ซื้อประกันภัย iPhone เพิ่มที่ไหนดี ได้การคุ้มครองอะไรบ้าง และแต่ละที่ราคาเท่าไหร่
การประกันภัยไม่ว่าจะเป็นการประกันชีวิต หรือว่าประกันทรัพย์สิน ก็ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้เราสบายใจได้มากขึ้น ถ้าหากว่าเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นมา อย่างน้อยเบี้ยประกันที่เราจ่ายไป เราก็ยังได้รับการคุ้มครองตามรูปแบบประกันที่ได้ซื้อไป แน่นอนว่าการประกันนั้นรวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์การใช้งานต่างๆ อย่างมือถือ Smart Phone ที่มีราคาสูงเกิน 2-3 หมื่นขึ้นไป หากเกิดความเสียหายหรือเป็นอะไรขึ้นมา เราก็คงไม่อยากจะต้องไปเสียเงินซ่อมเต็มราคา หรือว่าต้องซื้อใหม่เต็มราคากันแน่ๆ ซึ่งมือถือของทาง Apple อย่าง iPhone ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้ให้สิทธิ์คุ้มครองตัวเครื่องมาตั้งแต่ออกมาจากโรงงานเลย นั่นก็คือ AppleCare ที่มีเวลาการคุ้มครองจำกัดเพียง 1 ปี (นับตั้งแต่วันที่ผลิตจากโรงงาน ไม่ใช่จากตอนที่เราซื้อ) ถ้าต้องการการคุ้มครองเพิ่ม เราจำเป็นต้องซื้อ AppleCare+ เพื่อเพิ่มระยะเวลาและเพิ่มการคุ้มครองขึ้นไปอีก รวมไปถึงบริษัทประกันจากที่อื่นๆ ก็มีการประกันเพิ่มเติมนอกจากของ Apple อีกด้วย สำหรับคนที่อยากซื้อประกัน iPhone เพิ่มจากที่ใช้งานอยู่ วันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำประกันภัย iPhone จากที่ต่างๆ ที่มีอยู่ในตอนนี้ ว่าอันไหนราคาเท่าไหร่ และได้คุ้มครองอะไรบ้าง
- ซื้อประกันภัย iPhone เพิ่มจาก AppleCare+
- ซื้อประกันภัย iPhone เพิ่มจาก AIS Mobile Care
- ซื้อประกันภัย iPhone เพิ่มจาก TRUE PROTECH
- ซื้อประกันภัย iPhone เพิ่มจาก Allianz Xtend
- ซื้อประกันภัย iPhone เพิ่มจาก กรุงศรี
ซื้อประกันภัย iPhone เพิ่มจาก AppleCare+
อย่างที่บอกไปในตอนต้นว่าทาง Apple นั้นได้ประกันตัวเครื่องมาให้อยู่แล้ว นับตั้งแต่วันที่ผลิตออกจากโรงงาน ไม่ใช่ตอนที่เราซื้อมานะ ซึ่งระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ผลิต และมาถึงมือเรานั้นก็อาจจะกินเวลาไปหลายเดือนแล้ว (กดที่นี่เพื่อตรวจสอบความคุ้มครอง) จึงได้มีการเพิ่มการคุ้มครองขึ้นมาโดยใช้ชื่อว่า AppleCare+ ที่เราสามารถซื้อเพิ่มได้ทันทีตั้งแต่ซื้อ iPhone เครื่องใหม่เลย หรือถ้าจะซื้อหลังจากนั้นก็ต้องซื้อจาก Apple ภายใน 60 วันนับตั้งแต่วันที่ซื้อ iPhone ไปแล้ว หรือถ้าซื้อจากตัวแทน Apple อย่างเช่น Studio7, iCare หรือ iStudio ก็อาจจะยืดระยะเวลาซื้อเพิ่มได้ถึง 1 ปี หรือ 365 วันเลยทีเดียว ทางที่ดีถ้าอยากจะซื้อเพิ่มก็ให้ซื้อตั้งแต่วันที่ซื้อเครื่องมาเลยจะดีที่สุด
สิ่งที่จะได้รับการคุ้มครองจากการซื้อ AppleCare+ คือจะได้ขยายเวลาคุ้มครองเพิ่มเป็น 2 ปีทันที นับตั้งแต่วันที่ซื้อ AppleCare+ วันแรก และเพิ่มการคุ้มครองด้านความเสียหายจากอุบัติเหตุสูงสุด 2 ครั้งในทุกๆ 12 เดือน (2 ปีก็ได้ 4 ครั้ง) โดยแต่ละครั้งนั้นจะมีค่าธรรมเนียมการให้บริการ 1,000 บาท สำหรับความเสียหายต่อหน้าจอ หรือ 3,300 บาท สำหรับความเสียหายอื่นๆ (ไม่รวมเครื่องหาย) โดยจะคุ้มครองด้าน Hardware ของ iPhone อย่างแบตเตอรี่ รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ที่มาพร้อมกับเครื่อง (ในกล่องเท่านั้น)
iPhone รุ่นที่สามารถซื้อได้ พร้อมราคา AppleCare+
- iPhone SE 2020 ราคา 3,300 บาท
- iPhone 7 / 8 ราคา 5,000 บาท
- iPhone 7 Plus / 8 Plus ราคา 6,200 บาท
- iPhone XR ราคา 6,200 บาท
- iPhone XS / XS Max ราคา 8,300 บาท
- iPhone 11 ราคา 6,200 บาท
- iPhone 11 Pro / 11 Pro Max ราคา 8,300 บาท
- iPhone 12 / 12 mini 6,200 บาท
- iPhone 12 Pro / 12 Pro Max ราคา 8,300 บาท
**อ้างอิงราคาจาก iCare**
สามารถซื้อ AppleCare+ ได้จากเครื่องโดยตรงโดยเข้าไปที่ Settings -> General -> About แล้วเลือกความคุ้มครอง AppleCare+ หรือทางออนไลน์ กดที่นี่ (ต้องใช้ Serial Number) และจาก Apple Store ทุกสาขา หรือซื้อผ่านทาง iCare ได้หลังจากซื้อเครื่องภายใน 365 วัน (อยู่ในสภาพที่ไม่เสียหาย) และโอเปอร์เรเตอร์ที่ซื้อเครื่องอย่าง AIS, TrueMove H และ dtac
ตารางเปรียบเทียบราคาค่าซ่อมหน้าจอ และความเสียหายอื่นๆ แบบมีประกันกับไม่มีประกันจาก AppleCare+
รุ่น\ ข้อมูล | ค่าซ่อมหน้าจอแบบไม่มี AppleCare+ | ค่าซ่อมหน้าจอแบบมี AppleCare+ | ค่าซ่อมความเสียหายอื่นๆ แบบไม่มี AppleCare+ | ค่าซ่อมความเสียหายอื่นๆ แบบมี AppleCare+ |
iPhone 5s | 4,300 บาท | 1,000 บาท | 9,100 บาท | 3,300 บาท |
iPhone SE (ทั้งสองรุ่น) | 4,300 บาท | 1,000 บาท | 9,100 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 6 | 4,300 บาท | 1,000 บาท | 9,150 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 6s | 4,900 บาท | 1,000 บาท | 9,150 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 6 Plus | 4,900 บาท | 1,000 บาท | 10,900 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 6s Plus | 5,600 บาท | 1,000 บาท | 10,900 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 7 | 4,900 บาท | 1,000 บาท | 9,180 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 7 Plus | 5,600 บาท | 1,000 บาท | 11,600 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 8 | 4,900 บาท | 1,000 บาท | 11,600 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 8 Plus | 5,600 บาท | 1,000 บาท | 13,602 บาท | 3,300 บาท |
iPhone XR | 6,599 บาท | 1,000 บาท | 13,602 บาท | 3,300 บาท |
iPhone X/ XS | 8,899 บาท | 1,000 บาท | 18,704 บาท | 3,300 บาท |
iPhone XS Max | 10,699 บาท | 1,000 บาท | 20,501 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 11 | 6,599 บาท | 1,000 บาท | 13,602 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 11 Pro | 8,899 บาท | 1,000 บาท | 18,704 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 11 Pro Max | 10,699 บาท | 1,000 บาท | 20,501 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 12 | 8,899 บาท | 1,000 บาท | 15,301 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 12 mini | 7,299 บาท | 1,000 บาท | 13,602 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 12 Pro | 8,899 บาท | 1,000 บาท | 18,704 บาท | 3,300 บาท |
iPhone 12 Pro Max | 10,699 บาท | 1,000 บาท | 20,501 บาท | 3,300 บาท |
ซื้อประกันภัย iPhone เพิ่มจาก AIS Mobile Care
สำหรับค่ายโอเปอร์เรเตอร์อย่าง AIS นั้นก็ได้ทำประกันภัยให้สำหรับมือถือออกมาอยู่เหมือนกัน โดยสามารถทำได้ตั้งแต่รุ่นที่ราคาไม่สูงมาก จนไปถึงราคาสูงสุดไม่จำกัดกันเลย สามารถซื้อได้ทั้งแบบจ่ายเป็นรายเดือน หรือว่าจะเลือกเป็นจ่ายแบบรายปีก็ได้ รายละเอียดการคุ้มครองจาก AIS Mobile Care คือ
เครื่องเสียหายจากการตกพื้น จอแตก หรือตกน้ำ สามารถใช้สิทธิ์ในการเปลี่ยนเครื่อง หรือรับเครื่องทดแทนได้ใหม่ตามข้อกำหนดทันทีภายในไม่เกิน 6 ชั่วโมง สูงสุด 2 ครั้งต่อปี เฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดภายใน 1-2 วัน โดยจะต้องชำระเงินเพื่อเปลี่ยนเครื่อง หรือค่าทดแทนเครื่อง (อ่านรายละเอียด และเงื่อนไขเพิ่มเติมที่นี่) มีค่าบริการคือ
รูปแบบบริการ ปีที่ 1 ปีที่ 2 ปีที่ 3 ปีที่ 4 เปลี่ยนเครื่อง (SWAP) โดยต้องส่งมอบเครื่องเดิมคืน 25% 25% 25% 25% รับเครื่องทดแทน (REPLACEMENT) กรณีที่ไม่มีเครื่องเดิมมาเปลี่ยน 45% 40% 30% 30%
ราคาค่าแพ็กเกจ AIS Mobile Care นั้นจะขึ้นอยู่กับราคามือถือดังนี้
แพ็กเกจ | ราคามือถือ ต่ำกว่า 5,000 | ราคามือถือ 5,001 – 15,000 | ราคามือถือ 15,001 – 25,000 | ราคามือถือ 25,001 – 45,000 | ราคามือถือ 45,001 ขึ้นไป |
รายเดือน | 49 บาท | 89 บาท | 139 บาท | 189 บาท | 259 บาท |
รายปี (พิเศษเฉพาะปีแรก)* | 529 บาท | 969 บาท | 1,499 บาท | 1,999 บาท | 2,499 บาท |
ซื้อประกันภัย iPhone เพิ่มจาก TRUE PROTECH
มาต่อกันที่ค่าย TrueMove H ที่จะคล้ายๆ กับของทาง AIS เลย ที่สามารถซื้อได้ทั้งแบบจ่ายเป็นรายเดือน หรือว่าจะเลือกเป็นจ่ายแบบรายปีก็ได้ และยังมีราคาที่ใกล้เคียงกันมากๆ ด้วย รายละเอียดการคุ้มครองจาก TRUE PROTECH คือ
เครื่องเสียหายจากการตกพื้น จอแตก หรือตกน้ำ สามารถรับสิทธิ์เปลี่ยนเครื่องในปกรณีที่มีเครื่องอยู่ หรือรับเครื่องทดแทนได้ใหม่หากเครื่องเก่าสูญหาย สูงสุด 2 ครั้งต่อปี โดยจะส่งตรงถึงบ้านภายใน 1 วันเฉพาะในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ส่วนต่างจังหวัดขึ้นอยู่กับระยะทาง โดยจะต้องชำระเงินเพื่อเปลี่ยนเครื่อง หรือค่าทดแทนเครื่องจะขึ้นอยู่กับราคาเครื่อง ไม่รวมส่วนรถ ณ เวลาที่ได้ซื้อเครื่องไป พร้อมรับประกันเครื่องอีก 6 เดือนหลังจากที่สมัคร TRUE PROTECH (อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติมที่นี่) มีค่าบริการคือ
ราคาค่าแพ็กเกจ TRUE PROTECH นั้นจะขึ้นอยู่กับราคามือถือดังนี้
แพ็กเกจและบริการ | ราคามือถือ ต่ำกว่า 4,000 | ราคามือถือ 4,001 – 8,000 | ราคามือถือ 8001 – 20,000 | ราคามือถือ 20,001 – 30,000 | ราคามือถือ 30,001 – 40,000 | ราคามือถือ 40,001 ขึ้นไป |
รายเดือน | 49 บาท | 79 บาท | 139 บาท | 169 บาท | 189 บาท | 259 บาท |
รายปี (จ่าย 11 เดือน ฟรี 1 เดือน) | 539 บาท | 869 บาท | 1,529 บาท | 1,859 บาท | 2,079 บาท | 2,849 บาท |
*เปลี่ยนเครื่อง (SWAP) | 1,028 บาท | 1,636 บาท | 3,738 บาท | 7,290 บาท | 9,720 บาท | 14,579 บาท |
*รับเครื่องทดแทน (REPLACEMENT) | 1,729 บาท | 2,710 บาท | 6,308 บาท | 12,150 บาท | 16,168 บาท | 24,229 บาท |
ซื้อประกันภัย iPhone เพิ่มจาก Allianz Xtend
มาต่อกันที่บริษัทประกันภัยของ อลิอันซ์ แอสซิสแทนท์ และรับประกันภัยโดย บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) นั้นมีการประกันโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตอยู่ด้วย โดยมีเงื่อนไขเบื้องต้นคือมือถือต้องมีราคาตั้งแต่ 5,000 – 400,000 บาท และสมัครได้หลังจากซื้อสินค้าจากคู่ค้าภายใน 30 วัน (iPhone ได้แน่นอน) ซึ่งมือถือเครื่องที่จะทำประกันจะต้องอยู่ในประกันจากผู้ผลิตไม่น้อยกว่า 12 เดือนด้วย รวมถึงข้อมูลเอกสารอย่างใบเสร็จ ที่ต้องใช้ประกอบการทำประกันด้วย อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ ส่วนรายละเอียดที่ทาง Allianz Xtend จะคุ้มครองประกันภัย iPhone คือ
- ส่วนที่ 1. คุ้มครองเครื่องและอะไหล่ตามผู้ผลิต โดยได้วงเงินชดเชยและค่าซ่อมต่อครั้งจากผู้ผลิต 1 ปี และขยายต่อไปปีที่ 2 จะชดเชย 70% ของราคาสินค้าที่ซื้อไป
- ส่วนที่ 2. คุ้มครองอุบัติเหตุเพิ่มเติมได้แก่ อุบัติเหตุทางน้ำ, แตกหัก, ฟ้าผ่า ไฟฟ้าลัดวงจร, ไฟไหม้, ถูกโจรกรรมภายในอาคาร จะได้วงเงินชดเชยและค่าซ่อมต่อครั้ง 50% ของราคาสินค้าที่ซื้อไป ส่วนในปีที่ 2 จะไม่ได้รับการคุ้มครองแล้ว
ราคาเบี้ยประกันภัย iPhone ของ Allianz Xtend จะคิดจาก 8% ของราคาสินค้า โดยจะคิดจากราคาเครื่องในเวลานั้น โดยไม่รวมส่วนลดจากการซื้อขายจากผู้บริการเครือข่ายต่างๆ เช่น iPhone 12 Pro Max 512 GB ราคา 51,900 บาท ราคาเบี้ยประกัน 8% เท่ากับ 4,152 บาท (ราคาที่ต้องจ่าย เพื่อประกันภัย iPhone จาก Allianz Xtend) กดซื้อประกันที่นี่
ซื้อประกันภัย iPhone เพิ่มจาก กรุงศรี
ประกันภัยแบบสุดท้ายที่เราจะมาแนะนำคือ ประกันภัยคุ้มครองมือถือจาก บริษัท อลิอันซ์ อยุธยา ประกันภัย จำกัด (มหาชน) โดยจะมีราคาเบี้ยประกันเพียง 995 บาทเท่านั้น แต่มีเงื่อนไขคือ รับประกันภัย iPhone, SAMSUNG Galaxy และ iPad ที่ซื้อใหม่ไม่เกิน 2 เดือนนับจากวันที่ขอทำประกันภัย และมีราคาเครื่อง 20,000 บาทขึ้นไป โดยจะรับ 1 เครื่องต่อ 1 ประกันเท่านั้น อ่านเพิ่มเติมที่นี่ ส่วนความคุ้มครองจะมี 3 ส่วนได้แก่
- ไฟไหม้ ฟ้าผ่า ภัยระเบิด ภัยลมพายุ ภัยอากาศยาน ภัยจากยวดยานพาหนะ ภัยเนื่องจากน้ำ ภัยน้ำท่วม ภัยแผ่นดินไหว ภัยจากควัน ภัยไฟป่า ภัยจลาจล นัดหยุดงาน ภัยป่าเถื่อนและเจตนาร้าย และอุบัติเหตุต่างๆ ที่เกิดจากปัจจัยภายนอกและเกิดขึ้นโดยเฉียบพลัน โดยได้ได้คาดคิดมาก่อน และไม่ได้ระบุเป็นข้อยกเว้นในกรมธรรม์ (ค่าซ่อมตามความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง) ราคาสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อครั้ง และตลอดเวลาประกันภัย
- การลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ และปล้นทรัพย์ ที่มีร่องรอยความเสียหายรุนแรง 15,000 บาทต่อครั้ง และตลอดเวลาประกันภัย
- การลักทรัพย์ ที่ไม่มีร่องรอยความเสียหายรุนแรง ราคาสูงสุดไม่เกิน 15,000 บาทต่อครั้ง และตลอดเวลาประกันภัย
**ความเสียหายส่วนแรก : ผู้ประกันภัยต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายส่วนแรก 2,000 บาท ทุกกรณี และทุกครั้ง**
แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นประกันภัย iPhone จากทั้งหมดที่มีอยู่ในตอนนี้ทั้ง 5 รูปแบบที่มีการคุ้มครองแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากจะได้การคุ้มครองแบบไหน ถ้าจะเน้นไปทางเรื่องของอะไหล่แท้เมื่อเกิดความเสียหาย แต่ไม่ได้คุ้มครองเมื่อ iPhone หาย แนะนำว่าให้ซื้อของ AppleCare+ จะดีที่สุด ถึงแม้ว่าจะต้องเสียเงินเพิ่มแต่ก็มั่นใจได้ว่า จะได้รับการคุ้มครองจากผู้บริการที่ชำนาญพร้อมกับอะไหล่ของแท้แน่นอน แต่ถ้าอยากได้เครื่องใหม่ไปเลยซื้อของ AIS หรือ TRUE PROTECH ก็น่าสนใจมาก ถึงแม้จะต้องเสียค่าเครื่องเพิ่มเป็นเปอร์เซนต์แต่ก็มีความคุ้มค่าสูงเลย ส่วนใครที่อยากได้ครอบคลุมไปถึงเรื่องของ iPhone หายนั้นเราแนะนำว่าให้ลองดูของ Allianz Xtend หรือ กรุงศรี ที่คุ้มครองตรงด้านนี้ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะของเจ้าไหนก็ตามแต่ ควรอ่านเงื่อนไขและทำความเข้าใจก่อนทุกครั้ง เพื่อจะได้ไม่พลาดหากซื้อไปแล้วไม่ตรงกับเงื่อนไขการประกัน แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ