เปิดตัวพร้อมวางขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ iPhone 16 series ซึ่งในฝั่งของรุ่นโปรก็จะเข้ามาแทนที่รุ่นโปรของ iPhone 15 แบบเต็มตัว โดยสิ่งที่เพิ่มเข้ามาอาจจะดูเหมือนว่าไม่มากนัก แต่จริง ๆ แล้วก็มีบางส่วนที่อาจมองไม่เห็นจากภายนอกอยู่เหมือนกัน ซึ่งในบทความนี้เราจะมาลองดูครับ ว่าถ้าหากใช้ iPhone 15 Pro หรือ Pro Max อยู่ ถ้าเปลี่ยนเป็น iPhone 16 Pro หรือ Pro Max จะคุ้มมั้ย
iPhone 16 Pro / Pro Max มาพร้อมสีใหม่
ข้อนี้อาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก แต่จริง ๆ ต้องบอกว่าเป็นหนึ่งในปัจจัยที่หลายท่านใช้ในการเปลี่ยน iPhone ทุกปีก็ว่าได้ครับ เพียงเพราะว่าอยากได้เครื่องสีใหม่เท่านี้เอง ซึ่งบางทีถ้านำเรื่องส่วนลด โปรโมชันเครื่องเก่าแลกใหม่มาหักลบกัน กลายเป็นว่าจ่ายเพิ่มอีกไม่มากนัก แต่ได้ iPhone ใหม่ สีใหม่ล่าสุดมาใช้ ก็ทำให้การตัดสินใจซื้อ iPhone กลายเป็นเรื่องไม่ยากเย็นนักไปเลย
ซึ่งในปีนี้ Apple ก็เปิดตัวสีไทเทเนียมทะเลทรายออกมาเป็นสีใหม่สำหรับ iPhone 16 รุ่นโปร โดยจะเป็นสีทองที่ผสมความเป็นทองแดงเข้ามาเล็กน้อย ต่างจากโทนสีทองของ iPhone 15 Pro ที่มาในชื่อสีไทเทเนียมธรรมชาติที่จะดูเป็นทองแบบโทนเหลืองนิดนึง ส่วนสีไทเทเนียมธรรมชาติของ 16 Pro เองก็มีการปรับโทนให้ดูเป็นสีเทาเพิ่มขึ้นเล็กน้อยด้วย ทำให้รอบนี้น่าจะโดนใจผู้ที่ต้องการ iPhone เครื่องโทนสีทองที่ดูสว่างขึ้นเห็นสีสันชัดขึ้นกว่าเดิม แต่ก็จะมีสีไทเทเนียมน้ำเงินที่ถูกตัดออกไป
ดังนั้นถ้าหากคุณมีเรื่องสีเครื่องเข้ามาเป็นปัจจัยหลักของการตัดสินใจซื้อ อันนี้ก็คงขัดไม่ได้ล่ะครับ จัดโลด (ถ้าการเงินไม่ใช่ปัญหา)
หน้าจอ iPhone 16 Pro / Pro Max
ในข้อนี้ สิ่งที่เห็นความแตกต่างได้มากสุดก็คือขนาดหน้าจอของ iPhone รุ่นล่าสุดจะใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าเล็กน้อย โดยอาศัยการออกแบบให้ขอบจอแคบลงกว่าเดิมลงไปอีก ทำให้ทั้งสองรุ่นมีหน้าจอใหญ่ขึ้นมาจากเดิม 0.2″ ควบคู่กับจำนวนพิกเซลบนจอที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย (แต่ค่า PPI จะยังเท่าเดิมอยู่) และอีกหนึ่งสิ่งที่มีเพิ่มเข้ามาก็คือสามารถแสดงภาพที่ความสว่างต่ำสุด 1 nit ได้แล้ว ทำให้ตัวเครื่องสามารถจัดการด้านการใช้พลังงานได้ยืดหยุ่นขึ้น ส่งผลให้สามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขึ้นด้วยตามทฤษฎี
อันนี้ส่วนตัวผมมองว่าเรื่องหน้าจออาจจะไม่ได้เป็นปัจจัยหลักที่สร้างความแตกต่างให้กับ iPhone รุ่นใหม่มากนักครับ เพราะยังได้เป็นจอ OLED รองรับ ProMotion 120Hz เท่าเดิม ซึ่งก็เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีจอระดับท็อป ๆ ของสมาร์ตโฟนยุคปัจจุบันอยู่แล้ว
สเปค ความแรงของ iPhone 16 Pro / Pro Max
iPhone รุ่นโปรทั้งสองขนาดมาพร้อมกับชิป A18 Pro เหมือนกัน ซึ่งบนหน้าเว็บไซต์ Apple ให้ข้อมูลไว้ว่าจะมีประสิทธิภาพ CPU เหนือกว่า iPhone 15 สูงสุด 15% ส่วน GPU ก็เร็วขึ้นสูงสุด 20% ซึ่งจัดว่าเป็นเกณฑ์ปกติเมื่อมองจากการเปิดตัวชิปรุ่นใหม่ของ Apple ในช่วงหลัง ๆ
ด้านของ GPU ก็มีการกล่าวถึงในงานเปิดตัวว่าจะมีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยเฉพาะในด้านการประมวลผล ray tracing เพื่อให้ได้ภาพที่แสงเงาสวยสมจริงคล้ายกับในพีซีและเครื่องเกมคอนโซล และน่าจะได้เห็นเกมระดับ AAA พอร์ตมาให้ได้เล่นเพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย แต่ตรงจุดนี้ส่วนตัวผมมองว่าอาจจะไม่ใช่จุดขายหลักที่ทรงพลังมากนัก คืออยู่ในระดับที่ถ้ามีก็ดี เพราะหลายท่านก็คงไม่ได้ตั้งใจซื้อ iPhone รุ่นใหม ๆ เพื่อนำไปใช้เล่นเกม AAA มากนัก เนื่องจากทั้งขนาดหน้าจอที่อาจจะเล่นไม่ได้สะใจนัก รวมถึงเรื่องความร้อนและระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่
ที่ดูจะน่าสนใจก็คือ Neural Engine ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งยังประหยัดพลังงานยิ่งกว่าเดิม ซึ่งน่าจะเข้ามามีบทบาทอย่างเต็มตัวเมื่อใช้งานระบบ AI ของ Apple เองอย่าง Apple Intelligence ที่จะมีการทำงานหลาย ๆ อย่างจากในเครื่องเองได้เลย อย่างไรก็ตาม หลายฟังก์ชันที่มีอยู่ใน Apple Intelligence ณ ขณะนี้อาจจะยังใช้งานในไทยได้ไม่เต็มที่นัก เนื่องจากตัวระบบยังรองรับภาษาอังกฤษเป็นหลักซะมากกว่า ที่ดูน่าลุ้น น่าใช้หน่อยก็จะเป็นฟีเจอร์ในการให้ AI ช่วยสร้างภาพขึ้นมาตามคำสั่งที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป ซึ่ง Apple ระบุว่าจะเป็นการทำงานจากในเครื่องได้เลย ตรงนี้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของ iPhone 16 Pro และ Pro Max น่าจะมีผลโดยตรงไม่น้อยทีเดียว เช่นกับฟีเจอร์ image generation ที่จะให้ AI ช่วยสร้างรูปภาพขึ้นมาตามคำสั่งของผู้ใช้
แต่ถ้าคุณใช้งาน iPhone ในระดับสมาร์ตโฟนปกติที่คุ้นเคย ไม่ได้พึ่งพลัง AI เป็นหลัก ตรงนี้ iPhone 15 Pro และ Pro Max ก็ยังตอบสนองการใช้งานได้ดีอยู่ครับ แถมก็ยังรองรับ Apple Intelligence เหมือนกันด้วย
การระบายความร้อน
ถือว่าเป็นการแก้เกมการออกแบบของ Apple ในรุ่น iPhone 15 Pro และ Pro Max ที่ผู้ใช้พบปัญหาเครื่องร้อนเร็วเกินไปจนส่งผลกระทบกับการใช้งาน โดยเฉพาะกับงานที่ต้องอาศัยพลังงานประมวลผลสูง การถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ รวมถึงการเล่นเกมด้วย
ซึ่งใน iPhone 16 Pro และ Pro Max ได้มีการปรับปรุงโครงสร้างภายใน และกระจกฝาหลังที่จะช่วยให้ระบายความร้อนได้ดีขึ้น สามารถคงระดับประสิทธิภาพโดยรวมได้ต่อเนื่องกว่าที่เคย ซึ่งคงต้องรอการทดสอบอีกครั้งเมื่อเครื่องถูกส่งถึงมือผู้ใช้งานทั่วไปครับ โดยเฉพาะในไทยที่อากาศมีอุณหภูมิสูง ทำให้ถ้าหากใครกังวลในจุดนนี้อยู่ แนะนำว่าอาจจะรอดูเสียงตอบรับหลังมีผู้ได้เครื่องจริงไปใช้งานแล้วซักระยะหนึ่งจะดีกว่าครับ ซึ่งก็น่าจะสามารถหาซื้อเครื่องได้ง่ายขึ้นแล้วด้วย
กล้อง iPhone 16 Pro / Pro Max
ในจุดนี้ รุ่นที่จะเห็นความแตกต่างชัดสุดก็คือรุ่น Pro ปกติ เนื่องจากใน iPhone 15 Pro จะให้เลนส์เทเลที่สามารถซูมออปติคอลได้สูงสุดเพียง 3 เท่า ในขณะที่ iPhone 15 Pro Max จะให้มา 5 เท่าเลย ซึ่งพอขยับมาเป็น 16 Pro คราวนี้ก็สามารถซูมออปติคอล 5 เท่าได้เหมือนกับรุ่น Pro Max แล้ว ทำให้ถ้าหากคุณต้องการ iPhone เครื่องไม่ใหญ่มาก แต่อยากได้การซูมที่ดีขึ้น การอัปเกรดจาก iPhone 15 Pro มาเป็น 16 Pro จะตอบโจทย์ได้แน่นอน อีกส่วนที่มีการเพิ่มเข้ามาก็คือความละเอียดของภาพที่ได้จากเลนส์อัลตร้าไวด์ที่ขยับจาก 12MP มาเป็น 48MP ในรุ่นโปรทั้งสองรุ่น รวมถึงยังสามารถถ่ายมาโครด้วยเลนส์อัลตร้าไวด์ได้ความละเอียด 48MP อีกด้วย
ด้านของการถ่ายวิดีโอ สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน iPhone 16 Pro จะออกไปทางตอบโจทย์สายมือโปร สายงานครีเอทีฟเป็นหลัก อาทิความสามารถในการถ่ายวิดีโอ 4K Dolby Vision ได้สูงสุด 120fps ถ่ายวิดีโอเป็นไฟล์ ProRes ได้สูงสุดระดับ 4K 120fps รวมถึงมีการนำ AI เข้ามาช่วยในการผสมเสียง ตัดเสียงจากแหล่งกำเนิดเสียงที่อยู่นอกเฟรมได้ เป็นต้น
ปุ่ม Camera Control
เป็นปุ่มที่เพิ่มเข้ามาใหม่ใน iPhone 16 ทั้งสี่รุ่นย่อย โดยออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับการใช้งานกล้อง ไม่ว่าจะเป็นปุ่มลัดในการเปิดแอปกล้องขึ้นมา ใช้กดครึ่งเพื่อจับโฟกัส ล็อกค่าแสง รวมถึงยังสามารถลากนิ้วบนปุ่มเพิ่มปรับการซูมได้ด้วย ก็เรียกว่าเป็นการใส่ปุ่มที่มือถือแบรนด์อื่นอาจจะมีอยู่ก่อนแล้วเข้ามา แต่ก็ตีบวกความสามารถเข้าไปอีก เพื่อให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้สะดวก และมีกิมมิคที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า ซึ่งก็คงต้องรอดูเสียงตอบรับกันอีกทีครับว่ามันจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้การใช้งานได้จริงหรือไม่
การเชื่อมต่อ
สำหรับการเชื่อมต่อผ่านสาย iPhone 16 Pro และ Pro Max ก็ยังคงใช้เป็น USB-C ที่รองรับการโอนถ่ายข้อมูลแบบ USB 3 10Gbps เท่าเดิม สามารถเสียบสายเข้ากับ External SSD เพื่อใช้ถ่ายวิดีโอแบบเก็บไฟล์เข้า SSD โดยตรงได้เช่นเดิม แต่จุดที่มีการอัปเกรดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดคือการเชื่อมต่อไร้สายที่รอบนี้รองรับ Wi-Fi 7 แล้ว แต่ตรงจุดนี้ส่วนตัวมองว่าอาจจะยังไม่ใช่ปัจจัยหลักสำหรับการซื้อมือถือเพื่อการใช้งานทั่วไปในไทยมากนักครับ เนื่องจาก Wi-Fi 7 ยังจัดว่าอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น น่าจะต้องใช้เวลาอีกหลายปีกว่าที่จะมีการใช้งานกันเป็นหลัก ตอนนี้ขอเป็น Wi-Fi 6 และ 6E ก่อนก็ยังเพียงพอ
แบตเตอรี่และการชาร์จ
ใน iPhone 16 ทั้งสี่รุ่นย่อยในปีนี้ มีการยกระดับให้รองรับการชาร์จไร้สายแบบ MagSafe ให้เร็วขึ้น จากเดิมสูงสุด 15W ขึ้นมาเป็น 25W แน่นอนว่าจะช่วยให้สามารถใช้งานได้ทันใจมากขึ้น แต่ก็มาพร้อมกับที่ผู้ใช้งานจะต้องซื้อแท่น MagSafe รุ่นใหม่ด้วยเช่นกัน รวมถึงจะต้องใช้งานร่วมกับหัวชาร์จที่จ่ายไฟออกทางช่อง USB-C ได้ไม่ต่ำกว่า 30W ด้วย ส่วนการชาร์จผ่านสาย เท่าที่มีรีวิวออกมาในขณะนี้คือยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงของเดิมอยู่ คือชาร์จได้สูงสุด 50% ใน 30 นาทีเมื่อใช้ร่วมกับอะแดปเตอร์ชาร์จ 20W ขึ้นไป แต่ก็มีในบางการทดสอบที่ตัวเครื่องสามารถชาร์จเข้าได้เร็วขึ้นกว่าเดิม คืออยู่ในระดับที่เกิน 30W ซึ่งก็คงต้องรอการทดสอบต่อไป ซึ่งถ้าทางเรามีโอกาสได้ทดสอบก็จะมาลองกันดูครับ
ด้านของแบตเตอรี่ จุดนี้ทาง Apple ระบุบนหน้าเว็บไว้ว่า iPhone 16 Pro และ Pro Max จะสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขึ้นกว่ารุ่นเดิม อย่างในการเล่นวิดีโอก็จะทำได้นานขึ้น 4 ชั่วโมง การเล่นเสียงก็ทำได้นานขึ้น 10 ชั่วโมง ตรงนี้ก็น่าจะมาจากความสามารถในการจัดการพลังงานของชิป A18 Pro ที่ดีขึ้นเป็นหลัก
แต่ทั้งนี้ก็คงต้องดูการรีวิวจากการใช้งานจริงกันอีกทีครับ ว่าจะใช้แบตได้นานขึ้นขนาดไหน แต่ก็น่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ต่างจากเดิมมากนัก อาจจะแบตอึดขึ้นเล็กน้อย เหมาะกับการใช้งานแบบชาร์จวันต่อวัน หรืออย่างมากสุดก็ใช้งานสองวันติดกันแบบที่ผู้ใช้ iPhone ทั่วไปคุ้นเคย
สรุป – ใช้ iPhone 15 Pro/Pro Max อยู่ ถ้าเปลี่ยนเป็น iPhone 16 Pro/Pro Max จะคุ้มมั้ย
คุ้มแน่ ถ้า…
- ต้องการ iPhone เครื่องใหม่ สีใหม่
- ต้องการได้ iPhone ที่ถ่ายภาพอัลตร้าไวด์ได้ดีขึ้น
- ต้องการ iPhone 16 Pro รุ่นขนาดปกติที่ถ่ายซูมเทเลได้ดีขึ้น
- ต้องการ iPhone ที่ถ่ายวิดีโอได้ดีขึ้น ถ่าย 4K 120 ได้ โดยเฉพาะกับการนำไปเสริมในงานระดับโปรดักชัน
- ต้องการ iPhone ที่ชาร์จไร้สายผ่าน MagSafe ได้เร็วกว่าเดิม
- ต้องการ iPhone ที่เล่นเกมนาน ๆ ได้ดีขึ้น หรืออยากเอาไปเล่นเกม AAA ที่พอร์ตมาจากพีซีและคอนโซล
- ได้โปรเทรดเครื่องราคาดี และส่วนลดจุก ๆ
อาจไม่คุ้มมากนัก ถ้า…
- ต้องการ iPhone จอใหญ่ขึ้นไปอีก เพราะมันใหญ่ขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
- ต้องการ iPhone ที่ประสิทธิภาพแรงกว่าเดิมแบบก้าวกระโดด
- ต้องการใช้ Apple Intelligence เพราะ 15 Pro และ Pro Max ก็ใช้งานได้เหมือนกัน
- ต้องการ iPhone ที่ต่อ Wi-Fi ได้แรงกว่าเดิม เว้นแต่ว่าคุณมีเราเตอร์ Wi-Fi 7