เปรียบเทียบ iPhone SE 4 vs Samsung Galaxy S24 FE มือถือตัวประหยัดรุ่นกลางสเปคต่างกันแค่ไหน ซื้อรุ่นไหนดีในปี 2025

เปรียบเทียบ iPhone SE 4 vs Samsung Galaxy S24 FE มือถือตัวประหยัดรุ่นกลางสเปคต่างกันแค่ไหน ซื้อรุ่นไหนดีในปี 2025

สำหรับคนที่มองหามือถือรุ่นกลางตัวประหยัดระหว่าง 2 แบรนด์ใหญ่ นั่นก็คือ iPhone SE 4 รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว และ Samsung Galaxy S24 FE รุ่นพิเศษสำหรับแฟนๆ ที่ทั้งสองตัวเลือกนี้น่าสนใจมากในปี 2025 นี้ โดยทั้งสองรุ่นต่างเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางของแต่ละค่าย หากใครที่กำลังลังเลระหว่างสองรุ่นนี้ ต้องบอกว่าแต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน พร้อมความโดดเด่นและฟีเจอร์ที่ต่างกันด้วย วันนี้ทาง Specphone จะมาลองเปรียบเทียบให้ว่า iPhone SE 4 vs Samsung Galaxy S24 FE สองรุ่นนี้มีสเปคต่างกันแค่ไหน และจะซื้อรุ่นไหนดีให้เหมาะกับการใช้งานมากที่สุดในปี 2025

**สเปคของ iPhone SE 4 ใช้สเปคอ้างอิงจากข่าวลือเท่านั้น ยังไม่ใช่สเปคอย่างเป็นทางการ**

ตารางเปรียบเทียบ iPhone SE 4 vs Samsung Galaxy S24 FE (จากข่าวลือ)

เปรียบเทียบสเปค iPhone SE 4 vs Samsung Galaxy S24 FE (สเปคจากข่าวลือ)

เริ่มกันด้วยการเปรียบเทียบ iPhone SE 4 vs Samsung Galaxy S24 FE กันทีดีไซน์ตัวเครื่องกันก่อนเลย ที่รุ่นใหม่อย่าง iPhone SE 4 นั้นมีการเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ให้มีขอบแบนและตัดปุ่ม Touch ID ออกเพื่อใช้ Face ID แทน ทำให้มีพื้นที่หน้าจอเยอะขึ้น พร้อมกับโมดูลกล้องหลังนูนขึ้นมาเพียงตัวเดียว ซึ่งจะต่างกับ Galaxy S24 FE ที่รุ่นนี้จะมีโมดูลกล้องแบบฝัง 3 ตัวที่ด้านหลัง มีขอบแบนเหมือนกัน แต่ว่ามีขนาดที่ใหญ่กว่าแน่นอน เพราะว่ามีขนาดจอที่ใหญ่กว่าด้วย และคาดว่าจะมีน้ำหนักที่มากกว่าเช่นกัน

ในส่วนของหน้าจอของ iPhone SE 4 vs Samsung Galaxy S24 FE สองรุ่นนี้ก็มีความต่างกันชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบหน้าจอที่ iPhone SE 4 ใช้จอ Super Retina XDR แบบ OLED ที่กว้าง 6.1 นิ้ว และยังคงมีรูกล้องหน้าแบบรอยบาก ก็อาจจะขัดใจเล็กน้อยเวลาเล่นเกม หรือการใช้งานที่ยังมีแถบดำๆ ติดอยู่ ที่สำคัญคือน่าจะมี Refresh Rate 60Hz เท่ากับรุ่นเริ่มต้นของ iPhone 16 ในขณะที่ Galaxy S24 FE นั้นมีจอ Dynamic AMOLED 2X ที่กว้างถึง 6.7 นิ้วรองรับ Refresh Rate 120Hz ไปแล้ว เล่นได้ลื่นกว่าแน่นอน และยังมีรูกล้องหน้าแบบเจาะรูที่เห็นจอได้เต็มที่กว่าด้วย

ทางด้านประสิทธิภาพของ iPhone SE 4 vs Samsung Galaxy S24 FE ทั้งสองรุ่นนี้ได้ RAM 8GB เหมือนกัน แต่ว่าชิปของ iPhone SE 4 จะได้ชิปตัว A18 แบบเดียวกับ iPhone 16 ซึ่งคะแนนของชิปนั้นจะแรงกว่า Exynos 2400e ที่อยู่ใน S24 FE อยู่เล็กน้อย ซึ่งการใช้งานทั่วไปอาจจะมองไม่ออกว่าแรงต่างกันมากแค่ไหน ทั้งนี้รุ่นใหม่อย่าง iPhone SE 4 ก็คาดว่าจะได้ใช้ Apple Intelligence ที่ทำงานได้คล้ายๆ กับ iPhone 16 Series เลย ส่วนของ Galaxy S24 FE นั้นใช้ Galaxy AI ได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีแบตที่อึดกว่า 1000mAh เลยด้วย

อีกจุดที่ต่างกันสิ้นเชิงเลยก็คือกล้องของ iPhone SE 4 vs Samsung Galaxy S24 FE ที่กล้องของ iPhone SE 4 จะได้อัพเกรดกล้องหน้าเป็น 12MP ที่คมชัดกว่า แต่ว่ากล้องหลังยังคงจำกัดไว้ตัวเดียวที่ความละเอียด 48MP ซึ่งตรงนี้จะยังสู้ Galaxy S24 FE ไม่ได้เพราะว่ามีกล้องหลังถึง 3 ตัวที่ความละเอียด 50MP อัลตร้าไวด์ 12MP และเทเลโฟโต้ 8MP ซูมและถ่ายได้ดีกว่าแน่นอน ถึงแม้ว่ากล้องหน้าจะความละเอียดน้อยกว่าที่ 10MP ก็ตาม แต่ถ้าเน้นกล้องหลังก็ยังเด่นกว่าในจุดนี้ ทั้งนี้ราคาเทียบความจุคาดว่าจะต่างกันอยู่เพียงเล้กน้อย

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

• Q: ต่างกันหลักๆ ที่จุดไหนบ้าง?
  • A: iPhone SE 4 จะมีขนาดเล็กกว่า และมีชิปประมวลผลแรงกว่าด้วยชิป A18 ส่วน S24 FE มีหน้าจอใหญ่กว่า รีเฟรชเรตสูงกว่า และกล้องหลายตัวที่ถ่ายได้ดีกว่า กับแบตที่อึดกว่าด้วย
• Q: รุ่นไหนถ่ายรูปดีกว่ากัน?
  • A: S24 FE มีความหลากหลายในการถ่ายภาพมากกว่าด้วยกล้อง 3 ตัว แต่ iPhone SE 4 มีกล้องหน้าความละเอียดสูงกว่าที่ 12MP
• Q: แบตเตอรี่รุ่นไหนอึดกว่า?
  • A: S24 FE มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่กว่าที่ 4,700 mAh เทียบกับ iPhone SE 4 ที่ 3,279 mAh
• Q: รองรับ 5G ทั้งคู่ไหม?
  • A: รองรับ 5G ทั้งคู่ โดย iPhone SE 4 จะใช้โมเด็ม 5G ที่ Apple พัฒนาเอง
• Q: ราคาต่างกันเท่าไหร่?
  • A: ถ้าเทียบกันตามความจุ 128GB รุ่น S24 FE จะมีราคาสูงกว่าประมาณ 2,000 บาท ส่วน iPhone SE 4 คาดว่ามีราคา 18,900 บาท

สรุปเปรียบเทียบ iPhone SE 4 vs Samsung Galaxy S24 FE ซื้อรุ่นไหนดีในปี 2025?

สำหรับการเลือซื้อระหว่าง iPhone SE 4 vs Samsung Galaxy S24 FE นั้น จะขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน และความชอบของตัวเองเป็นหลัก ถ้าไม่นับว่าใครเป็นสาวกจากค่ายไหนมากกว่ากัน และเทียบกันตามประสิทธิภาพแล้ว iPhone SE 4 เหมาะสำหรับคนที่ชอบมือถือขนาดกะทัดรัด ต้องการประสิทธิภาพสูงในการประมวลผล สามารถเล่นเกม หรือว่าใช้งานทั่วไปได้อย่างดีเยี่ยมในราคาที่ถูกกว่า ถ้าใครที่ไม่ได้เน้นเรื่องการถ่ายรูปอยู่แล้วก็ตอบโจทย์ในหลายๆ ด้านเพียงพอแล้ว

ส่วน Samsung Galaxy S24 FE จะเหมาะกับคนที่ชอบจอใหญ่ ดูหนัง เล่นเกม ต้องอยากได้กล้องที่หลากหลาย ถ่ายได้หลายแบบมากกว่า เพราะว่ามีทั้งมุมกว้างและการซูมด้วยกล้องเทเลโฟโต้ที่ดีกว่าด้วย รวมไปถึงแบตเตอรี่ที่อึดมากกว่า ซึ่งถ้าจะเน้นเล่นเกมด้วยก็ไม่ใช่ปัญหาหลัก เพราะว่าสามารถทำได้ดีอยู่แล้ว ดังนั้นใครที่จะเน้นเรื่องกล้องเป็นหลักรุ่นนี้จะตอบโจทย์การใช้งานได้มากกว่า