วันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ทางทีมงาน Specphone ได้รับเกียรติจาก HTC เชิญร่วมงานสุด Exclusive และเป็นสื่อเจ้าแรกๆ ที่ได้สัมผัสกับมือถือรุ่นล่าสุดของ HTC อย่าง HTC One E8 ถ้ายังจำกันได้ทาง Specphone เคยนำเสนอข่าวเจ้า HTC One E8 หรือที่เราเคยได้กันในชื่อ HTC One M8 ACE แต่ถ้าจะให้ผมสรุปให้ง่ายกว่านั้น HTC One E8 ก็คือ HTC One M8 ในบอดี้พลาสติกนี่แหละครับ
แนวคิดของ HTC One E8 คือ HTC เชื่อว่ามีผู้ใช้หลายรายมากที่อยากจะสัมผัสประสบการณ์ของมือถือเรือธงอย่าง HTC One M8 แต่ไม่ต้องการจ่ายเงินเป็นจำนวนมาก จึงหันไปซื้อมือถือเรือธงของปีที่แล้ว (เรือธงที่ตกรุ่นแล้วนั่นเอง) เพราะมีราคาที่ถูกกว่า แต่ HTC อยากให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ใช้งานเทคโนโลยีที่สดใหม่จากมือถือเรือธงรุ่นล่าสุด HTC One E8 จึงเกิดมาเพื่อตอบโจทย์ตรงนี้ครับ หากสงสัยว่าเทคโนโลยีที่สดใหม่เช่นเดียวกับมือถือเรือธงใน HTC One E8 ที่ทาง HTC พูดถึงคืออะไร คำตอบอยู่ที่สเปคของ HTC One E8 ครับ
สเปค HTC One E8
- ชิปประมวลผล Quad-Core Snapdragon 801 MSM8974AC ความเร็ว 2.5 GHz
- แรม 2 GB
- รอมในตัว 16 GB รองรับ MicroSD สูงสุด 128 GB
- หน้าจอ S-LCD ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD 1920 x 1080
- Android 4.4.2 KitKat พร้อม HTC Sense 6 และ HTC BlinkFeed
- กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล BSI Sensor, Zero Shutter Lag พร้อมแฟลช LED 1 ดวง
- กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เซ็นเซอร์ BSI, Wide Angle Lens
- ถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD
- รองรับ 4G LTE ใช้งาน 3G ได้ทุกเครือข่าย (ใช้งานนาโนซิม)
- มีลำโพงสเตอริโอคู่ด้านหน้า พร้อมเทคโนโลยี HTC BoomSound และแอมป์ในตัว
- แบตเตอรี่ Li-polymer ความจุ 2600 mAh พร้อมโหมดประหยัดพลังงาน
- น้ำหนัก 160 กรัม
- รองรับ NFC
- ราคา 17,900 บาท
- สเปค HTC One E8 แบบเต็มๆ
ด้านหน้าของ HTC One E8 สำหรับผมแล้ว สิ่งแรกที่โดดเด่นคือลำโพงคู่หน้า BoomSound อันเลื่องชื่อ ตามมาด้วยหน้าจอขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด Full HD เช่นเดียวกับใน HTC One M8, กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลที่ออกแบบมาให้รองรับการ Selfie โดยเฉพาะ, ไฟแจ้งเตือนแบบ LED แอบอยู่ตรงลำโพงด้านบน และโลโก้ HTC ทางด้านล่างของหน้าจอครับ
ด้านข้างของ HTC One E8 เริ่มจากด้านขวาจะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง (สำหรับผมมันกดยากมาก) และช่องใส่ MicroSD Card ที่ต้องใช้เข็มจิ้มซิมเพื่อให้ถาดเด้งออกมา, ด้านซ้ายเป็นช่องใส่ซิมการ์ดที่ต้องใช้เข็มจิ้มถาดซิมเหมือนกัน โดยจะรองรับซิมการ์ดแบบ Nano Sim, ด้านบนเป็นปุ่ม Power (กดยากเช่นกัน) และด้านล่างจะเป็นช่องเสียบสาย USB และช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร โดยข้อติก็จะเป็นบรรดาปุ่มต่างๆ นี่แหละครับ เพราะว่ามันค่อนข้างเรียบไปกับตัวเครื่อง ทำให้เวลากดนี่ยากจริงๆ แต่ก็ได้ความสวยงามมาแทน
ด้านหลังของ HTC One E8 จะให้สัมผัสแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสีของตัวเครื่องครับ ถ้าเป็นตัวเครื่องสีดำ ผิวสัมผัสของพื้นหลังจะเป็นแบบ Soft Touch แต่ถ้าเครื่องสีขาวจะให้สัมผัสแบบ Glossy หรือผิวมันนั่นเอง ด้านหลังจะประกอบไปด้วยกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชทางด้านบนของกล้อง อ่อ ผมลืมบอกไปเกี่ยวกับสีของ HTC One E8 โดยปกติแล้วจะมีด้วยกัน 3 สี คือสีขาว, สีดำ และสีแดง แต่ในบ้านเราจะนำเข้ามาแค่ 2 สี คือสีขาวกับสีดำครับ ส่วนตัวผมชอบสัมผัสแบบสีขาว (Glossy) แต่ชอบความเรียบหรูของสีดำ (บริเวณขอบกล้อง, ปุ่ม Power, โลโก้ HTC เป็นสีทองซะด้วย)
ความรู้สึกตอนได้ลองจับ HTC One E8 ถึงแม้ตัวเครื่องจะทำจากพลาสติก แต่ก็เป็นพลาสติกที่ให้ความรู้สึกพรีเมียมมาก แม้ว่าเครื่องที่เราได้ลองเล่นจะเป็นสีดำ ซึ่งถ้าใครอ่านบทความที่ผมเขียน รวมถึงรีวิวมือถือที่ใช้พลาสติกแบบ Soft Touch จะรู้เลยว่าผมไม่ชอบเอามากๆ เพราะมันเลอะรอยนิ้วมือโคตรง่ายครับ ต้องขยันทำความสะอาดบ่อยๆ ส่วนการออกแบบนั้นจะเป็นแบบ Dual Curve ที่ขอบตัวเครื่องจะโค้งมน รับกับอุ้งมือของเราพอดิบพอดี ถือนานๆ ก็ไม่รู้สึกว่าเมื่อยมือครับ น้ำหนักก็เบาว่า HTC One M8 (แน่ละ ก็บอดี้เป็นพลาสติก) แต่ถ้าให้เทียบกับ M8 ก็ยังไม่ถือว่าเข้าขั้นนะครับ ถึงแม้ขอบเครื่องของ HTC One E8 จะโค้ง แต่มันก็ยังรู้สึกว่าขอบเครื่องคมกว่า HTC One M8 ทำให้เวลาถือเครื่องรู้สึกไม่ค่อยเนียนมือเท่าไหร่
HTC One E8 นั้นมีทุกอย่างเหมือนที่เรือธงอย่าง HTC One M8 มี โดยเฉพาะในส่วนของสเปคนั้นมีความแตกต่างกันเพียงจุดเดียวคือ กล้องหลัง (HTC One E8 ความละเอียด 13 MP/HTC One M8 เป็น Duo Camera ความละเอียด 4 ล้านพิกเซล Ultrapixel) นอกจากนั้นสเปคก็เหมือนกันเป๊ะครับ ส่วนฟีเจอร์และซอฟท์แวร์ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะอะไรที่ HTC One M8 มีและทำได้ HTC One E8 ก็ทำได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ Android 4.4 Kitkat ครอบด้วย HTC Sense 6 UI, ฟีเจอร์ Motion Launch เช่นการเคาะหน้าจอ 2 ครั้งเพื่อเปิดเครื่อง, การกดปุ่มปรับระดับเสียงค้างไว้ขณะที่ถือตัวเครื่องในแนวนอนเพื่อเข้าโหมดกล้อง เป็นต้น ส่วนความลื่นนั้นไม่ต้องถามเลยครับ สเปคเดียวกับ HTC One M8 เด๊ะๆ ความลื่นก็ถอดแบบกันมา ส่วนตัวผมเชื่อว่า HTC One E8 “เล่นได้ทุกเกมที่มี ณ ตอนนี้” และที่เห็นว่ากล้องหลังใช้โมดูลกล้องคนละตัวกับ HTC One M8 แต่ขอบอกว่าลูกเล่นของกล้องแทบไม่ต่างกันเลยครับ กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลของ HTC One E8 ทำได้หมด ไม่ว่าจะเป็นการเข้าโหมดกล้องโดยใช้เวลาเพียง 1 วินาที, โหมดหน้าชัดหลังเบลอ เป็นต้น
ในส่วนของระบบการจัดการพลังงาน HTC One E8 ให้แบตเตอรี่ความจุเท่ากับ HTC One M8 ที่ 2600 mAh พร้อมโหมดประหยัดพลังงานสุดๆ อย่าง Extreme Power Saving ที่สามารถใช้งานมือถือที่แบตเตอรี่เหลือ 10% ได้นานถึง 30 ชั่วโมง (เกทับ Samsung Galaxy S5 กันเห็นๆ) โดย HTC เคลมว่าต่อให้ไม่เปิดโหมดประหยัดพลังงาน HTC One E8 ก็สามารถใช้งานได้หมดวันแน่นอน เผลอๆ แบตจะอึดกว่า HTC One M8 ซะอีก
ส่วนตัวผมมองว่า HTC One E8 นั้นเป็นมือถือทางเลือกตามที่ HTC ได้ตั้งใจไว้ ทางเลือกสำหรับคนที่อยากใช้มือถือแรงๆ แต่ไม่อยากจ่ายเงินในระดับ 20,000 บาทขึ้นไป และยังต้องการดีไซน์กับวัสดุของตัวเครื่องที่ดี เชื่อว่า HTC One E8 ตอบโจทย์ตรงนี้อย่างแน่นอนครับ ส่วนราคาวางขายนั้น HTC One E8 จะวางขายที่ราคา 17,900 ?บาท
สำหรับ Gallery นี้จะเป็นตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลังของ HTC One E8 เปิดโหมด Auto และตั้งค่าดั้งเดิมจากโรงงานครับ