Xiaomi เปิดตัว Redmi K Pad แท็บเล็ตขนาดกะทัดรัดรุ่นแรกภายใต้แบรนด์ Redmi ในงาน Smart Ecosystem ที่จีนเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2568 พร้อมกับ Xiaomi Mix Flip 2 และ Redmi K80 Ultra โดยแท็บเล็ตรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอ 8.8 นิ้ว ความละเอียด 3K อัตรารีเฟรชเรท 165Hz, ชิป MediaTek Dimensity 9400+ แบตเตอรี่ 7,500mAh USB-C 2 ช่อง และระบบระบายความร้อนขั้นสูง ออกแบบมาเพื่อเกมเมอร์ นักเรียน และคนที่เน้นความคล่องตัวและประสิทธิภาพสูง พร้อมชนแท็บเล็ตรุ่นเล็กทุกค่าย
Redmi K Pad

สำหรับตัวเครื่อง Redmi K Pad รุ่นนี้มีขนาด 6.46 มม. และน้ำหนัก 336 กรัม ตัวเครื่องเป็นแบบ unibody metal ผิวสัมผัสแบบ sandblasted ให้ความรู้สึกหรูหราและพกพาง่ายไม่ลื่น มาพร้อมลำโพงคู่ Quad-Ring ที่บางลง 15% และดังกว่าเดิม 78% รองรับ Dolby Atmos และมีพอร์ต USB-C คู่ ชาร์จไปด้วยเสียบหูฟังไปพร้อมๆ กันได้ด้วย

หน้าจอ Redmi K Pad เป็นแบบ IPS LCD ขนาด 8.8 นิ้ว อัตราส่วน 16:10 ความละเอียด 3K (3008×1880) รองรับ Refresh Rate 165Hz และ Touch sampling rate 372Hz เหมาะสำหรับการเล่นเกมและการใช้งานที่รวดเร็ว และไหลลื่น หน้าจอสว่างได้สูงสุด 700 นิต รองรับ HDR10, HDR Vivid, Dolby Vision และใช้ Real RGB pixel arrangement เพื่อสีสันที่แม่นยำ ปกป้องด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 5 และได้รับการรับรอง TÜV Rheinland, DC dimming และ S++ eye-care ถนอมสายตา

Redmi K Pad มีประสิทธิสูงด้วยชิป Dimensity 9400+ (3nm) ความเร็วสูงสุด 3.73GHz และ GPU Immortalis-G925 MC12 รองรับการเล่นเกมหนักๆ สบายๆ โดยมีแรมสูงสุด 16GB และความจุสูงสุด 1TB พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ vapor chamber อลูมิเนียมอัลลอยขนาด 12,050 มม.² ช่วยกระจายความร้อนอย่างสม่ำเสมอ มีการวางชิปไว้ตรงกลางเครื่อง เพื่อลดความร้อนบริเวณที่จับ
Redmi K Pad ทำงานบนระบบ HyperOS 2.0 พื้นฐาน Android 15 รองรับการทำงานหลายแอพพร้อมกัน เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Apple และแอพ Productivity ระดับ PC รวมถึง Rage Engine 4.0 จาก Xiaomi เพื่อปรับแต่งประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังรองรับการเชื่อมต่อข้ามแพลตฟอร์ม เช่น การเข้าถึง PC จากระยะไกล และการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของ Xiaomi ได้ด้วย

นอกจากนี้ยังมีการตั้งค่าการเชื่อมต่อพร้อมกันแบบสามเสาอากาศ เพื่อความเสถียรของ Wi-Fi 7 และลดความหน่วงเวลาเล่นเกมออนไลน์ รวมถึงมีมอเตอร์เชิงเส้นแกน X ขนาดใหญ่สำหรับการตอบสนองการเล่นเกมที่สมจริงยิ่งขึ้น มาพร้อมความจุของแบตเตอรี่ 7,500mAh ชาร์จไว 67W มีฟีเจอร์ Bypass charging+ เพื่อลดความร้อนขณะเล่นเกม สามารถรักษาความจุได้ 80% หลังจากการชาร์จ 1,800 รอบ (รับรองจาก TÜV SÜD)
ด้านกล้องหลังมีความละเอียด 13MP เซ็นเซอร์ OV13B และ PDAF สำหรับการถ่ายภาพและวิดีโอทั่วไปได้สูงสุด 4K@30fps ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 8MP เซ็นเซอร์ OV08F สำหรับวิดีโอคอลและเซลฟี่

ราคาและการวางจำหน่าย
สำหรับ Redmi K Pad เปิดตัวออกมาพร้อมวางขายแล้วในประเทศจีน มีให้เลือก 3 สี ได้แก่สีเขียว (Spruce Green), สีม่วง (Smoky Purple) และสีดำ (Deep Black) และมีรุ่นย่อยให้เลือก 5 รุ่นได้แก่
- รุ่น RAM 8GB/ 256GB: 2,799 หยวน (ประมาณ 12,700 บาท)
- รุ่น RAM 12GB/ 256GB: 3,099 หยวน (ประมาณ 14,000 บาท)
- รุ่น RAM 12GB/ 512GB: 3,399 หยวน (ประมาณ 15,400 บาท)
- รุ่น RAM 16GB/ 512GB: 3,599 หยวน (ประมาณ 16,300 บาท)
- รุ่น RAM 16GB/ 1TB: 4,199 หยวน (ประมาณ 19,000 บาท)
นอกจากจะมีตัวเครื่อง Redmi K Pad ที่วางขายแล้ว ก็ยังมีอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมด้วย ไม่ว่าจะเป็นฟิล์ม, เคส, ปากกา Stylus และทีเด็ดก็คือคอนโทรลเลอร์สำหรับเล่นเกม ที่ทำขึ้นมาเฉพาะรุ่นนี้เลย (ใช้กับ Redmi K80 Extrem Edition ได้ด้วย) ทำให้เล่นเกมและจับคอนโทรลเลอร์นี้คบสคู่ไปได้ เล่นเกมได้ง่ายขึ้นและดูโปรมากขึ้นด้วย เปิดตัวออกมาในราคา 499 หยวน หรือประมาณ 2,300 บาท

ที่มา: mi