เปรียบเทียบ iPhone 12 กับ Note 20 ตัวท็อปสุดของรุ่น มีจุดเด่นไหนที่แตกต่างกันบ้าง?

สำหรับยี่ห้อมือถือระดับเรือธง ที่เป็นเจ้าใหญ่ๆ อย่าง Samsung และ Apple ก็ได้เปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดออกมาในปีนี้ หลายคนก็ให้ความสนใจ และอยากเปรียบเทียบ iphone 12 กับ note 20 ในตัวท็อปสุดของรุ่น นั่นก็คือ iPhone 12 Pro Max กับ Note 20 Ultra 5G มาดูกันว่าทั้งสองรุ่นนี้ จะมีจุดเด่นตรงไหนที่แตกต่างกันบ้าง

หลังจากการเปิดตัวของ Samsung เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2020 ที่ผ่านมา ก็ได้สร้างความฮือฮาไปไม่น้อย สำหรับสาวกมือถือระบบ Android กับรุ่น Samsung Galaxy Note 20 Series ของทาง Samsung ด้วยสเปคและฟีเจอร์ การทำงานที่ดีมากขึ้นกว่าตัวก่อนหน้า ค่อนข้างเยอะพอสมควร (อ่านต่อ…พรีวิว Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G) และเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2020 ล่าสุดทาง Apple ก็ได้เปิดตัวมือถือสุดเทพในระบบ iOS ในรุ่น iPhone 12 Series (อ่านต่อ…ข้อมูล iPhone 12) ที่ทำออกมาถึง 4 รุ่น แต่เราจะลองมาเปรียบเทียบกันระหว่าง iPhone 12 Pro Max กับ Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G ที่เป็นตัวสูงสุดในซีรีส์แล้ว มาดูกันว่าจะมีข้อดี ข้อเด่นตรงไหนที่ต่างกันบ้าง

เปรียบเทียบ iphone 12 กับ note 20 ตัวท็อปสุดอย่าง iPhone 12 Pro Max และ Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G

ต้องบอกก่อนว่า ที่เราเอามาลองเปรียบเทียบกันนั้น เพื่อให้ได้ตัดสินใจกันดู เผื่อในกรณีที่ว่าคนที่เป็นสาวก Android แล้วอยากลองหันมาเล่น iOS บ้าง หรือสาวก iPhone อยากลองหันไปใช้ Note 20 ของ Android บ้าง ถึงแม้ว่าทั้งสองระบบ และสองรุ่นนี้ จะต่างกันคนละแบบไปเลย ทั้งการใช้งานและรูปแบบต่างๆ แต่ก็ถือว่าเป็นการศึกษาข้อมูลไปในตัวด้วยก็ได้ เอาล่ะ มาดูกันดีกว่า ว่าทั้งสองรุ่นนี้ จะมีอะไรคล้ายกัน หรือแตกต่างกันบ้าง

ความแตกต่างทางด้านการดีไซน์

พูดถึงการดีไซน์ภายนอกของ iphone 12 กับ note 20 นี้ ก็ค่อนข้างแตกต่างกันเยอะอยู่พอสมควร มาเริ่มกันที่ตัวของ Samsung กันก่อนเลย ซึ่งในรุ่น Note 20 Ultra 5G นั้นฝาด้านหลังจะเป็นกระจก ที่ทำจากกระจกแข็ง Gorilla Glass Victus ในสี Mystic Black ให้ความเงา และสะท้อน ซึ่งจะแตกต่างกับสี Mystic Bronze ที่จะเป็นแบบด้าน ส่วนกรอบด้านข้างนั้น จะทำจากสแตนเลสสตีล ส่วนหน้าจอจะทำมากจากกระจกแข็ง Gorilla Glass Victus เช่นกัน ให้ความทนทานที่เรียกได้ว่า เหนือกว่าทุกรุ่นของ Samsung แล้ว ตัวเครื่องนี้จะมาพร้อมกับ S-Pen ที่ฝังอยู่ด้านซ้ายของตัวมือถือ ซึ่งจะต่างจากรุ่นก่อนหน้า ที่อยู่ทางขวามือ และตัวเครื่องนั้นจะเป็นแบบมนๆ ทางด้านข้าง ส่วนด้านหลังกล้องจะค่อนข้างนูนออกมาเยอะเลย เนื่องจากต้องรองรับกับคุณภาพกล้องที่ทำออกมาด้วย

มาทางด้านของ iPhone 12 Pro Max กันบ้าง ที่เปลี่ยนการออกแบบใหม่ทั้งหมด กลับมาเป็นแบบเหลี่ยมทั้งตัวเครื่องเลย พร้อมกับวัสดุที่ทำมาจากสเตเลสสตีลตั้งแต่ด้านข้าง ไปจนถึงฝาหลัง ให้ความเงาและสะท้อนออกมาได้สวยมาก แต่ด้านหลังจะเป็นกระจกผิวด้าน กับสแตนเลสสตีลนะ โดยในรุ่น Pro นี้จะทำออกมา 4 สีคือ เทา, กราไฟต์, ทอง และน้ำเงิน ส่วนหน้าจอจะเคลือบด้วย Ceramic Shield ให้ความทนทานแบบสุดๆ ไปเลย แน่นอนว่ามันแข็งแรงกว่าแบบกระจกด้วย แข็งแรงจนอาจไม่ต้องติดฟิล์มด้วยซ้ำ องค์ประกอบโดยรวมดูแล้ว เหมือนกลับมาใช้ iPhone 4 ใหม่อีกครั้ง ในขนาดที่ใหญ่กว่า และสเปคที่แรงกว่าเยอะ รุ่นนี้กล้องจะนูนออกมาเล็กน้อย ตามแบบมือถือทั่วไป

ตารางเปรียบเทียบดีไซน์ภายนอกของ iPhone 12 Pro Max และ Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G

หน้าจอที่โดดเด่นทั้งสองรุ่น

ทางด้านหน้าจอของ iphone 12 กับ note 20 ตัว Galaxy Note 20 Ultra นั้นจะเป็นแบบ Dynamic AMOLED 2X แสดงผลแบบ HDR10+ แสดงผลสีได้ 16 ล้านสี และ Refresh Rate 120Hz ที่ช่วยให้หน้าจอลื่นไหล สว่างขึ้น และสมจริงมากกว่าเดิม มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 6.9 นิ้ว ถือว่าใหญ่มาก จะดูหนัง หรือเล่นเกมก็ทำงานได้อย่างสบายๆ  ตอบโจทย์การใช้งานคู่กับ S-Pen ได้เป็นอย่างดี ปลดล็อคหน้าจอด้วยลายนิ้วมือ หรือสแกนหน้าได้หมด น้ำหนักตัวเครื่อง 208 กรัม

ส่วน iPhone 12 Pro Max นั้น จะเป็นหน้าจอแบบ Super Retina XDR display OLED ที่ให้ความสว่างมากกว่าเดิม และให้สีดำที่ดำมากขึ้นด้วย ในหน้าจอนี้ ซึ่งความลื่นของหน้าจออาจจะยังไม่เท่า 120Hz แต่ด้วยหน้าจอที่ทำออกมาใหม่ ก็ช่วยให้เล่นได้ดีระดับนึงแล้วแหละ รุ่นนี้มาพร้อมกับชนาดความกว้าง 6.7 นิ้ว ก็ถือว่าใหญ่อยู่เหมือนกัน ดูหนัง เล่นเกมได้เหมือนกัน ส่วนการปลดล็อคนั้น จะใช้ Face ID ในการปลดล็อคหน้าจอ น้ำหนักตัวเครื่อง 228 กรัม

ตารางเปรียบเทียบหน้าจอของ iPhone 12 Pro Max และ Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G

ชิปเซตตัวแรงจากคนละขั้ว

ชิปเซ็ตที่ไม่ธรรมดาจากทั้งสองตัวอย่าง iphone 12 กับ note 20 นี้ทั้ง iphone 12 กับ note 20 ก็มีความแรงที่ต่างกันไปคนละแบบ โดยของตัว Galaxy Note 20 Ultra 5G นั้นจะใช้ชิปเซ็ต Exynos 990 ที่สถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตร กับ GPU เป็น Adreno 650 ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความเร็ว และทำให้เครื่องนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วน RAM กับ ROM จะมีมาให้เลือก 2 แบบคือ RAM 12GB และ ROM 256GB /512GB กันน้ำได้ในระดับ 1.5 เมตร นาน 30 นาที

ส่วนในตัว iPhone 12 Pro Max ก็ได้ใส่ชิปตัวเทพที่เพิ่งเปิดตัวออกมาคือ A14 Bionic ที่เป็นสถาปัตยกรรมเพียง 5 นาโนเมตร เล็กที่สุดเท่าที่เคยมีมาแล้ว กับ Apple GPU กราฟิก 4-core ที่ทำให้เครื่องนี้เร็ว และแรงเป็นอย่างมาก ประหยัดแบตด้วย ส่วน RAM นั้นยังไม่ได้เป็นที่แน่นอนว่าเท่าไหร่ แต่คาดว่าน่าจะ 6GB พร้อมกับ ROM 128GB/ 256GB และ 512GB กันน้ำได้ในระดับ 6 เมตร นาน 30 นาที ซึ่งชิปทั้งสองตัวนี้ ได้มีคนเทสผ่าน AnTuTu BenchMark 8 แล้ว ปรากฏว่าชิป A14 นั้นทำงานได้ดีกว่า ทั้งการเล่นเกม การประหยัดแบต และการใช้งานทั่วไป

ตารางเปรียบเทียบชิปเซ็ตของ iPhone 12 Pro Max และ Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G

กล้องที่เหนือกว่าใครในรุ่น

มาถึงเรื่องกล้องของ iphone 12 กับ note 20 กันบ้าง ที่เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ซึ่งในรุ่นตัวสูงๆ ในซีรีส์ ก็มักจะมีความแตกต่างกันที่กล้องนี่แหละ โดยกล้องหลังของตัว Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G นั้น จะเป็นกล้อง 3 ตัว ที่ความละเอียด 108MP ขนาดรูรับแสง f/1.8 ที่เลนส์ไวลด์ 12MP ขนาดรูรับแสง f/3.0 เลนส์เทเลโฟโต้ และ 12MP ขนาดรูรับแสง f/2.2 ของเลนส์อัลตร้าไวลด์ มาพร้อมกับ Laser Autofocus และ LED flash ถ่ายวิดีโอได้สูงสุดถึง 8K ส่วนกล้องหน้าจะมีความละเอียดอยู่ 10MP ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K

ส่วนกล้องหลังของ iPhone 12 Pro Max จะเป็นกล้อง 3 ตัวเหมือนกัน แต่ความละเอียดของกล้อง iPhone 12 Pro Max นั้นจะเท่ากันหมดที่ 12MP ต่างกันที่ขนาดรู้รับแสงในเลนส์ไวลด์จะมีขนาด f/1.6 เลนส์เทเลโฟโต้มีขนาด f/2.2 และอัลตร้าไวลด์ที่ขนาด f/2.4 นอกจากนั้นในรุ่นนี้ ยังมีเซ็นเซอร์กันสั่นนอกเลนส์ด้วย เพิ่มความโปรไปอีกขั้นกับ TOF 3D LiDAR scanner ที่ช่วยให้การถ่ายทั้งกลางวัน และกลางคืน มีรายละเอียดมากขึ้น ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K ส่วนในกล้องหน้าจะเป็น TrueDepth 12MP ถ่ายวิดีโอได้สูงสุด 4K (อ่านต่อ…รายละเอียดกล้อง iPhone 12)

จากการทดลองถ่ายเทียบกันโดย cnet พบว่ากล้องของ iPhone 12 Pro Max นั้นถ่ายได้คมกว่า แต่ถ้าซูมในระดับ 10X ของ Note20 Ultra จะชัดกว่า

ตารางเปรียบเทียบกล้องของ iPhone 12 Pro Max และ Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G

แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน

ในส่วนของแบตเตอรี่ของ iphone 12 กับ note 20 นั้น ของทาง iPhone 12 Pro Max จะยังไม่เป็นที่แน่ชัด ว่ามีความจุอยู่กี่ mAh ต้องรอคนแกะออกมาดูก่อน แต่รองรับ Fast Charge สูงสุด 20W ส่วน Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G จะมีความจุของแบตอยู่ที่ 4,500 mAh รองรับ Fast Charging สูงสุด 25W

ตารางเปรียบเทียบแบตของ iPhone 12 Pro Max และ Samsung Galaxy Note 20 Ultra 5G

ราคาเครื่องของ iPhone 12 Pro Max และ Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G

ราคาของ Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G จะมีราคาเปิดตัวแบ่งได้ ดังนี้

• Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G RAM 12GB + ROM 256GB ราคา 42,900 บาท
• Samsung Galaxy Note20 Ultra 5G RAM 12GB + ROM 512GB ราคา 46,900 บาท

ราคาของ iPhone 12 Pro Max จะมีราคาประมาณก่อนเข้าไทย ดังนี้

• 128GB ราคา $1099 ตีเป็นเงินไทยประมาณ 39,900 บาท
• 256GB ราคา $1199 ตีเป็นเงินไทยประมาณ 44,900 บาท
• 512GB ราคา $1399 ตีเป็นเงินไทยประมาณ 51,900 บาท

สรุป

ทั้งหมดนี้ก็เป็นการเปรียบเทียบ ข้อมูลระหว่าง iphone 12 กับ note 20 ในตัวท็อปสุดของรุ่น อย่างแรกเลยคือ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของการใช้งานด้วย ถ้าหากเป็นสาวก Android แต่ต้องการย้ายมาลองใช้ iOS จะใช้ตัว Pro Max ไปเลยก็คุ้มค่าทุกการใช้งาน ทั้งกล้องที่ทำออกมาดีมาก ทั้งชิปประมวลผลที่เร็วจัด จะสูสีก็ตรงกล้องหลัง หรือหากใครที่ใช้ iOS อยู่จะย้ายมาทาง Samsung บ้างจะใช้เป็นตัว Note20 Ultra 5G ก็ได้ความคุ้มค่าเหมือนกัน ซึ่งหากใครที่ชอบจดบันทึก และอยากใช้ปากกาด้วย จะเลือกใช้ Note20 Ultra 5G ก็ทำได้นะ มีอแดปเตอร์แถมมาให้ด้วยนะ แล้วถ้ามีเรื่องที่น่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ