล่าวได้ว่าห้องวิจัยด้านเสียงของหัวเว่ยเป็นห้องวิจัยที่มีระบบทดสอบการลดเสียงเสียงรบกวนที่ดีที่สุดในปัจจุบัน

    สภาพของห้องวิจัยด้านเสียงนี่เป็นอะไรที่อะเมซิ่งสำหรับผมมากครับ เพราะตัวห้องจะเป็นห้องเก็บเสียงในห้องเก็บเสียงอีกที เริ่มจากห้องแล็ปที่อยู่ใต้ดิน ใช้วัสดุซับเสียงทั้งห้อง แล้วในห้องทดสอบ หากดูจากภาพที่เป็นห้องหนาม ๆ อันนั้นจะทำให้ไม่สามารถมีเสียงรบกวนเล็ดลอดเข้าไปในห้องได้ ทำให้ผลการทดสอบมีความแม่นยำเป็นอย่างมาก ส่วนการทดสอบก็จะใช้โมเดลที่เหมือนหัวมนุษย์ แล้วก็แนบโทรศัพท์ HUAWEI เข้าไปในลักษณะของการใช้งานจริง

    นอกจากนี้ผมยังได้ความรู้จากวิศวกรของ HUAWEI เกี่ยวกับการใช้งานสมาร์ทโฟนเพิ่มเติมในเรื่องของเสาสัญญาณ ในสมาร์ทโฟนที่บอดี้เป็นโลหะ จะต้องมีเสาสัญญาณแยกต่างหาก ฉะนั้นในการใช้งาน พยายามเลี่ยงการสัมผัสกับเสาอากาศโดยตรง เพราะจะทำให้ภาครับสัญญาณอ่อนลง รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้เคสโทรศัพท์ที่เป็นโลหะด้วย ถ้าสังเกตดี ๆ เคสโทรศัพท์ที่เป็นรุ่น Official ของ HUAWEI จะไม่ใช้วัสดุที่เป็นโลหะเลยครับ

     

    สายการผลิตสมาร์ทโฟน HUAWEI ณ กรุงเซิ่นเจิ้น ประเทศจีน

    พอจะได้เห็นมาตรฐานของ HUAWEI ในการทดสอบ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ไปบ้างแล้ว ก็มาต่อที่สายการผลิตจริงสำหรับสมาร์ทโฟน HUAWEI โดยรุ่นที่ผมได้ไปเยี่ยมชมสายการผลิตเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง HUAWEI P20 ได้เห็นตั้งแต่อุปกรณ์ยังเป็นชิ้น ๆ จนกระทั่งเป็นเครื่อง และจับแพ็กใส่กล่องกันเลยทีเดียว

    ตามนี้ครับ ไปชมทั้งสายการผลิต เขาให้ถ่ายได้แค่รูปนี้แหละ T-T

    ความน่าเสียดายอย่างเดียวคือในสายการผลิต (รวมถึงห้องวิจัย) ทาง HUAWEI ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ หรือบันทึกวีดีโอได้นี่ล่ะครับ

    สายการผลิตสมาร์ทโฟนจะเริ่มที่ขั้นตอนการเตรียมวัสดุต่าง ๆ ให้พร้อม แล้วเริ่มที่การผลิตเมนบอร์ด ซึ่งเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดก่อน ในสายการผลิตจะเป็นเส้นตรง คือเริ่มจากต้น ไล่ไปเรื่อย ๆ จนถึงปลายสายการผลิต ซึ่งก็คือการแพ็กของใส่กล่อง ตัวเมนบอร์ดของสมาร์ทโฟน HUAWEI ในขั้นตอนการผลิตจะมี Barcode ไม่ซ้ำกัน แล้วพอเข้าสู่ขั้นตอนการประกอบ ก็จะทำการ Sync ตัวเมนบอร์ดเข้ากับ Serial Number ของสมาร์ทโฟนอีกที

    ในขั้นตอนการประกอบชิ้นส่วนเมนบอร์ด สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ถึงคุณภาพเลยคือมีการตรวจสอบอยู่ตลอด และมีทำการตรวจสอบซ้ำอีกครั้งก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการถัดไป (Double check) การตรวจสอบมาตรฐานจะใช้ทั้งเครื่องจักร และมนุษย์ร่วมกัน

    เมนบอร์ดของสมาร์ทโฟน HUAWEI จะมีการทำ Shielding Cover ทุกชิ้นส่วน เพื่อป้องกันการช้อต ส่วนสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับคุณสมบัติกันน้ำ ก็จะมีการเคลือบสารกันน้ำที่เมนบอร์ดเข้าไปอีกด้วย

    ในกระบวนการบางส่วนที่ต้องใช้ความร้อน เช่น การติดกาว ชิ้นส่วนก็จะถูกพักให้มีอุณหภูมิปกติ ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการถัดไป ไม่ใช่ว่ายิงกาวร้อน ๆ มาแล้วก็เอาไปประกอบกับตัวเครื่องเลยทันที แบบนี้ไม่ถูกต้องครับ

    หลังจากที่ได้เมนบอร์ดสมาร์ทโฟนแล้ว ก็จะเข้าสู่กระบวนการลำเลียงเมนบอร์ด ส่งต่อเพื่อประกอบเข้ากับตัวเครื่อง และชิ้นส่วนอื่น ๆ ในการลำเลียงชิ้นส่วนไม่ได้ใช้คนนะครับ HUAWEI ใช้หุ่นยนต์ในการส่ง เพื่อป้องกันความผิดพลาดระหว่างการส่งชิ้นส่วน ทั้งที่เป็นระยะทางสั้น ๆ ประมาณ 2 – 3 ก้าวเท่านั้น ยอมใจเลย = =a

    หุ่นยนต์จะขนของจะหน้าตาประมาณนี้

    พอประกอบเมนบอร์ดกับชิ้นส่วนต่าง ๆ จนพอเห็นเป็นตัวเครื่อง HUAWEI P20 แล้ว ตัวเครื่องก็จะถูกจับยัดเข้ากับกรอบที่เหมือนเคสกันกระแทกแบบ Bumper เพื่อป้องกันริ้วรอย และเข้าสู่กระบวนการ Double check ด้วยแรงงานมนุษย์ + เครื่องจักร คือตอนเป็นเมนบอร์ดก็ทดสอบมาแล้ว ยังทดสอบซ้ำตอนประกอบเสร็จในหลายขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น

    • การทดสอบเซ็นเซอร์ต่าง ๆ
    • ทดสอบพอร์ตเชื่อมต่อ, การชาร์จไฟ
    • ทดสอบความทนทาน 11 ชั่วโมง
    • จำนวนการทดสอบจะอยู่ที่ประมาณ 1,600 ครั้ง
    • มีการควบคุมอุณหภูมิในการทดสอบด้วยพัดลม
    • ทดสอบหน้าจอ
    • ทดสอบกล้อง
    • ทดสอบด้านเสียง จะเป็นห้องเก็บเสียง มีพนักงานนั่งอยู่ในห้อง เสียบหูฟังในการฟังเสียง รวมถึงทดสอบเสียงลำโพงว่าดังตามมาตรฐานหรือไม่
    • ทดสอบแบตเตอรี่
    • ทดสอบเรื่องการรับสัญญาณ

    สมาร์ทโฟนที่ผ่านมาตรฐานการทดสอบทั้งจากเครื่องจักร และการ recheck ด้วยมนุษย์ ก็จะเข้าสู่กระบวนการแต่งจตัว ก่อนที่จะถูกยัดลงกล่อง ได้แก่ การปั๊ม Logo รวมถึงรายละเอียด, ระบุ IMEI, แปะ Barcode และทำการซีลพลาสติก ขั้นตอนพวกนี้แทบจะใช้เครื่องจักรในการผลิตทั้งหมด

    ในสายการผลิตสมาร์ทโฟน HUAWEI ต่อ 1 สายการผลิตเนี่ย ใช้แรงงานมนุษย์ประมาณ 20 คนเท่านั้นเองครับ ส่วนที่เหลือคือเป็นเครื่องจักรทั้งหมด แม้แต่การขนเครื่องที่ผลิตเสร็จแล้วเข้าโกดังเพื่อเตรียมส่งสินค้าไปยังที่ต่าง ๆ ก็ยังใช้หุ่นยนต์ในการขนส่ง ส่วนปริมาณในการผลิตสมาร์ทโฟน เท่าที่ได้สอบถามกับทางพนักงานที่ดูแลสายการผลิต HUAWEI P20 มีอัตราการผลิตอยู่ที่ 28.5 วินาทีต่อเครื่อง คือทุก ๆ 28.5 วินาที จะมี HUAWEI P20 ที่พร้อมส่งถึงมือลูกค้า 1 เครื่องนั่นเอง

    ทั้งหมดนี้ก็คือภาพรวมของสายการผลิต รวมถึงกระบวนการวิจัยและพัฒนาสมาร์ทโฟน HUAWEI ที่ผมได้ไปเยี่ยมชมทั้งศูนย์วิจัย และสายการผลิตมาด้วยตาตัวเอง ยอมรับเลยว่า HUAWEI เป็นแบรนด์ที่จริงจังมากในด้านมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ทั้งการทดสอบที่คุมตัวแปรได้เป็นอย่างดี, การผลิตที่ดูแล้วโอกาสผิดพลาดแทบจะเป็นศูนย์ และกระบวนการควบคุมคุณภาพที่ตรวจสอบแล้วตรวจสอบอีก สมกับที่เป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนระดับโลกล่ะครับ

    Huawei Huawei P20 Huawei P20 Pro
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Jamikorn Singnamthieng

    Related Posts

    วิธีปิดไอจีชั่วคราวในโทรศัพท์ทำยังไงในปี 2025 ปิดโปรไฟล์ IG ชั่วคราวไม่ให้คนอื่นเห็นแบบง่ายๆ

    14 พฤษภาคม 2025

    รวมโทรศัพท์ติดโปรทรูล่าสุดปี 2568 ทุกรุ่นทุกยี่ห้อมีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง เมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจทรู

    14 พฤษภาคม 2025

    วิธียกเลิกบริการเสริม AIS ที่เสียเงิน ยกเลิกข้อความเสียเงินจาก AIS ทำยังไง อัพเดท 2568

    13 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    ลือ iPhone รุ่นครบรอบ 20 ปี ใช้จอไร้ขอบ และแบต solid-state

    15 พฤษภาคม 2025

    MediaTek เปิดตัวชิป Dimensity 9400e จับตลาดมือถือเรือธงรุ่นรอง

    15 พฤษภาคม 2025

    Universal Music Group ร่วมกับ Apple Music เปิดตัว Sound Therapy

    15 พฤษภาคม 2025

    Baseus พาเปิดประสบการณ์สุดพิเศษกับหูฟัง “Bowie MC1” เสียงแน่น เบาสบายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ในงาน “Sounds on the Cloud”

    15 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X