จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับกับงาน Apple Spring Loaded Event ซึ่งในครั้งนี้ Apple ก็ได้ทำการเปิดตัวของน่าสนใจออกมาอีกแล้ว โดยเราจะมาสรุปงานเปิดตัว Apple Spring Loaded Event ว่าเปิดตัวอะไรใหม่บ้าง จะเริ่มขายวันไหน และราคาเท่าไร โดยในงานเปิดตัวจะมีอะไรบ้างไปชมกันได้เลย
สรุปงานเปิดตัว Apple Spring Loaded Event
iPhone 12 สีใหม่
เปิดงานมาก็เริ่มกันด้วยการเปิดตัว iPhone 12 สีใหม่กันเลย แต่นอกจากสีแล้วก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากกว่านั้น โดยสีใหม่นี้จะเป็นสี “ม่วง” ซึ่ง Apple ทำการเปิดตัวด้วยชื่อ “Mmmmm, purple” สำหรับใครที่อยากได้นั้น iPhone 12 สีม่วงนี้จะเปิดให้ Pre-Order ในวันที่ 23 เมษายนนี้ และจะเริ่มขายจริงวันที่ 30 เมษายน แน่นอนว่าถึงจะมีสีใหม่ออกมาแต่ราคาก็ยังคงเท่าเดิมอยู่นะ
AirTag อุปกรณ์เสริมช่วยติดตามและค้นหาสิ่งของ
นอกจากจะเปิดตัว iPhone 12 สีใหม่แล้ว ยังมีการเปิดตัว AirTag อุปกรณ์เสริมชิ้นเล็กที่ช่วยเพิ่มความสามารถของแอพ “ค้นหาของฉัน” หรือ “Find My” ให้มากขึ้น โดย AirTag นี้จะช่วยติดตามและค้นหาสิ่งของสำคัญได้ โดยการใช้งานร่วมกับแอพ “ค้นหาของฉัน” โดย AirTag ก็จะอาศัยเครือข่ายค้นหาของฉัน ที่กว้างไกลทั่วโลกเพื่อระบุตำแหน่งสิ่งของที่หายไป และขณะเดียวกันยังมีการเข้ารหัสข้อมูลตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลตำแหน่งที่ตั้งโดยไม่มีการระบุตัวตนอีกด้วย ซึ่ง AirTag มีจำหน่ายในแบบแพ็ค 1 ชิ้น และ 4 ชิ้นในราคา 990 บาท และ 3,990 บาท ตามลำดับ
Apple TV รุ่นใหม่
Apple ทำให้อุปกรณ์ที่ดีที่สุดสำหรับการดูรายการและภาพยนตร์ดียิ่งขึ้นไปอีก ด้วยการเปิดตัวเจเนอเรชั่นถัดไปของ Apple TV 4K พร้อม Apple TV Remote แบบใหม่หมด เทคโนโลยีการปรับสมดุลสีที่ล้ำสมัย และ HDR ที่มีอัตราเฟรมสูงนั้นมอบประสบการณ์ความบันเทิงในบ้านที่ดีที่สุด ซึ่งหัวใจสำคัญของ Apple TV 4K ใหม่ คือ ชิป A12 Bionic ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านกราฟิก การถอดรหัสวิดีโอ และการประมวลผลเสียงอย่างเห็นได้ชัด อีกทั้งยังรองรับการแสดงผลแบบ HDR (High Dynamic Range) ที่มีอัตราเฟรมสูง และวิดีโอ Dolby Vision ทำให้เล่นคอนเทนต์มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วระดับ 60 เฟรมต่อวินาที (fps) ได้นุ่มนวลยิ่งขึ้น และดูสมจริงยิ่งกว่าเดิม
และด้วย Apple TV Remote ที่ออกแบบมาใหม่หมด ทำให้การดูรายการและภาพยนตร์บน Apple TV ง่ายยิ่งกว่าเดิม ด้วยคลิกแพดแบบใหม่ที่ทันสมัย ทำให้สามารถนำทางได้ถึงห้าทิศทางเพื่อความแม่นยำที่ดีกว่า อีกทั้งยังรองรับการสัมผัสสำหรับการปัดเพื่อไปยังทิศทางต่างๆ แบบที่ผู้ใช้ Apple TV ชื่นชอบ สำหรับวันวางขายนั้นยังไม่มีการบอกเล่าใด ๆ ออกมา แต่ทว่าก็ได้ทำการบอกราคาออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดย Apple TV 4K ใหม่จะวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 6,700 บาท, Apple TV HD พร้อม Apple TV Remote ใหม่ จะวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 5,600 บาท, Apple TV Remote ใหม่จะวางจำหน่ายแยกต่างหากในราคา 2,090 บาท และสามารถใช้งานร่วมกับ Apple TV 4K รุ่นก่อนหน้า และ Apple TV HD ได้
iMac 24 นิ้ว 4.5K 7 สี
หนึ่งในจุดเด่นของงานเปิดตัวครั้งนี้ก็คือ iMac รุ่นใหม่ ซึ่งครั้งนี้ได้มีการเปลี่ยนไปใช้ชิปตัวใหม่ พร้อมด้วยการออกแบบใหม่ที่ทำให้เครื่องมีความบางยิ่งกว่าเดิม โดย iMac 2021 นี้จะใช้ชิปประมวลผล Apple M1 ที่เป็นตัวเดียวกับที่ใช้ใน Macbook และด้วยการออกแบบบอร์ดใหม่ ทำให้ตัวเครื่องนั้นมีความบางลงอย่างมากเพียงแค่ 11.5 มม. เท่านั้น และที่แหวกแนวสุด ๆ ก็คือการที่ iMac ปีนี้มาให้เลือกถึง 7 สีแบบเดียวกับ iPhone 12 เลย ซึ่งนอกจากตัวเครื่องที่มีให้เลือกถึง 7 สีแล้ว Magic Keyboard และ Magic mouse เองก็มีถึง 7 สีเช่นกัน (จะได้สีตามสีเครื่อง)
นอกจากนี้ iMac ยังจะมาพร้อมช่อง USB Type-C ทั้งหมด 4 พอร์ต ซึ่ง 2 พอร์ตในนั้นจะเป็นพอร์ตแบบ Thunderbolt และลำโพงตัวเครื่องถึง 6 ตัวที่มีมิติเสียงกว้างโอบล้อมและมีรายละเอียดชัดเจน โดย iMac นี้จะเปิดให้ Pre-Order กันวันที่ 30 เมษายน และจะวางจำหน่ายภายในเดือนพฤษภาคมนี้ในราคาเริ่มต้น 42,900 บาท
iPad Pro รุ่นใหม่ที่มาพร้อมชิป M1
อีกตัวที่เป็นไฮไลท์ของงานเปิดตัวนี้เลยก็คือ iPad Pro นั่นเอง ซึ่ง iPad Pro รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่ทรงพลังและล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยการเปลี่ยนไปใช้ชิปประมวลผล Apple M1 เป็นการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานแบบก้าวกระโดดและทำให้ iPad Pro เป็นอุปกรณ์ที่เร็วที่สุดในบรรดาอุปกรณ์ประเภทเดียวกัน โดย iPad Pro นี้จะมีทั้งหมด 2 ขนาดคือ 11 นิ้ว และ 12.9 นิ้ว
ซึ่งในรุ่น 12.9 นิ้วนั้นมาพร้อมจอภาพ Liquid Retina XDR แบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี mini-LED มีช่วงไดนามิกที่กว้างถึงขีดสุด จึงทำให้สามารถถ่ายทอดประสบการณ์ด้านภาพได้อย่างสวยงามน่าทึ่งพร้อมด้วยรายละเอียดที่สมจริงยิ่งกว่าที่เคยสำหรับเวิร์กโฟลว์ระดับ HDR (ในรุ่น 11 นิ้วเป็นหน้าจอ Liquid Retina) อีกทั้งในรุ่นเซลลูลาร์ยังมาพร้อม 5G ที่จะมอบการเชื่อมต่อแบบไร้สายที่รวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิมให้ และยังมาพร้อมพอร์ต Thunderbolt ที่ช่วยให้ผู้ใช้ระดับโปรเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมความเร็วสูงได้แล้ววันนี้ ที่ยิ่งไปกว่านั้น กล้องหน้าอัลตร้าไวด์แบบใหม่หมดยังมาพร้อมคุณสมบัติ Center Stage ซึ่งเป็นคุณสมบัติใหม่ที่จะช่วยทำให้คุณอยู่ตรงกลางเฟรมโดยอัตโนมัติ เพื่อประสบการณ์การใช้งานวิดีโอคอลที่ดึงดูดและน่าสนใจยิ่งขึ้น
จากการที่เปลี่ยนมาใช้ชิป M1 ทำให้ iPad Pro รุ่นใหม่นี้มี CPU ที่แรงกว่า iPad Pro ปี 2020 ที่ใช้ชิป A12Z ถึง 50% และมี GPU ที่แรงกว่าถึง 40% และเพื่อตอบสนองต่อการใช้งานให้เต็มประสิทธิภาพมากขึ้น iPad Pro จึงมีการเพิ่มความจุให้สูงสุดถึง 2TB ซึ่งในรุ่นความจุ 1TB และ 2TB นั้นจะได้แรมตัวเครื่องมากถึง 16GB เลยทีเดียว โดย iPad Pro ใหม่จะเปิดให้สั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน เป็นต้นไป ส่วนราคานั้น iPad Pro รุ่น 11 นิ้วมีราคาเริ่มต้นที่ 27,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 32,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular และ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้วมีราคาเริ่มต้นที่ 37,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 42,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular
นอกเหนือจากการเปิดตัว iPad Pro แล้วยังมีการเปิดตัว Magic Keyboard สีใหม่อีกด้วย ซึ่งจะวางขายในราคาเดิมคือ 9,990 บาทสำหรับรุ่น 11 นิ้ว และ 11,690 บาท สำหรับรุ่น 12.9 นิ้ว
สรุปงานเปิดตัว Apple Spring Loaded Event ก็มีเพียงเท่านี้ ถึงตอนแรกทางผู้เขียนจะมีคาดหวังว่าจะมีการเปิดตัวมากกว่านี้ แต่ก็คงต้องไปรอลุ่นในงาน WWDC อีกทีแทน แต่ถึงอย่างนั้นในงานเปิดตัวรอบนี้ก็มีของน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย แล้วเพื่อน ๆ มีความสนใจของชิ้นไหนกันบ้าง และอยากให้ Apple เปิดตัวอุปกรณือพไรต่อสามารถมาพูดคุยกันได้นะครับ
