Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Editorial»ซื้อ Apple Watch Series 10 ดีมั้ย? หรือซื้อรุ่นไหนดี มีตรงไหนที่แตกต่างกันบ้าง
    Editorial

    ซื้อ Apple Watch Series 10 ดีมั้ย? หรือซื้อรุ่นไหนดี มีตรงไหนที่แตกต่างกันบ้าง

    ZeroSystemBy ZeroSystem22 กันยายน 2024
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    buy apple watch series 10 or not
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email
    buy apple watch series 10 or not

    หลังจากที่ Apple จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ไปในช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา กลุ่มของสมาร์ตวอทช์ก็จะมีรุ่นใหม่ออกมาเป็น Apple Watch Series 10 ในขณะเดียวกันตามหน้าร้านตัวแทนจำหน่ายก็ยังคงมี Series 9 วางขายอยู่เช่นกัน ทำให้หลายท่านอาจจะมีลังเลกันบ้างว่าจะซื้อรุ่นไหนดีถึงจะตอบโจทย์ที่สุด ในบทความนี้เราจะมาดูกันครับว่าจะซื้อ Apple Watch Series 10 ดีมั้ย หรือจะมองเป็นรุ่นอื่นดี เมื่อมองจากดีไซน์และฟีเจอร์ที่มี

    แยกซีรีส์ Apple Watch กันก่อน

    ในช่วงหลังมานี้ Apple จะแบ่งผลิตภัณฑ์กลุ่ม Watch เป็น 3 สายหลัก ดังนี้

    1. Apple Watch ปกติ ซึ่งจะแบ่งย่อยลงมาอีกเป็น
      1. รุ่นธรรมดา จะลงท้ายด้วยลำดับซีรีส์ เช่น Series 10
      2. รุ่น Nike จะมาพร้อมสายที่เน้นสำหรับการออกกำลังกายมากกว่า ดู active แต่สเปคและความสามารถจะเหมือนกับรุ่นธรรมดา
      3. รุ่นพิเศษ เช่นรุ่นที่ออกแบบร่วมกับ Hermès (แต่ในรุ่นล่าสุด ตัวเรือนจะเป็นแบบซีรีส์ Ultra แทน)
    2. Apple Watch SE เน้นใช้ดีไซน์แบบเก่า ตัดฟีเจอร์บางส่วนออก เช่น การวัด ECG การวัดออกซิเจนในเลือด แลัววางจำหน่ายในราคาย่อมเยากว่า
    3. Apple Watch Ultra เน้นเพื่อการใช้งานที่สมบุกสมบันขึ้น เหมาะกับใช้ลุย ใช้ออกกำลังกายที่เข้มข้นกว่าปกติ จุดเด่นคือแบตอยู่นานกว่ารุ่นอื่น ๆ และมีฟีเจอร์มากกว่า

    ซึ่งสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป รุ่นยอดนิยมก็จะเป็นในข้อ 1 และ 2 ครับ เพราะราคาของรุ่น SE จะเริ่มต้นที่ 7,900 บาทเท่านั้น ส่วนรุ่นปกติก็เริ่มที่ราวหมื่นกลาง ๆ ดังนั้นในบทความนี้เราจะหยิบเฉพาะ Apple Watch Series 10, Series 9 และ Apple Watch SE มาเทียบกันเป็นหลักนะครับ

    สิ่งที่ Apple Watch Series 10 เพิ่มเข้ามา เมื่อเทียบกับ Series 9

    จากในการเปิดตัว Apple ระบุว่า Series 10 จะมาพร้อมดีไซน์แบบใหม่ที่มีการปรับปรุงจากรุ่นเก่าในหลายจุดทั้งภายในและภายนอก โดยสิ่งที่เด่น ๆ มีดังนี้

    • ขยายขนาดตัวเรือนเล็กน้อยเป็น 46 และ 42 มม. จากเดิม 45 และ 41 มม.
    • หน้าจอมีขนาดใหญ่ขึ้นตามมาด้วยเล็กน้อย พร้อมมีการปรับไปใช้พาเนล OLED มุมกว้าง ทำให้สามารถมองหน้าจอได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
    • ตัวเรือนบางลงประมาณ 1 มม. และเบาลง
    • เปลี่ยนวัสดุของรุ่นสแตนเลสสตีลมาใช้เป็นไทเทเนียมแทน ทำให้ได้ความทนทานสูงขึ้น น้ำหนักเบาลงกว่าเดิม
    • รุ่นธรรมดามีสีดำ Jet Black เพิ่มเข้ามา
    • สามารถทนต่อความลึกขณะดำน้ำ และวัดอุณหภูมิน้ำได้ เหมาะสำหรับใช้ใส่ว่ายน้ำและดำน้ำแบบ snorkel มากขึ้น
    • มาพร้อมชิป SiP S10 จัดการพลังงานได้ดีขึ้น
    • ชาร์จได้เร็วขึ้น (0-80% ได้เร็วขึ้นกว่าเดิม 15 นาที)
    • ลำโพงในตัวเรือน สามารถใช้เล่นเพลงได้แล้ว จากที่ปกติใช้ได้แค่คุยโทรศัพท์

    ทั้ง 9 ข้อคือสิ่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน Apple Watch Series 10 ซึ่งถ้ามีข้อไหนตรงกับโจทย์การใช้งานของคุณ ก็แทบจะแบเบอร์เลยครับว่าควรเลือกซื้อ Apple Watch Series 10 ไปเลย เช่นพวกฟังก์ชันด้านการต้านทานความลึกของน้ำ หรือต้องการซื้อสีใหม่ล่าสุดไม่ซ้ำใคร แต่ถ้าเป็นเรื่องน้ำหนักที่เบาลง อันนี้ส่วนตัวผมมองว่าอาจไม่ได้กระทบกับการใช้งานจริงมากนัก เพราะน้ำหนักที่เบาลงก็มากสุดประมาณ 10 กรัมเท่านั้น รวมถึงตัว Apple Watch เองก็จัดว่าเป็นสมาร์ตวอทช์ที่น้ำหนักเบาอยู่แล้วด้วย ส่วนความบางก็แค่ประมาณ​ 1 มม. เท่านั้น ทำให้โจทย์ในเรื่องของความบางเบาอาจจะไม่ใช่ประเด็นหลักมากนักในการตัดสินใจเลือกซื้อ (แต่แน่นอนว่าถ้างบถึง ซื้อรุ่นบางกว่าเบากว่าย่อมดีกว่าอยู่แล้ว)

    ส่วนเรื่องหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น จากในการเปิดตัวก็จะชูโรงว่าทำให้ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลบนจอได้สะดวกขึ้นจากการปรับสเกลให้ใหญ่ขึ้นตามขนาดจอ ประกอบกับการเปลี่ยนไปใช้พาเนล OLED ที่มุมมองกว้างมากขึ้นเมื่อเทียบกับพาเนล OLED เดิมของ Series 9 อันนี้อาจจะต้องไปลองเล่นตัวเรือนจริงที่ตาม Apple Store หรือหน้าร้านตัวแทนจำหน่ายก่อนครับว่าต่างกันขนาดไหน

    แล้ว Apple Watch Series 9 ยังมีตรงไหนน่าสนใจอยู่บ้าง

    ก็จะอ้างอิงมาจากข้อแรกครับ คือถ้าฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาของ Series 10 ยังไม่โดนใจคุณมากนัก หรือต้องการแค่สมาร์ตวอทช์ที่ทำงานร่วมกับ iPhone ได้ดี ใช้ดูการแจ้งเตือน ใช้ฟังเพลง ใช้ตรวจจับระหว่างออกกำลังกายหรือช่วยตรวจสอบสุขภาพขั้นพื้นฐาน การเลือกซื้อ Apple Watch Series 9 ก็ยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอยู่ เพราะฟีเจอร์หลักต่าง ๆ ก็ยังมีให้ใช้งานได้แบบค่อนข้างครบ ทั้งหน้าจอ OLED แบบ Always-on ระบบวัด ECG วัดออกซิเจนในเลือด ฟังก์ชันติดตามการนอนหลับ ฟังก์ชันการวัดอุณหภูมิร่างกายที่ทำงานร่วมกับฟังก์ชันติดตามรอบเดือน รวมถึงยังมีชิป UWB2 เหมือนกันและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ไม่ต่างกันมากนักอีกด้วย

    นอกจากนีั้หลังจากที่ Series 10 วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ เราน่าจะได้เห็นการจัดโปรโมชันลดราคา Series 9 ของร้านตัวแทนจำหน่ายที่น่าดึงดูดใจเข้าไปอีก อย่างช่วงที่ผ่านมาไม่นานนี้ก็เริ่มมีบางร้านจัดโปรของ Apple Watch Series 9 GPS 41 มม.​ ของใหม่เหลือราคาเริ่มต้นที่หมื่นนิด ๆ เท่านั้น

    ดังนั้นถ้าหากคุณอยากได้ Apple Watch ราคาดี ใช้งานได้แทบไม่แตกต่างจากรุ่นใหม่ล่าสุดมากนัก Series 9 ก็ยังเป็นรุ่นที่น่าหาซื้อมาใช้งานพอตัวทีเดียว เรื่องสายนาฬิกาก็สามารถใช้ร่วมกันได้แทบทั้งหมด แบ่งเป็นกลุ่มขนาดขนาดตัวเรือนไป

    ถ้าเป็น Apple Watch มือสองล่ะ?

    ในกรณีที่คุณต้องการ Apple Watch ราคาเบาจริง ๆ หรือแค่อยากได้มาลองใช้งานก่อน เพื่อดูว่าจะไปต่อได้มั้ย ถูกใจหรือเปล่า การเลือกซื้อ Apple Watch มือสองก็ยังเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้เช่นกัน ซึ่งราคาก็จะลดหลั่นลงไปตามรุ่นปีและตามสภาพตัวเรือน เท่าที่ผมลองค้นดูใน Facebook Marketplace ก็จะเจอแต่ละรุ่นอยู่ในช่วงราคาประมาณนี้

    • Apple Watch Series 9 45mm ราคาเริ่มประมาณ 10,000 ต้น ๆ ส่วนรุ่น 41mm ก็จะเริ่มประมาณ 8,000 บาทขึ้นไป
    • Apple Watch Series 8 ราคาประมาณ 6,000 บาทขึ้นไป
    • Apple Watch SE 2 ราคาประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป

    ถ้าหากเป็นรุ่นเก่ากว่านี้ ส่วนตัวไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ครับ เพราะมีความเสี่ยงว่าสุขภาพแบตเตอรี่จะลดลงไปตามอายุการใช้งานที่มากกว่า รวมถึงราคาก็ต่างกันไม่มากนักด้วย เว้นแต่ว่างบจำกัดจริง ๆ ก็เป็นอีกกรณี

    ส่วนพวกฟังก์ชันการทำงาน เชื่อว่าครอบคลุมโจทย์ของผู้ใช้งานทั่วไปได้ค่อนข้างครบถ้วนทีเดียว ซึ่งจริง ๆ ในเรื่องฟังก์ชันก็เริ่มอยู่ตัวมาตั้งแต่สมัย Apple Watch Series 6 แล้ว ตัวชิป SiP เองก็มีความสามารถ มีประสิทธิภาพที่ไม่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดมากนัก โดยสามารถเข้าไปลองเทียบฟังก์ชัน เทียบสเปคของแต่ละรุ่นได้จากบนหน้าเว็บไซต์ของ Apple เองได้เลย

    ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการหา Apple Watch มาลองใช้งานก่อน หรืออยากได้ในราคาเบา ๆ การเลือกซื้อแบบมือสองสภาพดี ไม่ติดล็อก iCloud มาใช้งานก็เป็นทางเลือกที่ดีอยู่เหมือนกัน โดยที่ยังไม่จำเป็นต้องซื้อ Apple Watch Series 10 ที่เป็นรุ่นใหม่ที่สุดในขณะนี้

    Apple Watch SE 2nd ยังน่าเล่นมั้ย?

    Apple Watch SE เป็นซีรีส์ที่เน้นจับตลาดราคาย่อมเยาลงมา จากราคาเริ่มต้นในปัจจุบันที่ 7,900 บาท ซึ่งก็สามารถแข่งกับสมาร์ตวอทช์จากแบรนด์อื่นบางรุ่นได้เลย เพราะได้รูปลักษณ์ของความเป็น Apple Watch แบบครบถ้วน ส่วนฟังก์ชันพื้นฐานก็ให้มารองรับการใช้งานทั่วไปได้สบาย หน้าจอก็เป็น Retina LTPO OLED ที่ให้ความสวยงามใกล้เคียงกัน จะต่างกันก็ที่ไม่สามารถเปิดติดตลอดเวลาได้เท่านั้นเอง

    ส่วนพวกฟังก์ชันด้านสุขภาพของ Apple Watch SE 2 ก็จะรองรับการตรวจจับแบบหลัก ๆ ได้ลดหย่อนลงมาจากซีรีส์หลักเล็กน้อย จะมีฟังก์ชันที่หายไปก็เช่น

    • การวัดคลื่นหัวใจ ECG
    • การวัดปริมาณออกซิเจนในเลือด
    • การติดตามอุณหภูมิร่างกาย พร้อมการคาดคะเนช่วงตกไข่ของรอบเดือน
    • เซ็นเซอร์การวัดอัตราชีพจรจะเป็นรุ่นเก่ากว่าอยู่ 1 gen
    • ไม่ระบุมาตรฐานการกันฝุ่น (รุ่นปกติจะอยู่ที่ IP6X)
    • ความจุในตัวอยู่ที่ 32GB
    • ไม่มีชิป UWB

    ซึ่งเชื่อว่าหลายฟังก์ชัน อาจจะเป็นสิ่งที่ท่านอาจไม่ได้ใช้งานอยู่เป็นประจำ ดังนั้นถ้าหากโจทย์การใช้งานนั้นตรงกับสิ่งที่ให้มา แล้วต้องการ Apple Watch ในราคาเบา ๆ หรือต้องการหาซื้อสมาร์ตวอทช์ให้บุตรหลาน ซื้อให้ผู้สูงอายุในบ้านใช้ Apple Watch SE 2 ก็ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจอยู่ เพราะในตัวก็ยังมีฟังก์ชันสำคัญอย่างระบบตรวจจับการล้มและการชนกันมาให้ใช้ในแบบเดียวกับรุ่นหลักเลย

    แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีกระแสข่าวลือออกมาค่อนข้างชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ว่า Apple อาจจะเปิดตัว Apple Watch SE 3rd ในช่วงต้นปี 2025 ที่จะถึงนี้ โดยอาจมีการปรับขนาดตัวเรือนและหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย และมีการใส่ฟังก์ชันเพิ่มเข้ามา แต่ก็ต้องบอกว่ายังไม่ได้รับการยืนยันนะครับว่าจะมีการเปิดตัวจริง และมีความสามารถตามนี้จริง คงต้องรอติดตามกันต่อไป หรือถ้ารอได้ก็รอดีกว่า

    แล้ว Apple Watch Ultra 2 ล่ะ?

    จริง ๆ ต้องบอกว่าไลน์ของ Apple Watch Ultra นั้นคือแยกตัวเองออกไปอีกตลาดเลยครับ ทั้งเรื่องของความสามารถที่ใส่มาให้ตอบโจทย์สายเทรล สายออกกำลังกายหนัก ๆ สายผจญภัยไปเลย รวมถึงเรื่องราคาที่โดดขึ้นไปเริ่มที่เกือบ 30,000 บาทด้วย จึงอาจจะนำมาใช้เทียบกับ Apple Watch รุ่นปกติไม่ได้เต็มที่นัก นอกจากถ้ามีแผนจะซื้อ Apple Watch Series 10 รุ่นตัวเรือนไทเทเนียมที่ราคาก็ไปเริ่มต้นที่ 20,000 กลาง ๆ อยู่แล้ว อันนี้ก็ต้องแล้วแต่ความชอบละครับ เพราะทั้ง Series 10 และ Ultra 2 ก็ใช้ตัวเรือนที่เป็นไทเทเนียมเหมือนกัน แต่รุ่นแรกจะเน้นความหรูหรามากกว่า ส่วนรุ่นสองจะเน้นลุยกว่า จอใหญ่และแบตอึดกว่า

    จากทั้งหมด ซื้อ Apple Watch Series 10 จะคุ้มมั้ย?

    จากการเทียบจุดเด่นของ Apple Watch แต่ละรุ่นแล้ว จะเห็นว่าต่างก็มีจุดขายที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่แตกต่างกันไปครับ ถ้าให้แจกแจงออกมาเป็นข้อ ๆ ก็น่าจะเป็นดังนี้

    Apple Watch Series 10

    • ต้องการสมาร์ตวอทช์รุ่นใหม่ล่าสุด ใช้ได้ทั้งมือใหม่และผู้ที่จะเปลี่ยนแทนรุ่นเดิมที่ใช้อยู่
    • ต้องการ AW รุ่นที่ตัวเรือนบางและเบาลงไปอีกนิดนึง
    • ต้องการ AW ที่ชาร์จเร็ว เหมาะกับผู้ที่ใส่ติดตัวตลอดเวลา จะถอดบ้างก็เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เพื่อชาร์จ
    • ต้องการ AW สำหรับใส่ดำน้ำไม่ลึกมากนัก (สามารถวัดความลึกได้สูงสุด 6 เมตร)

    Apple Watch Ultra 2

    • ต้องการ AW ที่แบตอึดกว่าเป็นเท่าตัว
    • นำไปใส่ทำกิจกรรมที่ extreme กว่า

    Apple Watch SE 2

    • ต้องการ AW สำหรับใช้งานพื้นฐานในราคาไม่แพงนัก ใช้ดูการแจ้งเตือน ใช้ตรวจจับการหกล้ม
    • ไม่ได้ใช้งานฟังก์ชันด้านสุขภาพบางตัว เช่น วัด ECG วัดออกซิเจนในเลือด
    • ต้องการ AW สำหรับให้ผู้สูงอายุใช้งาน เพื่อการจัดการอุปกรณ์แบบเป็นครอบครัว

    Apple Watch มือสอง

    • ต้องการ AW แบบฟังก์ชันเต็มมาใช้งานในราคาเบา ๆ
    • อยากลองเริ่มต้นใช้งาน AW หรือต้องการทดสอบว่าเหมาะกับไลฟ์สไตล์หรือไม่ เนื่องจากข้อจำกัดหลักคือเรื่องระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่
    • ถ้าต้องการเลือกมือสองมาใช้งาน ถ้าเป็นไปได้ก็ควรดูเป็นรุ่นใหม่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ไว้ก่อน
    Apple Apple Watch Apple Watch SE 2 Apple Watch Series 10 Apple Watch Ultra 2
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    ZeroSystem

    Related Posts

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    สรุปสเปค Samsung Galaxy S25 Edge มือถือรุ่นบาง พร้อมกล้อง 200MP ก่อนเปิดตัว 13 พ.ค. 2025 นี้

    10 พฤษภาคม 2025

    ราคาไอโฟนล่าสุด 2025 ทุกรุ่นทั้งเครื่องเปล่าและติดโปรที่วางขายในตอนนี้ มีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง อัพเดท พฤษภาคม 2025

    9 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S25 Edge vs iPhone 17 Air มือถือตัวบางทั้งคู่ ต่างกันแค่ไหนเท่าที่รู้ตอนนี้

    10 พฤษภาคม 2025

    สรุปสเปค Samsung Galaxy S25 Edge มือถือรุ่นบาง พร้อมกล้อง 200MP ก่อนเปิดตัว 13 พ.ค. 2025 นี้

    10 พฤษภาคม 2025

    ราคาไอโฟนล่าสุด 2025 ทุกรุ่นทั้งเครื่องเปล่าและติดโปรที่วางขายในตอนนี้ มีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง อัพเดท พฤษภาคม 2025

    9 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 20 ซีรี่ย์เกาหลีพากย์ไทย Netflix ล่าสุดปี 2025 สนุกๆ ครบทุกแนว มีเรื่องไหนน่าดูบ้าง

    9 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X