รูปแบบการขายแอพในปัจจุบัน เริ่มจะปรับเปลี่ยนไปในแนวทางการออกมาเป็นแอพแบบ Freemium มากขึ้น คือสามารถดาวน์โหลดไปใช้ได้ฟรี แต่ถ้าอยากได้ฟังก์ชันเพิ่ม ก็ให้จ่ายเงินซื้อในรูปแบบ In-App Purchase เอา เช่น จ่ายเงินจริงเพื่อซื้อเงินในเกม หรือจ่ายเงินจริงเพื่อลดเวลารอบเกิดใหม่ให้เร็วขึ้นในบางเกม ซึ่งถึงแม้มูลค่าของ In-App Purchase แต่ละรายการจะดูไม่มากนัก แต่ถ้ากดซื้อเยอะๆ ก็พาลกระเป๋าตังค์เสียหายได้เอาเรื่องเหมือนกัน
อย่างกรณีล่าสุดที่เกิดขึ้นในอังกฤษ เมื่อ Lee Neale พ่อของลูกสาววัย 8 ปี ได้ทำเรื่องขอ refund เงินคืนจาก Apple เนื่องจากลูกสาวของเขาได้กดซื้อของแบบ In-App Purchase ในเกม Campus Life, My Horse, Hay Day และเกม Smurfs’ Village ในช่วงเวลา 6 วัน มี transaction เกิดขึ้น 74 ครั้ง คิดเป็นเงินรวมกันกว่า 2,000 ปอนด์ (ราวๆ 95,000 บาท) โดยตัวเขามารู้เรื่องดังกล่าวก็เมื่อธนาคารเจ้าของบัตรที่เขาใช้งานอยู่จัดการบล็อคไม่ให้เขาใช้งานบัญชีไปแล้ว ส่วนตัวเขาเองก็บอกว่าไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน เพราะช่วงที่มีอีเมลแจ้งการซื้อจาก Apple ส่งมา เขายุ่งอยู่กับงานเลยไม่มีเวลาเปิดอีเมลอ่าน (ตามปกติ Apple จะส่งเมลแจ้งยอดการซื้อตามมาหลังจ่ายเงินไปแล้ว 2-3 วัน)
ในครั้งแรก Apple ปฏิเสธที่จะ refund เงินคืนให้ Neale เหตุเพราะกฏการใช้งาน iTunes Store ของ Apple คือการซื้อสินค้า (content) บน iTunes Store ทุกครั้งที่สินค้าที่ซื้อสามารถใช้งานได้ปกติ จะถือเป็นที่สิ้นสุดแล้ว (ถ้าไม่เรียก refund ภายในช่วงเวลาที่ Apple กำหนด) โดยเฉพาะส่วนที่เป็น In-App Purchase จะไม่สามารถ refund ได้อีกด้วย
แต่ในอีกไม่กี่วันต่อมา Apple ก็ติดต่อกลับมาหา Neale และแจ้งว่าจะทำการ refund เงินคืนให้ทั้งหมด ซึ่งตัวเขาดีใจมาก เพราะทั้งหมดก็ไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆ เลยทีเดียว โดยจะคืนเงินให้ทั้งหมดเป็นจำนวนกว่า 4,000 ปอนด์ (ราวๆ 180,000 กว่าบาท) โดยทั้งหมดเป็นยอดการซื้อ In-App Purchase จากลูกสาวของ Neale ในช่วงระยะ 4 เดือนที่ผ่านมา (กดซื้อเยอะมากเลยนะนี่)
ทางที่ดี ถ้าไม่อยากให้เกิดกรณีแบบนี้เข้ากับตัวเอง แนะนำว่าอย่าให้ลูกๆ ทราบรหัส Apple ID จะดีที่สุดครับ เพราะก่อนซื้อ In-App Purchase จะมีการถามรหัสผ่าน Apple ID ก่อนอยู่แล้ว เท่านี้ก็น่าจะลดโอกาสเกิดเหตุการณ์อย่างในข่าวไปได้เยอะเลยทีเดียว
ที่มา : Apple Insider