iPad Pro ใหม่ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Apple Silicon เจเนอเรชั่นถัดไปมาพร้อมประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้าน AI ตลอดจนพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เร็วยิ่งขึ้น และความสามารถระดับพลิกเกมของ iPadOS 26

คูเปอร์ติโน รัฐแคลิฟอร์เนีย วันนี้ Apple เปิดตัว iPad Pro ใหม่ซึ่งขับเคลื่อนด้วยชิป M5 ที่ทรงพลังเหลือเชื่อ โดยชิป M5 ได้ปลดล็อคประสบการณ์การใช้งาน iPad ที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมาด้วยพลังมหาศาลและประสิทธิภาพด้าน AI ที่อัดแน่นอยู่ในดีไซน์ที่พกพาสะดวกสุดๆ ของ iPad Pro ทั้งยังมาพร้อม GPU เจเนอเรชั่นถัดไปที่มี Neural Accelerator ผสานรวมอยู่ในแต่ละคอร์ ผู้ใช้ iPad Pro พร้อมชิป M5 จึงจะได้สัมผัสกับประสิทธิภาพที่แรงยิ่งกว่าเดิม ไม่ว่าจะทำงานกับโปรเจ็กต์ล้ำๆ หรือใช้พลังของ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน iPad Pro ใหม่มีประสิทธิภาพด้าน AI สูงสุด 3.5 เท่า เมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M41 และเร็วขึ้นสูงสุด 5.6 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M12 ชิประบบเครือข่ายไร้สาย N1 ใหม่ที่ออกแบบโดย Apple ช่วยให้ iPad Pro ใช้งานเทคโนโลยีระบบเครือข่ายไร้สายใหม่ล่าสุดได้ พร้อมรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 นอกจากนี้ iPad Pro ยังมาพร้อมโมเด็ม C1X ที่ช่วยให้ระบบเซลลูลาร์มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ทั้งยังประหยัดพลังงานยิ่งกว่าเดิม ผู้ใช้จึงทำอะไรๆ ได้มากขึ้นระหว่างเดินทาง iPad Pro มีให้เลือกในขนาด 11 นิ้วและ 13 นิ้วในสีดำสเปซแบล็คและสีเงิน โดยมาพร้อมจอภาพ Ultra Retina XDR เพื่อประสบการณ์การรับชมที่เหนือชั้น คุณสมบัติที่จะพลิกเกมของของ iPadOS 26 ยังอัดฉีดพลังแรงให้กับ iPad Pro และช่วยให้ผู้ใช้รับมือกับการทำงานสร้างสรรค์ที่ต้องประมวลผลหนักๆ และงานระดับมืออาชีพได้แบบสบายๆ ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งและการพัฒนาแบบก้าวล้ำจากรุ่น M1 นี่แหละ ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการอัปเกรดเป็นรุ่นใหม่ iPad Pro ใหม่ และจะเริ่มวางจำหน่ายในประเทศไทยเร็วๆนี้
“iPad Pro ใหม่ซึ่งขับเคลื่อนด้วย Apple Silicon เจเนอเรชั่นถัดไปจะมอบประสบการณ์การใช้งาน iPad ที่ล้ำหน้าและอเนกประสงค์ที่สุดเท่าที่เคยมีมา” John Ternus รองประธานอาวุโสฝ่าย Hardware Engineering ของ Apple กล่าว “iPad Pro พร้อมชิป M5 จะปลดล็อคความเป็นไปได้แบบไม่รู้จบให้กับความคิดสร้างสรรค์และการทำงานด้วยประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในด้าน AI, กราฟิกที่ทรงพลังยิ่งขึ้น การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่เร็วสุดแรง และคุณสมบัติระดับพลิกเกมของ iPadOS 26 ที่จะผลักดันขีดจำกัดของสิ่งที่ iPad ทำได้ออกไปอีกครั้ง”

ชิป M5: ก้าวใหม่ที่ยิ่งใหญ่ในด้าน AI สำหรับ iPad
Apple Silicon ยังคงสร้างความแตกต่างให้กับ iPad ด้วยประสิทธิภาพระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม เทคโนโลยีสุดล้ำ การประหยัดพลังงาน และความสามารถด้าน AI ชิป M5 ที่ขับเคลื่อน iPad Pro นั้นได้ทำให้ความสามารถด้าน AI บน iPad ก้าวกระโดดไปอีกขั้นด้วย GPU และ CPU ที่ล้ำหน้ากว่าเดิม พร้อม Neural Engine ที่รวดเร็วยิ่งขึ้น GPU แบบ 10-core มาพร้อมสถาปัตยกรรมใหม่ที่มี Neural Accelerator ผสานอยู่ในทุกคอร์ จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของ GPU ได้อย่างมหาศาลสำหรับเวิร์กโหลดด้าน AI ชิป M5 มอบประสิทธิภาพด้าน AI ที่เร็วขึ้นสูงสุด 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับชิป M41 และเร็วขึ้นถึง 5.6 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M12 iPad Pro ใหม่ได้รับการออกแบบมาสำหรับ AI และการเร่งความเร็วให้การประมวลผลเวิร์กโหลดหลากหลายประเภท เช่น การสร้างภาพด้วยโมเดล Diffusion บนอุปกรณ์ในแอปอย่าง Draw Things และการมาสก์วิดีโอด้วย AI ในแอปอย่าง DaVinci Resolve นอกจากนี้ Neural Engine แบบ 16-core ที่เร็วขึ้นยังช่วยให้ AI บนอุปกรณ์มีประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานที่ดีที่สุด ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับแอปที่ใช้เฟรมเวิร์ก Foundation Models และคุณสมบัติของ Apple Intelligence อย่างการสร้างสรรค์ผลงานใน Image Playground3

อีกขั้นของประสิทธิภาพด้วยชิป M5
ชิป M5 มอบประสิทธิภาพที่เหนือชั้นไปอีกขั้นด้วยกราฟิกที่แรงขึ้นแบบสัมผัสได้และ CPU ที่เร็วกว่าเดิม ชิป M5 มาพร้อมเอนจิ้นเรย์เทรซซิ่งรุ่นที่ 3 ที่ทำให้การตกกระทบ การสะท้อนแสง และเงามีความถูกต้องสมจริงยิ่งขึ้น จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับแอปและเกมที่เน้นกราฟิกหนักๆ โดย iPad Pro สามารถเรนเดอร์ 3D ด้วยเรย์เทรซซิ่งได้เร็วขึ้นสูงสุด 1.5 เท่า เมื่อเทียบกับ iPad Pro รุ่นก่อนหน้า1 และเร็วกว่า iPad Pro พร้อมชิป M1 อย่างน่าทึ่งสูงสุด 6.7 เท่า2 ชิป M5 มาพร้อม CPU สูงสุดแบบ 10-core ซึ่งประกอบด้วยคอร์ด้านประสิทธิภาพ 4 คอร์ และคอร์ด้านประหยัดพลังงาน 6 คอร์ และยังเป็นคอร์ CPU ที่เร็วที่สุดในโลกอีกด้วย โดย CPU ที่เร็วขึ้นนี้ตอบโจทย์การใช้งานของผู้ใช้หลากหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ที่ทำงานกับภาพเวคเตอร์ที่ซับซ้อนในแอปอย่าง Adobe Illustrator สถาปนิกที่ต้องสลับใช้งานหลายแอปพร้อมกันอย่าง SketchUp และ Morpholio Trace หรือผู้ใช้ในสายธุรกิจที่ต้องเปิดและเข้าถึงไฟล์ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วในหลายแอปพลิเคชั่น
iPad Pro พร้อมชิป M5 มีประสิทธิภาพดังนี้
- การเรนเดอร์ 3D ด้วยเรย์เทรซซิ่งใน Octane X เร็วขึ้นสูงสุด 6.7 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M12 และเร็วขึ้นสูงสุด 1.5 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M41
- การแปลงวิดีโอใน Final Cut Pro สำหรับ iPad เร็วขึ้นสูงสุด 6 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M12 และเร็วขึ้นสูงสุด 1.2 เท่าเมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M41
- การสร้างภาพด้วย AI ใน Draw Things สำหรับ iPad เร็วขึ้นสูงสุด 4 เท่า เมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M12 และเร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า เมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M41
- การอัปสเกลวิดีโอด้วย AI ใน DaVinci Resolve สำหรับ iPad เร็วขึ้นสูงสุด 3.7 เท่า เมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M12 และเร็วขึ้นสูงสุด 2.3 เท่า เมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M41

แบนด์วิดท์หน่วยความจำและพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่เร็วขึ้น เพื่อการทำงานแบบมัลติทาสก์ที่ลื่นไหลยิ่งกว่าเดิม
iPad Pro มาพร้อมการปรับปรุงใหม่ที่ช่วยเร่งความเร็วและการตอบสนองโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นแบนด์วิดท์หน่วยความจำแบบรวมที่มากขึ้น ความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลที่สูงขึ้น หน่วยความจำเริ่มต้นที่เพิ่มขึ้น และการรองรับการชาร์จเร็ว ด้วยแบนด์วิดท์หน่วยความจำแบบรวมที่มากกว่า 150GB/s ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ผู้ใช้จึงทำงานแบบมัลติทาสก์ในหลายแอปพร้อมกัน ประมวลผลโมเดล AI เล่นเกมที่ใช้พลังการประมวลผลหนักๆ และทำนั่นทำนี่ได้อีกมากมายบน iPad Pro ใหม่ iPad Pro ใหม่ยังมอบความเร็วในการอ่านและเขียนข้อมูลที่เร็วขึ้นถึง 2 เท่า และมาพร้อมหน่วยความจำแบบรวมเริ่มต้นที่ 12GB ในรุ่น 256GB และ 512GB ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 50% เพื่อความคุ้มค่าที่มากขึ้น และด้วยระบบการจัดการหน้าต่างแบบใหม่ใน iPadOS 26 ผู้ใช้ iPad Pro จะได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานแบบมัลติทาสก์ที่ลื่นไหลยิ่งขึ้น พร้อมยกระดับเวิร์กโฟลว์ที่ซับซ้อนให้มีประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้ iPad Pro ยังรองรับการชาร์จเร็ว โดยสามารถชาร์จได้สูงสุด 50% ภายในเวลาประมาณ 30 นาที4 เมื่อใช้ร่วมกับอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C แบบวัตต์สูงที่มีจำหน่าย อย่าง USB-C พาเวอร์อะแดปเตอร์ ขนาด 70 วัตต์ จาก Apple5

ชิป C1X และ N1 มาอยู่บน iPad แล้ว
iPad Pro รุ่นเซลลูลาร์มาพร้อม C1X โมเด็มเซลลูลาร์ที่ออกแบบโดย Apple เพื่อมอบประสิทธิภาพด้านเซลลูลาร์ที่เร็วขึ้นสูงสุด 50% และยังใช้พลังงานน้อยลงสูงสุด 30% สำหรับผู้ที่ใช้เซลลูลาร์อย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับ iPad Pro พร้อมชิป M4 iPad Pro รุ่นเซลลูลาร์ยังช่วยให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับความสามารถด้าน GPS และการระบุตำแหน่ง เพื่อให้นำทางได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น และการรองรับเครือข่ายเซลลูลาร์ 5G ยังช่วยให้ผู้ใช้ต่อติดกับทุกเรื่องได้เสมอ ไม่ว่าจะทำงานหรือพักผ่อนอยู่ที่ใดในโลก นอกจากนี้ยังมี eSIM ที่ให้ผู้ใช้เพิ่มแผนใหม่ เชื่อมต่อ และโอนย้ายแผนเซลลูลาร์ที่มีอยู่ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัยในรูปแบบดิจิทัล ทั้งยังติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนได้เสมอ ไม่ว่าจะมี Wi-Fi หรือไม่ก็ตาม ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องทำงานระหว่างเดินทาง เช่น นักธุรกิจที่เดินทางบ่อยหรือสถาปนิกที่ทำงานภาคสนาม
iPad Pro ใหม่มาพร้อม N1 ชิปเครือข่ายไร้สายที่ออกแบบโดย Apple ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread โดยชิป N1 จะมอบประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นเมื่อเชื่อมต่อกับเครือข่าย 5GHz พร้อมทั้งปรับปรุงประสิทธิภาพและความเสถียรโดยรวมของคุณสมบัติอย่างฮอตสปอตส่วนบุคคลและ AirDrop ให้ดียิ่งขึ้น

การออกแบบและจอภาพที่เหนือชั้น
iPad Pro มาในดีไซน์ที่บางและเบาอย่างน่าทึ่งเพื่อการพกพาที่สะดวกขั้นสุด โดยมีให้เลือกทั้งสีดำสเปซแบล็คและสีเงินในรุ่น 11 นิ้วที่มีความบางเพียง 5.3 มม. และรุ่น 13 นิ้วที่บางยิ่งกว่าที่ 5.1 มม. จอภาพ Ultra Retina XDR ซึ่งเป็นจอภาพที่ล้ำสมัยที่สุดในโลกมาพร้อมเทคโนโลยี OLED สองชั้นสุดล้ำที่ให้ความสว่างสูงสุด คอนทราสต์ที่แม่นยำอย่างเหลือเชื่อ และเทคโนโลยีต่างๆ อย่าง ProMotion และ True Tone โดย iPad Pro สามารถรองรับความสว่างเต็มหน้าจอสูงสุด 1,000 นิต สำหรับคอนเทนต์ SDR และ HDR และมีความสว่างเฉพาะจุดสูงสุด 1,600 นิต และสำหรับผู้ใช้ที่ทำงานกับเวิร์กโฟลว์ขั้นสูงที่ต้องมีการจัดการด้านสีหรือทำงานในสภาพแสงที่ท้าทายนั้น iPad Pro ก็มีตัวเลือกกระจกจอภาพ Nano-texture ซึ่งผ่านการสลักพื้นผิวด้วยความแม่นยำระดับนาโนเมตร จึงช่วยคงคุณภาพและคอนทราสต์ของภาพไว้ พร้อมทั้งช่วยกระจายแสงโดยรอบเพื่อลดแสงสะท้อน



iPad Pro ใหม่รองรับการเชื่อมต่อจอภาพภายนอกได้สูงสุด 120Hz จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานสร้างสรรค์ เช่น การตัดต่อวิดีโอ และการเล่นเกม iPad Pro ยังรองรับการซิงค์แบบปรับได้ใหม่สำหรับผู้ที่ใช้จอภาพภายนอก 120Hz ซึ่งจะช่วยลดความหน่วงให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อให้การแสดงผลบนจอภาพภายนอกลื่นไหลยิ่งขึ้นและลดอาการกระตุกอย่างเห็นได้ชัด จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการใช้งานที่ต้องการความหน่วงต่ำๆ เช่น การเล่นเกม

iPadOS 26 อัดฉีดพลังแรงให้การใช้งาน iPad
iPadOS 26 มาพร้อมดีไซน์ใหม่และคุณสมบัติอันทรงพลังที่จะช่วยให้ผู้ใช้รับมือกับการทำงานสร้างสรรค์ที่ต้องประมวลผลหนักๆ และงานระดับมืออาชีพได้แบบสบายๆ พร้อมยกระดับขีดความสามารถและความอเนกประสงค์ของ iPad ให้เหนือชั้นไปอีกขั้น
- ดีไซน์ใหม่อันงดงามนี้สร้างขึ้นจาก Liquid Glass วัสดุโปร่งแสงชนิดใหม่ที่สะท้อนและหักเหแสงจากสิ่งรอบข้าง พร้อมตอบสนองต่อการโต้ตอบของผู้ใช้และปรับเปลี่ยนไปตามสิ่งที่อยู่บนหน้าจอ เพื่อให้ผู้ใช้จดจ่อกับคอนเทนต์ได้มากขึ้น
- ระบบการจัดการหน้าต่างแบบใหม่หมดที่ทรงพลังและใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้ใช้ควบคุม จัดระเบียบ และสลับระหว่างแอปได้อย่างสะดวก ในขณะที่ยังคงไว้ซึ่งความเรียบง่ายของ iPad และด้วยแถบเมนูแบบใหม่ ผู้ใช้จึงสามารถเข้าถึงคำสั่งต่างๆ ภายในแอปได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่ปัดลงจากด้านบนของจอภาพ หรือเลื่อนเคอร์เซอร์ไปที่ด้านบน
- iPadOS 26 มาพร้อมวิธีใหม่ในการจัดการ เข้าถึง และจัดระเบียบไฟล์ผ่านแอปไฟล์ที่ได้รับการปรับปรุงให้ทรงพลังยิ่งขึ้น พร้อมมุมมองรายการแบบใหม่และตัวเลือกการปรับแต่งโฟลเดอร์ที่หลากหลายกว่าเดิม โฟลเดอร์ใน Dock ช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงการดาวน์โหลด เอกสาร และอื่นๆ ได้อย่างสะดวกจากทุกที่ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าแอปเริ่มต้นสำหรับเปิดไฟล์แบบเฉพาะหรือไฟล์บางประเภทได้ด้วย
- แอปตัวอย่างมาอยู่บน iPad แล้ว ผู้ใช้จึงมีแอปแบบเฉพาะในการดูและแก้ไขไฟล์ PDF พร้อมคุณสมบัติอันทรงพลังอย่างการทำเครื่องหมายด้วย Apple Pencil และการป้อนอัตโนมัติที่มาพร้อมเครื่อง
- iPadOS 26 ใช้ประโยชน์จาก Apple Silicon เพื่อปลดล็อคความสามารถใหม่ๆ สำหรับมือโปรด้านงานสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติงานที่ทำอยู่เบื้องหลัง การควบคุมเสียงเข้าได้ละเอียดขึ้น และความสามารถในการบันทึกวิดีโอคุณภาพสูงด้วยถ่ายวิดีโอหน้าจอ
- Apple Intelligence มาพร้อมระบบอัจฉริยะที่เป็นประโยชน์และตรงกับบริบทซึ่งผสานการทำงานอย่างลึกซึ้งทั่วทั้งระบบปฏิบัติการ พร้อมยกระดับความเป็นส่วนตัวของ AI ไปอีกขั้น5 คุณสมบัติใหม่ใน iPadOS 26 ประกอบด้วยการแปลภาษาสดในแอปโทรศัพท์, FaceTime และข้อความ,6 การทำงานอัจฉริยะในแอปคำสั่งลัดใหม่, ความสามารถในการระบุและจัดหมวดหมู่การดำเนินการที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติในแอปเตือนความจำและอีกมากมาย
อุปกรณ์เสริมสุดล้ำสำหรับ iPad Pro
อุปกรณ์เสริมช่วยต่อยอดความอเนกประสงค์ของ iPad Pro เพื่อเปิดประตูใหม่ๆ ให้กับทั้งงานสร้างสรรค์และการทำงานอย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็น Apple Pencil Pro และ Apple Pencil (USB-C) ที่ช่วยให้ผู้ใช้มีสองตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการวาดภาพ จดโน้ต เพิ่มคำอธิบายประกอบ และอีกมากมาย Magic Keyboard ที่บางและเบาสำหรับ iPad Pro ช่วยมอบประสบการณ์การใช้งานที่ล้ำสมัยที่สุดด้วยดีไซน์แบบยกลอย แถวปุ่มฟังก์ชั่น และที่พักมืออะลูมิเนียมอันสวยงาม นอกจากนี้ iPad Pro ยังรองรับ Smart Folio สำหรับ iPad Pro ที่ยึดติดด้วยแม่เหล็กและปรับองศาการมองได้หลายระดับอีกด้วย




iPad Pro กับสิ่งแวดล้อม
Apple 2030 คือแผนการอันมุ่งมั่นของบริษัทที่จะทำให้ฟุตพริ้นต์ทั้งหมดมีความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในทศวรรษนี้ด้วยการลดการปล่อยก๊าซจากผลิตภัณฑ์ที่มาจากแหล่งใหญ่ที่สุดทั้ง 3 แหล่งอย่างวัสดุ ไฟฟ้า และการขนส่ง iPad Pro ใหม่ผลิตโดยใช้ส่วนประกอบวัสดุรีไซเคิล 32% ตามน้ำหนัก โดยประกอบด้วยอะลูมิเนียมรีไซเคิล 100% ในตัวเครื่อง แร่โลหะหายากรีไซเคิล 100% ในแม่เหล็กทุกชิ้น และโคบอลต์รีไซเคิล 100% ในแบตเตอรี่ โดยการผลิตทั่วทั้งซัพพลายเชนนั้นใช้ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน 55% เช่น ลมและแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ iPad Pro ยังได้รับการออกแบบมาให้ทนทานและมาพร้อมบริการช่วยเหลือด้านซอฟต์แวร์ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม โดยเป็นไปตามมาตรฐานระดับสูงของ Apple ในด้านการประหยัดพลังงานและความปลอดภัยทางเคมี ส่วนบรรจุภัณฑ์กระดาษก็ทำจากเยื่อไม้ 100% และนำไปรีไซเคิลได้ง่ายอีกด้วย
ราคาและการวางจำหน่าย
- ลูกค้าสามารถสั่งซื้อ iPad Pro ใหม่พร้อมชิป M5 ล่วงหน้าได้เร็วๆนี้ทาง apple.com/th/store และในแอป Apple Store ใน 31 ประเทศและภูมิภาค รวมถึงสหรัฐอเมริกา โดยจะเริ่มจัดส่งถึงมือลูกค้า และวางจำหน่ายใน Apple Store รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple เร็วๆ นี้
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว และ 13 นิ้วพร้อมชิป M5 จะมีให้เลือกในสีเงินและสีดำสเปซแบล็คในรุ่นความจุ 256GB, 512GB, 1TB และ 2TB
- iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 35,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 42,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ส่วน iPad Pro รุ่น 13 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ 47,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi และ 54,900 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi + Cellular ดูข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติมรวมถึงตัวเลือกกระจก Nano-texture ได้ที่ apple.com/th/store
- ราคาส่งเสริมการศึกษาสำหรับ iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว เริ่มต้นที่ 31,900 บาท และ 43,900 บาท สำหรับ iPad Pro รุ่น 13 นิ้ว
- Apple Pencil Pro และ Apple Pencil (USB-C) สามารถใช้งานร่วมกับ iPad Pro ใหม่ได้ โดย Apple Pencil Pro มีจำหน่ายในราคา 4,490 บาท และในราคาส่งเสริมการศึกษาที่ 4,090 บาท ส่วน Apple Pencil (USB-C) มีจำหน่ายในราคา 2,990 บาท และในราคาส่งเสริมการศึกษาที่ 2,590 บาท
- Magic Keyboard สำหรับ iPad Pro มีให้เลือกในสีดำและสีขาว โดย Magic Keyboard รุ่น 11 นิ้ว มีจำหน่ายในราคา 10,990 บาท ส่วน Magic Keyboard รุ่น 13 นิ้วใหม่ มีจำหน่ายในราคา 12,490 บาท ราคาส่งเสริมการศึกษาสำหรับ Magic Keyboard รุ่น 11 นิ้วอยู่ที่ 10,190 บาท และสำหรับ Magic Keyboard รุ่น 13 นิ้วอยู่ที่ 11,690 บาท
- Magic Keyboard สำหรับ iPad Air พร้อมชิป M3 มีให้เลือกในสีดำแล้ววันนี้ และสามารถใช้งานร่วมกับ iPad Air รุ่น 11 นิ้ว และ 13 นิ้วได้ โดย Magic Keyboard รุ่น 11 นิ้ว มีจำหน่ายในราคา 9,990 บาท ส่วน Magic Keyboard รุ่น 13 นิ้ว มีจำหน่ายในราคา 10,990 บาท ราคาส่งเสริมการศึกษาสำหรับ Magic Keyboard รุ่น 11 นิ้วอยู่ที่ 9,200 บาท และสำหรับ Magic Keyboard รุ่น 13 นิ้วอยู่ที่ 10,300 บาท
- AppleCare มอบบริการช่วยเหลือที่ยอดเยี่ยม โดยมาพร้อมตัวเลือกที่ยืดหยุ่นสำหรับผู้ใช้ Apple ลูกค้าสามารถเลือก AppleCare+ เพื่อคุ้มครอง iPad เครื่องใหม่ หรือเลือก AppleCare One ในสหรัฐอเมริกาเพื่อคุ้มครองอุปกรณ์หลายเครื่องในแผนเดียวที่ใช้งานได้ง่าย โดยแผนทั้ง 2 รูปแบบมาพร้อมการรับประกันสำหรับอุบัติเหตุอย่างการตกกระแทกและทำน้ำหกใส่ การคุ้มครองกรณีโจรกรรมและสูญหายสำหรับอุปกรณ์ที่เข้าเกณฑ์ การบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ และบริการช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญของ Apple ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ apple.com/th/applecare
- Apple มีหลากหลายวิธีที่จะช่วยประหยัดเงินกับ iPad รุ่นล่าสุด โดยลูกค้าสามารถนำ iPad เครื่องปัจจุบันมาแลกรับเป็นเครดิตสำหรับใช้ซื้อเครื่องใหม่โดยไปที่ Apple Store Online, แอป Apple Store หรือที่ Apple Store หากต้องการตรวจสอบมูลค่าของอุปกรณ์ รวมถึงข้อกำหนดและเงื่อนไข ลูกค้าสามารถไปที่ apple.com/th/shop/trade-in
เกี่ยวกับ Apple Apple ได้ปฏิวัติเทคโนโลยีส่วนบุคคลด้วยการเปิดตัว Macintosh สู่ท้องตลาดตั้งแต่ปี 1984 วันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac, AirPods, Apple Watch และ Apple Vision Pro แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของ Apple ทั้ง 6 อันได้แก่ iOS, iPadOS, macOS, watchOS, visionOS และ tvOS มอบประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลบนทุกอุปกรณ์ของ Apple และช่วยให้ผู้คนทำทุกสิ่งได้มากกว่าที่เคยด้วยบริการที่ไม่เหมือนใครอย่าง App Store, Apple Music, iCloud และ Apple TV และพนักงานของ Apple มากกว่า 150,000 คน ต่างก็ทุ่มเทให้กับการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลก และทำให้โลกใบนี้ดียิ่งขึ้นในทุกวัน
- เปรียบเทียบผลลัพธ์กับเครื่อง iPad Pro รุ่น 13 นิ้ว (ชิป M4) ที่มาพร้อม CPU แบบ 10-core และหน่วยความจำแบบรวม 16GB
- เปรียบเทียบผลลัพธ์กับเครื่อง iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้ว (รุ่นที่ 5) ที่มาพร้อม CPU แบบ 8-core และหน่วยความจำแบบรวม 16GB
- Genmoji และ Image Playground มีให้ใช้งานในภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, โปรตุเกส (บราซิล), สเปน และญี่ปุ่น
- Apple ทำการทดสอบในเดือนสิงหาคมและกันยายน 2025 ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ apple.com/th/ipad-pro
- Apple Intelligence พร้อมให้ใช้งานในรุ่นเบต้าโดยรองรับภาษาดังต่อไปนี้ ซึ่งได้แก่ ภาษาอังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลี, โปรตุเกส (บราซิล), สเปน, จีน (ตัวย่อ), ญี่ปุ่น และเกาหลี คุณสมบัติบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในบางภูมิภาคหรือบางภาษา ดูความพร้อมใช้งานของคุณสมบัติและภาษารวมถึงข้อกำหนดของระบบได้ที่ support.apple.com/th-th/121115
- การแปลภาษาสดในแอปข้อความรองรับภาษาอังกฤษ (สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา), ฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส), เยอรมัน, อิตาลี, ญี่ปุ่น, เกาหลี, โปรตุเกส (บราซิล), สเปน (สเปน) และจีน (ตัวย่อ) การแปลภาษาสดในแอปโทรศัพท์และ FaceTime พร้อมให้ใช้งานสําหรับการโทรแบบตัวต่อตัวในภาษาอังกฤษ (สหราชอาณาจักร, สหรัฐอเมริกา), ฝรั่งเศส (ฝรั่งเศส), เยอรมัน (เยอรมนี), โปรตุเกส (บราซิล) และสเปน (สเปน) เมื่อเปิดใช้งาน Apple Intelligence บน iPhone, iPad หรือ Mac ที่ใช้งานร่วมกันได้ การแปลภาษาสดในแอปโทรศัพท์และ FaceTime จะรองรับภาษาเพิ่มเติมได้แก่ จีน (กลาง, ตัวย่อ), จีน (กลาง, ตัวเต็ม), อิตาลี, ญี่ปุ่น และเกาหลีภายในปีนี้ คุณสมบัติบางประเภทอาจใช้ไม่ได้ในบางภูมิภาคหรือบางภาษา