หลังจากที่ Xiaomi ได้ทำการเปิดตัว Xiaomi Mi 10 Lite ไปเมื่อไม่กี่วันก่อนรวมถึงเปิดตัวมือถือตัวคุ้มอย่าง Redmi Note 10 Pro ไปเมื่อต้นเดือนมีนาคม วันนี้เราก็เลยจะมาทำการเปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท ที่เปิดตัวมาในปี 2564 นี้ให้เพื่อน ๆ ได้เห็นว่าสเปคที่ได้จะต่างกันแค่ไหน และตัวไหนน่าซื้อที่สุดในตอนนี้
- เปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน#table 10000 บาท
- สรุปมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวไหนคุ้มน่าโดนที่สุด
- รายละเอียดมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท รุ่นใหม่ล่าสุด
เปรียบเทียบมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท
OPPO A94 | POCO X3 Pro | Samsung Galaxy A32 4G | Xiaomi Mi 11 Lite | Redmi Note 10 Pro | vivo Y72 5G | |
---|---|---|---|---|---|---|
ขนาด | 160.10 x 73.20 x 7.80 มม. | 165.30 x 76.80 x 9.40 มม. | 158.90 x 73.60 x 8.40 มม. | 160.50 x 75.70 x 6.80 มม. | 164.00 x 76.50 x 8.10 มม. | 164.00 x 75.30 x 8.50 มม. |
น้ำหนัก | 172 กรัม | 215 กรัม | 184 กรัม | 157 กรัม | 193 กรัม | 193 กรัม |
หน้าจอ | AMOLED ขนาด 6.43 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล | IPS LCD ขนาด 6.58 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz | Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 90Hz | AMOLED ขนาด 6.55 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 90Hz 1B Colors | AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว 2400 x 1080 พิกเซล อัตรารีเฟรช 120Hz | IPS LCD ขนาด 6.58 นิ้ว 2408 x 1080 พิกเซล |
ชิปประมวลผล | MediaTek Helio P95 | Qualcomm Snapdragon 860 | MediaTek Helio G80 | Qualcomm Snapdragon 732G | Qualcomm Snapdragon 732G | MediaTek Dimensity 700 5G |
แรม | 8 GB | 8 GB | 8 GB | 6 GB | 8 GB | 8 GB |
หน่วยความจำ | 128 GB | 256 GB | 128 GB | 128 GB | 128 GB | 128 GB |
กล้องหลัง | 48 MP f/1.7 (wide) 8 MP f/2.2 (ultrawide) 2 MP f/2.4 (macro) 2 MP f/2.4 (depth) | 48 MP f/1.8 (wide) 8 MP f/2.2 (ultrawide) 5 MP f/2.4 (macro) | 64 MP f/1.8 (wide) 8 MP f/2.2 (ultrawide) 5 MP f/2.4 (macro) 5 MP f/2.4 (depth) | 64 MP f/1.8 (wide) 8 MP f/2.2 (ultrawide) 5 MP f/2.4 (telemacro) | 108 MP f/1.9 (wide) 8 MP f/2.2 (ultrawide) 5 MP f/2.4 (telemacro) 2 MP f/2.4 (depth) | 64 MP f/1.8 (wide) 8 MP f/2.2 (ultrawide) 2 MP f/2.4 (macro) |
กล้องหน้า | 32 MP f/2.4 | 20 MP f/2.5 | 20 MP f/2.2 | 16 MP f/2.5 | 16 MP f/2.5 | 16 MP f/2.0 |
แบตเตอรี่ | 4,310 mAh ชาร์เร็ว 30W | 5,160 mAh ชาร์เร็ว 33W | 5,000 mAh ชาร์เร็ว 15W | 4,250 mAh ชาร์เร็ว 33W | 5,020 mAh ชาร์เร็ว 33W | 5,000 mAh ชาร์เร็ว 18W |
ราคา | 9,499 บาท | 8,999 บาท | 8,499 บาท | 8,999 บาท | 8,999 บาท | 9,999 บาท |
หน้าจอ
ในด้านของหน้าจอแสดงผลนั้นจากในตารางจะมีทั้ง IPS-LCD, AMOLED และ Super AMOLED ซึ่งถ้าให้เทียบกันจริง ๆ หน้าจอแบบ Super AMOLED จะแสดงสีสันได้ความสดและคมชัดกว่าหน้าจอแบบอื่น ๆ ทำให้มันเป็นหน้าจอที่ดีที่สุดในช่วงเรทราคานี้แล้ว ส่งผลให้ Galaxy A32 4G เป็นตัวที่มีหน้าจอสวยที่สุดในบทความนี้เลย
ส่วนหน้าจอ IPS-LCD นั้นในที่นี้เราอาจจะไม่สามารถนิยามได้ว่ามันคือหน้าจอที่ห่วยที่สุด เนื่องจากหน้าจอ IPS-LCD นั้นมีหลายเกรดและหลายผู้ผลิตมาก ๆ ไม่เหมือนหน้าจอ AMOLED ที่ Samsung เป็นผู้ผลิต ทำให้เราอาจจะต้องมาดูกันที่คุณภาพจริง ๆ ของหน้าจอด้วย ซึ่งตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วที่ Xiaomi มักจะเอาหน้าจอ IPS-LCD มาใส่ในมือถือของตัวเองที่ราคาไม่แพง ถึงอย่างนั้นจากที่ได้เห็นหลาย ๆ รุ่นมา หน้าจอ IPS-LCD ที่ Xiaomi เอามาใช้นั้นก็มักจะเป็นหน้าจอเกรดสูงที่แสดงผลแทบจะไม่ต่างจากหน้าจอ AMOLED มากนัก ทำให้สามารถบอกได้ว่าหน้าจอ IPS ของ POCO X3 Pro นั้นสามารถแสดงผลได้เทียบเคียงกับหน้าจอ AMOLED ของตัวอื่น ๆ เลย
แต่สิ่งที่จะตัดสินเรื่องหน้าจอนอกเหนือจากเรื่องประเภทของหน้าจอแล้วยังมีเรื่องฟีเจอร์อื่น ๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยทั้งอัตราการรีเฟรชรวมไปถึงการแสดงสีที่ตัวจอสามารถทำได้ด้วย ซึ่งในที่นี้การแสดงสีนั้น Xiaomi Mi 11 Lite จะกินขาดไปเลยเนื่องจากใช้หน้าจอแบบเดียวกับ Mi 11 ที่เป็นรุ่นเรือธง ทำให้สามารถแสดงผลได้พึงพันล้านสี ในขณะที่เครื่องอื่น ๆ แสดงผลได้แค่ 16 ล้านสีเท่านั้น
อีกส่วนหนึ่งก็คือค่าอัตรารีเฟรช ซึ่งมือถือในปัจจุบันหากทำออกมาเป็นมือถือเน้นเล่นเกมแล้วอย่างน้อยต้องได้อัตรารีเฟรชที่ 90Hz กันทุกเครื่องแน่นอน แต่ทว่าในปัจจุบันนี้ POCO มักจะออกมาให้เหนือกว่าใคร โดยการใส่หน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 120Hz เข้ามาในมือถือของตัวเอง ซึ่งหลังจากนั้น Xiaomi ก็ได้ทำการใส่หน้าจอ 120Hz ให้กับ Redmi Note 10 Pro ตามมา ซึ่งนี้จะส่งผลให้หลังจากนี้จะมีหน้าจอ 120Hz ในมือถือราคาต่ำกว่าหมื่นมากขึ้นแน่นอน
ชิปประมวลผล
ในเรื่องของชิปประมวลผลนั้นในที่นี้มีทั้งชิปประมวลผลจาก Qualcomm และ MediaTek ซึ่งของทาง Qualcomm นั้นจะมาด้วยชิป Snapdragon ที่เน้นไปที่ด้านความแรงเพื่อการเล่นเกม ส่วนชิปของทาง MediaTek ในบทความนี้มีครบทุกรูปแบบเลยทั้งชิป 5G, ชิปเล่นเกม และชิปเน้นความคุ้มค่า
ซึ่งในที่นี้หากถามว่าตัวไหนดีสุดอันนี้จะขอฟันธงลงไปแบบชัด ๆ เลยว่า ชิป Snapdragon 860 ใน POCO X3 Pro นั้นคือตัวที่แรงที่สุดแล้ว เนื่องจาก Snapdragon 860 นั้นถ้าจะว่าไปก็คือการเอาชิป Snapdragon 855+ ไปทำการเพิ่มความเร็วขึ้นนั่นเอง ทำให้พลังในการประมวลผลต่าง ๆ เพิ่มมากยิ่งขึ้นด้วย ส่วนชิป Snapdragon 732G ที่อยู่ใน Xiaomi ทั้ง 2 เครื่องนั้นก็จัดได้ว่ามีความแรงมากพอที่จะเล่นเกมโหด ๆ ได้เช่นกัน ถึงแม้จะแรงไม่เท่า Snapdragon 860 ก็ตาม
ทางด้านรุ่นที่ใช้ชิป MediaTek นั้นใน vivo Y72 5G ที่ใช้ชิป Dimensity 700 5G นั้นต้องบอกเลยว่าเพราะเป็นชิป 5G ที่เน้นความประหยัดและราคาถูกทำให้การใช้งานอาจจะยังดึกประสิทธิภาพออกมาได้ไม่เต็มที่เท่าไร แต่หากต้องการใช้ 5G แล้วมันก็คือตัวเลือกเดียวที่จะเลือกได้จริง ๆ ส่วนชิป Helio G80 ที่อยุ่ใน Galaxy A32 4G นั้นถึงแม้จะไม่ใช่รุ่นสูงสุดก็ตาม แต่ในเรื่องการเล่นเกมนั้นก็สามารถปรับสุดได้เกือบ เล่นลื่น ๆ ได้เกือบทุกเกมเช่นกัน แต่สำหรับ Helio P65 ใน OPPO A94 นั้นเนื่องจากเป็นเครื่องที่เน้นไปที่ด้านการถ่ายภาพทำให้ไม่ได้ใส่ชิปเพื่อการเล่นเกมเข้ามา อาจจะทำให้พูดได้ว่าประสิทธิภาพนั้นด้อยกส่าเครื่องอื่น ๆ แต่ทว่าตัว Helio P65 นั้นใช้งานร่วมกับ NPU ทำให้สามารถประมวลผลภาพแบบโหด ๆ ได้เหมือนกัน แถมยังประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าอีกด้วย
กล้องถ่ายรูป
ในส่วนของการถ่ายภาพนั้นหากมองแค่ที่ความละเอียดนั้นในมือถือทั้งหมดนี้คือไม่มีใครสู้ Redmi Note 10 Pro ได้เลย ด้วยความละเอียดของกล้องหลักที่มีมากถึง 108MP เลยทีเดียว แต่ทว่าในด้านการใช้งานจริง ๆ แล้วก็ใช่ว่าความละเอียดเยอะ ๆ จะดีเสมอไป การที่จะตัดสินเรื่องกล้องถ่ายภาพนั้นโดยหลักแล้วจะอยู่ที่โทนสีของกล้องที่ถ่ายออกมาได้ว่าถูกใจคนใช้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากว่ากันในด้านโทนสีแล้วหลังจากถ่ายภาพนั้นมือถือในยุคหลัง ๆ มนี้จะใช้ AI ช่วยในการแต่งภาพ แต่ด้วยการสร้าง AI มาไม่เหมือนกันทำให้โทนสีของรูปมีความแตกต่างกัน
ซึ่งในที่นี้มือถือของ Xiaomi นั้นจะได้รูปภาพมาในโทนเรียบ ๆ ให้เอาไปใช้ตกแต่งเพิ่มเติม ทำให้หลาย ๆ คนที่ไม่มีความสามารถในการแต่งรูปหรือคนที่ต้องการเอารูปไปใช้เลยทันทีนั้นไม่ค่อยโอเคกับรูปที่ได้เท่าไร ส่วนทาง Samsung นั้นภาพที่ได้จะได้รับการแต่งเติมมาเบ็ดเสร็จสามารถเอาไปใช้ได้เลย ทำให้หลาย ๆ คนมักเลือกมือถือ Samsung กันมาก OPPO เองก็เช่นกัน เป็นหนึ่งในยี่ห้อที่คนเลือกเยอะเช่นกันด้วย AI ที่สามารถปรับแต่งได้อย่างชาญฉลาด รวมถึงความสามารถในการปรับแต่ภาพก่อนการถ่าย ช่วยประหยัดเวลาให้คนใช้ได้เยอะเลย
แต่ถ้าให้พูดถึงความหลากหลายของการใช้งานกล้องจากเลนสืที่ให้ติดเครื่องมาแล้วตอนนี้ Xiaomi Mi 11 และ Redmi Note 10 Pro จะครอบคลุมมากกว่าด้วยเลนส์ Telemacro ที่สามารถใช้เป็นกล้องซูมก็ได้หรือจะใช้เป็นกล้องมาโครก็ได้ ช่วยเพิ่มความหลากหลายให้ได้มากยิ่งขึ้น ไม่จำเป็นต้องไปพึ่งอุปกรณ์เสริมเลยด้วย
แบตเตอรี่และระบบชาร์จเร็ว
สำหรับเรื่องของแบตเตอรี่นั้นทุกเครื่องมาพร้อมระบบชาร์จเร็วเหมือนกันทั้งหมด แต่ถึงอย่างนั้นในส่วนของกำลังไฟที่ใช้ชาร์จนั้นทาง Samsung Galaxy A32 4G และ vivo Y72 5G จะมีกำลังไฟที่น้อยกว่าเครื่องอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด ซึ่งตรงนี้จะส่งผลให้ต้องใช้เวลาในการชาร์จมากกว่า ซึ่งในที่นี้หากถามว่ารุ่นไหนชาร์จได้เร็วสุดแล้วก็สามารถบอกได้เลยว่า Xiaomi Mi 11 Lite จะใช้เวลาชาร์จได้น้อยที่สุด อันเนื่องมาจากมีปริมาณแบตเตอรี่ที่น้อยที่สุดอีกด้วย แต่ถึงอย่างนั้นทั้งระยะเวลาในการใช้งานและระยะเวลาในการชาร์จนั้นมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลนอกเหนือไปจากขนาดของแบตเตอรี่และกำลังไฟที่ใช้ชาร์จด้วย โดยทั้งหมดนั้นจะขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานเป็นหลักด้วย ดังนั้นในเรื่องแบตเตอรี่แล้วตัวที่ดูเข้าท่าสุดจะเป็น POCO X3 Pro ที่ให้แบตเตอรี่มาเยอะสุดถึง 5,160 mAh พร้อมด้วยชาร์จเร็วขนาด 33W
สรุปมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท รุ่นใหม่ล่าสุด ตัวไหนคุ้มน่าโดนที่สุด
จากการเปรียบเทียบมือถือทั้ง 6 เครื่องแล้วคงไม่สามารถตัดสินแบบชี้ขาดลงไปได้ว่าตัวไหนดีกว่าเนื่องจากแต่ละเครื่องก็มีข้อดีเป็นของตัวเอง โดยตัวที่เหมาะกับการเอาไปเล่นเกมที่สุดตามความเห็นของผู้เขียนก็คือ POCO X3 Pro ที่ใช้ชิปประมวลผลระดับเรือธงพร้อมด้วยแบตเตอรี่ที่เยอะที่สุด และหน้าจอแบบ 120Hz ช่วยให้การเล่นเกมทำได้ไหลลื่นขึ้นแน่นอน แต่หากต้องการมือถือเบา ๆ แล้ว Xiaomi Mi 11 Lite คือตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว เนื่องจากในปัจจุบันคงหามือถือที่มีน้ำหนักเพียงแค่ 157 กรัมไม่ได้อีกแล้ว
สำหรับเครื่องอื่น ๆ นั้นใช่ว่าจะไม่ดี เพียงแต่มันยังไม่สุดเท่า 2 เครื่องที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ ทว่าท้ายที่สุดยังไงทุกอย่างก็ขึ้นกับตัวเพื่อน ๆ ที่เป็นผู้ซื้อเอง เนื่องจากคนเรานั้นมีความชอบที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง
รายละเอียดมือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท รุ่นใหม่ล่าสุด
1. OPPO A94
OPPO A94 มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท รุ่นใหม่ล่าสุดของ OPPO ในซีรี่ส์ A ที่ออกมาโดยเน้นไปที่ความเบาบางและคุ้มค่าเป็นหลัก โดยมีจุดเด่นเป็นเรื่องของกล้องถ่ายภาพมากกว่าเน้นเล่นเกมตามแบบสมัยนิยม แต่ก็ยังมาพร้อมระบบชาร์จเร็วที่เป็นเอกลักษณ์ของ OPPO อีกด้วย
โดยในด้านสเปคนั้น OPPO A94 นั้นมาพร้อมหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.43 นิ้วที่มีความละเอียดระดับ Full-HD+ ใช้ชิปประมวลผลเป็น MediaTek Helio P95 ที่เป็นชิปที่เน้นความคุ้มค่าเป็นหลัก มาพร้อมแรมขนาด 8GB และมีหน่วยความจำขนาด 128GB มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 48MP, เลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8MP, เลนส์ Macro ความละเอียด 2MP และเลนส์ Depth ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่นั้นมาพร้อมความละเอียดที่มากถึง 32MP ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นมีขนาด 4,310 mAh พร้อมด้วยระบบชาร์จเร็ว VOOC 4.0 ขนาด 30W ที่ใช้เวลาชาร์จจาก 0% ให้เต็ม 100% ในไม่ถึงชั่วโมง
ราคา : 9,499 บาท
หน้าสเปคเต็ม / รีวิว
2. Poco F3 Pro (8+256GB)
Poco F3 Pro มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท รุ่นใหม่ล่าสุดของ POCO ที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ อัดสเปคมาให้แบบจัดเต็มซะเหมือนเป็นเครื่องระดับเรือธงเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ 120Hz, ชิป Snapdragon 860 และความจุขนาด 256GB ที่มักจะเจอในมือถือราคาเกิน 10,000 บาททั้งนั้น
โดยในด้านสเปคนั้น Poco F3 Pro นั้นมาพร้อมหน้าจอแบบ IPS_LCD ขนาด 6.58 นิ้วที่มีความละเอียดระดับ Full-HD+ และมีอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 120Hz ใช้ชิปประมวลผลเป็น Qualcomm Snapdragon 860 ที่เอาชิป Snapdragon 855+ มาเพิ่มความแรง มาพร้อมแรมขนาด 8GB และมีหน่วยความจำขนาด 256GB มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 48MP, เลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 5MP ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่นั้นมาพร้อมความละเอียด 20MP ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นมีขนาดใหญ่ถึง 5,160 mAh พร้อมด้วยระบบชาร์จเร็วขนาด 33W
ราคา : 8,999 บาท
3. Samsung Galaxy A32 4G
Samsung Galaxy A32 4G มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท รุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung ที่ออกมาเพื่อแฟน ๆ ที่ชื่นชอบการเล่นเกมเป็นหลัก แต่อยากได้มือถือในราคาที่ไม่แพงมากนัก ด้วยหน้าจอและชิืปประมวลผลที่เป็นแบบสำหรับการเล่นเกมทำให้เป็๋นหนึ่งในตัวที่ค่อนข้างน่าสนใจในปี 2564 เลย
โดยในด้านสเปคนั้น Galaxy A32 4G นั้นมาพร้อมหน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้วที่มีความละเอียดระดับ Full-HD+ และมีอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 90Hz ใช้ชิปประมวลผลเป็น MediaTek Helio G80 ที่เอาชิปสำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะ มาพร้อมแรมขนาด 8GB และมีหน่วยความจำขนาด 128GB มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 64MP, เลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8MP, เลนส์ Macro ความละเอียด 5MP และเลนส์ Depth ความละเอียด 5MP ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่นั้นมาพร้อมความละเอียด 20MP ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นมีขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh พร้อมด้วยระบบชาร์จเร็วขนาด 15W ซึ่งตัวชาร์จเร็วนี้แหละที่เป็นจุดสังเกตของเครื่องนี้เลยก็ว่าได้
ราคา : 8,499 บาท
4. Xiaomi Mi 11 Lite
Xiaomi Mi 11 Lite มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท รุ่นใหม่ล่าสุดของ Xiaomi ที่เป็นน้องเล็กในตระกูล Mi 11 ซึ่งทั้งการดีไซน์และสเปคบางส่วนนั้นลอกแบบมาจาก Mi 11 ตรง ๆ เลย ทั้งดีไซน์ตัวเครื่อง, หน้าจอ, และน้ำหนักเครื่องที่เน้นความเบาเป็นพิเศษเพียง 157 กรัมเท่านั้น
โดยในด้านสเปคนั้น Mi 11 Lite นั้นมาพร้อมหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.55 นิ้วที่มีความละเอียดระดับ Full-HD+ มีอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 90Hz และรองรับการแสดงผลที่มากถึงพันล้านสีเลยทีเดียว ใช้ชิปประมวลผลเป็น Qualcomm Snapdragon 732G มาพร้อมแรมขนาด 6GB และมีหน่วยความจำขนาด 128GB มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 64MP, เลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8MP และเลนส์ Tele-Macro ความละเอียด 5MP ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่นั้นมาพร้อมความละเอียดที่มากถึง 16MP ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นมีขนาดใหญ่ถึง 4,250 mAh พร้อมด้วยระบบชาร์จเร็วขนาด 33W
ราคา : 8,999 บาท
5. Redmi Note 10 Pro (8+128GB)
Redmi Note 10 Pro มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท รุ่นใหม่ล่าสุดของ Xiaomi ในตระกูล Redmi ที่เน้นความคุ้มค่าด้วยสเปคที่แรงจัด ๆ ในราคาที่ไม่แพง เน้นให้จับต้องได้ง่าย ทำให้มักเป็นที่นิยมของหลาย ๆ คนที่ชื่นชอบมือถือคุ้ม ๆ เป็นที่สุด
โดยในด้านสเปคนั้น Redmi Note 10 Pro นั้นมาพร้อมหน้าจอแบบ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้วที่มีความละเอียดระดับ Full-HD+ และมีอัตรารีเฟรชที่สูงถึง 120Hz ใช้ชิปประมวลผลเป็น Qualcomm Snapdragon 732G มาพร้อมแรมขนาด 8GB และมีหน่วยความจำขนาด 128GB มาพร้อมกล้องหลัง 4 เลนส์ที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียดสูง 108MP, เลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8MP, เลนส์ Tele-Macro ความละเอียด 5MP และเลนส์ Depth ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่นั้นมาพร้อมความละเอียด 16MP ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นมีขนาดใหญ่ถึง 5,020 mAh พร้อมด้วยระบบชาร์จเร็วขนาด 33W
ราคา : 8,999 บาท
6. vivo Y72 5G
vivo Y72 5G มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท รุ่นใหม่ล่าสุดของ vivo ที่รองรับ 5G ได้ โดยนอกจากจะรองรับ 5G ได้ในราคาที่ถูกที่สุดของ vivo แล้วยังมีดีไซน์ที่โดดเด่น และแบตเตอรี่ที่ใหญ่ถึง 5,000 mAh อีกด้วย
โดยในด้านสเปคนั้น Y72 5G นั้นมาพร้อมหน้าจอแบบ IPS_LCD ขนาด 6.58 นิ้วที่มีความละเอียดระดับ Full-HD+ ใช้ชิปประมวลผลเป็น MediaTek Dimensity 700 5G ที่เป็นชิป 5G ที่ถูกที่สุดในตลาดตอนนี้แล้ว มาพร้อมแรมขนาด 8GB และมีหน่วยความจำขนาด 128GB มาพร้อมกล้องหลัง 3 เลนส์ที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 64MP, เลนส์ Ultrawide ความละเอียด 8MP และเลนส์ Macro ความละเอียด 2MP ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่นั้นมาพร้อมความละเอียด 16MP ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นมีขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh พร้อมด้วยระบบชาร์จเร็วขนาด 18W ที่เป็นหนึ่งในจุดสังเกตของเครื่องนี้
ราคา : 9,999 บาท