เมื่อวานนี้ (11 สิงหาคม 2558) Asus ได้จัดงานเปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล ZenPad ที่จะมาแทน Asus FonePad กับขุมพลังใหม่ ชิปเซ็ต Intel Atom X3 จาก Intel ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม รองรับการเชื่อมต่อทั้ง 3G และ 4G LTE ทุกรุ่น ในราคาเริ่มต้นเพียง 4,490 บาท งานเปิดตัวดังกล่าวจัดขึ้นที่โรงภาพยนตร์สกาล่าครับ
โดยในงานเปิดตัวนั้น Asus ได้กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ในตระกูล Asus ZenPad ทั้ง 3 รุ่น ได้แก่
Asus ZenPad C หน้าจอ 7.0 นิ้ว ราคา 4,490 บาท
Asus ZenPad 7.0 ราคา 5,990 บาท
และตัวท็อปสุด สเปคแรงสุด Asus ZenPad S 8.0 ราคา 10,900 บาท
จุดเด่นของ Asus ZenPad คือเป็นแท็บเล็ตที่ตอบโจทย์ด้านความบันเทิงเป็นอย่างดี ตามที่ Asus บอกว่าได้ทำการ Research ข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ ว่าใช้แท็บเล็ตของ Asus ในการทำอะไรบ้าง จากนั้นก็พัฒนาผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุด แถมยังอวดอีกว่า ส่วนแบ่งทางการตลาด Tablet Asus โตขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า ในระยะเวลาเพียง 6 เดือนเท่านั้น
จุดเด่นแรกของ Asus ZenPad คือมาพร้อมกับชิปเซ็ต Intel Atom X3 รุ่นแรกในไทย (ZenPad C, ZenPad 7.0) ส่วน Asus ZenPad S 8.0 จะใช้ชิปเซ็ตตัวเดียวกับ Asus Zenfone 2 ZE551ML ซึ่งก็คือ Intel Atom Z3580 Quad Core 2.3 GHz แรงหลุดโลกไปเลย
หน้าจอก็อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยี อย่าง Tru2Life Technology ที่ช่วยให้ภาพคมชัดยิ่งขึ้น
Hands-on ลองจับ Asus ZenPad 7.0 ราคา 5,990 บาท
จริงอยูที่ในงานเปิดตัว Asus ZenPad นั้น Asus โปรโมตแท็บเล็ตด้วยกัน 3 รุ่น แต่ที่มีเครื่องจริงให้เราลองเล่นกันจะมี 3 รุ่นเช่นกัน เพียงแต่ไม่มีตัวท็อปอย่าง Asus ZenPad S 8.0 ให้ลองเล่น (น่าเสียดายมาก) และรุ่นแรกที่เราจะมา Hands-on ให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันก็ได้แก่พี่คนกลางอย่าง Asus ZenPad 7.0 ครับ
Asus ZenPad 7.0 มีขนาดหน้าจอ 7 นิ้ว ทำให้ขนาดตัวเครื่องไม่ได้ใหญ่จนเกินไป ต้องบอกว่าเป็นแท็บเล็ตขนาดมาตรฐานบนโลกแอนดรอยไปแล้วล่ะครับ ขอบจอถือว่าบางพอสมควร จับถือสะดวก น้ำหนักเบา
ด้านบนหน้าจอประกอบไปด้วยกล้องหน้า, ลำโพงหลักของตัวเครื่องครับ
หน้าจอของ Asus ZenPad ถือว่าเป็นหน้าจอความละเอียด HD ที่คมชัดดีทีเดียว เทคโนโลยี Tru2Life น่าจะไม่ใช่แค่ราคาคุยซะแล้ว
ด้านข้างขวาประกอบไปด้วยปุ่ม Power และปุ่มปรับระดับเสียง
ด้านบนประกอบไปด้วยช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร
ด้านล่างเป็นช่องเสียบ Micro USB ครับ
ฝาหลังของ Asus ZenPad 7.0 ออกแบบมาได้สวยงาม มีการเล่น Texture ที่ฝาหลังให้เหมือนกับลายหนัง
มีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แต่ไม่มีแฟลชครับ
ทีเด็ดอย่างหนึงของ Asus ZenPad คือมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมเยอะมาก โดยเฉพาะฝาหลังกับเคสนี่มีให้เลือกใช้กันพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นฝาหลังสีอื่นๆ สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับการแต่งตัวของเราได้ หรือจะเป็นฝาหลังที่ใส่แบตเตอรี่เพิ่มมาให้ สามารถยืดอายุการใช้งานได้เป็น 14 ชั่วโมงเลยทีเดียว
หรือจะเป็น Case ฝาพับที่มีลำโพงแยกในตัว เป็นลำโพงแบบเสียง 5.1 DTS HD แต่เท่าที่ลองฟังผมว่าเฉยๆ อ่ะครับ ไม่ได้ว้าวอะไร
หน้าตาประมาณนี้
แล้วก็สุดท้ายคือเคสกระเป๋า สำหรับคุณสุภาพสตรี ที่ช่วยให้ Asus ZenPad ดูหรูหรายิ่งขึ้น
แต่สิ่งที่แอดมินสงสัยคือ ทำไม Asus ไม่จับมัดรวม Case ไปเลยทีเดียว 555 แต่ก็อย่างว่าอ่ะครับ รวมหมดก้อนเดียวแล้วจะขายอะไรกันล่ะเนอะ 😛
เปรียบเทียบขนาด Asus ZenPad 7.0 กับ Asus ZenPad 8.0
แอดมินไม่เขียนเกี่ยวกับ Asus ZenPad 8.0 ก็แล้วกันครับ เพราะโดยรวมก็เหมือนกับ Asus ZenPad 7.0 นั่นแหละ เอารูปเปรียบเทียบไปแทนก็แล้วกัน
Asus ZenPad 8.0
ปิดท้ายบทความด้วยสิ่งที่ดีงามที่สุดในงานเปิดตัว Asus ZenPad เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2558 ครับ 😀