เมื่อวานนี้ LG ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงตัวล่าสุดอย่าง LG G3 หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีข่าวหลุดออกมาแทบจะทุกวันเลยทีเดียว รวมถึงภาพหลุดตัวเครื่องและสเปคในวันก่อนที่จะเปิดตัวด้วย และแน่นอนครับว่าเมื่อเปิดตัวมาแล้ว สเปคก็ไม่ได้ต่างจากที่หลุดมาเลย โดย hands-on นี้แปลมาจากบทความของเว็บไซต์ phonearena ครับ
สเปค LG G3
- ตัวเครื่องขนาด 146.3 x 74.6 x 8.9?มม. น้ำหนัก 149 กรัม
- หน้าจอ?True HD IPS+ ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด QHD?2560 x 1440 พิกเซล ความหนาแน่น?534 ppi กระจกจอ Gorilla Glass 3
- CPU?Snapdragon 801 (MSM8975AC) Quad Core??2.5 GHz
- GPU?Adreno 330
- RAM 2 GB / 3 GB
- หน่วยความจำภายใน 16GB/ 32GB โดยสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 128 GB ทั้งคู่
- Android 4.4.2 KitKat ครอบทับด้วย?Optimus UI
- Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, Wi-Fi hotspot, Bluetooth 4.0, NFC, USB 2.0, USB On-the-go, USB Host, GPS รองรับ GLONASS
- กล้องหลังความละเอียด?13 ล้านพิกเซล?OIS+, แฟลชแบบ Dual-LED พร้อม Laser AF
- กล้องหน้า 2.1MP (F2.0) เลนส์ Wide
- บันทึกวีดีโอ 4K 30fps และ Full HD 1080P 60fps,?HDR
- แบตเตอรี่ความจุ 3000?mAh
**หมายเหตุ LG G3 จะวางขาย 2 โมเดล ได้แก่โมเดล Ram 2 GB ความจุ 16 GB และโมเดล Ram 3 GB ความจุ 32 GB**
Design?
มันเป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมากสำหรับสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอ 5.5 นิ้วแต่กลับถือด้วยมือเดียวได้อย่างสบายๆ เพราะการออกแบบที่ทำให้ขอบหน้าจอมีพื้นที่น้อยมาก จนแทบจะเป็นมือถือที่หน้าจอไร้ขอบเลยทีเดียว ถึงขนาดที่ว่าเมื่อเทียบสัดส่วนหน้าจอกับขนาดตัวเครื่องแล้ว LG G3 จะมีพื้นที่หน้าจอคิดเป็น 76.4% ของทั้งหมด เมื่อเทียบกับ Samsung Galaxy S5 แล้วมีขนาดใกล้เคียงกันมาก อีกทั้งการออกแบบของ LG G3 ในส่วนของการโค้งของมุมเครื่องทำออกมาได้ดี ทำให้จับเครื่องได้พอดีมือ และที่สำคัญมันมีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบาเลยหล่ะ
วัสดุโดยรวมของ LG G3 ยังคงใช้พลาสติก แต่ในฝาหลังทำมาจากวัสดุโพลีคาร์บอเนตเคลือบผิวลายโลหะ เคลือบสารป้องกันรอยขีดข่วนและไม่ติดรอยนิ้วมือ แต่ไม่สามารถรักษาตัวเองได้เหมือนอย่าง LG G Flex นะครับ และแน่นอนว่าด้านหลังของ LG G3 ก็จะต้องมีปุ่มควบคุมที่เรียกว่า Rear Key ที่จะประกอบไปด้วยปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม Power ตรงกลาง เช่นเกียวกับใน LG G2 แต่การดีไซน์และสัมผัสจะแตกต่างไป นอกจากนี้ปุ่ม Power ใน LG G3 จะต้องออกแรงกดมากกว่าปุ่มปรับระดับเสียงเล็กน้อย
ในเรื่องของการดีไซน์ โดยรวมแล้วถือว่าทำออกมาได้ดีมาก แต่กลับไม่มีฟีเจอร์กันน้ำได้เหมือนอย่างเรือธงรุ่นอื่นๆ รวมถึงไม่มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือและเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ แต่ทีเด็ดของการดีไซน์ใน LG G3 ก็คงจะเป็นเรื่องของการออกแบบมาให้เข้ากับสรีระและการใช้งานจริงมากกว่า
?
Display
หน้าจอ True IPS+ ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียดระดับ QHD ความหนาแน่นพิกเซล 538 ppi สำหรับการใช้งานทั่วไปนั้นคงจะแยกไม่ออกระหว่างหน้าจอแบบ Full HD กับหน้าจอแบบ QHD แต่ความแตกต่างจะเกิดขึ้นเมื่อเราเปิดเว็บไซต์แล้วซูม โดยรายละเอียดของตัวอักษรบนหน้าจอ QHD จะมีความคมชัดมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องบอกว่าหน้าจอแบบ QHD ก็ยังเหนือกว่าหน้าจอแบบ Full HD อยู่ดี และนอกจากความละเอียดของหน้าจอ LG G3 จะสูงกว่าเรือธงเจ้าอื่นๆ แล้ว ในเรื่องของการแสดงผลไม่ว่าจะเป็นความสว่าง, รวมถึงสีสันของหน้าจอทำออกมาได้ดีมาก โทนสีของจอจะเป็นโทนสีกลางๆ ให้สีที่เป็นธรรมชาติ และแสดงภาพได้สมจริงทีเดียว
Interface
LG G3 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android รุ่นล่าสุดอย่าง Android 4.4 Kitkat ที่ครอบทับด้วย UI ที่ออกแบบมาอย่างเรียบๆ (Flat Design) ตามสมัยนิยม ส่วนรูปภาพ Interface สามารถรับชมได้จาก Gallery เลยครับ
Camera
กล้องถ่ายรูปของ LG G3 มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซล จะเห็นว่ามันไม่ได้มีจำนวนพิกเซลที่เพิ่มมากขึ้นจากรุ่นก่อนเลย แต่ LG เน้นการปรับปรุงไปที่ประสิทธิภาพของกล้องมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการจับโฟกัสที่รวดเร็วอย่างมาก ถ้าคิดว่า Samsung Galaxy S5 กับ HTC One M8 ถ่ายรูปได้เร็วแล้ว LG G3 นั้นสามารถจับภาพได้ไวกว่า 2 รุ่นนั้นอีก ที่สำคัญมันมาพร้อมของเล่นใหม่อย่าง IR Laser ที่ช่วยสำหรับการจับโฟกัส รวมถึงแฟลชคู่แบบ LED และระบบป้องกันภาพสั่นไหว OIS ที่อัพเกรดมาแล้วเป็น OIS+ ที่ทำงานได้ดีกว่าเดิม
Multimedia
การใช้งานเพื่อความบันเทิงนั้น LG G3 จะตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว ด้วยลำโพงหลักที่อยู่ทางด้านหลังของตัวเครื่องที่มีกำลังขับถึง 1 Watt และด้วยหน้าจอความละเอียดสูงทำให้การเปิดดูรูปถ่ายและวีดีโอใน LG G3 นั้นเจ๋งมากๆ แต่สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับการรับชมวีดีโอบนหน้าจอของ LG G3 คือจะหาไฟล์ความละเอียด QHD เพื่อที่จะให้ LG G3 แสดงศักยภาพได้เต็มที่จากไหนมากกว่า?
อุปกรณ์เสริมสุดชิค
เคส QuickCircle เคสแบบฝาพับของ LG G3 ทำอะไรได้มากกว่าเดิมเยอะเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการเรียกเครื่องเล่นเพลง, กล้องถ่ายรูป, การโทร, อีเมล์ รวมถึงการตั้งค่า โดยที่เราไม่ต้องเปิดฝาพับกันเลยทีเดียวหล่ะ
ราคา และกำหนดการวางจำหน่าย
LG G3 จะวางขายในประเทศเกาหลีใต้หลังจากที่มันเปิดตัวเพียง 1 วัน ซึ่งก็คือวันนี้นั่นเอง (28 พฤษภาคม) ส่วนประเทศอื่นๆ ต้องรอประมาณเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม สำหรับราคานั้นถือว่าเซอร์ไพรส์พอสมควรครับ ด้วยสเปคที่อัดแน่นขนาดนี้ แต่ราคาเริ่มต้นนั้นตามข่าวบอกว่าเริ่มที่ $549 (ประมาณ 18,000 บาท) สำหรับเครื่องเปล่าไม่ติดสัญญา ถือว่าราคาไม่แพงเลยนะครับ แต่ถ้าเข้าไทยก็ตามสไตล์ที่จะต้องโดนชาร์จเพิ่มอย่างแน่นอน คาดว่าราคาน่าจะไม่ทิ้งกับเรือธงยี่ห้ออื่นๆ ซักเท่าไหร่ กำเงินไว้ซัก 25,000 บาทก็น่าจะเหลือๆ ครับ
ที่มา: phonearena, phonearena