วิธีเช็คเบอร์โทรศัพท์ AIS, true – dtac ว่าเป็นของใครทั้งของตัวเองและคนอื่นทำยังไงบ้าง อัพเดท 2024

วิธีเช็คเบอร์โทรศัพท์ AIS, true – dtac ว่าเป็นของใครทั้งของตัวเองและคนอื่นทำยังไงบ้าง อัพเดท 2024

สำหรับคนที่ใช้มือถือทั่วไป ถ้าใช้เบอร์ตัวเองมานานมากแล้วก็จะไม่ได้มีปัญหากับการจำเบอร์ตัวเอง แต่จะไปจำเบอร์คนอื่นไม่ได้มากกว่า แต่ถ้าหากใครที่ซื้อซิมมาใหม่พร้อมกับโทรศัพท์ ก็อาจจะไม่ค่อยคุ้นชินกับเบอร์ใหม่ และทำให้ลืมเบอร์ตัวเองกันไปบ้าง ซึ่งการที่เราจะเช็คเบอร์ของตัวเองได้นั้นก็มีอยู่หลายวิธี แต่วิธีที่ง่ายและเร็วที่สุดก็คือการเข้าแอพของแต่ละค่ายไปดูเลยตรงๆ หรือจะเลือกใช้เบอร์ลัดที่กดแล้วรู้ได้เลยทันทีเช่นกัน รวมไปถึงการเช็คเบอร์คนอื่นว่าเป็นของใครและทำยังไงบ้างทั้งของ AIS, true – dtac และค่ายอื่นๆ ไปดูกันเลย

• วิธีเช็คเบอร์โทรของตัวเอง AIS, true – dtac
• วิธีเช็คเบอร์โทรว่าเป็นของใคร

วิธีเช็คเบอร์โทรศัพท์ AIS, true – dtac ของตัวเองและคนอื่นด้วยเบอร์ลัด

สำหรับการเช็คเบอร์โทรของตัวเองนั้นสามารถกดตามเบอร์ลัดได้เลยง่ายๆ เมื่อกดแล้วจะมีข้อความ USSD ส่งมาให้ฟรี จะกดเช็คกี่ครั้งก็ได้ สามารถเซฟเก็บไว้ได้เลย หรือว่าจะโหลดแอพของแต่ละค่ายเพื่อเข้าสู่ระบบเอาไว้ภายหลังก็ได้เช่นกัน โดยแต่ละค่ายมีเบอร์ลัดให้กดดังนี้

สำหรับการเช็คเบอร์โทรทั้งของตัวเองและของคนอื่นด้วยเบอร์ลัดนี้ จะเป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกสำหรับคนที่จำเบอร์ตัวเองไม่ได้เลย หลังจากที่กดเช็คเบอร์ของตัวเองเรียบร้อยแล้ว ก็แนะนำว่าให้เข้าสู่ระบบของแต่ละแอพเอาไว้เลย เพื่อที่เราจะเข้ามากดดูได้ใหม่ในภายหลัง โดยแต่ละค่ายต่างก็มีแอพเป็นของตัวเอง และเข้าสู่ระบบเพื่อดูเบอร์ตัวเอง และข้อมูลการใช้งานต่างๆ ได้ทั้งหมดอีกด้วยดังนี้

• AIS
  • Android: โหลดแอพ myAIS
  • iOS: โหลดแอพ myAIS
• true
  • Android: โหลดแอพ True iService
  • iOS: โหลดแอพ True iService
• dtac
  • Android: โหลดแอพ dtac
  • iOS: โหลดแอพ dtac
• nt Mobile
  • Android: โหลดแอพ NTMobile
  • iOS: โหลดแอพ NTMobile

วิธีเช็คเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใคร

นอกจากจะสามารถเช็คเบอร์โทรของตัวเองและของคนอื่นได้แบบทั่วไปด้วยเบอร์ลัดแล้ว ก็ยังมีวิธีเช็คเบอร์ของคนที่โทรมาหาเราโดยที่เราไม่รู้จักอีกด้วย โดยที่เราก็ไม่รู้ว่าเบอร์ที่โทรมานั้นเป็นคนรู้จัก หรือว่าเป็นเบอร์มิจฉาชีพกันแน่ โดยเรื่องนี้ทาง Anti-Fake News Center Thailand และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เคยแนะนำเอาไว้แล้วแบบง่ายๆ ดังนี้

1. ค้นหาจาก Google

สำหรับการค้นหาเบอร์ผ่าน Google นั้นเป็นวิธีที่ง่ายและเร็วที่สุด ด้วยการเอาเบอร์แปลกที่โทรมาไปค้นหาใน Google ถ้าหากว่ามีข้อมูลว่าเบอร์แปลกเหล่านั้นเป็นเบอร์มิจฉาชีพ ก็จะมีข้อมูลขึ้นมาเลย แต่ต้องยอมรับว่าเป็นการค้นหาที่กว้างมากๆ ดังนั้นความแม่นในการค้นหาก็จะน้อย ดังนั้นจึงเป็นการค้นหาแบบเบื้องต้นเท่านั้น หรือจะเข้าไปที่เว็บ junkcall เพื่อค้นหาก็ได้

2. ค้นหาจาก Social Media

อีกหนึ่งวิธีก็คือการค้นหาบน Social Media ได้ทั้งบน Facebook หรือว่า LINE เนื่องจากเบอร์นี้อาจจะเป็นเบอร์มิจฉาชีพที่คนอื่นเคยเจอมาก่อนแล้วมาโพสต์เตือนเอาไว้ ถ้าหากเราต้องการดูว่าเคยมีประวัติเกี่ยวกับเบอร์นี้หรือไม่ก็กดค้นหาใน Facebook ได้เลย หรือจะค้นหาจาก LINE ด้วยเบอร์ที่โทรมาว่ามีตัวตนจริงหรือไม่ก็ได้

3. ค้นหาจากแอพ Whoscall

วิธีเช็คเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใครอีกหนึ่งวิธีที่ดีที่สุดแล้วก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาว่าเป็นเบอร์มิจฉาชีพหรือไม่ เป็นเบอร์จากชื่อหรือองค์กรไหน เป็นเบอร์ที่ถูกบล็อคบ่อยแค่ไหน โดยระบบ Android นั้นสามารถตั้งค่าให้ขึ้นหน้าจอได้เลยว่าจะให้ขึ้นโชว์ได้เลยทันทีเมื่อมีคนโทรมา แต่ถ้าหากเป็นของ iOS จะต้องเข้าไปเช็คในแอพ Whoscall ด้วยการเข้าไปที่แอพแล้วกดค้นหา ถ้าขึ้นชื่อว่าเป็นเบอร์มิจฉาชีพก็กดบล็อคผ่านในแอพไปได้เลยทันที

• iOS: ดาวน์โหลดแอพ Whoscall
• Android: ดาวน์โหลดแอพ Whoscall

คำถามที่พบบ่อย

สามารถนำเบอร์แปลกที่โทรมาไปเช็คว่าเป็นชื่อใครได้หรือไม่

ไม่ได้ เราไม่สามารถนำเบอร์ที่โทรมาไปเช็คว่าเป็นชื่อของใครได้ ยกเว้นแต่จะเช็คว่าเป็นของค่ายไหน หรือเช็คกับแอพ Whoscall ว่าเป็นเบอร์จากองค์กรหรือเป็นเบอร์มิจฉาชีพหรือไม่ ดูวิธีเช็คเบอร์ปลายทาง AIS, True – dtac และ NT ทุกเครือข่ายได้ที่นี่

เบอร์ +68/ +69 หรือเบอร์ที่เลขเยอะๆ คืออะไร

สำหรับเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย +68 หรือ +69 และอื่นๆ นั้นเป็นเบอร์จากต่างประเทศ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นเบอร์มืจฉาชีพที่โทรออกมาจากต่างประเทศ ถ้าเราไม่ได้มีญาติหรือคนรู้จักอยู่ต่างประเทศ และมีเบอร์เหล่านี้โทรมาก็ให้กดตัดสาย หรือบล็อคเบอร์นั้นทิ้งได้เลย

ถ้าเบอร์มิจฉาชีพโทรมาแล้วเรารับจะอันตรายไหม

ในกรณีที่มีเบอร์มิจฉาชีพโทรมาแล้วอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ถ้าหากว่าเราเกิดรับสายและพูดคุยกันสักพัก หรือว่าคุยกันจนรู้ว่าเป็นมิจฉาชีพแล้ว ยังไม่ถึงขั้นว่าอันตราย เพราะยังแค่ขั้นโทรคุยกัน แนะนำว่าให้บล็อคเบอร์นั้นไปเลย ไม่จำเป็นต้องทำตามที่มิจฉาชีพบอก สิ่งต้องห้ามเลยก็คือ ห้ามแอดเพื่อนในไลน์ ห้ามโหลดลิงก์ใดๆ เป็นอันขาด ต้องบล็อคเท่านั้น

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลและวิธีเช็คเบอร์โทรศัพท์ AIS, true – dtac ว่าเป็นของใครทั้งของตัวเองและของคนอื่นที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ โดยวิธีการเช็คที่ง่ายและสะดวกที่สุดก็คือการกดเบอร์ลัด จากนั้นจะนำเบอร์ตัวเองไปจดเอาไว้ หรือว่าจะเข้าสู่ระบบของแอพแต่ละค่ายก็ได้ เพื่อเป็นการเก็บข้อมูลไว้ดูภายหลัง ส่วนใครที่อยากรู้ว่าเบอร์ของคนอื่นเป็นใคร โทรมาจากไหน แนะนำว่าวิธีที่ดีที่สุดคือการโหลดแอพ Whoscall และเข้าไปเช็คในแอพได้เลย ว่าเป็นเบอร์มิจฉาชีพ เบอร์ขนส่ง หรือมาจากองค์กรไหนกันแน่ เรียกได้ว่าจบสุดกว่าทุกวิธีแล้วในการเช็คเบอร์โทรศัพท์ว่าเป็นของใคร