ข่าวใหญ่ของวงการไอทีเช้าวันนี้ก็คือเรื่องการประกาศเข้าซื้อกิจการ Whatsapp อย่างเป็นทางการของ Facebook โซเชียลเน็ตเวิร์ครายใหญ่ที่ครองใจหลายคนอยู่ในขณะนี้ โดยตั้งเป้าจะยังคงให้ Whatsapp เปิดบริการตามเดิมต่อไป แต่จะมีการร่วมมือการพัฒนาบริการบนอุปกรณ์พกพาให้ยอดเยี่ยมขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อช่วยให้ผู้คนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งดูแล้วลักษณะการทำงานหลังจากนี้น่าจะเป็นรูปแบบเดียวกับ Instagram ที่ถูก Facebook ซื้อไปก่อนหน้านี้ครับ คือยังเปิดให้บริการตามปกติอยู่ตามเดิม
สำหรับการเข้าซื้อกิจการ Whatsapp ครั้งนี้ Facebook ต้องจ่ายเป็นมูลค่ากว่า 1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนย่อยดังนี้
- 1.2 หมื่นล้านเหรียญ จ่ายเพื่อเข้าถือหุ้น Whatsapp
- 4 พันล้านเหรียญ จ่ายเป็นเงินสด
- ส่วนเพิ่มเติมอีก 3 พันล้านเหรียญ จ่ายในรูปแบบหุ้น Facebook ให้กับผู้ก่อตั้งและพนักงานของ Whatsapp
ส่วนสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากการซื้อขายเสร็จสิ้นก็มีดังนี้
- Jam Koum ซีอีโอของ Whatsapp จะเข้าไปเป็นหนึ่งในบอร์ดบริหารของ Facebook ด้วย
- Whatsapp จะยังคงเปิดให้บริการแบบเดิมบนทุกๆ แพลตฟอร์มที่ให้บริการอยู่
- ใน 1 ปีแรกสามารถใช้งาน Whatsapp ได้ฟรี ถ้าต้องการใช้งานต่อ ต้องจ่ายค่าบริการ $0.99 ต่อปี
- Whatsapp จะยังคงไม่มีโฆษณาเช่นเดิม
- การทำงานของ Whatsapp จะยังคงแยกเป็นอิสระ ไม่มีพันธะเกี่ยวข้องกับบริการของ Facebook อย่างที่หลายคนกังวล
- Facebook ตั้งเป้าจะให้มีผู้ใช้งาน Whatsapp กว่า 1 ล้านคนต่อวัน และมีคนใช้บริการรวมกันกว่า 1 พันล้านคน
ทั้งนี้ด้านมูลค่าตัวเงินและหุ้นที่ Facebook ใช้ในการเข้าซื้อ Whatsapp กว่า 1.9 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็มีคนนำไปเปรียบเทียบกับมูลค่าอื่นๆ ที่น่าสนใจก็เช่น
- คิดเป็น 4 เท่ามูลค่าการตลาดของ BlackBerry ในปัจจุบัน
- คิดเป็น 1/3 มูลค่าการตลาดของ Ford
- สูงกว่ามูลค่าการตลาดของ Sony ราว 10%
- คิดเป็น 3/4 มูลค่าการตลาดของสายการบิน Delta
- คิดเป็นเกือบ 1/3 มูลค่าการตลาดของ HP
- สามารถซื้อเรือดำน้ำนิวเคลียร์ได้ 2 ลำ
- คิดเป็น 62% จากมูลค่าการตลาดของ Twitter
- สามารถไปเที่ยวอวกาศกับโครงการ Virgin Galactic ได้ 76,000 รอบ
- คิดเป็น 25 เท่าเมื่อเทียบกับมูลค่าของ Instagram ตอนที่ Facebook เข้าซื้อ
ที่มา: Android Authority, TechCrunch (1), (2), AndroidPolice