ถ้าพูดถึงมือถือราคาต่ำกว่า 3,000 บาท เชื่อว่าหลายคนคงต้องนึกถึงเจ้า 2 รุ่นนี้อย่างแน่นอน ซึ่งก็คือ AIS Lava 4.5 กับ Dtac Joey Jump 4.0 เพราะเป็นมือถือที่หาซื้อได้ง่ายผ่านทางผู้ให้บริการเครือข่ายยอดนิยมอย่าง Dtac และ AIS อันที่จริงมือถือซีรี่ส์นี้ของทั้ง AIS และ DTAC ไม่ได้เป็นรุ่นแรกนะครับ เจ้าพวกนี้จัดเป็นเจนเนอร์เรชันที่ 2 แล้ว แต่ที่น่าสนใจคือสเปคของ AIS Lava 4.5 และ Dtac Joey Jump 4.0 เนียมีความใกล้เคียงกันมาก เพราะฉะนั้นรีวิว AIS Lava 4.5 และรีวิว Dtac Joey Jump 4.0 ครั้งนี้เราจึงจับทั้งคู่มามัดรวม แล้วเปรียบเทียบกันเน้นๆ ไปเลย ว่าใครคุ้มค่ามากกว่ากัน
Spec
ถ้าดูจากหน้าสเปคจะเห็นเลยว่าทั้ง AIS Lava 4.5 และ Dtac Joey Jump 4.0 มีสเปคที่ใกล้เคียงกันมาก ไม่ว่าจะเป็น CPU Dual Core (AIS Lava 4.5 แรงกว่า 0.1 GHz แทบไม่เห็นความแตกต่าง) Ram 512 MB กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล, กล้องหลังความละเอียด vga หรือ 0.3 ล้านพิกเซล, หน่วยความจำภายใน 4 GB รองรับ Micro SD ที่ความจุสูงสุด 32 GB เท่ากัน แถมยังใช้ระบบปฏิบัติการ Android 4.2 เหมือนกันอีกต่างหาก (ไม่ต้องหวังเรื่องอัพเดตเป็น Android เวอร์ชันสูงกว่านี้เลยครับ ไม่มีทางได้ไปต่อแน่นอน)
ส่วนความแตกต่างในด้านสเปคของทั้ง 2 รุ่น สิ่งแรกก็จะเป็นที่หน้าจอและชนิดของจอครับ โดย AIS Lava 4.5 จะใช้หน้าจอแบบ IPS ขนาด 4.5 นิ้ว ทำให้ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่กว่า Dtac Joey Jump 4.0 ที่มีหน้าจอขนาด 4 นิ้วแบบ TFT ถัดมาก็เป็นส่วนของแบตเตอรี่ AIS Lava 4.5 จะมีแบตเตอรี่มากกว่า Dtac Joey Jump 4.0 ที่ 1650 mAh (Dtac Joey Jump 4.0 แบตเตอรี่ 1600 mAh) ซึ่งในการใช้งานจริงก็ไม่แตกต่างกันมาก หักลบเรื่องขนาดหน้าจอออกไปก็ใช้งานได้นานพอๆ กัน และความแตกต่างสิ่งสุดท้ายระหว่าง AIS Lava 4.5 และ Dtac Joey Jump 4.0 ก็คือเครือข่าย 3G ที่รองรับครับ เรียกว่าซื้อเครื่องต้องเลือกข้างเลย เพราะ AIS Lava 4.5 จะรองรับ 3G ที่ความถี่ 900/2100 ส่วน Dtac Joey Jump 4.0 รองรับ 3G ความถี่ 850/2100 นอกจากนี้ AIS Lava 4.5 ยังเหนือกว่าด้วยการรองรับการใช้งาน 2 ซิมด้วยครับ ส่วน Dtac Joey Jump 4.0 จะรองรับการใช้งานแค่ซิมเดียว
เห็นมือถือ 2 รุ่นสเปคแค่นี้ หลายคนคงจะสงสัยว่าแล้วมันจะทำอะไรได้บ้าง บอกเลยว่าสเปคประมาณนี้ใช้งานทั่วไปได้โอเคในระดับหนึ่งเลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการเล่น Facebook, เล่น Line จะดู Youtube ก็ยังพอไหว (ต้องเลือกความละเอียดของวีดีโอให้พอดีๆ นะ) ที่สำคัญคือมันเล่นเกมได้ด้วย แต่คงต้องปรับความละเอียดให้เหมาะสมกับสเปคเครื่องครับ เกม Line ต่างๆ นี่รับรองว่าเล่นได้แน่นอน เช่น Line Cookie Run, Line Ranger เป็นต้น
สำหรับภาพรวมในด้านสเปคยกให้ AIS Lava 4.5 ชนะ เพราะถึงแม้ทั้ง 2 รุ่นจะมีสเปคใกล้เคียงกันมาก แต่ AIS Lava 4.5 ได้เปรียบเรื่องราคาที่ถูกกว่า Dtac Joey Jump 4.0 (ถูกกว่า 300 บาท) และยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมด้วย
Design
มาดูในส่วนของการออกแบบและวัสดุกันบ้าง ทั้ง 2 รุ่นเป็นมือถือในช่วงตลาดล่าง แน่นอนว่าวัสดุจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากพลาสติกครับ สำหรับ AIS Lava 4.5 จะใช้พลาสติกฝาหลังเป็นแบบด้าน ส่วน Dtac Joey Jump 4.0 จะใช้วัสดุฝาหลังเป็นแบบผิวมัน (คนละขั้วเลย) ส่วนดีไซน์ในภาพรวมต้องบอกว่าใกล้เคียงกันมากครับ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มกดหน้าจอแบบสัมผัส (Hard Key) แต่รายละเอียดยิบย่อยนั้นต้องบอกว่า Dtac Joey Jump 4.0 ทำได้ดีกว่าครับ เพราะเจ้า Dtac Joey Jump 4.0 บริเวณด้านหน้าจะมีเซนเซอร์วัดแสงสว่างติดมาให้ด้วย ทำให้มันสามารถปรับความสว่างหน้าจอแบบ Auto ได้ แต่ใน AIS Lava 4.5 ไม่มีมาให้ซะอย่างนั้น (ที่อึ้งคือใน AIS Lava 4.0 ที่เป็นรุ่นต่ำกว่ากลับมีเซนเซอร์วัดแสงสว่างให้มาด้วย)
ส่วนฝาหลังของทั้ง 2 นั้นต่างก็มีข้อดีและข้อด้อยแตกต่างกันไป เริ่มจากฝาหลังแบบด้านของ AIS Lava 4.5 มีข้อดีในเรื่องของการป้องกันรอยนิ้วมือ และคราบต่างๆ ได้ดี แต่ข้อเสียแบบสุดๆ ของมันคือเมื่อฝาหลังเป็นรอยจะเป็นอะไรที่โดดเด่นมากๆ และยิ่ง AIS Lava 4.5 วางขายอยู่สีเดียวคือสีดำ ยิ่งทำให้เห็นรอยง่ายเข้าไปอีก สังเกตได้จากเครื่องรีวิว AIS Lava 4.5 บริเวณมุมล่างซ้ายดูครับ คาดว่าเจ้าของเก่าคงใช้งานมาหนักจริงๆ
ฝาหลังผิวมันของ Dtac Joey Jump 4.0 ก็มีจุดเด่นตรงที่มันปกปิดรอยขีดข่วนได้ดีกว่านิดหน่อยครับ คือต้องเพ่งจริงๆ ถึงจะมองเห็นรอยขีดข่วนหรือรอยชนแมว แต่ในเรื่องของรอยนิ้วมื้อนั้น ฝาหลังผิวมันของ Dtac Joey Jump จัดเต็มแบบสุดๆ เก็บได้ทุกรอยนิ้วมือจริงๆ
สำหรับภาพรวมในส่วนของการดีไซน์ ยกนี้ผมให้ Dtac Joey Jump 4.0 ชนะไปก็แล้วกันครับ ด้วยเหตุเพราะว่ามันมี Sensor วัดแสงสว่างและตัวเครื่องมองเห็นรอยขีดข่วนได้ยากกว่า AIS Lava 4.5 ส่วนรอยนิ้วมือนั้นเช็ดๆ เอาก็พอได้ครับ
Software
สำหรับซอฟท์แวร์และความลื่นไหลของทั้ง 2 รุ่น จากการที่ลองใช้งานดูพบว่าทั้งสองทำงานได้พอๆ กัน (ก็แหงหล่ะ สเปคมันใกล้เคียงซะขนาดนี้) ซอฟท์แวร์ของทั้ง 2 รุ่นออกแบบมาให้ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่ที่พึ่งเริ่มหัดใช้สมาร์ทโฟนเป็นอย่างยิ่งครับ ตัวอินเทอร์เฟสมีการปรับแต่งเพียงเล็กน้อย ระบบปฏิบัติการก็ใช้เป็น Android 4.2 Jellybean เหมือนกันอีกต่างหาก ส่วนความลื่นไหลเท่าที่ลองใช้งานดูนั้น Dtac Joey Jump 4.0 ดูจะลื่นกว่า AIS Lava 4.5 เล็กน้อย ส่วนแอพที่ลงมาให้ตั้งแต่ในเครื่องก็มีพอๆ กัน และสามารถดาวโหลดแอพเพิ่มเติมจาก Play Store ได้
ภาพรวมของ Software ยกนี้ให้เสมอไปก็แล้วกันครับ
Display
มาถึงหน้าจอกันบ้าง ไม่ต้องพูดอะไรมากมายครับ ยังไงยกนี้ AIS Lava 4.5 ก็ชนะเลิศเห็นๆ ด้วยหน้าจอแบบ IPS (ถึงแม้จะเป็น IPS ตัวถูกก็เถอะ) คุณภาพในการแสดงผลเหนือกว่าหน้าจอแบบ TFT ของ Dtac Joey Jump 4.0 หลายเท่าครับ แค่ออกนอกบ้านไปยังที่ๆ?มีแสงแดดจัดๆ หน้าจอของ Dtac Joey Jump 4.0 ก็ตายสนิทแล้วครับ แม้จะเปิดความสว่างหน้าจอสุดๆ เพื่อสู้แสงก็ตาม และมุมมองของหน้าจอก็ยังแคบกว่า AIS Lava 4.5 พอสมควร และยิ่งมาวัดขนาดหน้าจอด้วยแล้ว Dtac แพ้แบบขาดลอยไปเลยครับ เพราะ AIS Lava 4.5 มีหน้าจอใหญ่กว่าที่ 4.5 นิ้ว
ในส่วนของหน้าจอ ยกให้ AIS Lava ชนะไปครับ
Promotion
ความแตกต่างของ AIS Lava 4.5 และ Dtac Joey Jump 4.0 อีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องของโปรโมชันที่จะได้ในตอนซื้อเครื่องครับ ซึ่งโปรโมชันของทั้ง 2 นี่แตกต่างกันคนละโลกเลย เรียกว่ามีเป้าหมายที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
โปรโมชั่น AIS Lava 4.5
จะเห็นว่าโปรโมชันของ AIS Lava 4.5 นั้นครอบคลุมทั้งการใช้งานแบบรายเดือนและเติมเงิน ที่น่าสนใจคือโปรโมชันเติมเงินครับ (รายเดือนผมมองว่าแพงไปหน่อย และยังคุ้มสู้โปรฯ ย้ายค่ายเบอร์เดิมไม่ได้) โดยโปรโมชั่นสำหรับเติมเงินของ AIS Lava 4.5 จะได้รับค่าโทรเท่ากับค่าเครื่องที่จ่ายไป คือจะได้โทรฟรี 2,600 บาท (เดือนละ 260 บาท) อินเทอร์เน็ตฟรี 1 GB (เดือนละ 100 MB) และยังได้รับสิทธิ์เล่น Line กับ Facebook ไม่จำกัดเป็นระยะเวลา 3 เดือนด้วยกัน
โปรโมชั่น Dtac Joey Jump 4.0
โปรโมชันของ Dtac Joey Jump 4.0 จะเน้นไปที่ลูกค้ารายเดือนมากกว่าเติมเงิน แถมยังเป็นโปรโมชันแบบจริงจังซะด้วย (ก็ยังไม่คุ้มเท่าย้ายค่ายเบอร์เดิมอยู่ดี) แต่โปรโมชันของ Dtac Joey Jump 4.0 จะดีตรงที่สามารถโทรฟรีเบอร์ดีแทกได้แบบ Unlimited (โปรฯ ต่ำกว่า 600 บาทจะโทรได้เป็นช่วงเวลา) ส่วนโปรโมชันสำหรับลูกค้าเติมเงินจะให้เป็นเล่น Facebook และ Line ไม่อั้นนาน 12 เดือน
สำหรับภาพรวมของโปรโมชันพร้อมซื้อเครื่องนั้น ผมว่าให้เพื่อนๆ ตัดสินเองจะดีกว่าครับ ถ้าเน้นใช้งานรายเดือน และโทรหาเบอร์ดีแท็กบ่อยๆ โปรโมชันของ Dtac Joey Jump 4.0 ก็จะคุ้มค่ากว่า แต่ถ้าใช้งานเติมเงิน AIS Lava 4.5 จะให้โปรโมชันที่ดีกว่าครับ
Overall
ภาพรวมของ AIS Lava 4.5 และ Dtac Joey Jump 4.0 ก็ยังคงเป็นมือถือตัวคุ้มในช่วงราคาไม่เกิน 3,000 บาท ที่ใช้งานได้ตามสเปคที่ให้มา อาจจะไม่ได้แรงเฟี้ยวฟ้าว แต่ก็ใช้งานได้ครบๆ ไม่แพ้มือถือราคาแพงเลยครับ ส่วนความแตกต่างของทั้ง 2 รุ่นนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้เองแหละครับ แต่ในความคิดของผมแล้ว ยกให้ AIS Lava 4.5 เหนือกว่าเล็กน้อยเพราะสเปคทั้ง 2 รุ่นนั้นพอๆ กัน แต่ AIS Lava 4.5 ราคาถูกกว่า หน้าจอใหญ่และจอสวยกว่า อีกทั้งโปรโมชันแบบเติมเงินค่อนข้างคุ้มค่าครับ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งานสมาร์ทโฟนมากกว่า Dtac Joey Jump 4.0 ?แต่ถ้าใครเน้นโทรเฉพาะเบอร์ Dtac ก็ลองมองเป็น Dtac Joey Jump 4.0 ก็โอเคอยู่นะครับ