วิธีแก้ไลน์ไม่แจ้งเตือน 2022 ไลน์ไม่เด้งบนหน้าจอ ทั้งข้อความและโทรเข้าบน iOS, Android
ไลน์ไม่แจ้งเตือน หรือไลน์ไม่เด้งเตือน ไม่ว่าจะเป็นข้อความที่ส่งมา หรือว่าเวลาที่คนโทรเข้ามาแล้วไม่ขึ้นบนหน้าจอซะอย่างงั้น ซึ่งปัญหานั้นเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นตัวระบบของมือถือ ระบบของแอปฯ การตั้งค่าต่างๆ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาเหล่านี้ได้ทั้งนั้น ส่วนวิธีแก้ไขก็สามารถทำได้ง่ายๆ อยู่ที่ปัญหานั้นเกิดจากอะไร ลองแก้ไขกันดูตามที่เราเอามาแนะนำกันได้เลย
แอปฯ Line เป็นแอปฯ ที่มีคนนิยมใช้งานเป็นอย่างมากในประเทศไทย เนื่องจากเป็นแอปฯ ที่เอาไว้สื่อสาร ด้วยการแชท ส่งรูป และสิ่งที่ทำให้ Line ดูน่าใช้งานมากยิ่งขึ้น นั่นก็คือสติ๊กเกอร์ ที่มีรูปน่ารักๆ หรือรูปกวนๆ ที่ทาง Line ได้ทำออกมาขายเอง หรือว่าให้คนทั่วไปได้สร้างขึ้นมา เพื่อขายความครีเอทของตัวเอง รวมไปถึงธีมไลน์อีกมากมายที่น่าสนใจ (อ่านต่อ..วิธีเปลี่ยนธีมไลน์) นอกจากนี้ยังสามารถโทรหากันได้ฟรีๆ ใช้แค่เพียงอินเทอร์เน็ต ก็โทรหากันได้แล้ว แถมไลน์ยังพัฒนาจนถึงขั้นเปลี่ยนเสียงรอสาย และเสียงริงโทนได้ด้วย (อ่านต่อ…วิธีเปลี่ยนเสียงรอสายไลน์) แต่ของดีก็ย่อมมีปัญหาตามมาไม่แพ้กัน ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ของการใช้งาน Line ก็มักจะต้องเจอกับไลน์ไม่แจ้งเตือน หรือไลน์ไม่เด้งขึ้นมาบนหน้าจอ ทั้งข้อความและการโทรเข้า บนระบบ Android ในหลายๆ ยี่ห้อทั้ง OPPO, Samsung ฯลฯ รวมไปถึงของ iOS ด้วย วันนี้ Specphone เลยจะมาบอกวิธีแก้ไขแบบง่ายๆ กัน ตามมาดูกันเลยว่ามีวิธีไหนที่สามารถแก้ไขได้บ้าง
วิธีแก้ปัญหาไลน์ไม่แจ้งเตือน ไลน์ไม่เด้งเตือนบนหน้าจอ
ต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า ปัญหาของแต่ละเครื่องนั้นอาจจะไม่เหมือนกัน โดยวิธีแก้ที่เรานำมาบอกนั้น ส่วนใหญ่เป็นปัญหาหลักๆ ที่เกิดจากเฟิร์มแวร์ตัวเครื่อง เวอร์ชันของ Line และการตั้งค่าของแต่ละเครื่อง ที่ไม่เหมือนกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นของทางฝั่ง iOS หรือ Android ก็ตาม ที่มักจะเกิดปัยหาจากตัวระบบเป็นหลัก ดังนั้นปัญหานี้อาจแก้ได้แค่บางเครื่องเท่านั้น แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ ก็สามารถแก้ได้ตามที่เราจะมาแนะนำนี่แหละ ไปดูกันเลยว่าแก้ไขแบบไหนได้บ้าง
- Line ไม่แจ้งเตือนจากเฟิร์มแวร์
- Line ไม่แจ้งเตือนจากการตั้งค่า
- วิธีแก้ปัญหา Call LINE ไม่แจ้งเตือนของ Android
- Line ไม่แจ้งเตือนจากปัจจัยอื่น
แก้ปัญหาไลน์ไม่แจ้งเตือนจากเฟิร์มแวร์
อย่างแรกเรามาดูกันที่ตัวระบบกันก่อนเลย ซึ่งตัวระบบหรือเวอร์ชั่นของมือถือแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อนั้นก็จะไม่เหมือนกัน และมักจะมีเวลาการอัพเดทที่แยกกันออกไป ส่งผลให้เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทำให้หลายแอปฯ อัพเดทเวอร์ชั่นตามไม่ทัน และทำให้เกิดปัญหาหลายอย่างตามมาได้เช่นกัน โดยทั้งระบบ iOS และ Android นั้นเราสามารถเข้าไปเช็คเวอร์ชั่นล่าสุดได้ด้วยตัวเอง รวมไปถึงการอัพเดทเวอร์ชั่นของแอพ LINE เองด้วยที่จำเป็นต้องอัพเดทให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่เสมอ ซึ่งรุ่นที่นำมาเป็นตัวอย่างคือ Huawei Mate 20 Pro ส่วนรุ่นอื่นๆ และยี่ห้ออื่นอาจจะมีหน้าตั้งค่าหรือหน้าเวอร์ชั่นที่ไม่เหมือนกัน แต่ก็จะคล้ายๆ กันอยู่บ้าง วิธีการแก้ไขปัญหาสามารถทำได้ ดังนี้
Android
1. เข้าไปที่ตั้งค่า แล้วเลื่อนลงล่างสุด (บางรุ่นอาจอยู่ตรงกลาง) แล้วหาคำว่า System & Updates หรือการอัพเดทซอฟท์แวร์ ยี่ห้ออื่นๆ อาจจะใช้คำว่าระบบ, การอัพเดทระบบ ขึ้นอยู่กับแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อ หากมีอัพเดทใหม่ก็ให้ทำการอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดก่อน
2. หลังจากอัพเดทแล้ว ให้เข้าไปดูเวอร์ชั่นของแอพ LINE ที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน ว่าทำการอัพเดทหรือยัง ถ้ายังก็ให้กดอัพเดทให้ครบ โดยการเข้าไปที่ Play Store จากนั้นเลือกค้นหาแอพ LINE และดูว่าเราอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดหรือไม่ เมื่ออัพเดทเรียบร้อยจะเปลี่ยนเป็นคำว่า Open (บางครั้งระบบ Android ที่เก่าเกินไปจะอัพเดทต่อไม่ได้แล้ว)
iOS
1. สำหรับของ iOS นั้นก็สามารถเข้าไปดูเวอร์ชั่นที่ใช้งาน และกดอัพเดทได้ง่ายๆ เหมือนกัน โดยการเข้าไปที่เมนู Settings เลือก General และเลือกดูเมนู Software Update ว่าเราได้ทำการอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดหรือยัง หากยังไม่ได้อัพเดทให้กดอัพเดทให้เรียบร้อย
2. หลังจากนั้นก็ทำตามเหมือนของ Android ที่ต้องเข้าไปดูเวอร์ชั่นของ LINE ที่ใช้งานอยู่จากการเข้าไปค้นหาแอพที่ App Store และให้ทำการอัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุด หากว่ายังไม่ได้อัพเดท เพียงเท่านี้ก็เรียบร้อยแล้ว (บางรุ่นของ iOS ที่ไม่สามารถอัพเดทระบบได้ จะไม่สามารถอัพเดทแอพ LINE เป็นล่าสุดได้เช่นกัน)
เมื่ออัพเดททั้งซอฟท์แวร์ และอัพเดทเวอร์ชันของ Line เรียบร้อยแล้ว ให้ Restart เครื่องหนึ่งครั้ง (ปิดและเปิดใหม่) และลองใช้งานดูอีกครั้ง ว่ามีการแจ้งเตือนไลน์หรือไม่ ถ้ามีการแจ้งเตือนขึ้นมาตามปกติ ก็ไม่ต้องทำต่อแล้ว แต่ถ้ายังไม่เตือนให้ไปที่วิธีแก้ปัญหาไลน์ไม่แจ้งเตือนจากการตั้งค่าแอพบนเครื่อง จากวิธีตามด้านล่างต่อได้เลย
แก้ปัญหาไลน์ไม่แจ้งเตือนจากการตั้งค่าแอพ และบนเครื่อง
หากการอัพเดททั้ง 2 อย่างแล้ว ก็ยังเจอกับปัญหาไลน์ไม่แจ้งเตือนอยู่เหมือนเดิม อาจจะเป็นที่การตั้งค่าภายในแอพ LINE หรือบนตัวเครื่องของเราเองด้วย ซึ่งการตั้งค่าเหล่านี้ เราอาจจะเคยไปตั้งค่าไว้ก่อนตั้งแต่ต้น และเมื่อใช้ไปนานๆ จึงไม่ทันสังเกตว่าการตั้งค่าเหล่านั้น จะทำให้การแจ้งเตือนแบบอื่น ไม่แจ้งเตือนตามไปด้วย วิธีตั้งค่าภายในแอพ LINE และบนตัวเครื่องจากระบบ สามารถทำได้ดังนี้
การตั้งค่าในแอพบน iOS, Android
1. เริ่มที่การตั้งค่าภายในแอพของ iOS, Android กันก่อนเลย โดยให้เราเข้าไปที่แอพ Line จากนั้นกดไปที่หน้าแรก (Home) และเลือกเมนูตั้งค่า (Setting) ที่มุมขวาบน จากนั้นให้เลือกการแจ้งเตือน (Notifications) และดูว่าเราได้เปิดการแจ้งเตือนเอาไว้หรือไม่ ถ้ากดปิดเอาไว้ให้เปิดเพื่อให้ไลน์กลับมาแจ้งเตือนอีกครั้ง หรือถ้าใครอยากจะให้แจ้งเตือนเฉพาะข้อความ หรือคอมเมนต์ต่างๆ ก็ตั้งค่าได้จากตรงนี้เช่นกัน
การตั้งค่าไลน์ไม่แจ้งเตือนจากในเครื่อง
เข้าไปที่การตั้งค่าของมือถือที่ใช้งานอยู่ ถ้าหากเป็นของ Android ให้เข้าไปที่เมนูการแจ้งเตือน (Notifications) และเลื่อนลงหาแอพ Line ให้เจอ (บางรุ่นอาจต้องกดดูแอพทั้งหมด โดยเข้าไปที่เมนู Apps -> Apps) เมื่อเจอแล้วกดเข้าไปดูได้เลย ว่าการแจ้งเตือนในเครื่องเราได้ทำการเปิดเอาไว้อยู่หรือไม่ ถ้าปิดอยู่ก็ให้กดเปิดได้เลย
ส่วนบนระบบ iOS นั้นก็สามารถกดเข้าไปที่การตั้งค่า (Settings) และเลือกการแจ้งเตือน (Notifications) จากนั้นก็หาแอพ LINE เช่นเดียวกัน เมื่อกดเข้ามาแล้วหากปิดการแจ้งเตือนเอาไว้ ก็ให้เรากดเปิดการแจ้งเตือนตามที่ต้องการได้เลย
โดยเมื่อกดเข้ามาแล้ว ให้กดเปิดอนุญาตการแจ้งเตือน (Allow Notifications) และเข้าไปยังแต่ละเมนูย่อย เพื่อเปิดการอนุญาตทั้งหมดของแอพ LINE เมื่อเปิดหมดแล้ว ให้ทำการ Restart เครื่องหนึ่งครั้ง แล้วลองใช้งานดูว่ามีการแจ้งเตือนหรือไม่ ถ้ายังไม่มีให้ทำตามต่อวิธีอื่นด้านล่าง
Reset แอพ LINE ใหม่ทั้งหมด
**คำเตือน ทั้ง 2 วิธีที่จะมาบอกวิธีนี้นั้น เป็นวิธีที่มีความเสี่ยงสูง และต้องทำการ Back up ข้อมูลแอพ ก่อนทุกครั้ง ส่วนใครที่กลัวข้อมูลแชทหาย หรือข้อมูลรูปภาพทั้งหมดหาย แนะนำว่าไม่ควรใช้วิธีนี้เด็ดขาด**
1. ถ้ายังไม่มีหน้า Pop up แจ้งเตือน ให้ทำการคืนค่าแอพทั้งหมด เนื่องจากบางครั้งการใช้งานด้วยพื้นที่เยอะเกินไป หรือไม่เพียงพอก็อาจจะทำให้ไม่แจ้งเตือนได้ด้วย ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมดของแอพ LINE เลย แนะนำให้ Back up ข้อมูลก่อนทุกครั้ง! และข้อควรระวัง! โปรแกรมอื่นๆ ก็จะโดนไปด้วยทั้งหมด เพราะจะเป็นการคืนค่าทุกแอพ หมดเลยในครั้งเดียว การคืนค่าสามารถทำได้โดยการ เข้าไปที่เมนูตั้งค่า และเลือกเมนู การจัดการแอปฯ (Apps) และกดปุ่มเมนูมุมขวา จากนั้นเลือก รีเซ็ตแอพ (Reset app preference) แล้วทำการ Restart เครื่องอีกครั้ง แต่บางรุ่นเมนูรีเซ็ตนี้ก็อาจจะไม่มีนะ ต้องไปเลือกคืนค่าเองตามข้อแรกๆ เลย ส่วนของ iOS สามารถเข้าไป Reset ความเป็นส่วนตัวได้ที่ Settings -> General -> Tranfer or Reset iPhone -> Reset -> Reset Location & Privacy
2. Reset แอพ LINE เพียงแอพเดียว ซึ่งวิธีนี้ก็จำเป็นต้อง Back up ข้อมูลภายในไลน์เช่นเดียวกัน เพราะการ Reset ก็เหมือนกับการลบ และโหลดแอพ LINE มาใช้งานใหม่นั่นเอง วิธีการทำก็เพียงแค่กดเข้าไปที่หน้าตั้งค่า และเลือกเมนู Apps และเลื่อนลงมาหาแอพ LINE จากนั้นให้เลือกเมนู การจัดเก็บ (Storage) และทำการ Clear Data และ Clear Cache ทั้งหมด เมื่อกดแล้วข้อมูลจะเหมือนเริ่มต้นใหม่ ให้เรากดเข้าไปใน Line และเข้าสู่ระบบอีกครั้ง
3. การ Clear Cache สามารถทำบนแอพ LINE ได้ด้วย โดยระบบ iOS ให้เข้าไปที่แอพ LINE จากนั้นเลือก Settings จากนั้นเลือก Chats และกดเข้าไปที่ Delete Data เพื่อเลือกลบข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ ส่วนของ Android เข้าไปที่แอพ LINE เลือก Settings จากนั้นเลือก Chats และเลือก Delete photos and other files from chats ซึ่งการลบสิ่งเหล่านี้จะเป็นการลบรูปที่หมดอายุ และไฟล์ต่างๆ ด้วยเช่นกัน ถ้าใครไม่ชัวร์หรือกลัวข้อมูลหายก็ไม่แนะนำให้ทำนะ
วิธีแก้ปัญหา Call LINE ไม่แจ้งเตือนของ Android
สำหรับใครที่มีปัญหาคนโทรมาแล้วไม่ขึ้นแจ้งเตือน หรือไม่ขึ้น Pop up บนหน้าจอของ Android ให้เข้าไปที่แอพ LINE เลือก Settings จากนั้นเลือกเมนูการแจ้งเตือน (Notifications) และเลื่อนลงมาที่การโทร (Calls) และดูว่าเราเปิด Banners หรือ Pop up เอาไว้หรือไม่ ถ้าเราปิดอยู่ก็ให้เรากดเปิดได้เลย
ปัญหาไลน์ไม่แจ้งเตือนจากปัจจัยอื่น
นอกจากนี้ปัญหาไลน์ไม่แจ้งเตือน หรือไลน์ไม่เด้ง ยังสามารถเกิดขึ้นได้ในอีกหลายปัจจัยนอกจากวิธีด้านบนที่เราได้แนะนำไปด้วยหลายอย่าง อย่างเช่น
- อินเทอร์เน็ตที่ไม่เสถียร เน็ตมาช้า ก็จะทำให้การแจ้งเตือนนั้นไม่ขึ้นได้ด้วย ในกรณีนี้จะเกิดขึ้นเพียงครั้งคราวเท่านั้น เมื่อเน็ตกลับมาเป็นปกติ ก็จะสามารถใช้งานได้เหมือนเดิมแล้ว
- โหมดประหยัดพลังงาน ทิ้งเอาไว้ บางระบบหรือบางรุ่นหากมีการเปิดโหมดประหยัดพลังงานเอาไว้ จะปิดการแจ้งเตือนของแอพต่างๆ ตามไปด้วย ให้ชาร์จแบตและปิดโหมดนี้ก่อน
- ขีดจำกัดการใช้งานพื้นหลัง ที่มากเกินไปก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ระบบปิดการแจ้งเตือนของไลน์ได้ด้วย ให้เข้าไปที่แบตและตรวจสอบการใช้งานพื้นหลัง
- การเสียหายของอุปกรณ์ภายในตัวเครื่อง ก็อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ไลน์ไม่แจ้งเตือนได้ด้วย
- การโทรในไลน์ แล้วไม่มีรูปขึ้น ก็อาจจะเกิดขึ้นเพราะเน็ตไม่แรง หรือไม่เสถียรพอ รูปจึงไม่สามารถอัพโหลดขึ้นตามมาได้นั่นเอง
- หลายคนที่ใช้งาน OPPO มักจะเจอกับการไม่แจ้งเตือนของ Line วิธีนี้สามารถแก้ได้ โดยการเข้าไปที่การตั้งค่าความปลอดภัย แล้วทำการอัพเดท หรือเลือกการเปิดใช้งานแอพพื้นหลัง เพื่อให้แอพ Line ได้รับการอนุญาตให้ใช้เน็ตตอนออกจากแอพได้ (คล้ายๆ ของ iPhone) เมื่อเปิดแล้วก็จะใช้งานได้ตามปกติ แต่ถ้าไม่หาย ก็ต้องแก้ไขตามการตั้งค่าตามด้านบนได้เลย
แล้วทั้งหมดนี้ ก็เป็นวิธีการตั้งค่าเพื่อเปิดการแจ้งเตือนของ Line สำหรับคนที่เจอปัญหาไลน์ไม่แจ้งเตือน ไลน์ไม่เด้งบนหน้าจอ ทั้งคนที่ส่งข้อความมาหา และคนที่โทรเข้ามา ได้ด้วยวิธีง่ายๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถทำได้แล้ว แต่ถ้าลองทำตามทุกวิธีแล้ว ยังไม่มีการแจ้งเตือนขึ้นมา ก็อาจจะเกิดจากหลายๆ ปัจจัยอย่างอินเทอร์เน็ต และตัวเครื่องที่เสียหายก็เป็นได้ ถ้าอาการหนักมากๆ แนะนำว่าลองให้ศูนย์บริการเช็คการทำงานของตัวเครื่องดู ว่าเครื่องที่ใช้งานอยู่นั้น มีปัญหาหรือไม่ ส่วนถ้าใครอยากส่งข้อความแบบไม่ให้ขึ้นเตือน ตอนนี้ไลน์ก็ได้ลองทำขึ้นมา โดยการเข้าตั้งค่าที่ Line Labs และเปิดการใช้งานส่งแบบไม่แจ้งเตือนได้แล้ว ไม่รู้จะทำเพื่อแอบใครเหมือนกัน แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ