เปิดตัวพร้อมกับให้จองเป็นที่เรียบร้อยสำหรับ Samsung Galaxy Note 9 เรือธงปลายปีจาก Samsung โดยมากับจุดเด่นหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น ปากกา S-Pen ที่ถูกอัพเกรดขึ้นเพียบ นำกล้องรูรับแสงปรับได้อัตโนมัติจาก Galaxy S9+ มาใช้ เพิ่มแบตเตอรี่เป็น 4,000 mAh และมากับรอมมากถึง 128 GB โดยตั้งราคาเท่ากับรุ่นเก่า Galaxy Note 8 ที่ 33,900 บาท
วันนี้เราได้โอกาสไปงานที่ซัมซุงเปิดตัว Samsung Galaxy Note 9 ในรอบสื่อ เลยจัด Hands On แบบสั้น ๆ มาให้ดูกัน ไปดูที่การออกแบบตัวเครื่องกันก่อนเลย ตัวเครื่องด้านหน้านั้น จะว่าไปมันเหมือนกับ Samsung Galaxy Note 8 นั่นแหละ แต่จะมีหน้าจอที่ใหญ่กว่า 0.1 นิ้ว จอโค้งด้านข้างเหมือนกัน ขนาดหน้าจอจะกว้างกว่าเล็กน้อย และจะหนากว่า 0.2 มม. แลกกับแบตที่เพิมขึ้น แต่ก็ถือว่าหนาขึ้นน้อยมากหากเทียบกับแบตเตอรี่ถึง 4,000 mAh ไปดูรายละเอียดสเปคเต็ม ๆ กันเลยครับ
สเปค Samsung Galaxy Note 9
- หน้าจอขนาด 6.4 นิ้ว Super AMOLED ความละเอียด Quad HD
- ชิปประมวลผล Snapdragon 845 หรือ Exynos ที่เทคโนโลยีการผลิต 10 nm*
- Ram 6 GB หรือ 8 GB
- ความจุ 128 GB หรือ 512 GB รองรับ MicroSD Card
- กล้องหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.5 – f/2.4 (เลนส์ Wide) กล้องหลังตัวที่ 2 ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/2.4 (เลนส์ Telephoto 2x) มี OIS ทั้ง 2
- กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส f/1.7
- แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mAh
- มีระบบสแกนใบหน้า, Iris scanner, เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
- กันน้ำกันฝุ่น มาตรฐาน IP68
- รองรับการชาร์จไร้สายแบบด่วน
- ระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo
- ขนาดตัวเครื่อง 161.9 x 76.4 x 8.8 มม., 201 กรัม
ด้านบนเป็นที่อยู่ของเซ็นเซอร์ต่าง ๆ พร้อมกับลำโพงสนทนา และกล้องหน้า ที่ยังไม่ใช่ดีไซน์แบบมีติ่งเหมือนกับสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ ๆ ในตอนนี้ ก็ถือว่าออกแบบมาได้ดูสวยงามเหมือนกับ Galaxy Note 8
ด้านล่างก็จะเป็นแถบหนาเช่นเดียวกัน ให้อัตราส่วนความหนาเท่ากับด้านบนหน้าจอ
ตัวเครื่องด้านล่างใครที่ใช้ Galaxy Note 8 มาก่อน จะเห็นว่าตำแหน่งอยู่ที่เดียวกันเลย ซึ่ง Samsung เองยังคงใช้ช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. อยู่เหมือนเดิม คงถูกใจคอหูฟังแบบแจ็คกันอยู่ ส่วนปากกาก็ยังกดแบบสปริงเด้งขึ้นลงเหมือนเดิม พร้อมกับลำโพงขับเสียงและพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB Type-C
ด้านบนจะเป็นช่องใส่ซิมการ์ดและ microSD สูงสุด 512 GB แบบถาดจิ้มเอา
ด้านซ้ายจะเป็นปุ่มเพิ่มเสียง และลดเสียง พร้อมกับปุ่ม Bixby
ด้านขวาจะเป็นปุ่ม Power
สำหรับการดีไซน์กล้องหลังนั้นเปลี่ยนไปจากรุ่นเดิมอย่างชัดเจน โดยนำเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือมาไว้ด้านล่างเพื่อป้องกันการกดสแกนผิดที่ได้เป็นอย่างดี โดยมากับกล้องหลังแนวนอนที่นำมาจาก Samsung Galaxy S9+ นั่นเอง
สีที่เราได้มา Hands On นั้นคือ สี Metallic Copper และ Ocean Blue ตามรูปด้านล่าง ซึ่งในประเทศไทยจะวางจำหน่าย 3 สีก่อนคือ Midnight black , Metallic Copper และ Ocean Blue
ในส่วนของ S-Pen นั้น หากเป็นสี Ocean Blue ปากกาจะแจ่มมาก ให้เป็นสีเหลืองทองมาเลย ซึ่งถือว่าสวยมาก ๆ แต่ถ้าเป็นสี Metallic copper จะมาพร้อมกับปากกาสีเหมือนตัวเครื่อง และสี Midnight Black ก็เช่นเดียวกัน
สำหรับฟีเจอร์ S-Pen นี้ถือว่าเป็นจุดขายของ Galaxy Note 9 เลยก็ว่าได้ โดยเพิ่มความสามารถเข้ามาหลายอย่าง โดยเพิ่มคุณสมบัติบลูทูธเข้าไปและมีแบตเตอรี่เล็กในตัวที่สามารถใช้งานได้ 30 นาที ไกลถึง 10 เมตร หากแบตหมดก็เสียบเข้าตัวเครื่องเพียง 40 วินาที ก็สามารถใช้งานได้ต่อ ซึ่งความสามารถนั้นแบ่งเป็นโหมดถ่ายรูป ที่กดครั้งเดียวเป็นการถ่ายภาพ กดสองครั้งเป็นการสลับกล้องไปกล้องหลัง ส่วนความสามารถอื่น ๆ ก็ตามภาพด้านล่างเลยครับ
ยกตัวอย่างฟีเจอร์ถ่ายภาพด้านล่างที่ผมตั้ง Galaxy Note 9 ไว้ที่แท่นวางสีน้ำเงิน หลังจากนั้นก็เอาปากกาออกมาเพื่อเป็นชัตเตอร์ก็จะได้จับภาพทันที ได้ภาพตามภาพด้านล่าง
ถ่ายจากกล้องหน้า Samsung Galaxy Note 9
ดูรายละเอียดตัวเครื่องและข้อมูลอื่น ๆ ได้ที่ Samsung Galaxy Note 9
ส่วนรีวิวแบบเต็ม ๆ นั้นอดใจรอกันสักครู่ครับ