เข้าสู่ช่วงกลางปีเข้าปลายปี 2025 กันแล้ว ถ้าพูดถึงโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาท ก็ถือว่ามีตัวเลือกเยอะมากๆ เป็นรองจากรุ่นราคาประหยัดไม่เกิน 5000-10000 บาทเลย โดยส่วนใหญ่แล้วราคาตั้งแต่ 10000-15000 บาทนั้น จะเป็นรุ่นที่มาพร้อมสเปคที่คุ้มค่า รองรับ 5G ใช้ AI ได้ มีฟีเจอร์ครบ ไม่ว่าจะเล่นเกม ถ่ายรูป หรือใช้งานทั่วไปก็ตอบโจทย์ได้สบายๆ เน้นความคุ้มค่าในราคาที่เข้าถึงง่าย แต่ประสิทธิภาพไม่แพ้รุ่นระดับสูงเลย วันนี้เราเลยจะมาแนะนำ 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทกลางปี 2025 รุ่นไหนดีสำหรับคนที่อยากได้รุ่นที่มีฟีเจอร์ครบๆ ในราคาไม่สูงมาก
แนะนำ 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทกลางปี 2025

1. realme 14 5G
เริ่มต้นกันด้วยโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทจาก realme รุ่นล่าสุดที่เปิดตัวมพร้อมชิป Snapdragon 6 Gen 4 5G รองรับการเล่นเกมได้ 120FPS โดยมีแรมสูงสุด 12GB ขยายเพิ่มได้และความจุสูงสุด 512GB มีหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับรีเฟรชเรท 120Hz และมีแบตเตอรี่ 6000mAh ชาร์จเร็วได้ 45W ตัวกล้องหลักมี 50MP OIS พร้อม AI และโบเก้ 2MP กล้องหน้า 16MP รองรับ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2 ตัวเครื่องบาง 7.97 มม. น้ำหนัก 196 กรัม กันน้ำ IP66/IP68/IP69 กับระบบระบายความร้อน Bionic รุ่นนี้จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการมือถือเล่นเกมเป็นหลัก
- รุ่น RAM 12GB/ 256GB: ราคา 13,999 บาท (Shopee/ Lazada)
- รุ่น RAM 12GB/ 512GB: ราคา 15,999 บาท (Shopee/ Lazada)

2. POCO F7
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทรุ่นต่อมาเป็นรุ่นสเปคกับราคาคุ้มๆ จาก POCO จะเน้นเล่นเกมหรือใช้งานทั่วไปก็ไหว ด้วยชิป Snapdragon 8s Gen 4 แรงระดับใกล้เคียงเรือธง มีแรม 12GB และความจุสูงสุด 512GB มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ 6.83 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับรีเฟรชเรท 120Hz กับแบตเตอรี่อึดๆ ที่ความจุ 6500mAh ชาร์จเร็ว 90W รองรับชาร์จย้อนกลับ 22.5W ส่วนกล้องหลักมี 50MP Sony IMX882 กันสั่น OIS พร้อมเลนส์อัลตราไวด์ 8MP และกล้องหน้า 20MP รองรับ 5G, Wi-Fi 7, Bluetooth 6.0 ตัวเครื่องกันน้ำฝุ่น IP68 ดีไซน์ฝาหลังสวยๆ เลย
- รุ่น RAM 12GB/ 256GB: ราคา 13,999 บาท (Shopee/ Lazada)
- รุ่น RAM 12GB/ 512GB: ราคา 14,999 บาท (Shopee/ Lazada)

3. OPPO Reno14 F 5G
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทจาก OPPO รุ่นซีรีส์ล่าสุด โดยรุ่นนี้จะเป็นรุ่นสเปครองจากตัวหลัก แต่ก็มีสเปคที่ใช้งานได้ดีเยี่ยมรวมถึงด้านการถ่ายรูป ด้วย AI ถ่ายภาพอัจฉริยะ มีกล้องหลัก 50MP Sony กับ OIS เลนส์อัลตราไวด์ 8MP และมาโคร 2MP ถ่ายพอร์ตเทรตสวยงาม กล้องหน้า 32MP เซลฟี่ชัด มาพร้อมชิป Snapdragon 6 Gen 1 ที่มีแรมสูงสุด 12GB และความจุสูงสุด 512GB หน้าจอเป็นแบบ AMOLED ขนาด 6.57 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับรีเฟรชเรท 120Hz กับแบตเตอรี่ 6000mAh ที่ชาร์จเร็วได้ 67W รองรับ 5G, Wi-Fi 5, Bluetooth 5.1 ตัวเครื่องบาง 7.74 มม. น้ำหนัก 180 กรัมบางเบาพกพาได้สะดวก
- รุ่น RAM 8GB/ 256GB: ราคา 11,999 บาท (Shopee)
- รุ่น RAM 12GB/ 256GB: ราคา 12,999 บาท (Shopee/ Lazada)
- รุ่น RAM 12GB/ 512GB: ราคา 14,999 บาท (Shopee/ Lazada)

4. HONOR 400 5G
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทรุ่นล่าสุดจาก HONOR ที่เด่นในเรื่องกล้องและการถ่ายรูปแนวพอร์ตเทรต ด้วยกล้องหลังตัวหลัก 200MP พร้อม AI และกันสั่นคู่ OIS + EIS ซูมได้ 15X ถึง 30X อย่างคมชัด และเลนส์อัลตราไวด์ 12MP และกล้องหน้า 50MP เซลฟี่สวย ตัวหน้าจอเป็นแบบ AMOLED ขนาด 6.55 นิ้วสว่างได้ 5000nits รองรับรีเฟรชเรท 120Hz และมีซิลิคอน-คาร์บอน 6000mAh ขนาดใหญ่ใช้งานได้ยาวนาน ชาร์จเร็วได้ 66W รุ่นนี้ใช้ชิป Snapdragon 7 Gen 3 ที่มีแรมสูงสุด 12GB และความจุสูงสุด 512GB กันน้ำกันฝุ่น IP66 ดีไซน์บางเบา เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปเป็นหลัก
- รุ่น RAM 12GB/ 256GB: ราคา 12,990 บาท (Shopee/ Lazada)
- รุ่น RAM 12GB/ 512GB: ราคา 14,990 บาท (Shopee/ Lazada)

5. Infinix GT 30 Pro 5G
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทของ Infinix ที่เน้นเรื่องเล่นเกมเป็นหลักในราคาประหยัด และมีสเปคคุ้มๆ ทั้งชิป MediaTek Dimensity 8350 Ultimate รองรับการเล่นเกม 120FPS ได้ มีแรมสูงสุด 12GB และความจุสูงสุด 512GB หน้าจอเป็น AMOLED ขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับรีเฟรชเรท 144Hz เล่นลื่น พร้อมแบตเตอรี่ 5500mAh ชาร์จเร็ว 45W และชาร์จไร้สาย 30W ส่วนกลัองหลังมี 108MP และอัลตราไวด์ 8MP กับกล้องหน้า 13MP รองรับ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.4 กันน้ำกันฝุ่น IP64 มีดีไซน์เป็น Cyber Mecha 2.0 พร้อม GT Triggers เพื่อการเล่นเกมโดยเฉพาะ ซื้อตอนนี้แถม GT Gaming Kit ระบายความร้อนให้ด้วย
- รุ่น RAM 8GB/ 256GB: ราคา 10,990 บาท (Shopee/ Lazada)
- รุ่น RAM 12GB/ 512GB: ราคา 13,999 บาท (Shopee/ Lazada)

6. Samsung Galaxy A56
มาดูที่โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทของ Samsung กันบ้างที่รุ่นนี้เป็นรุ่นท็อปสุดของ A Series แล้ว มาพร้อมสเปคครบๆ ด้วยชิป Exynos 1580 (4nm) รองรับการใช้งานทั่วไปและการเล่นเกมลื่นไหล มีแรมสูงสุด 12GB และความจุสูงสุด 256GB หน้าจอเป็นแบบ Super AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับรีเฟรชเรท 120Hz และมีแบตเตอรี่ 5000mAh ชาร์จเร็ว 45W ถ่ายรูปได้สวยด้วยกล้องหลัก 50MP พร้อม OIS กล้องอัลตราไวด์ 12MP และกล้องมาโคร 5MP ส่วนกล้องหน้ามี 12MP รองรับ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2 ตัวเครื่องบาง 7.4 มม. น้ำหนัก 198 กรัม กันน้ำกันฝุ่นได้ถึง IP67 ครบจบในรุ่นเดียว
- รุ่น RAM 8GB/ 128GB: ราคา 13,999 บาท (Shopee/ Lazada)
- รุ่น RAM 12GB/ 256GB: ราคา 15,999 บาท (Shopee/ Lazada)

7. iQOO Z10 5G
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทกลางปี 2025 ของ iQOO ที่มีสเปคครบทั้งถ่ายรูปและเล่นเกมในราคาหมื่นต้นๆ เท่านั้น มาพร้อมกับชิป Snapdragon 7s Gen 3 ที่มีแรมสูงสุด 12GB และความจุสูงสุด 256GB ตัวเครื่องบางเบา มีหน้าจอโค้งเล็กน้อย AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว ความละเอียด FHD+ รองรับรีเฟรชเรท 120Hz ความสว่างสูงสุด 5000 nits และมีแบตเตอรี่อึดสุดๆ ด้วยความจุ 7300mAh ชาร์จเร็ว 90W พร้อมกล้องหลัก 50MP Sony IMX882 กันสั่น OIS และชัดลึก 2MP กับกล้องหน้า 32MP เซลฟี่ชัด รองรับ 5G, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.2 กันน้ำกันฝุ่น IP65 เหมาะสำหรับคนที่ชอบแบตอึดๆ สเปคครบ
- รุ่น RAM 8GB/ 256GB: ราคา 10,490 บาท (Shopee/ Lazada)
- รุ่น RAM 12GB/ 256GB: ราคา 10,900 บาท (Shopee/ Lazada)

8. vivo V50
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทจาก vivo ที่รุ่นใหม่ vivo V60 กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ แต่ว่ารุ่นนี้ที่เปิดตัวมาตอนต้นปีก็ยังเป็นรุ่นที่มีสเปคน่าสนใจอยู่เหมือนกัน โดยรุ่นนี้จะเน้นไปที่เรื่องของการถ่ายรูปด้วยกล้องที่ทำร่วมกับ ZEISS มีความละเอียดหลัก 50MP ZEISS กันสั่น OIS พร้อมเลนส์อัลตราไวด์ 8MP และกล้องหน้า 50MP ถ่ายรูปออกมาได้คมชัดทั้งทั่วไป และการถ่ายพอร์ตเทรต นอกจากนี้ยังได้ชิป Snapdragon 7 Gen 3 ที่มีแรม 8/256GB เหลืออยู่รุ่นเดียวในตอนนี้ ส่วนหน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 6.77 นิ้ว 120Hz พร้อมแบตเตอรี่ BlueVolt ความจุ 6000mAh ชาร์จเร็วได้ 90W ตัวเครื่องบางเพียง 7.4 มม. กันน้ำกันฝุ่นที่ IP68/IP69

9. Redmi Note 14 Pro+ 5G
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทของ Redmi ที่เปิดตัวออกมาช่วงต้นปีที่ผ่านมา มีรุ่นนี้ที่เป็นตัวท็อปสุด หรือถ้าอยากประหยัดมาหน่อยก็มี Redmi Note 14 Pro ที่ขายในราคาหมื่นต้นๆ อยู่ด้วยใน Shopee/ Lazada ส่วนรุ่นนี้จะมีชิปเป็น Snapdragon 7s Gen 3 ที่มีแรม 12/512GB เล่นเกมหรือใช้งานทั่วไปได้สบายๆ หน้าจอเป็นแบบ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับรีเฟรชเรท 120Hz สว่างสูงสุด 3000 nits พร้อมแบตเตอรี่ 6200mAh ชาร์จเร็ว 90W ใช้ได้เต็มวันเหลือๆ ตัวกล้องมีความละเอียดหลัก 50MP Light Fusion 800 พร้อม OIS อัลตราไวด์ 8MP และมาโคร 2MP กับกล้องหน้า 20MP กันน้ำกันฝุ่น IP68/IP69K จะซื้อไว้เน้นถ่ายรูปหรือเล่นเกมก็ได้หมดเลยรุ่นนี้

10. HUAWEI nova 13
ปิดท้ายด้วยโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทจาก HUAWEI รุ่นนี้ที่มีดีไซน์พรีเมียมสวยหรู และเน้นเรื่องการถ่ายเซลฟี่หรือกล้องหลังเป็นหลัก ด้วยสเปคกล้องหลัก 50MP RYYB พร้อมเลนส์อัลตราไวด์ 8MP ถ่ายมาโครได้ และกล้องหน้าความละเอียดสูงถึง 60MP ถ่ายพอร์ตเทรตสวยด้วย XD Portrait Engine และถ่ายวิดีโอได้อย่างคมชัด ตัวชิปใช้ Kirin 8000 ที่มีแรม 12/256GB และหน้าจอแบบ OLED ขนาด 6.7 นิ้วความละเอียด FHD+ รองรับรีเฟรชเรท 120Hz กับแบตความจุ 5000mAh ชาร์จเร็วได้ถึง 100W ตัวเครื่องบางเพียง 6.98 มม. เท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปหรือเซลฟี่ได้เลย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 15000 บาทกลางปี 2025 ทั้ง 10 รุ่นที่เราได้นำแนะนำกันในวันนี้ โดยแต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีสเปคที่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอคมชัด รองรับ 5G ชิปเซ็ตเร็วแรงเล่นเกมได้ไม่มีปัญหา และบางรุ่นก็เน้นกล้องมาให้เป็นหลักด้วย อยู่ที่ว่าเราต้องการมือถือรูปแบบไหนมาใช้งาน ถ้าอยากได้เอาไว้เล่นเกมแนะนำว่าให้เลือกรุ่นที่เป็นเกมมิ่ง ซึ่งจะมีหน้าตาการดีไซน์ที่บ่งบอกเฉพาะตัวไปเลย หรือถ้าจะเน้นกล้องก็ดูความละเอียดทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง ที่มักจะมี 2 ตัวขึ้นไป ที่เหลือก็ต้องลองเล่นดูก่อน และแนะนำว่าให้ซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ จะมีส่วนลดตัวเครื่องลงไปอีกเยอะมากๆ