นับเป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่สำหรับ Apple เมื่อล่าสุดมีคำตัดสินจากศาลให้ Apple ต้องจ่ายเงินกว่า 95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการที่สืบสวนพบว่า Siri มีการแอบเก็บบันทึกเสียงการสนทนาส่วนตัวของผู้ใช้โดยไม่ได้ตั้งใจ และมีการส่งต่อไปยังผู้ให้บริการอื่นเพื่อใช้ในการยิงโฆษณาแบบเจาะจง
โดยในคำตัดสินที่ออกมา หลังจากที่มีการสืบสวนและการดำเนินคดีมากว่า 5 ปีระบุว่าในกรณีนี้ Apple ไม่ได้กระทำความผิดโดยความตั้งใจ หรือมีการจงใจออกแบบระบบให้มีการแอบเก็บข้อมูลผู้ใช้ แต่เป็นความผิดที่เกิดจากระบบของสิริเองที่มีการเริ่มเก็บบันทึกข้อมูลด้วยตัวเอง เพราะการทำงานตามที่ถูกสร้างขึ้นมาคือจะเริ่มเก็บข้อมูลเสียงของผู้ใช้หลังจากมีการเรียกใช้งานแบบเจาะจงเท่านั้น เช่นการที่ผู้ใช้พูดว่า Hey Siri เป็นต้น
แต่ก็มีผู้ใช้บางส่วนในปี 2019 แจ้งข้อมูลให้กับสื่อในขณะนั้นว่า ในบางครั้งเมื่อยกข้อมือที่สวมใส่ Apple Watch ขึ้นมา และผู้ใช้ก็พูดตามปกติโดยไม่ได้มีการเรียกใช้งานสิริแบบเจาะจงแต่อย่างใด แต่หลังจากนั้นตัวเขาก็พบกับโฆษณาของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เขาพูดขึ้นมาแบบตรงรุ่นเลย
ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานถึงจำนวนของผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบนี้ทั้งหมด แต่ Apple จะมอบเงินชดเชยให้สูงสุด $20 ต่อจำนวนผลิตภัณฑ์ที่มีสิริทำงานอยู่ 1 ชิ้น อาทิ iPhone, iPad, Apple Watch, MacBook, HomePods, iPod Touch และ Apple TV โดยต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้าซื้อภายในระหว่างวันที่ 17 กันยายน 2014 – 31 ธันวาคม 2024 เท่านั้น ซึ่งลูกค้าแต่ละรายจะสามารถใช้สิทธิ์เพื่อรับเงินชดเชยได้สูงสุดคนละ 5 อุปกรณ์เท่านั้น (เท่ากับได้เงินสูงสุด $100)
สำหรับคำตัดสินนี้จะมีกำหนดในการอนุมัติอีกครั้งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ซึ่งหลังจากกำหนดการดังกล่าว Apple จะส่งข้อความไปยังลูกค้าที่ได้รับผลกระทบ และจะต้องดำเนินการลบข้อมูลเสียงที่ถูกบันทึกไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม ก็คาดการณ์ว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการไกล่เกลี่ยกันอีกหลายเดือน และถ้า Apple ต้องจ่ายเงินชดเชยทั้งหมดจริง ๆ ก็มีความเป็นไปได้ว่ายอดเงินที่ Apple ต้องจ่ายอาจจะสูงกว่า 1.5 พันล้านเหรียญฯ เลยทีเดียว เนื่องจากเป็นความผิดภายใต้กฎหมายการดักฟังของสหรัฐฯ และที่จริงแล้ว Google เองก็กำลังพบกับการดำเนินคดีในลักษณะนี้อยู่เช่นกัน ซึ่งถ้าศาลตัดสินว่า Google มีความผิดจริง ผู้ใช้งานที่ซื้อผลิตภัณฑ์กลุ่มลำโพงสมาร์ตโฮมและมือถือตระกูล Pixel จาก Google ก็น่าจะได้รับเงินชดเชยเช่นกัน
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผลแค่เฉพาะในสหรัฐอเมริกานะครับ
ที่มา: Ars Technica